77 การคดโกงคือโรคร้าย
77 การคดโกงคือโรคร้าย
รถคันสีขาวดูว่องไวราวกับแมว ส่วนรถคันสีดำของหวังเย้านั้นดูดุร้ายราวเสือดาว มันชนเข้ากับรถคันสีขาว จนเป็นเหตุให้ชนเข้ากับต้นไม้ ถุงลมนิรภัยทำงานในทันทีและคนขับรถอยู่ในอาการตกใจ
ทั้งรถและบัสต่างพากันหยุดห่างจากชายชราและเด็กสาวไป 2 เมตร
มันกลายเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน
หวังเย้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ เขาออกมาจากรถและโทรหาตำรวจ
บริเวณที่เกิดเหตุนั้นถือเป็นพื้นที่สำคัญ เพราะมีตึกของทางราชการตั้งอยู่หลายตึก ดังนั้นตำรวจในพื้นนั้นจึงมาถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาได้บันทึกภาพและเหตุการณ์เอาไว้
รถที่ชนเข้ากับต้นไม้นั้นเป็นรถบีเอ็มและคนขับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เขาคลานออกมาจากรถและนั่งลง หลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วเขาจึงลุกขึ้นยืนและพยายามที่จะหาเรื่องหวังเย้า แต่ก็ถูกตำรวจแยกออกไป กล้องซีซีทีวีถูกติดตั้งไว้ในทุกพื้นที่ มันจึงง่ายที่จะหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้
หวังเย้าและคนขับรถบีเอ็มถูกพาไปที่สถานีตำรวจ
ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นว่ารถบีเอ็มเกือบจะชนเข้ากันคนข้ามถนนถ้าไม่มีรถของหวังเย้ามาหยุดมันเอาไว้
“ว้าว เขาชนบีเอ็มด้วยรถไทกวน! เขาโชคดีมากเลยที่ไม่เป็นอะไร” ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ถอนหายใจ
“เลิกถอนหายใจ พวกเขาต่างก็เป็นคนมีเงิน เขียนรายงานได้แล้ว!” ตำรวจที่มียศสูงกว่าพูด
“ท่านครับ มีคนโทรมาบอกว่าเขาเป็นญาติของคนขับรถบีเอ็มและรู้จักกับผู้กำกับหลี่ครับ” ตำรวจจารจรคนหนึ่งบอก
“โอเค งั้นฉันจะรอผู้กำกับหลี่โทรมาก่อน” ตำรวจที่รับเรื่องพูด
“ผมคิดว่าคนขับรถไทกวนนั้นทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ตำรวจจารจรพูด
“ไม่ต้องกังวล ฉันไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหาหรอก นายช่วยเขียนเลขทะเบียนรถของเขาให้ฉันหน่อยได้ไหม? เรายังต้องรอสายจากผู้กำกับหลี่ก่อน” ตำรวจที่รับเรื่องพูด
คนขับรถบีเอ็มในตอนนี้นั้นได้หายจากอาการตื่นตกใจแล้ว เขาเริ่มโทรหาหลายๆคนและมองไปที่หวังเย้าด้วยแววตาคุกคาม
“รอก่อนเถอะ! นายเจอหนักแน่!” เขาพูดต่อหน้าตำรวจ
เด็กบ้านี่มันเป็นใครกัน? ฉันรู้สึกสงสารกับพ่อแม่ของเขาจริงๆ! หวังเย้าคิด
หลังจากนั้นตำรวจก็เข้ามาสอบถามอีกครั้งหนึ่ง
“ทำไมคุณถึงไม่ให้สัญญาณในตอนที่เปลี่ยนเลนรถ?” ตำรวจถาม
“ผมไม่มีเวลา ผมทำมันเพราะสัญชาตญาณ” หวังเย้าพูด
“สัญชาตญาณ?” ตำรวจพูดด้วยความประหลาดใจ
หวังเย้าพูดความจริง เขาทำมันลงไปเพราะเห็นรถบีเอ็มพยายามจะแซงเขาผ่านกระจกรถ เขาจึงพยายามหยุดเอาไว้ เขาจึงหันล้อรถไปทางรถบีเอ็มและเร่งเครื่อง รถไทกวนเป็นรถที่ชั้นดีที่นำเข้าจากเยอร์มัน มันขับเคลื่อนได้ตามความต้องการของหวังเย้า
“คุณเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางจารจรขึ้นและยังทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ คุณรู้ใช่ไหม?” ตำรวจพูด
“คุณตำรวจ รถบีเอ็มก็ไม่ได้ให้สัญญาณการเปลี่ยนเลนเหมือนกัน ผมไม่คิดว่าเขาจะแซงรถของผม แล้วบริเวณนั้นก็เป็นพื้นที่ที่ห้ามแซงด้วย” หวังเย้าพูด
“ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องดีนี่” ตำรวจหน้าเสีย
“ไม่มากไม่น้อยครับ” หวังเย้าพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี
ตำรวจไม่ได้ถามอะไรอีก เขาจดบันทึกและจากไป
ผลการสอบออกมาในตอนเช้า หวังเย้าต้องเป็นคนรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
หวังเย้าหัวเราะเมื่อเขารับทราบผล
คนขับบีเอ็มแสดงท่าทางยียวนใส่หวังเย้า คล้ายกับกำลังจะบอกว่า ฉันมีคนรู้จัก ลองต่อยฉันดูสิถ้านายกล้า หวังเย้ารู้สึกเสียใจที่เขาไม่ได้ชนให้แรงกว่านี้
เอ๋ พฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเป็นอาการป่วยรึเปล่านะ? มียาที่ใช่รักษาอยู่ไหมนะ? หวังเย้าคิด
ผลลัพท์ออกมาว่าหวังเย้าจะต้องเป็นคนที่จ่ายค่าซ่อมรถทั้งสองคัน ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญ
“ผมไม่ยอมรับผลการตัดสินนี้” หวังเย้าพูดอย่างใจเย็น “ผมจะให้ทนายของผมเป็นคนจัดการเรื่องนี้”
ตำรวจจารจรรีบเข้ามาภายในห้อง
“รายงานอุบัติเหตุอยู่ที่ไหน?” เขาถามอย่างเร่งรัด
“อยู่นี่ครับ!” ตำรวจอีกคนพูด
“ผมต้องขอโทษด้วย เราได้ทำเรื่องผิดพลาดไป!” ตำรวจจารจรได้เอารายงานของหวังเย้าและคนขับรถบีเอ็มไป เขาได้ทำลายรายงานนั้นต่อหน้าทุกคน
“เดี๋ยว รายงานที่บันทึกเอาไว้ในเครื่องต้องถูกลบด้วย แล้วพิมพ์ใหม่อีกครั้ง” ตำรวจจารจรพูด
มันเป็นฤดูหนาวและด้านนอกนั้นหนาวมาก ดังนั้นในสถานีตำรวจจึงมีเครื่องทำความร้อนติดตั้งเอาไว้ มันไม่ได้อุ่นมากนักแต่บนร่างของตำรวจจารจรกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องเขียนรายงานใหม่ด้วย?” คนขับรถบีเอ็มถามเสียงดัง เขากลายเป็นไม่ยินดีกับเรื่องนี้ ทุกคนในห้องจ้องไปที่เขา
นายกำลังล้อเล่นอยู่เหรอ? ฉันต้องใช่ความพยายามตั้งมากมายกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ฉันพอใจ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? คนขับบีเอ็มคิด
“อย่ายุ่ง!” ตำรวจจารจรตะคอกใส่คนขับบีเอ็มด้วยความไม่พอใจ
แล้วผลการรายงานก็ออกมา หวังเย้าไม่มีความผิด ในขณะที่หลี่เจิ้งจื้อ คนขับรถบีเอ็มนั้นต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดแทน
หวังเย้าก็ต้องประหลาดใจเช่นกัน
เขาคิดไม่ออกว่าผลลัพธ์ที่แตกต่างกันสองอย่างนั้นจะออกมาภายในเวลาไม่เกินสิบนาที หรือความยุติธรรมจะเป็นผู้ชนะ?
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?!” หลี่เจิ้งจื้อตกตะลึง
“นายอ่านรายงานเองไม่เป็นรึยังไง?” ตำรวจจารจรพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว หวังเย้าไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก เขาแค่ต้องการให้หลี่เจิ้งจื้อจ่ายค่าซ่อมรถให้กับเขา เพราะมีรอยบุ่มและรอยถลอกที่กันชน
หลี่เจิ้งจื้อยังคงทำตัวอวดดีและก้าวร้าว แต่เขาหยุดพฤติกรรมนั้นในทันทีที่ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เขารับปากว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ร้าน4sได้บอกหวังเย้าว่าต้องใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ในการซ่อมรถ รถของเขาต้องเปลี่ยนกันชนใหม่และมันไม่ถูกเลย หวังเย้าทิ้งรถเอาไว้ที่ร้านและถามเช่ารถไว้ใช้ชั่วคราวจากผู้จัดการ
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะจบลงแล้ว อย่างน้อยก็สำหรับหวังเย้า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะกลับไปกลับมา แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดีและความยุติธรรมก็ได้รับชัย คนขับรถบีเอ็มถูกลงโทษ แม้ว่าหวังเย้าจะคิดว่ามันเหมือนกับแค่การถูกตีมือก็ตาม