ตอนที่แล้ว76 เราควรจะยืนหยัดต่อต้านความอยุติธรรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป78 สิ่งที่ยากที่สุดคือการทดแทนคุณ

77 การคดโกงคือโรคร้าย


77 การคดโกงคือโรคร้าย

 

รถคันสีขาวดูว่องไวราวกับแมว ส่วนรถคันสีดำของหวังเย้านั้นดูดุร้ายราวเสือดาว มันชนเข้ากับรถคันสีขาว จนเป็นเหตุให้ชนเข้ากับต้นไม้ ถุงลมนิรภัยทำงานในทันทีและคนขับรถอยู่ในอาการตกใจ

 

ทั้งรถและบัสต่างพากันหยุดห่างจากชายชราและเด็กสาวไป 2 เมตร

 

มันกลายเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน

 

หวังเย้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ เขาออกมาจากรถและโทรหาตำรวจ

 

บริเวณที่เกิดเหตุนั้นถือเป็นพื้นที่สำคัญ เพราะมีตึกของทางราชการตั้งอยู่หลายตึก ดังนั้นตำรวจในพื้นนั้นจึงมาถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาได้บันทึกภาพและเหตุการณ์เอาไว้

 

รถที่ชนเข้ากับต้นไม้นั้นเป็นรถบีเอ็มและคนขับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เขาคลานออกมาจากรถและนั่งลง หลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วเขาจึงลุกขึ้นยืนและพยายามที่จะหาเรื่องหวังเย้า แต่ก็ถูกตำรวจแยกออกไป กล้องซีซีทีวีถูกติดตั้งไว้ในทุกพื้นที่ มันจึงง่ายที่จะหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

 

หวังเย้าและคนขับรถบีเอ็มถูกพาไปที่สถานีตำรวจ

 

ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นว่ารถบีเอ็มเกือบจะชนเข้ากันคนข้ามถนนถ้าไม่มีรถของหวังเย้ามาหยุดมันเอาไว้

 

“ว้าว เขาชนบีเอ็มด้วยรถไทกวน! เขาโชคดีมากเลยที่ไม่เป็นอะไร” ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ถอนหายใจ

 

“เลิกถอนหายใจ พวกเขาต่างก็เป็นคนมีเงิน เขียนรายงานได้แล้ว!” ตำรวจที่มียศสูงกว่าพูด

 

“ท่านครับ มีคนโทรมาบอกว่าเขาเป็นญาติของคนขับรถบีเอ็มและรู้จักกับผู้กำกับหลี่ครับ” ตำรวจจารจรคนหนึ่งบอก

 

“โอเค งั้นฉันจะรอผู้กำกับหลี่โทรมาก่อน” ตำรวจที่รับเรื่องพูด

 

“ผมคิดว่าคนขับรถไทกวนนั้นทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว” ตำรวจจารจรพูด

 

“ไม่ต้องกังวล ฉันไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหาหรอก นายช่วยเขียนเลขทะเบียนรถของเขาให้ฉันหน่อยได้ไหม? เรายังต้องรอสายจากผู้กำกับหลี่ก่อน” ตำรวจที่รับเรื่องพูด

 

คนขับรถบีเอ็มในตอนนี้นั้นได้หายจากอาการตื่นตกใจแล้ว เขาเริ่มโทรหาหลายๆคนและมองไปที่หวังเย้าด้วยแววตาคุกคาม

 

“รอก่อนเถอะ! นายเจอหนักแน่!” เขาพูดต่อหน้าตำรวจ

 

เด็กบ้านี่มันเป็นใครกัน? ฉันรู้สึกสงสารกับพ่อแม่ของเขาจริงๆ! หวังเย้าคิด

 

หลังจากนั้นตำรวจก็เข้ามาสอบถามอีกครั้งหนึ่ง

 

“ทำไมคุณถึงไม่ให้สัญญาณในตอนที่เปลี่ยนเลนรถ?” ตำรวจถาม

 

“ผมไม่มีเวลา ผมทำมันเพราะสัญชาตญาณ” หวังเย้าพูด

 

“สัญชาตญาณ?” ตำรวจพูดด้วยความประหลาดใจ

 

หวังเย้าพูดความจริง เขาทำมันลงไปเพราะเห็นรถบีเอ็มพยายามจะแซงเขาผ่านกระจกรถ เขาจึงพยายามหยุดเอาไว้ เขาจึงหันล้อรถไปทางรถบีเอ็มและเร่งเครื่อง รถไทกวนเป็นรถที่ชั้นดีที่นำเข้าจากเยอร์มัน มันขับเคลื่อนได้ตามความต้องการของหวังเย้า

 

“คุณเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางจารจรขึ้นและยังทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ คุณรู้ใช่ไหม?” ตำรวจพูด

 

“คุณตำรวจ รถบีเอ็มก็ไม่ได้ให้สัญญาณการเปลี่ยนเลนเหมือนกัน ผมไม่คิดว่าเขาจะแซงรถของผม แล้วบริเวณนั้นก็เป็นพื้นที่ที่ห้ามแซงด้วย” หวังเย้าพูด

“ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องดีนี่” ตำรวจหน้าเสีย

 

“ไม่มากไม่น้อยครับ” หวังเย้าพูดด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี

 

ตำรวจไม่ได้ถามอะไรอีก เขาจดบันทึกและจากไป

 

ผลการสอบออกมาในตอนเช้า หวังเย้าต้องเป็นคนรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

 

หวังเย้าหัวเราะเมื่อเขารับทราบผล

 

คนขับบีเอ็มแสดงท่าทางยียวนใส่หวังเย้า คล้ายกับกำลังจะบอกว่า ฉันมีคนรู้จัก ลองต่อยฉันดูสิถ้านายกล้า หวังเย้ารู้สึกเสียใจที่เขาไม่ได้ชนให้แรงกว่านี้

 

เอ๋ พฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเป็นอาการป่วยรึเปล่านะ? มียาที่ใช่รักษาอยู่ไหมนะ? หวังเย้าคิด

 

ผลลัพท์ออกมาว่าหวังเย้าจะต้องเป็นคนที่จ่ายค่าซ่อมรถทั้งสองคัน ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญ

 

“ผมไม่ยอมรับผลการตัดสินนี้” หวังเย้าพูดอย่างใจเย็น “ผมจะให้ทนายของผมเป็นคนจัดการเรื่องนี้”

 

ตำรวจจารจรรีบเข้ามาภายในห้อง

 

“รายงานอุบัติเหตุอยู่ที่ไหน?” เขาถามอย่างเร่งรัด

 

“อยู่นี่ครับ!” ตำรวจอีกคนพูด

 

“ผมต้องขอโทษด้วย เราได้ทำเรื่องผิดพลาดไป!” ตำรวจจารจรได้เอารายงานของหวังเย้าและคนขับรถบีเอ็มไป เขาได้ทำลายรายงานนั้นต่อหน้าทุกคน

 

“เดี๋ยว รายงานที่บันทึกเอาไว้ในเครื่องต้องถูกลบด้วย แล้วพิมพ์ใหม่อีกครั้ง” ตำรวจจารจรพูด

 

มันเป็นฤดูหนาวและด้านนอกนั้นหนาวมาก ดังนั้นในสถานีตำรวจจึงมีเครื่องทำความร้อนติดตั้งเอาไว้ มันไม่ได้อุ่นมากนักแต่บนร่างของตำรวจจารจรกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องเขียนรายงานใหม่ด้วย?” คนขับรถบีเอ็มถามเสียงดัง เขากลายเป็นไม่ยินดีกับเรื่องนี้ ทุกคนในห้องจ้องไปที่เขา

 

นายกำลังล้อเล่นอยู่เหรอ? ฉันต้องใช่ความพยายามตั้งมากมายกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ฉันพอใจ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? คนขับบีเอ็มคิด

 

“อย่ายุ่ง!” ตำรวจจารจรตะคอกใส่คนขับบีเอ็มด้วยความไม่พอใจ

 

แล้วผลการรายงานก็ออกมา หวังเย้าไม่มีความผิด ในขณะที่หลี่เจิ้งจื้อ คนขับรถบีเอ็มนั้นต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดแทน

 

หวังเย้าก็ต้องประหลาดใจเช่นกัน

 

เขาคิดไม่ออกว่าผลลัพธ์ที่แตกต่างกันสองอย่างนั้นจะออกมาภายในเวลาไม่เกินสิบนาที หรือความยุติธรรมจะเป็นผู้ชนะ?

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?!” หลี่เจิ้งจื้อตกตะลึง

 

“นายอ่านรายงานเองไม่เป็นรึยังไง?” ตำรวจจารจรพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว หวังเย้าไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก เขาแค่ต้องการให้หลี่เจิ้งจื้อจ่ายค่าซ่อมรถให้กับเขา เพราะมีรอยบุ่มและรอยถลอกที่กันชน

 

หลี่เจิ้งจื้อยังคงทำตัวอวดดีและก้าวร้าว แต่เขาหยุดพฤติกรรมนั้นในทันทีที่ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง เขารับปากว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

 

ร้าน4sได้บอกหวังเย้าว่าต้องใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ในการซ่อมรถ รถของเขาต้องเปลี่ยนกันชนใหม่และมันไม่ถูกเลย หวังเย้าทิ้งรถเอาไว้ที่ร้านและถามเช่ารถไว้ใช้ชั่วคราวจากผู้จัดการ

 

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะจบลงแล้ว อย่างน้อยก็สำหรับหวังเย้า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะกลับไปกลับมา แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดีและความยุติธรรมก็ได้รับชัย คนขับรถบีเอ็มถูกลงโทษ แม้ว่าหวังเย้าจะคิดว่ามันเหมือนกับแค่การถูกตีมือก็ตาม

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด