Return Of The 8th Class Mage – Chapter 47
ตอนที่ 47 ความแตกแยกของจักรวรรดิ (3)
“ถ้างั้นบอกฉันมาทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น?”
เอียนทำตามคำขอของจักรพรรดิ
เอียนเริ่มพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นซึ่งเอียนนั้นได้พูดเพียงเรื่องราวที่จะเป็นประโยชน์กับตัวของเขาเองทั้งหมด
เรื่องราวที่ถูกปรับแต่งอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับเอียนได้ในภายหลัง
“ในเหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน อยู่ๆก็ได้ยินเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อง และได้ยินเสียงระเบิกลูกหนึ่งดังมาจากห้องเต้นรำ ฉันจึงรีบวิ่งไปที่ห้องทันทีและปกป้องเจ้าชายมงกุฎ เจ้าหญิงและแม่ของฉันด้วยบาเรียมานาของฉัน จากนั้นไม่นานฉันและหัวหน้าโอลิเวอร์ก็ได้ค้นพบสิ่งที่น่าสงสัย อย่างแรกเลยคือจำนวนของการระเบิดนั้นน้อยเกินไปที่จะใช้ทำลายพระราชวังได้ อย่างที่สอง ...... ..”
เอียนเล่าเรื่องของเขาต่อ
เรื่องราวส่วนใหญ่ของก็เป็นเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้นในคืนนั้น
ยกเว้นเรื่องการดำรงอยู่ของโคล์ดวอร์คเกอร์
เอียนเลือกที่จะไม่พูดถึงโคล์ดวอร์คเกอร์
“……แม้ว่าเราจะมีคววามสงสัยในสถานการณ์นี้ แต่เราก็ไม่สามารถตัดสินใจได้จนเมื่อฉันนั้นได้ไปพูดเรื่องนี้กับเจ้าชายเฮย์เดน เจ้าชายก็ได้สั่งให้ฉันไล่ตามเบาะแสที่น่าสงสัยเหล่านั้นในทันที……”
มันไม่ได้อยู่ในรายงานในก่อนหน้านี้ที่จักรพรรดิได้รับ
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปเจ้าชายเฮย์เดน
'เอ๋ ฉันทำอย่างงั้นด้วยเหรอ?'
เจ้าชายเฮย์เดนดูอึดอัดใจทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เอียนพูด
เจ้าชายไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย
'…….. ฉันเคยสั่งให้เขาไปด้วยเหรอ?'
ในคืนนั้นมันมีแต่ความสับสนวุ่นวายไปหมด
บางทีเขาอาจลืมว่าเขาได้สั่งเอียนไปเพราะความสับสนวุ่นวายนั้นเหรอ?
“เจ้าชาย”
“ฉันสั่งจริงๆเหรอ…….?” (พึมพำ)
“เจ้าชาย!”
“ครับ! ท่านพ่อ!”
" มันเป็นเรื่องจริงหรอ? "
" ช..ใช่ "
“ลูกได้สั่งให้เอียนทำเช่นนั้นจริงๆเหรอ?”
มันจะต้องได้รับการยืนยันจากเจ้าชายเฮย์เดนว่ามันเป้นเรื่องจริง
เพราะทุกการสนทนากัยในการประชุมนี้ถูกบันทึกเป็นไว้เป็นเอกสารทุกคำพูด
เหล่าขุนนางจอมขี้เกียจหลายคนในห้องนั้นกำลังรอฟังคำตอบของเจ้าชายเฮย์เดน
โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาจะต้องนำเรื่องในการประชุมนี้ออกไปพูดคุยกันหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมนี้
ซึ่งหมายความว่านี่เป็นโอกาสที่ดี
'โอกาสง่าย ๆ ที่มอบให้กับจักรพรรดิ'
และยังเป็นโอกาสที่ดีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายเฮย์เดนกับเอียน
ด้วยสายตาที่คาดหวังของจักรพรรดิก็ได้มองไปที่มกุฎราชกุมาร
ด้วยความลังเลเล็กน้อยในที่สุดเจ้าชายก็เริ่มพูด
“ฉัน ฉันสั่งเอง…….. ใช่แล้ว ใช่แล้ว! ฉันเป็นคนสั่งเอง”
ด้วยคำตอบของเจ้าชายเฮย์เดน ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมก็ซุบซิบกันอยู่ครู่หนึ่ง
มันไม่ได้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองในเชิงลบถึงแม้ว่าพวกเขาจะแปลกใจมากสำหรับคำตอบของเจ้าชายเฮย์เดน
มกุฎราชกุมารทำเช่นนั้นจริงเหรอ
" เอาล่ะ เงียบ "
หลังจากจักรพรรดิได้ปล่อยให้พวกเขาปรึกษากันอยู่ซักครู่
จากนั้นด้วยคำสั่งของจักรพรรดิ ทุกคนก็เงียบและอยู่ในความสงบอีกครั้ง
“เจ้าชายเฮย์เดนได้สั่งให้เอียนทำเช่นนั้นและแน่นอนว่าเอียนเพจเป็นคนที่แยกตัวเองออกจากอาณาจักรมากที่สุด ซึ่งหากไม่มีเขาเราก็คงจะโดนศัตรูที่เราไม่รู้จักขโมยข้อมูลที่มีค่าของเราไปได้สำเร็จและเราก็จะถูกหัวเราะเยาะไปทั่วโลก”
เมื่อทุกคนได้ฟังคำว่า 'หัวเราะเยาะ' พวกเขาหันหน้าของพวกเขาหลบไปเล็กน้อยเพราะความละอาย
“เนื่องจากเอียน เพจได้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อเรา ในเวลานี้ฉันอยากจะตอบแทนเขาด้วยมือของฉันเอง”
นั่นหมายความว่าจักรพรรดิจะขอให้เอียนรับรางวัลของเขา
“รางวัลที่ฉันจะให้คือ”
แม่บ้านและคนรับใช้ก็เริ่มเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เอียนได้รับรางวัลเหรียญทองคำและคฤหาสน์มาก่อนหน้านี้แล้ว
เนื่องจากสิ่งที่เอียนได้ทำให้ไปในคืนนั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เอียนจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีกว่าที่เขานั้นได้รับไปปก่อนหน้านี้
เอียนรู้สึกตื่นเต้น
" สิ่งนี้ไง "
มันเป็นเสื้อคลุม
เสื้อคลุมที่มีสีน้ำเงินโคบอลต์ไม่มีรอยยับใดๆ
มันไม่ได้มรการตกแต่งอย่างหรูหรา แต่มีออร่าของความล้ำค่า
“เสื้อคลุมนี่เป็นของบรรพบุรุษของฉันซึ่งเป็นจอมเวทย์คนเดียวในราชวงศ์ มันเป็นมรดกตกทอดของมิเชลล์ กรีนริเวอร์ในความเป็นจริงมันควรที่จะมอบให้กับคนที่อยู่ในสายเลือดเดียวกัน ที่จริงฉันควรที่จะบอกว่าฉันให้คุณยืมมากกว่าการมอบมันให้กับคุณ”
ในขณะที่จักรพรรดิอธิบาย แม้แต่เอียนก็ไม่มีโอกาสได้เห็นเสื้อคลุมนี่ในอดีตของเขาเหมือนกัน
จอมเวทย์คนแรกและคนสุดท้ายของราชวงศ์
ผู้ที่มีความสามารถทางเวทมนตร์และได้เป้นจอมเวทย์แห่งหอคอย
'เสื้อคลุมของมิเชลล์ กรีนริเวอร์'
ในอดีตเอียนได้รับทรัพย์สมบัติมากมาย
แต่เขานั้นไม่เคยมีโอกาสได้เห็นเสื้อคลุมนี่เลย
มันเป็นมรดกตกทอดที่พวกเขาจะไม่มีทางมอบมันให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ในสายเลือด
“ระยะเวลาการให้ยืมคือจนกว่าเอียน เพจจะถึงแก่กรรมหรือจนกว่าคุณจะไม่ต้องการครอบครองมันอีกต่อไป”
แต่จักรพรรดิก็ได้แก้ไขการมอบมันโดยการเปลี่ยนจากให้กลายเป็นให้ยืมกับเอียนแทน
มันเป็นรางวัลที่ไม่ธรรมดา
“ลองใส่ดูสิ คุณไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าของคุณออกแค่ส่วมเสื้อคลุมนั่นทับไปเลย”
หลังจากคำสั่งของจักรพรรดิสาวใช้ก็ได้นำเสื้อคลุมไปให้เอียนและช่วยใส่ให้เอียน
ปัญหาคือขนาดของมันนั้นยังใหญ่เกินไปสำหรับเอียนในตอนนี้
ขนาดของเสื้อคลุมนี้ถูกออกแบบมาสำหรับให้ผู้ใหญ่ใส่ แต่ตอนนี้เอียนยังเป็นเด็ก
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิยังคงต้องการให้เอียนสวมใส่มัน
“ไม่เป็นไร ฉันใส่เองได้โปรดนำมันมาให้ฉัน”
มันสนุกมากที่ได้เฝ้าดูเอียนใส่เสื้อคลุมที่ไม่ได้เหมาะสมกับตัวของเขาเลย
ดูเหมือนเด็กที่กำลังลองใส่เสื้อผ้าของพ่อ
บางคนหันหน้าหนีไปเพราะจะหัวเราะ
“มันค่อนข้างใหญ่เกินไปสำหรับคุณ ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนนะที่มันจะพอดีกับร่างกายของคุณ?”
จักรพรรดิแซวเอียน
ในไม่ช้าเอียนก็ตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของเสื้อคลุมนี่
หลังจากที่เอียนได้สวมมัน เอียนก็รู้สึกได้
หนึ่งในเวทย์ที่ถูกร่ายลงบนเสื้อคลุมของมอเชลล์ กรีนริเวอร์
“ฉันจะทำให้มันพอดีกับขนาดตัวของฉันเอง”
เอียนปล่อยมานาของเขาไปที่เสื้อคลุมอย่างช้าๆ
ในไม่ช้าก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้น
เสื้อคลุมที่เต็มไปด้วยมานาเริ่มไปเกาะติดที่ร่างของเอียน
นอกจากนี้มันเริ่มสั่นไปมา
ราวกับว่ามันวัดขนาดร่างกายของเจ้าของคนใหม่
ชิ้งง!
ด้วยเสียงเล็ก ๆ ของการสกัดมานา
เสื้อคลุมของมิเชลล์ กรีนริเวอร์ก็เริ่มเปลี่ยนไป
ความยาว ความกว้างและขนาดทุกอย่างของเสื้อคลุมเปลี่ยนไปกลายเป็นพอดีกับรูปร่างของเอียน
" ว้าว….. "
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง…….?”
เริ่มมีคนชื่นชม
เจ้าชายเฮย์เดนก็ยืนขึ้นและมองดูเอียนเช่นกัน
มันเป็นภาพที่หาดูได้ยาก
“มันเหมาะกับคุณมากกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ โดยเฉพาะสีฟ้า”
ความประทับใจเล็กๆน้อยๆจากจักรพรรดิ
เอียนรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้อย่างชัดเจน
พลังที่อยู่ภายในเสื้อคลุมของมิเชลล์ กรีนริเวอร์
มันเป็นอะไรที่มากกว่าที่เอียนคิดไว้
'นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงต้องให้มันเป็นมรดกตกทอดและห้ามให้คนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในสายเลือด'
เมื่อพอใจแล้วเอียนก็ดึงที่แขนเสื้อและปกเสื้อของเขา
ในขณะที่โค้งคำนับจักรพรรดิเอียนก็พูด
“ฉันซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระองค์อย่างยิ่ง”
เอียนได้เข้าพบกับจักรพรรดิเป็นครั้งที่สอง
และแล้วการประชุมก็จบลงด้วยดี
'มันเป็นเสื้อคลุมที่น่าทึ่งจริง ๆ'
เสื้อคลุมยังคงบอกบางอย่างกับเอียน
เอียนต้องการตรวจสอบพลังของมันอย่างรวดเร็ว
'ฉันรู้สึกได้ถึงสูตรเวทย์บางอย่าง'
มันเป็นการยั่วยวนเอียนอย่างมาก
'นานมาแล้วที่ฉันนั้นไม่รู้สึกตื่นเต้นเช่นนี้'
มันเป็นโชคที่ไม่คาดคิด
ในขณะที่เอียนกำลังตั้งเป้าไปที่การตรวจสอบเสื้อคลุมนี้
เสื้อคลุมลึกลับที่เอียนเองก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อนในชีวิตของเขา
ต้องมีอีกหลายอย่างในการตรวจสอบ
“อืม?”
และในขณะนั้นก็มีใครบางคนเข้ามาอยู่ในสายตาของเอียน
ผู้หญิงที่กำลังมองดูเอียนจากระยะไกล
ผู้หญิงคนนั้นคือเจ้าหญิงไฮรี่ กรีนริเวอร์
'ดูเหมือนว่าเธอจะยังรู้สึกไม่สบายใจ'
แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นจอมเวทย์
เมื่อจอมเวทย์ของหอคอยงาช้างมาถึงเธอก็ได้ใช้มานาที่มีไปจนหมดแล้วและบาเรียมานาก็ได้หายไป มันเป็นเวทย์ที่มีระดับสูงเกินไปสำหรับเธอจึงทำให้เธอรักษามันไว้ได้ไม่นาน
ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยความสับสน
ไม่มีใครรับรู้ถึงสิ่งที่เจ้าหญิงได้ทำในห้องนั้น
แม้แต่เจ้าชายเฮย์เดนและวาเนสซ่าที่อยู่ใกล้กับเธอมากก็ไม่ทันได้สังเกตุ
'มันไม่ใช่เรื่องของฉัน'
เหตุผลที่เธอมองเอียนนั้นชัดเจน
เป็นเพราะเจ้าหญิงได้ซ่อนพรสวรรค์ที่วิเศษของเธอไว้ไม่ให้คนอื่นได้รู้
เธอเรียนรู้เวทมนตร์ขณะที่หอคอยงาช้างก็ไม่รู้เรื่อง
หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยมันก็จะกลายเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งเลย
และในตอนนี้ก็มี 'เอียน' ที่รู้ความจริงเรื่องนี้แล้ว
เด็กชายผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกหอคอยงาช้าง
อาร์ชเมจคนที่ 12
'เธอมีสิทธิ์เลือกที่จะเลือกทางเดินของเธอเอง'
เอียนไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงซ่อนมันไว้
แน่นอนว่าเอียนไม่สนใจมัน
แต่มันก็ถึงเวลาแล้วที่เอียนจะสนใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าหญิง
'แต่'
เอียนรวบรวมมานาไปไว้ที่นิ้วชี้ข้างขวาของเขา
เอียนได้ใช้นิ้วของเขาเขียนบางอย่างไปในอากาศ
'อย่างน้อยฉันก็สามารถทำสิ่งนี้เพื่อเธอได้'
แล้วเอียนก็ส่งมันไปให้เจ้าหญิง
ด้วยการใช้ลมที่สร้างด้วยมานาพัดมันส่งไปยังเจ้าหญิง
ในไม่ช้ามันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้าหญิง
มันเป็นตัวอักษรสีน้ำเงินที่สร้างขึ้นโดยมานา
[คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนหรอก]
ความโล่งใจที่เอียนสามารถทำให้เธอได้
เจ้าหญิงดูสบายใจขึ้น
มันดูเหมือนจะเพียงพอแล้วสำหรับเธอ
'ตอนนี้ฉันต้องทำ .. '
แน่นอนการทดสอบเสื้อคลุมของมิเชลล์ กรีนริเวอร์
เอียนก็เดินออกไปจากพระราชวังด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้นมีคนเข้ามาขวางทางของเอียน
เอียนคิดว่าเป็นเจ้าชายเฮย์เดนและโอลิเวอร์
“คุณทำได้ดีมาก”
มันไม่ใช่เจ้าชายเฮย์เดน