บทที่ 79 เจ็ดขีด
บทที่ 79
เจ็ดขีด
“วิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม แปลงหนึ่งดาบให้เป็นสาม”
หลี่ฟู่เฉินฝึกเสี้ยวทั้งสามเป็นครั้งแรก
วิชาดาบสั้ยวทั้งสามเป็นหนึ่งในสิบยอดทักษะดาบสีเหลืองของนิกายคังหลุน มันไม่ได้เพียงแต่เน้นความรวดเร็วเท่านั้น มันยังต้องใช้พลังฉีจำนวนมากเข้าร่วมด้วย
ยิ่งพลังฉีแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ ทักษะดาบก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น หากพลังฉีไม่เพียงพอ วิชาดาบเสี้ยวทั้งสามก็ไม่ได้รวดเร็วอีกต่อไป
“วิชาดาบหยด รวมพลังหมดเข้าไปในจุดๆ เดียว เช่นเดียวกับที่หยดน้ำที่สามารถกัดกร่อนหินได้”
คล้ายกับวิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม มันไม่ได้เน้นเรื่องความต้องการทางกายภาพมากนัก
สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือการควบคุมทักษะดาบที่ละเอียดอ่อนและดุดัน
การควบคุมที่ดีเพียงหนึ่งครั้ง แรงของดาบก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับปลายแหลมที่สามารถเจาะเกราะเหล็กได้
“วิชาดาบมังกรทะยาน ดาบจะคล้ายดับมังกรที่โหมทะยานออกไป มันเชี่ยวชาญในการจัดการดาบที่ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับแรงสกดข่ม”
เคยมีคำกล่าวที่ว่า ‘หากความแข็งแกร่งมีมากพอมันก็เป็นไปได้ที่จะสังหารจอมยุทธ์กว่าสิบคน’
วิชาดาบมังกรทะยานกินพลังฉีในอัตราที่น้อยกว่าวิชาดาบหยดอย่างน้อยสามเท่าและก็น้อยกว่าวิชาดาบเสี้ยวทั้งสามสองเท่า
แต่หากจะเปรียบเทียบ พละกำลังที่มาจากวิชาดาบมังกรทะยานเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง วิชาดาบหยดเน้นไปที่การหลีบหลีก แต่เมื่อเผชิญกับวิชาดาบมังกรทะยาน มันจะไม่มีโอกาสให้หลบหนี
ด้วยการแกว่งของดาบ ดาบก็จะปรากฏตัวก่อนจะที่ท่านจะได้ทำอะไรและไม่อนุญาตให้หลบหนี
เช่นเดียวกับวิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม วิชาดาบมังกรทะยานเป็นหนึ่งในสิบยอดทักษะดาบสีเหลืองระดับสูงสุด
***
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ...
วิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม วิชาดาบหยด และวิชาดาบมังกรทะยาน มาถึงขั้นสมบรูณ์ย่อย
หนึ่งเดือนต่อมา…
วิชาดาบทั้งสามอยู่ในขั้นสมบรูณ์
สองเดือนต่อมา ...
วิชาดาบเสี้ยวทั้งสามและวิชาดาบหยดอยู่ในขั้นดีเลิศ ในขณะที่วิชาดาบมังกรทะยานอยู่ในชั้นดีเลิศย่อย
***
“แปดขีด… เหลือเชื่อ หยูเหวินเทียนนำหน้าหลี่ฟู่เฉินได้จริงๆ”
“แรงกดดันทำให้เกิดแรงผลักดัน ก่อนหน้านี้หยูเหวินเทียนไร้คู่แข่งใดๆ ที่เทียบเทียมเขาได้และกลายเป็นคนที่ลำพองตน ตอนที่หลี่ฟู่เฉินปรากฏตัว เขาก็คงจะรู้สึกได้ถึงการคุกคามและปลดปล่อยศักยภาพของเขาออกมา”
“แปดขีดเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับนิกายชั้นนอก ข้ากลัวว่าจะไม่มีใครสามารถเอาชนะผลลัพธ์นี้ได้”
“ข้าเห็นด้วย สิ่งที่ดีที่สุดคือการเสมอกับผลลัพธ์ของหยูเหวินเทียน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเขา”
ในวันนี้เอง พื้นที่รอบๆ หอคอยแห่งความลำเค็ญกลายเป็นโกลาหลอีกครั้ง
เมื่อเห็นป้ายเกียรติยศที่ไปอยู่จุดสูงสุดอีกครั้ง หยูเหวินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าจะไม่มีวันเอาชนะผลลัพธ์ของข้าได้ มันจะเป็นไปไม่ได้แม้ว่าเจ้าจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ศิษย์ชั้นนอกหมายเลข 1 ของเจ้า ไม่ต่างอะไรกับชื่อที่ไร้ความสามารถตามตำแหน่ง”
เมื่อกล่าวกับตัวเองเช่นนี้ หยูเหวินเทียนก็เดินออกจากหอคอยแห่งความลำเค็ญไป
***
“หลี่ฟู่เฉิน ลำดับของเจ้าถูกหยูเหวินเทียนยึดไปแล้ว” จือฮงซิ่วผู้ที่ได้รับข้อมูล มาที่บ้านของหลี่ฟู่เฉินเพื่อแจ้งให้เขาทราบ
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “โอ้? เป็นเขา? นั่นคือความคาดหวังของข้า”
หยูเหวินเทียนที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว การฝึกฝนในทุกด้านย่อมต้องรวดเร็ว ด้วยเวลาไม่กี่เดือน มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะก้าวไปสู่ระดับต่อไป
“เจ้าไม่แปลกใจ?”
หลี่ฟู่เฉินตอบ “ข้าควรต้องแปลกใจ? เอาเถอะ ผลลัพธ์ของเขาคืออะไร?”
“แปดขีด”
“แปดขีด… นั้นดีแล้ว” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
หากมันเพียงแค่แปดขีด เขามั่นใจว่าเขาต้องทำได้ดีกว่า
“มา พาข้าไปหอคอยแห่งความลำเค็ญ”
หลี่ฟูเฉินคาดการณ์ว่าหยูเหวินเทียนใกล้จะบุกเข้าไปในขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว ตั้งแต่เขาทำให้เขาขุ่นเคือง หลี่ฟูเฉินก็จะไม่แสดงความเมตตาใดๆ
เขาต้องการให้หยูเหวินเทียนก้าวเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิดด้วยความเสียใจ
ในช่วงเวลาสั้นๆ หลี่ฟู่เฉินและจือฮงซิ่วก็มาถึงหอคอยแห่งความลำเค็ญ
“ดู หลี่ฟู่เฉินอยู่ที่นั่น”
ด้วยการปรากฏตัวของหลี่ฟู่เฉิน เขากลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจทันที
“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ทิ้งผลให้เป็นเช่นนี้แน่ ทุกคนรู้ว่าหยูเหวินเทียนชิเซียงกำลังจะเข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิด หากหลี่ฟู่เฉินไม่สามารถเอาชนะหยูเหวินเทียนได้ก่อนที่เขาจะไป สิ่งที่ทำมาก็นั้นว่าไม่มีความหมายอะไรเลย”
“แต่การทำให้ได้คะแนนมากกว่าแปดขีดเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
“ใช่ ข้าเลยสงสัยว่าหลี่ฟูเฉินจะทำเช่นไรในครั้งนี้”
ผู้ชมกลั้นลมหายใจเมื่อเห็นหลี่ฟู่เฉินเข้าไปในหอคอย
ชั้นแรก ฆ่าทันที
ชั้นสอง ฆ่าทันที
ชั้นที่สาม ลวดลายแสงสว่างขึ้นและมีหมาป่าพลังงานยักษ์ปรากฏตัว
หลี่ฟูเฉินพุ่งเข้าไปในชั้นพริบตา ไปหาหมาป่าพลังงานยักษ์
การเคลื่อนไหวของเขานั้นเร็วมาก ดังนั้นความเร็วของดาบจึ้งเป็นเช่นเดียวกัน
ด้วยการแกว่งครั้งเดียวดาบสามเล่มก็กระพริบไปที่หมาป่า
แสงบนร่างของหมาป่ายักษ์กระพริบเป็นจังหวะ
ทักษะดาบสีเหลืองระดับสูงสุด – วิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม
บวู้ว!
หมาป่ายักษ์ส่งเสียงหอนดังลั่น จากนั้นก้มตัวก่อนที่จะกระโดดไปหาหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินใช้วิชาดาบเสี้ยวทั้งสามเพื่อต่อกรกับหมาป่าอย่างต่อเนื่อง
ชั่วลมหายใจต่อมา…
ดวงตาของลี่ฟู่เฉินเปล่งประกายสดใส
ชวู!
มันมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แสงสีแดงซีดจางถูกรวมอยู่บนปลายดาบ หลี่ฟู่เฉินพุ่งไปหาหมาป่ายักษ์ เล็งไปที่โคนหู
ทักษะดาบสีเหลืองระดับสูงสุด - วิชาดาบหยด
ปิสส!
ด้วยดาบที่เจาะลึกลงไป หมาป่ายักษ์พลังงานก็แยกย้ายสลายหายไป
“นี่น่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้มันน้อยกว่าแปดขีด!”
หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าความพยายามครั้งนี้เร็วกว่าความพยายามครั้งก่อนของเขามาก
เดินออกจากหอคอยแห่งความลำเค็ญ
อย่างที่คาดไว้ เขาเห็นสีหน้าประหลาดใจของผู้ชม ก็ในเมื่อพวกเขาได้รู้ว่าผลลัพธ์ของเขาเหนือกว่าหยูเหวินเทียน
เจ็ดขีด
สำหรับความพยายามนี้ ผลลัพธ์ของหลี่ฟู่เฉินคือเจ็ดขีด
“ไม่น่าเชื่อ เหลือเชื่อ เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?”
“ตำนาน… ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลี่ฟูเฉินได้กลายเป็นตำนานของนิกายชั้นนอกที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้”
“หยูเหวินเทียนชิเซียงต้องจะต้องโกรธแน่นอน”
“ไม่มีทักษะใดที่เป็นอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง ไม่แม้แต่กระทั่งจอมยุทธ์ มันมักมีคู่ต่อสู้ที่แกร่งกว่าอยู่เสมอ!”
หลี่ฟู่เฉินไม่สนใจคำชมจากคนอื่นและกล่าวกับจือฮงซิ่วว่า “ไปกันเถอะ”
“หากเด็กคนนี้สามารถทำลายข้อจำกัดของโครงกระดูกของเขาได้ อนาคตของเขาก็คงจะไร้ขีดจำกัด”
วันนี้ ผู้อาวุโสที่ควบคุมหอมาเยี่ยมชม ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยาก เขาไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่ชื่ชมศักยภาพของหลี่ฟู่เฉิน
ปั้ง!
ในลานบ้าน ต้นไม้ใหญ่ถูกทำลายโดยหยูเหวินเทียน ใบไม้ทั้งหมดบินว้อน
หยูเหวินเทียนเกือบอาเจียนออกมาเป็นเลือด
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าและข้าจะไม่มีวันอยู่ร่วมกันได้!”
หยูเหวินเทียนคำรามด้วยสายตาที่แดงก่ำ
ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาไม่เคยเป็นที่สองมาก่อนและจะได้รับอันดับแรกมาโดยที่แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
ในช่วงเวลาปกติ เขาดูเหมือนจะมีมารยาทดีและอ่อนโยน ไม่วางท่าใดๆ ก็ในเมื่อเขาคิดว่าการโอ้อวดเป็นการกระทำของคนชั้นต่ำ
แต่ในตอนนี้ ความคิดของเขาบางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไป
ไม่ยอมจำนน ความโกรธ ความอิจฉา และความแค้น
ความคิดเชิงลบที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งเข้ามาในจิตใจของเขาทำให้เขาอยู่ในสภาวะที่สับสนวุ่นวาย
“หยูเหวินชิเซียง ขอแสดงความยินดีกับการได้อันดับหนึ่งอีกครั้ง” หวูชิงเหม่ยเปิดประตูลานและเดินเข้ามา
เธอรับข่าวมาจากตอนเช้าและไม่ได้รับข่าวจากตอนบ่าย เธอไม่รู้ว่าอันดับแรกของเขาถูกแซงขึ้นไปอีกครั้ง
“ไปให้พ้น!”
หยูเหวินเฉินจ้องไปที่หวูชิงเหม่ยอย่างโหดเหี้ยม
หวูชิงเหม้ยตกตะลึงและเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของเธอทันที จากนั้นเธอก็หันและออกไป
หลังจากที่ออกมาเธอก็ได้ยินว่าหลี่ฟู่เฉินแซงหยูเหวินเทียนไปด้วยผลลัพธ์ได้ถึงเจ็ดขีด
หวูชิงเหม่ยถอนหายใจ “ดวงอาทิตย์สองดวงไม่สามารถอยู่ร่วมกันในท้องฟ้าเดียวกันได้ เนื่องจากมีหยูเหวินเทียนแล้ว เหตุใดถึงต้องให้หลี่ฟู่เฉินอีกคนนึงออกมา”
หัวเราะอย่างขมขื่นเสร็จ หวูชิงเหม่ยก็พำพัมกับตัวเอง “ลืมมันไปเถอะ ข้าจะไม่ผูกสัมพันธ์กับหยูเหวินเทียนอีกต่อไป”
เธอชื่นชมความแข็งแกร่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่มีความภาคภูมิใจ หวูชิงเหม่ยจะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นผู้หญิงที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนกับคนรับใช้