บทที่ 76 ศิษย์ชั้นนอกระดับต้น (1)
บทที่ 76
ศิษย์ชั้นนอกระดับต้น (1)
สามอันดับต้นถูกตัดสินแล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
มีการกล่าวไว้ว่า ‘ศิลปะอักษรมันไม่สามารถมีสิ่งที่ดีที่สุดได้ แต่ในศิลปะการต่อสู้ สิ่งที่ดีที่สุดสามารถตัดสินใจได้ด้วยการชกและเตะ ’
ศักดิ์ศรีของการเป็นศิษย์ 10 อันดับแรกย่อมสามารถเฉิดฉายและได้ศักดิ์ศรีหากเป็นนิกายชั้นนอก
ศิษย์ชั้นต้นทุกคนในนิกายชั้นนิกจะถูกสลักจำจดไว้อยู่บริเวณพื้นผิวของภูเขา มันแสดงถึงสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์และยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถที่ไม่สามารถมีใครไปถึง
สำหรับการจับสลากรอบนี้มันเป็นตาของหลี่ฟู่เฉินที่จะข้ามการแข่งขัน
“หยูเหวินเทียน ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ที่ 1 ไปอย่างง่ายๆ”
ชางกวนหงสูดหายใจเข้าลึกๆ เกร็งแขนและขา และเกร็งกล้ามเนื้อของเขา ในช่วงเวลาต่อไป สิ่งที่น่ากลัวบางอย่างก็พรั่งพรูออกมาจากการระเบิกพลังฉี ทันใดนั้นเองดาบไม้ในมือของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังฉีสีม่วงซีด มันเข้าปกคลุมจากต้นจนถึงปลายดาบ
เมื่อมองจากระยะไกล ดูเหมือนว่าชางกวนหงกำลังกวัดแกว่งดาบสีม่วงจางๆ
“หยูเหวินเทียน เตรียมตนเองไว้ให้ดี!”
การเคลื่อนที่ของชางกวนหงรวดเร็วมาก ในชั่วพริบตา เขาก็มาถึงด้านหน้าของหยูเหวินเทียนทันที ด้วยเกลียวคลื่นสีม่วงจางๆ ของเขา โบกสะบัดดาบแสงที่ลุกเป็นไฟ สุกใสและโชตช่วง
ลำดับที่แปด เทคนิคลึกลับขอบเขตม่วง
ทักษะดาบลึกลับขึ้นต่ำ – วิชาดาบเรืองรอง
ไม่มีใครคาดคิดว่าชางกวนหงจะฝึกฝนเทคนิคระดับสูง และทักษะดาบลึกลับขึ้นต่ำได้
แต่มันก็ชัดเจนแล้ว ทักษะดาบของชางกวนหงห่างจากจ้าวหมิ๋งเยวี่ยไปมาก
ทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำของจ้างหมิงเยวี่ยวไม่แม้แต่จะเป็นขั้นสมบรูณ์ย่อย แต่ชางกวนหงนั้นอยู่ในขั้นตอนสมบรูณ์ย่อยเรียบร้อยแล้ว
นอกเหนือจากนั้น ความแข็งแกร่งทางกายภาพของชางกวนหงเองก็น่าเกรงขามเช่นกัน ก่อนเริ่มการแข่งขัน มีข่าวลือว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่า 7000 กก. แต่ตอนนี้ มันดูเหมือนจะเกินกว่านั้น
ชางกวนหงผู้ซึ่งมีความสามารถพื้นฐานที่น่าทึ่ง ใช้พลังเต็มที่เพื่อที่จะหวังจะฝ่าหยูเหวินเทียนออกจากกัน
เช่นเดียวกับที่ผู้คนเริ่มกังวลหยูเหวินเทียนเริ่มตอบโต้
แขนเสื้อด้านขวาของเขาถูกฉีกขาดออกจากกัน เผยให้เห็นแขนที่สง่างามและกล้ามเนื้อ ด้วยการแกว่ง การปรากฏตัวของดาบที่สะกดข่มผู้คนก็อยู่เหนือท้องฟ้า มันมาพร้อมกับความแหลมคมอันมหาศาล
เคร๊ง!
แสงดาบอันน่าประทับใจของชางกวนหงถูกบดขยี้แทบจะทันที สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น ก็คือดาบไม้ของเขาแตกออกเป็นชิ้นๆ เศษไม้บินไปทั่ว
ชางกวนหงตกตะลึงและไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว
เวทีทั้งหมดเงียบไป ทุกคนจ้องมองหยูเหวินเทียนด้วยความงุนงง
น่าเกรงขาม
น่ากลัว น่ายำเกรง
มันน่าหวาดกลัวเกินจากปกติ
แม้แต่อันดับท็อปนิกายชั้นนอกชุดเมื่อกาลก่อนอย่าง จักรพรรดิดาบ หลิวหวูฮวง ก็ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางแสดงออกของเขา ขณะที่เขาหรี่ตาลง ใครจะรูว่าสิ่งที่อยู่ในใจของเขาคือสิ่งใด
“ความสามารถที่เหนือกว่า นี่เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง”
“นัดต่อไปคงไม่จำเป็นต้องแข่งขันแล้ว ไม่ว่าหลี่ฟู่เฉินจะเก่งกาจอย่างไร เขาก็ย่อมไม่ใช่คู่แข่งของหยูเหวินเทียน”
“นี่คือความสามารถที่แท้จริงของหยูเหวินเทียน จากสิ่งที่ข้าเห็น แม้แต่กระทั่งศิษย์ขอบเขตต้นดำเนิดที่ไม่สามารถเป็นศัตรูเขาได้”
“ในโลกของเหล่าจอมยุทธ์ แม้แต่กระทั่งผู้ที่อยู่อยู่ขอบเขตต้นกำเนิดขั้นที่สามก็ต้องพ่ายแพ้ให้แกหยูเหวินเทียน”
การสรรเสริญและการยกย่องออกมาไม่รู้จบจากปากของผู้ชมดู สำหรับชางกวนหงที่ยังอยู่บนเวที พวกเขาลืมไปนานแล้ว
หยูเหวินเทียนยิ้มเยาะ ก็ในเมื่อตัวเขารักความรู้สึกของการชื่นชมและความเคารพ
ในบรรดาดวงดาวทั้งหมดบนฟากฟ้า เขาต้องการเป็นดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นดวงเดียวที่ส่องสว่างให้แก่ดาวทุกดวง และเป็นดาวดวงเดียวที่เปล่งประกายในตัวมันเอง
“หลี่ฟู่เฉิน ขึ้นมา!”
หยูเหวินเทียนมองไปที่หลี่ฟู่เฉินและคำราม
หลี่ฟู่เฉินยิ้มบางๆ และเดินขึ้นไปบนเวที หยุดห่างจากหยูเหวินเทียนสิบก้าว
“ลงมือซะ! ข้าจะให้โอกาสเจ้าทำเช่นนั้น”
หยูเหวินเทียนยืดตัวขึ้นอย่างตั้งมั่นพร้อมกับปลายดาบที่ชี้ไปยังพื้น
“ช่างหน้าขายหน้า หลี่ฟู่เฉินอาจจะไม่สามารถทนได้แม้แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียว” ที่ด้านนอกเวที มันเป็นฟางเหล่นไห่ที่ล้อเลียนเขา มันเป็นเพราะเขาได้เห็นท่าที่งุนงงของของหลี่ฟู่เฉิน
กั่วเซี่ยจ้องไปที่หลี่ฟู่เฉิน พยายามวิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้าของเขา แต่เธอก็ไม่สามารรับรู้อะไรได้เลย
หากหยูเหวินเทียนเป็นคนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอยู่บนฟากฟ้า หลี่ฟู่เฉินก็นับว่าเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ ลึกลับและยากหยั่งถึง
“เมื่อข้าลงมือ เจ้าจำเป็นต้องใช้ความแข็งแกร่งอย่างเต็มกำลัง”
ขณะที่เขากำลังกล่าว หลี่ฟู่เฉินก็ชักดาบไม้ของเขาออกมา กวัดแกว่งมันไปยังหยูเหวินเทียน
“อย่าแม้แต่จะคิดฝัน!”
หยูเหวินเทียนใช้ท่าเดิมเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้และเหวี่ยงดาบของเขาออกไป ด้วยดาบที่อยู่เหนือขึ้นไปบนฟ้า เขาเหมือนต้องการทำลายดาบไม้ของหลี่ฟู่เฉินแบบไม่ใส่ใจมากนัก
ฮอง!
ระลอกคลื่นพลังฉีระเบิดออก ขณะที่ทั้งเส้นผมและแขนของพวกเขาทั้งคู่โบกสะบัดอย่างรุนแรง ฝุ่นที่อยู่บนเวทีถูกพัดออกไปตามแรงลม มันก่อให้เกิดพายุหมุนวนขนาดเล็ก
หยูเหวินเทียนไม่ได้ถอยกลับไปแม้แต่ก้าวเดียวและหลี่ฟู่เฉินก็เป็นเชกเช่นเดียวกัน
“ดาบไม้ไม่แตก?”
“เป็นไปไม่ได้”
เสียงอุทานดังขึ้นมาตามลำดับ เกิดความปั่นปวนในหมู่ผู้ชม พวกเขาต้องการดูว่าหลี่ฟู่เฉินจะสามารถตงอยู่ได้นานแค่ไหน ก่อนที่จะถูกทำให้พ่ายแพ้โดยหยูเหวินเทียน
“น่าสนใจ นั้นย่อมดีแล้ว ให้ข้าได้เล่นกับเจ้า!”
หยูเหวินเทียนเริ่มเคลื่อนไหว ขณะที่ตัวเขาหมุนและบิดดาบไม้ในมือของเขา ดาบของเขาก็เหมือนจะปรากฏรูปร่างเป็นงูสีทองที่กำลังบิดเลื่อยไปมา มันมีหลายรูปแบบ ดูแม่นยำ โหดร้าย และนอกจากนี้ยังปล่อยอ่อร่าที่สะกดข่มผู้คนออกมา
สีเหลืองขั้นสูงสุด – วิชาดาบอสรพิษสีทอง
ตระกูลหยางมีทักษะดาบขั้นสูงที่เรียกว่า วิชาดาบอรพิษสีเงิน แต่มันก็ด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวิชาดาบอรสพิษทองคำ สูงกว่าทั้งด้านคุณภาพและในแง่ของการสะกดข่ม
ฟู่!
หยูเหวินเทียนเห็นเปลวไฟโชติช่วงที่กำลังลุกลามขยายตัว มันเริ่มเขาหลอมละลายกับดาบเขาทันที
ทักษะดาบสีเหลืองขั้นสูงสุดเหมือนกัน แต่วิชาดาบอสรพิษสีทองของเขาก็อยู่ในขั้นสมบูรณ์แต่เพียงเท่านั้น ขณะที่วิชาดาบของหลี่ฟู่เฉินอยู่ในขั้นภวังค์
มันอาจกล่าวได้ว่าวิชาดาบเปลวไฟสีเพลิง พลังของมันเหนือกว่าที่หยูเหวินเฉินจิตนาการไว้มาก มันมากกว่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ตอนที่เขายืนอยู่ข้างเวที
“หากเป็นเช่นนี้แล้ว อย่างได้โทษข้า”
การคงอยู่ของพลังฉีถูกระเบิดออกมาจากร่างของหยูเหวินเทียนในฉับพลัน
เทคนิคลึกลับวัชระอันดับที่แปด
หากจ้าวหมิงเยวี่ยและชางกวนหงสามารถบ่มเพาะเทคนิคที่เหนือก้าวหน้าขึ้นไปอีกได้ โดยธรรมชาติแล้วหยูเหวินเทียนก็ย่อมทำได้เช่นเดียวกัน
สองบุคคลก่อนหน้านี้นั้นพึ่งพาโอสถเพื่อบรรลุเทคนิค แต่หยูเหวินเทียนอาศัยเพียงแค่พรสวรรค์ตามธรรมชาติของเขา
โอสถที่ใช้ในการบ่มเพาะเทคนิคอาจช่วยประหยัดเวลา แต่กลับกันนั้นมันก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคนิคที่ฝึกฝนเนื่องจากการพุ่งพลานของพลังที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ลำดับความสามารถตามธรรมชาติของร่างกาย จะทำให้เกิดปัญหาน้อยลง และสามารถใช้พลังที่ได้มาใหม่ ได้ทันที 100%
โคจรเทคนิคลึกลับวัชระลำดับที่แปด ความแข็งแกร่งทางกายภาพของหยูเหวินเทียนเริ่มเพิ่มขึ้น ทั่วทั้งร่างกายของเขา เริ่มแข็งแกร่งทนทานขึ้น พลังฉีจากเลือดที่คล้ายเหล็กเริ่มรั่วไหลออกมา เปิดเผยความแข็งแกร่งทางกายภาพที่แท้จริงของเขา
“รับความพ่ายแพ้ไปซะ!”
หยูเหวินเทียนคำราม พลังฉีสีทองอ่อนที่ปกคลุมดาบไม้ของเขาอยู่เริ่มขยายตัวเมื่อเขาเข้าไปหาหลี่ฟู่เฉิน
ด้วยความเชื่อมั่น เขาต้องการบังคับให้หลี่ฟูเฉินออกจากเวทีไป เขาจะไม่เหลือโอกาสใดๆ ไว้ให้
“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ!”
ในขณะเดียวกับที่หยูเหวินเทียนพุ่งออกมา พลังฉีของหลี่ฟู่เฉินก็เริ่มล้นทะลักออกมาเช่นกัน
เทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับสีแดง ลำดับที่แปด
ในช่วงเลาที่สำคัญเช่นนี้ ร่างกายที่ผอมเพรียวของหลี่ฟู่เฉินในทันทีเริ่มขยายตัวออก ขณะที่เขาก้าวเท้าซ้ายออกมาทันที เขาฟาดดาบลงไปหาหยูเหวินเทียนที่กำลังพุ่งเข้ามา
บูม!
การปะทะของกระบวนท่าครั้งนี้ราวกับฟ้าร้องและภูเขาไฟที่กำลังระเบิด มันส่งเสียงดังกึกก้อง
ดาบไม้ในมือทั้งสองของพวกเขาไม่สามารถต้านทานแรงปะทะมหาศาลได้และก็แตกออก ส่งผลทำให้อาวุธที่ซ่อนอยู่มากมายยิงออกมาในทุกทิศทาง
“นั้นคืออะไร?!”
การปะทะกันระหว่างทั้งสองคนทำให้ผู้คนตกใจ
โดยเฉพาะการลงมือที่โดนเด่นของหลี่ฟู่เฉิน มันเกินความคาดของพวกเขาหมายทั้งหมด
“เยี่ยม!”
แววตาของผู้อาวุโสชั้นนอกเปล่งประกาย ขณะที่สรรเสริญออกมาพร้อมๆ กัน
ในสายตาของผู้อาวุโสที่อยู่ในนิกาย การลงมือด้วยตัวคนเดียวจะไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับการต่อสู้ระหว่างเสือสองตัว ใครจะบ่นเกี่ยวกับการที่มีอัจฉริยะมากขึ้นในนิกายของตนเองได้กัน
หยูเหวินเทียนเกรี้ยวโกรธ “เจ้ากล้าซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงต่อหน้าข้า!”
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “ดูเหมือนเจ้าเองก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้”
“รับสิ่งนี้ไป”
เซียวฉางเฟิงเหวี่ยงดาบเหล็กสองอันออกมาจากที่ไหนไม่ทราบ เขาโยนมันไปที่หลี่ฟู่เฉินและหยูเหวินเทียน
“อย่าคิดว่าจะได้จับดาบ”
หยูเหวินเทียนเข้าโจมตีหลี่ฟู่เฉินอย่างจริงจังด้วยมือเปล่า ไม่ให้โอกาสในการคว้าดาบแก่หลี่ฟู่เฉิน แต่กลับเข้าจัดท่าทางเพื่อที่จะได้หยิบดาบอย่างง่ายดาย