บทที่ 78 อันดับ 1 ของหอคอยแห่งความลำเค็ญ
บทที่ 78
อันดับ 1 ของหอคอยแห่งความลำเค็ญ
“หัวกะทิของศิษย์ชั้นนอก ยินดีกับเจ้าด้วย”
ความจริงที่ว่าหลี่ฟู่เฉินได้รับตำแหน่งศิษย์หัวกะทิของนิกายชั้นนอก มันทำให้ทุกคนตกตะลึง ซึ่งรวมถึงจือฮงซิ่ว
พวกเขาทุกคนรู้ว่าหลี่ฟู่เฉินมีความสามารถ แต่ก็นึกไม่ถึงไปขนาดที่ว่า แม้แต่กระทั่งหยูเหวินเทียนก็ทำอะไรเขาไม่ได้
นี่ไม่ใช่ตัวอย่างการเป็รม้ามืดอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นมังกรซ่อน
เมื่อมังกรที่ซ่อนอยู่โผล่ออกมา มันจะทำให้ผู้คนต้องประหลาดใจ
วันรุ่งขึ้นหลังจากการจัดอันดับการแข่งขัน จือฮงซิ่วมาที่ลานของหลี่ฟู่เฉินเพื่อแสดงความยินดีกับเขาเป็นพิเศษ
มองไปที่หน้าตาที่งดงามของจือฮงซิ่ว หลี่ฟู่เฉินหัวเราะและกล่าว “มันก็เป็นเพียงแค่หัวกะทิของศิษย์ชั้นนอก มันต่างกันมากนักเมื่อเป็นหัวกะทิของศิษย์ชั้นใน”
“อะไร? เจ้าต้องการเป็นศิษย์หัวกะทิชั้นใน?” จือฮงซิ่วตกใจ
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “เป็นไม่ได้หรือไร?”
จือฮงซิ่วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หากเป็นคนอื่นที่มีโครงกระดูกธรรมดากล่าวสิ่งนี้ มันจะก็คงไม่ต่างจากการคุยโว้โอ้อวด แต่เจ้าแตกต่างกันออกไป ข้าจะเชื่อเจ้า”
“ขอบคุณเจ้ามาก เจ้าควรไปพักผ่อน ข้าจะลองไปที่หอคอยแห่งความลำเค็ญดู” หลี่ฟู่เฉินพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว
“ดี ดูเหมือนว่าที่ 1 ของหอคอยแห่งความลำเค็บจะเป็นของเจ้าในไม่ช้า” จือฮงซิ่วกล่าวสิ่งที่คิดออกมาหมดแล้ว เธอกล่าวอำลาหลี่ฟู่เฉินก่อนที่จะกลับไปยังลานของเธอ
***
มาที่ด้านหน้าของหอคอยแห่งความลำเค็ญอีกครั้ง หลี่ฟูเฉินมีความคิดที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ เป้าหมายของเขาคือลองและชมดู แต่คราวนี้ เขาจะต้องได้รับอันดับ 1
กฎของนิกายคังหลุน ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นศิษย์นิกายชั้นใน หากใครมีอันดับอยู่บนหอคอยแห่งความลำเค็ญเป็น 10 อันดับแรก พวกเขาจะได้รับคะแนนสะสมมาด้วย
อันดับ 1 50,000 คะแนน
อันดับ 2 และ 3 30,000 คะแนน
อันดับ 4 ถึง 10 20,000 คะแนน
แม้ว่ารางวัลนั้นจะไม่ได้หรูหราเหมือนการแข่งขันศิษย์ชั้นนอก แต่มันก็ค่อนข้างสำคัญสำหรับหลี่ฟู่เฉินและเขาจะไม่พลาดโอกาสนี้อย่างแน่นอน
“มันคือศิษย์พี่หลี่ ทุกคนหลีกทาง”
หลี่ฟูเฉินปัจจุบันเป็นคนดังในท่ามกลางหมู่คนที่มีชื่อเสียง ถ้าใครบอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าใครคือหลี่ฟู่เฉิน พวกเขาจะถูกดูถูก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงกระดูกที่หลี่ฟู่เฉินมี และช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของนิกายเช่นนี้ หลี่ฟู่เฉินก็ได้มากลายเป็นศิษย์ลำดับที่ 1 ของนิกายชั้นนอก แม้แต่ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าก็คงเปรียบเทียบกับสถานะของเขาต่อนี้ไม่ได้
สำหรับอนาคตในตอนที่เป็นศิษย์ชั้นใน ทุกคนไม่สนใจมัน
“นี่คือสิ่งที่เรียกว่าเกียรติยศและชื่อเสียง?”
ภายในหัวใจของหลี่ฟู่เฉินรู้สึกไม่ชอบสิ่งนี้ เขาเดินไปตลอดทางจนถึงด้านหน้าฝูงชน
โดยไม่จำเป็นต้องส่งเสียงระฆังแห่งความลำเค็ญ ผู้ดูแลก็อนุญาตให้หลี่ฟู่เฉินเข้าไปในหอคอย
ใครจะกล้าเรียกร้อง? ไม่ใช่ว่ามันชัดเจนอยู่แล้วหรือว่าศิษย์หัวกะทิจะต้องทำให้ระฆังส่งเสียงได้
เข้าสู่ชั้นแรกของหอคอย หลี่ฟู่เฉินสังหารปีศาจพลังงานทันที
ชั้นสอง ทำซ้ำเหมือนชั้นแรก
เมื่อถึงชั้นสาม หลี่ฟู่เฉินออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สัตว์ปีศาจพลังงานและสัตว์ปัศาจนั้นแตกต่างกัน พวกมันไม่ได้มีกายเนื้อและหากไม่มีใครสามารถหาจุดอ่อนของสัตว์พลังงานเจอมันก็จะทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกมันจะไม่มีวันถูกฆ่า
แน่นอน ด้วยความสามารถของหลี่ฟู่เฉิน การโจมตีสองครั้งติดต่อกันที่จุดอ่อนก็ทำลายคู่ต่อสู้ได้แล้ว
เมื่อแสงสว่างก่อตัวขึ้น มันก็ถูกดับลง ฝูงชนคำรามอยู่ด้านนอก
“9 ขีด เหนือกว่าหยูเหวินเทียน”
“ความคู่ควรกับศิษย์หัวกะทิชั้นนอกถูกเปิดเผยออกมาทุกครั้งที่เขาเริ่มลงมือ มันแม้แต่กระทั่งดีขึ้นไปเรื่อยๆ”
“หยูเหวินเทียนต้องเป็นทุกข์มากแน่ ครั้งแรกคือการที่เขาสูญเสียสถานะศาย์หัวกะทิชั้นนอกไป และตอนนี้ก็จะเป็นชื่ออันดับ 1 ของหอคอยแห่งความลำเค็ญ เขาจะสูญเสียคะแนนสะสมกว่า 50,000 คะแนนไปทั้งๆ แบบนั้น”
“หยูเหวินเทียนคงจะไม่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นหรอก ถูกไหม?”
เดินออกจากหอคอยแห่งความลำเค็ญ หลี่ฟู่เฉินถึงได้รับรู้ผลลัพธ์ 9 ขีดของเขา เขาเชื่อว่าผลลัพธ์นี้ถือว่าค่อนข้างดี
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แผ่นโลหะที่มีชื่อของหลี่ฟู่เฉินจึงนำไปห้อยไว้อันดับ 1 และหยูเหวินเทียนก็ลดอันดับลงมาเป็นอันดับ 2
***
ในเวลาเพียงครึ่งวัน ข่าวเรื่องที่หลี่ฟูเฉินได้รับอันดับ 1 ที่ของหอคอยแห่งความลำเค็ญแพร่กระจายไปทั่วนิกายชั้นนอก
=ลานของหยูเหวินเทียน =
การแสดงออกของหยูเหวินเทียนนั้นดูกระจ่างแจ่มใส และอารมณ์ภายในลานบ้านกลายเป็นหนักหน่วงและกดดัน
ช่วงเวลาต่อมา หยูเหวินเทียนพึมพำกับตัวเอง “ข้าจะนำตำแหน่งเดิมของข้ากลับมา ไม่มีใครสามารถแย่งมันไปจากข้าได้”
***
‘ตอนนี้ข้าอยู่ที่ระดับเก้าของขอบเขตพลังฉี และต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีก่อนที่จะบุกทะลวงไปยังขอบเขตต้นกำเนิดได้’
หลี่ฟู่เฉินที่นั่งอยู่บนเสาหิน เขาลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พักหลังจากที่บ่มเพาะเสร็จ
การพัฒนาจากระดับที่เก้าของขอบเขตพลังฉีไปยังระดับแรกของขอบเขตพลังฉีไม่ใช่อุปสรรคเล็กๆ
หลายคนผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ แต่เวลาที่ต้องใช้ไปกับมันมากมายราวกับระยะห่างระหว่างสวรรค์และโลก
โดยทั่วไป โครงกระดูกปกติจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีก่อนที่จะทะลวงผ่าน แต่ถ้ามีการรับรู้ที่ต้อยต่ำ พวกเขาจะติดอยู่ที่ตำแหน่งนี้ตลอดไป
โครงกระดูกระดับ 1 ดาวน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี
2 โครงกระดูกดาวอย่างน้อย 1 ปี
เฉพาะผู้ที่อยู่เหนือกล่าวโครงกระดูกระดับ 3 ดาวเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จภายในหนึ่งปี
แต่มันก็มีข้อกำหนดเบื้องต้น หนึ่งจะต้องถึงจุดสูงสุดของระดับที่เก้า ตั้งแต่เข้าถึงระดับเก้าไปจนถึงระดับสูงสุดจะใช้เวลาค่อนข้างมาก
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกมั่นใจ เพราะเขาตระหนักรู้และบรรลุเทคนิคลึกลับเปลวเพลิงสีแดง หลังจากนั้นเขาจะมีความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ด้วยร่างกายปัจจุบันของเขา เขาย่อมสามารถต้านทานพลังสะกดข่มที่จะมากเทคนิคลึกลับเปลวเพลิงสีแดงได้
ด้วยคะแนน 100,000 คะแนน หลี่ฟู่เฉินไม่รู้สึกเหมือนเป็นเงินสดเหมือนเมื่อก่อน เขาแลกโอถสพยัคฆ์มังกรมา 60 เม็ดในครั้งเดียว
เขาหวังว่าจะไปถึงขั้นสาม ขั้นสมบรูณ์ของวิชาสกัดกลั้นเต๋าก่อนที่จะได้เป็นศิษย์นิกกายชั้นใน
ไม่ว่าเขาจะเก่งที่สุดหรือไม่มีอะไรเลย แต่แค่พลังกำลังของเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะเป็นอันดับ 2
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ความแตกต่างระหว่างความสามารถของเขากับหยูเหวินเทียนนั้นอยู่ในระดับนาที หยูเหวินเทียนสามารถเอาชนะเขาได้ตลอดเวลา และนั่นคือสิ่งที่หลี่ฟู่เฉินไม่อนุญาต
ชั้นสามของวิชาสกัดกลั่นเต๋า การฝึกฝนมันนั้นยากกว่าที่หลี่ฟู่เฉินคิดไว้มาก ไม่เพียงแต่ท่านต้องการทรัพยากร แต่ท่านต้องรับรู้ถึงแก่นแท้ที่สำคัญของวิชาสกัดกลั้นเต๋า
แต่หลี่ฟู่เฉินไม่มีความสามารถพิเศษอื่นนอกจากความเข้าใจที่น่ากลัวของเขา
10,500 กิโลกรัม… 11,000 กิโลกรัม… 11,500 กิโลกรัม… 12,000 กิโลกรัม
เมื่อบริโภคยาพยัคฆ์มังกรไปถึง 60 เม็ด ความแข็งแกร่งทางกายภาพของหลี่ฟู่เฉินจึงพุ่งขึ้นสูงถึง 12,000 กิโลกรัม
ยกเว้นวิชาสกัดกลั้นพลังเต๋า ทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉินเองก็มีความก้าวหน้า
เขาไม่ได้แลกทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำใดๆ มา กลับกัน เขาใช้จ่าย 4000 คะแนนเพื่อแลกทักษะดาบสีเหลืองขั้นสูงสุดมา 3 ทักษะ
พวกมันคือ : วิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม วิชาดาบหยด และวิชาดาบมังกรทะยาน
หลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการข้ามขั้นและฝึกฝนทักษะดาบที่สูงกว่าในทันที เขาต้องการที่จะวางรากฐานที่แข็งแกร่งและมั่นคงก่อนเป็นอันดับแรก
การฝึกฝนทักษะดาบอาศัยพื้นฐานที่เป็นรูปธรรม
หากไม่มีรากฐานที่เป็นรูปธรรม มันจะเหมือนกับการสร้างบ้านที่ไม่มีฐานและอาจพังทลายได้ทุกเมื่อ
วิชาดาบเสี้ยวทั้งสาม : แปลงหนึ่งดาบให้เป็นสาม ในระดับสูงสุดของวิชาดาบ กระบวนดาบเพียงหนึ่งเพียงพอที่จะสร้างบาดแผลร้ายแรงให้ศัตรูถึงสามคน
วิชาดาบหยด : เน้นไปที่แรงขับเคลื่อนระเบิดพลังที่แข็งกร้าวออกมาในครั้งเดียว มีความเชี่ยวชาญในการทำลายเทคนิคปรับแต่งร่างกาย
วิชาดาบมังกรทะยาน : วิชาดาบที่มีพลังมากที่สุด แต่มันก็บริโภคพลังฉีจำนวนมากเป็นค่าตอบแทน ยิ่งพลังฉีแข็งแกร่ง วิชาดาบมังกรทะยานก็จะแข็งแกร่งไปด้วย
ทักษะดาบแต่ละชนิดมีความพิเศษเป็นของตัวเอง หลี่ฟู่เฉินเริ่มฝึกฝนโดยไม่คิดอะไรเลย
***
2 เดือนผ่านไปนับตั้งแต่การแข่งขันของศิษย์ชั้นนอก
=หอคอยแห่งความลำเค็ญ =
“ขีดของหยูเหวินเทียนเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว 9 ขีดเช่นเดียวกับหลี่ฟู่เฉิน ตอนนี้ทั้งคู่ดำรงตำแหน่งอันดับ 1 ด้วยกัน”
“ไม่มีการแบ่งตำแหน่งใดๆ ในหอคอยแห่งความลำเค็ญ ใครที่ได้ตำแหน่งก่อนก็จะยังเป็นอันดับแรก”
เดินออกจากหอคอยแห่งความลำเค็ญและเห็นผลลัพธ์ของตนเอง หยูเหวินเทียนกำหมัดของตัวเองไว้แน่น
อีกเพียงเล็กน้อย เร็วขึ้นอีกเล็กน้อยและเขาก็จะได้ผลลัพธ์เป็น 9 ขีด
เพียงเพราะตำแหน่งที่ 1 ของหอคอยแห่งความลำเค็ญ เขาจึงยับยั้งตนเองจากการทะลวงผ่าน
หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาสามารถทะลวงผ่านไปยังระดับแรกของขอบเขตต้นดำเนิดได้แล้ว
“อันดับ 1 ข้าต้องได้อันดับ 1!”
หยูเหวินเทียนไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับคะแนนสะสม 20,000 คะแนน เขาสามารถหามันได้ในภายหลังอย่างง่ายๆ แต่ตอนนี้ เขาแค่ต้องการเรียกคืนสิ่งที่เป็นของเขาแต่เดิมกลับคืนมา