ตอนที่แล้วบทที่ 73 ดาบจักรพรรดิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 75 วิชาดาบอาทิตย์ตก

บทที่ 74 ต่อสู้เพื่อจุดสูงสุด


บทที่ 74

ต่อสู้เพื่อจุดสูงสุด

“คนมากมายอะไรเช่นนี้”

เข้าสู่เวทีต่อสู้ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าแรงกดดันมาจากผู้ชมที่เนื่องแน่นถูกส่งออกมาจากทั่วทุกทิศทาง

เวทีของเมืองหยุนหวูนั้นสามารถจุคนได้แค่พันคนเท่านั้น ในขณะที่เวทีของนิกายคังหลุนชั้นนอกสามารถบรรจุคนได้หลายหมื่นคน ดังนที่คนกล่าวขวัญ เมื่อจำนวนคนมาถึงหมื่นคน พวกเขาก็จะดูเหมือนเป็นบุคคลที่ยืนอยู่ต่อหน้าภูเขา เป็นมุมมองที่งดงามและยิ่งใหญ่

“เจ้าจะต้องจับฉลากของตนเองก่อน” เซี่ยวช่างเฟิงสั่งผู้เข้าร่วม 20 คน

“ได้!”

หลี่ฟู่เฉินและกลุ่มขึ้นไปบนเวที และเอื้อมมือกวาดเข้าไปในกล่อง และพวกมันมีจำนวนไม่น้อย

หลี่ฟู่เฉินได้รับหมายเลข 3

แม้ว่าการแข่งขันของศิษย์ชั้นนอกนั้นได้ถูกพิจารณาไว้เป็นระดับสูง แต่มันก็ไม่มีกระบวนการที่ซับซ้อนและไม่มีเจ้าภาพใดๆ นั่งที่แท่นเป็นของผู้อาวุโสนิกายชั้นในและสูงกว่านั้น พวกเขาพยักหน้าให้เซียวช่างเฟิง ซึ่งหมายถึงให้เริ่มต้นการแข่งขันได้

เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น คู่ที่จับสลากหมายเลข 1 ก็ขึ้นมาบนเวที

พวกนั้นคือกั่วเซี่ยและหวูชิงเหม่ย

วู้ว!

เมื่อทั้งสองขึ้นมาบนเวที ผู้ชมก็รู้สึกเหมือนจะตื่นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์ชั้นในฝ่ายชาย พวกเขาเริ่มเป่าหวีดหวิวและส่งเสียงเชียร์

“กั่วเซี่ยชีเหม่ย ข้าไม่ได้วางแผนที่จะให้แต้มต่อแก่เจ้า” หวูชิงเหม่ยชักดาบของเธอออกมา แล้วหัวเราะเบาๆ

กั่วเซี่ยยังคงเฉยเมย “ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าทำเช่นนั้น”

“ระวังตัวด้วย”

ยกดาบไม้ของเธอ หวูชิงเหม่ยโคลงร่างกายตัวเองและเงาดาบหลายสิบสายก็พุ่งเข้าหากั่วเซี่ย แต่ละเงานั้นเร็วขึ้นกว่ากันเรื่อยๆ

ทักษะดาบสีเหลืองขั้นสูงสุด – ดาบพายุหฉับพลัน

ด้วยการเหยียดแขนและสั่นมันเบาๆ ของกั่วเซี่ย ทำให้ชั้นดาบที่คล้ายกับลูกพลัมเข้าไปตอบโต้กับดาบพายุหฉับพลันของหวูชิงเหม่ย

ทักษะดาบสีเหลืองขั้นสูงสุด - วิชาดาบสะพรั้ง

เช้ง เช้ง เช้ง…

ทั้งสองลอยลมไปอย่างสง่างามคล้ายกับผีเสื้อในสวน แต่การโจมตีแต่ละครั้งของพวกมันนั้นไร้ความเมตตา ซ่อนเร้นเจตนาฆ่า แหมคมและไร้จิตใจ

“การฝึกฝนและเทคนิคของหวูชิงเหม่ยนั้นดีขึ้นเล็กน้อย แต่ด้วยร่างกายที่ถูกปรับแต่งมาของกั่วเซี่ยทำให้ความได้เปรียบนั้นเป็นกลาง”

ด้านล่างเวที หลี่ฟู่เฉินสังเกตการแข่งขันของพวกเธอ

เขาสามารถบอกได้เลยว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของหวูชิงเหม่ยนั้นอ่อนแอกว่ากั่วเซี่ยและมันก็ส่งผลกับเธอ

แต่ในอีกด้านหนึ่ง หวูชิงเหม่ยก็เข้านิกายเร็วกว่ากั่วเซี่ย ซึ่งทำให้เธอมีเวลาฝึกฝนมากกว่า ก่อให้เกิดข้อเสียสำหรับกั่วเซี่ย

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากว่าร้อย หวูชิงเหม่ยริเริ่มปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของเธอ

“พายุหะผันแปร!”

ดาบพายุหฉับพลันของหวูชิงเหม่ยได้บรรลุชั้นสมบูรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่อเริ่มเปลี่ยนการเคลื่อนไหว มันก็ราวกับว่าลูกธนูหลายร้อยลูกถูกปล่อยออกมาทั้งหมดในครั้งเดียว ทุกคนที่ด้อยกว่าในแง่ของทักษะดาบ ทั้งหมดจะมีจุดอ่อนของตัวเองด้วยการลงมือครั้งนี้

“พันบุปผา”

แต่น่าเสียดายที่ความสามารถด้านทักษะดาบของกั่วเซี่ยเหมือนจะดีกว่าของหวูชิงเหม่ย การเคลื่อนไหวของดาบเธอ มันราวกับดาบกำลังบานเหมือนดอกไม้ กระจายออกไปอย่างไม่เป็นระเบียบเพื่อต่อต้านการลงมือครั้งนี้ของหวูชิงเหม่ย

“ระแหงเวิ้งว้าง”

ไม่ต้องรอให้หวูชิงเหม่ยเคลื่อนไหวไปมากกว่านี้ กั่วเซี่ยเปลี่ยนกระบวนดาบของเธอ และประสานการเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์ ของวิชาดาบสะพรั้ง ด้วยบุปผาผลิบานซึ่งกำลังถอยกลับ ทันใดนั้นเองดาบของกั่วเซี่ยก็พุ่งเข้าไปยังคอของหวูชิงเหม่ยทันที

“มันเป็นเจ้าที่พ่ายแพ้” กั่วเซี่ยกล่าวด้วยท่าทีสงบ

หวูชิงเหม่ยรู้สึกผิดหวัง “กระบวนดาบที่ยอดเยี่ยม กั่วเซี่ยชีเหม่ย”

ในใจของเธอไม่ได้เต็มใจนัก ถ้าไม่ใช่เพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอของเธอ เธอก็คงจะไม่ลงเอยแบบนี้ และหากเธอว่องไวเหมือนกั่วเซี่ย เธออาจจะไม่พ่ายแพ้ แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าพรสวรรค์ด้านทักษะดาบของกั่วเซี่ยนั้นยิ่งใหญ่กว่าเธอ และความเข้าใจของกั่วเซี่ยในเส้นทางแห่งดาบเองก็ลึกซึ้งกว่าเธอเช่นกัน

“วิชาดาบสะพรั้งที่ถูกปล่อยออกมานั้นก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน”

บนที่นั่งผู้ชม ศิษย์หญิงชั้นในที่มีผิวสีขาวราวกับหิมะ ยกคิ้วของเธอขึ้น

เธอเองก็มีฉายานามว่าดาบสะพรั้ง เฉินฟางหัว

และสาเหตุที่เธอมีฉายานามว่าดาบสะพรั้งนั้นเป็นเพราะวิชาดาบที่เธอฝึกนั้นเกี่ยวข้องกับดอกไม้

ในช่วงเวลาที่เธออยู่นิกายชั้นนอก เธอเองก็ยังฝึกฝนวิชาดาบสะพรั้ง

ตอนนี้เธออยู่ในนิกายชั้นใน และเธอเองก็ได้มาฝึกฝนวิชาดาบสะพรั้งอนันย์

ดังนั้นเธอจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับกั่วเซี่ยที่ฝึกฝนวิชาดาบสะพรั้งด้วยเช่นกัน

“จริงๆ แล้วพายุหะฉับพลันก็ไม่เลว แต่มันก็ขาดความสามารถในการปรับตัวตามสถานการณ์ไป” ดาบเมฆา หลิวเฉียนเห่อเองก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับทักษะดาบของหวูชิงเหม่ยด้วยเช่นกัน

การจับคู่ระหว่างกั่วเซี่ยและหวูชิงเหม่ยได้สิ้นสุดลงแล้ว คนที่จับสลากหมายเลข 2 ขึ้นไปบนเวที

พวกเขาคือฮงเฟิงและชางกวนหง

ชางกวนหงได้รับชัยชนะ

“สลากหมายเลข 3 ขึ้นมาบนเวที” กรรมการสั่งด้วยน้ำเสียงอันดัง

“มันเป็นตาของข้าแล้ว”

พร้อมกับแสงวูบวาบ หลี่ฟู่เฉินก็กระโดดขึ้นไปบนเวที

ในอีกด้านหนึ่งเอง ก็ปรากฏร่างขึ้นด้วยเช่นกัน

ด้วยสายตาที่จดจ่ออยู่ มันเป็นหนึ่งใน 10 อัจฉริยะ ซันจุน

เมื่อซันจุนได้ยินชื่อที่เป็นอันตรายของหลี่ฟู่เฉิน เขาก็เริ่มบ่นเรื่องความโชคร้ายในใจ

จาก 19 คน เขาไม่ต้องการพบ 4 คน แต่หลี่ฟู่เฉินก็เป็น 1 ใน 4 คนนั้น

การทำลายชิงเฉาหยูที่ลงมืออย่างจริงจังด้วยการชกเพียงครั้งเดียว นั้นเป็นสิ่งที่ซันจุนคิดว่าเขาไม่สามารถทำได้

แต่สำหรับการที่เขาจะยอมแพ้นั้นเป็นเป็นไปไม่ได้ เขาค่อนข้างมั่นใจในทักษะดาบของเขาเอง

“หลี่ฟู่เฉิน รับสิ่งนี้ไป!”

ด้วยการฝึกฝนของซันจุน ดาบก็เปล่งประกายราวกับงูพิษและความเร็วของดาบนั้นก็รวดเร็วมาก

ทักษะดาบสีเหลืองขั้นสูงสุด – วิชาดาบนันย์ตางู

“ธาราจันทรา”

ด้วยวิชาธาราจันทราขั้นภวังค์ที่อยู่ในมือของหลี่ฟู่เฉิน มันราวกับว่าดาบที่ทำมาจากขยะก็จะนำพาไปสู่จุดสูงสุดได้

มันเป็นเพียงแค่การแกว่งของใบดาบ แต่ซันจุนก็รู้สึกเหมือนหลี่ฟู่เฉินต้องการเข้าประหารเขากว่าหลายสิบครั้ง ใบดาบทุกใบเป็นของจริง และเพียงแค่ใบดาบก็สามารถกลายเป็นระเบิดร้ายแรงได้

เช้ง เช้ง เช้ง

ถึงแม้ว่าซันจุนจะเป็นคนแรกที่โจมตี แต่เขาก็เป็นคนแรกที่เริ่มถอยกลับเช่นกัน

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องล่าถอย ถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น เขาอาจจะต้องพ่ายแพ้ตรงนั่นแล้ว

‘ฉันต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ของฉันโดยใช้ทักษะดาบของฉันเท่านั้น’

หลี่ฟู่เฉินไม่ได้พึ่งพาความได้เปรียบทางกายภาพของเขาแม้แต่เพียงเล็กน้อย

เพื่อที่จะปรากฏตัวได้อย่างโดดเด่นและแสดงความสามารถของเขาอันเจิดจรัสของเขา เขาต้องแสดงทักษะดาบของเขาก่อน

หลังจากเคลื่อนไหวไปมากกว่าสิบสองครั้ง หลี่ฟูเฉินขัดขวางวิชาดาบนันย์ตางูของซันจุน

“เจ้าแข็งแกร่งจริงๆ ข้าเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้”

ซัจุนยิ้มอย่างขมขื่น เขาคิดว่าทักษะดาบของเขานั้นดี แต่ทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉินก็อยู่ในระดับต่อไปแล้ว ทุกการเคลื่อนและท่าทางดำเนินไปได้อย่างไร้ที่ติ เหมือนเพกาซัสที่หลบหลีกอยู่บนท้องฟ้า เขาไม่สามารถจับจังหวะของหลี่ฟู่เฉินได้เลย

“เจ้าเองก็เหมือนกัน” หลี่ฟู่เฉินป้องหมัดของเขาเพื่อแสดงความเคารพ

หยูเหวินเทียนดึงหมายฉลากได้เหมายเลข 4 เขาใช้การเหวี่ยงดาบเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

ด้วยศักยภาพที่ล้นหลามของเขา มันก็มาพร้อมกับเสียงคำรามและเสียงเชียร์

ทุกคนตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเป็นศิษย์ที่ดีที่สุดในการแข่งขันของศิษย์ชั้นนอกในปีนี้ และไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้

ในรอบที่ห้าคือ จ้างหมิงเยวี่ยกับฟางเหล่ยไห่

ฟางเหล่ยไห่แข็งแกร่ง แต่จ้างหมิงเยวี่ยก็แข็งแกร่งขึ้นมาก เมื่อวิชาดาบคลื่นโหมกระหน่ำปะทะเข้ากับวิชาดาบจัทร์ส่อง มันก็ราวกับว่ากรรมตามได้ตามสนองตัวมัน มันไม่สามารถแสดงความสามารถได้ทั้งหมด

ด้วยการลงมือที่เป็นเอกลักษณ์ของ ‘จันทร์ส่องโหมทะยาน’ มันก็ส่งผลให้ฟางเหล่ยไห่ต้องพ่นเลือดออกมาและตกลงมาจากเวที

“หมิงเยวี่ยชีเหม่ยแน่ใจแล้วว่าต้องมีชีวิตอยู่ถึในฐานะหลานสาวของผู้อาวุโส พรสวรรค์น่ากลัวอะไรเช่นนี้”

“ในนิกายชั้นนอก นอกเหนือจากหยูเหวินเที่ยน ดูเหมือนว่าตะมีเพียงแต่ช่างกวนหงเท่านั้นที่สามารถเทียบกับหมิงเยวี่ยชีเหม่ยได้”

“ชางกวนหงเป็นหลานของผู้อาวุโสชางกวนและมีพรสวรรค์เท่ากัน”

ถัดไปคือเกาช่างเทียนกับชิงเฉาหยู เกาช่างเทียนเป็นผู้ชนะ

เร็วมาก หลังจากการแข่งขันรอบแรก 10 อันดับก็ถูกจัดขึ้น

การบรรลุ 10 อันดับแรกในการแข่งขันหมายถึงรางวัลและคะแนนสะสมมากมาย

ที่หนึ่ง : 100,000 คะแนน

อันดับสองและสาม : 80,000 คะแนน

อันดับสี่และห้า : 60,000 คะแนน

อันดับที่หกถึงสิบ : 30,000 คะแนน

อาจกล่าวได้ว่าภายในสำนักคังหลุน มีเพียงศิษย์เท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติที่ดีที่สุด

แม้แต่ผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงก็จะไม่ได้รับคะแนนสะสมมากมายเช่นที่ศิษย์ทำได้ นั่นเป็นสาเหตุหลักที่เหล่าศิษย์เข้าต่อสู้เพื่อรางวัล

รางวัลจะมอบให้ก็ต่อเมื่อบรรลุเทคนิคการที่ฝึกฝนหรือแม้กระทั่งเมื่อได้รับตำแหน่งสูงๆ ในระหว่างการแข่งขัน

เมื่อท่านเป็นศิษย์ชั้นใน จะมีโอกาสมากมายสำหรับคะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้น หากท่านแสดงความสามารถที่โดดเด่นออกมา โดยทั่วไปแล้วท่านก็จะได้รับการตอบแทนด้วยคะแนนอันไร้สิ้นสุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด