บทที่ 73 ดาบจักรพรรดิ
บทที่ 73
ดาบจักรพรรดิ
‘ด้วยสถานะของตระฟาง ผู้อาวุโสชั้นนอกคงจะไม่ลงโทษฟางต้าเห่อหนักนัก’
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกไม่ยุติธรรม แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเกินไปเช่นเดียวกัน
นี่คือวิธีดำเนินของโลก ไม่ความสามารถก็สถานะ
มีเมืองที่นับไม่ถ้วนในที่อยู่ในแว่นแคว้นคังหลุน ขุนนางในเมืองปกติจะเทียบเท่ากับผู้อาวุโสชั้นนอก ในขณะที่ขุนนางเมืองหลักมีสถานะความนับถือเช่นเดียวกับผู้อาวุโสชั้นใน
‘หากข้าต้องการมีจุดยืนในนิกายคังหลุน ข้าจำเป็นต้องแสดงคุณค่าของตัวเอง และไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะตกต่ำอีกต่อไป’
มันเป็นช่วงเวลานี้เอง ที่หลี่ฟู่เฉินตัดสินใจว่าเขาจะแสดงความสามารถของตนเอง เพื่อที่จะได้รับความสนใจจากนิกาย และกลายเป็นศิษย์ควรค่าแก่การทำนุบำรุง เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ใครก็ตามที่ต้องการสร้างปัญหากับเขา อาจจะต้องพิจารณามันดีๆ อีกครั้ง
ยกตัวอย่างเช่นหยูเหวินเทียน ฟางต้าเห่อจะทำสิ่งเดียวกันกับเขาหรือไม่ บางทีฟางต้าเห่ออาจจะถูกตัดสินประหารชีวิต แม้แต่ขุนนางในเมืองใหญ่ก็ไม่กล้าขอผ่อนปรน
เมื่อเผชิญหน้ากับนิกาย ไม่มีใครกล้าพอที่จะยืนหยัดต่อสู้กับมัน
เหนือผู้อาวุโสชั้นในผู้ซึ่งบังคับใช้กฏกับผู้อาวุโส ก็คืออาวุโสหลัก และท้ายที่สุดก็เป็นผู้นำนิกาย
***
ภายในป่ามืด หลี่ฟู่เฉินกระดอนไปมาราวกับดาวฤกษ์ที่สดใส ฝีเท้าของเขาเร็วขึ้นมากกว่าเดิมจากก่อนหน้านี้
ปิสส!
สัตว์ปีศาจรูปร่างคล้ายค้างคาวถูกแยกออกจากกันด้วยดาบของหลี่ฟู่เฉิน
พยัคฆ์ลายเงินซึ่งกำลังซุ่มโจมตีอยู่ก็ถูกเหยียบข้ามไป และกระดูกของมันถูกบดขยี้โดยหลี่ฟูเฉินด้วยการเหยียบเพียงครั้งเดียว
แรดเหล็กซึ่งมีการป้องกันที่ยอดเยี่ยม ล้มลงกับพื้นหลังจากได้รับลูกเตะของหลี่ฟู่เฉินไป 4 ครั้ง
ทิ้งรอยเลือดไว้ข้างหลัง ในที่สุดหลี่ฟูเฉินก็เห็นจุดจบของป่าร้อยอสูร
ส่วนท้ายที่สุดก็มีบางคนกำลังรออยู่
มันไม่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นหยูเหวนเทียน
เมื่อเห็นหลี่ฟู่เฉิน หยูเหวินเทียนรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็แค่พยักหน้าอย่างไม่เป็รทางการ และไม่พูดอะไรเลย
“ไม่เลว ศิษย์คนนี้ผ่านป่าร้อยอสูรได้เป็นลำดับสองจริงๆ แม้แต่กระทั่งเร็วกว่าชางกวนหง”
ผู้อาวุโสชั้นนอกหลายคนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
‘ดูเหมือนว่าฉันประเมินเขาต่ำเกินไป’ เฉินซงหมิงผู้ซึ่งเป็นผู้อาวุโส ไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่รู้สึกตกใจเมื่อเห็นหลี่ฟู่เฉิน
การผ่านออกมาจากป่าร้อยอสูรได้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีความสามารถเป็นลำดับ 2 แต่มันคือการที่หลี่ฟู่เฉินต้องถูกจัดอันดับน้อยสุดอยู่ที่ 10 อันดับแรกหรือ 20 อันดับแรก
นี่เป็นสิ่งที่ผู้คนไม่สามารถทำได้ แม้แต่กระทั่งจะโครงกระดูกระดับ 3 ดาวก็ตาม เหตุนั้นจึงอย่าได้กล่าวถึงโครงกระดูกปกติ
แต่มันก็เกิดขึ้นหลังจากที่หลี่ฟู่เฉินทำได้
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา ชางกวนหงก็มาถึง
เมื่อเห็นหยูเหวินเทียน ชางกวนหงมีลักษณะที่ดูชิงชัง แต่เมื่อเขาเห็นหลี่ฟู่เฉิน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
การที่หยูเหวินเทียนได้อันดับที่ 1 ยังคงอยู่ในความเข้าใจของเขา
ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ หยูเหวินเทียนก็ดีกว่าเขา
แต่หลี่ฟู่เฉินหล่ะ? เขามีโอกาสเป็นคนที่ 2 ที่ผ่านป่าร้อยอสูรมาได้จริงๆ
“ให้ตายเถอะ ข้าจะเป็นอันดับสามไปได้อย่างไร เขาจะต้องโชคดี และไม่พบสัตว์ร้ายใดๆ ระหว่างทาง” ชางกวนหงพิจารณาอย่างรวดเร็วว่าหลี่ฟูเฉินมาอยู่ตรงหน้าเขาได้อย่างไร
คนที่ผ่านมาหลังจากหลี่ฟู่เฉิน ก็ดูถูกเขาเช่นกัน
อันดับที่ 4 เป็นเด็กหนุ่มที่อวบอ้วนเล็กน้อยเรียกว่าหงเฟิง
เขาอาจไม่ใช่หนึ่งใน 10 อัจฉริยะ แต่อายุเขาก็ดูมากกว่าคนรุ่นเดียวกันไป 2 ปี อายุ 18 ปี และยังติดอันดับ 3 ของหอคอยแห่งความลำเค็ญ
อันดับที่ 5 คือเกาช่างเทียน
เกาช่างเทียนควรอยู่หลังฟางเหล่ยไห่ แต่เนื่องการที่หลี่ฟู่เฉินทำให้ฟางเหล่ยไห่บาดเจ็บ เขาจึงต้องการเวลาในการพักฟื้น
อันดับที่ 6 คือซันจุน หนึ่งใน 10 อัจฉริยะ
อันดับ 7 คือหนึ่งในสี่คนงาม จ้าวหมิงเยวี่ย
หากกั่วเซี่ยเป็นคนงามที่เย็นชา หวูชิงเหม่ยก็คงเป็นคนงามที่สดใส เมื่อนั้นแล้วจ้าวหมิงเยวี่ยก็คงจะเป็นคนงามที่แท้จริง
หากมีใครกล่าวถึงการแสดงความบริสุทธ์ผุดผ่องที่อยู่ในต่อหญิงสาว จ้าวหมิงเยวี่ยก็คนจะอยู่เหนือทั้งสาม
หลี่ฟู่เฉินแอบยอมรับอยู่ในใจ ‘ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอเป็นหลานสาวของอาวุโสชั้นในแน่ๆ'
สถานะของจ้าวหมิงเยวี่ยนั้นสูงส่งมาก เธอเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสชั้นใน และหากเปรียบเทียบกับนายน้อยฟางเหล่ยไห่ จากเมืองซานไห่ การเปรียบเทียบครั้งนี้จะทำให้ฟางเหล่ยไห่นั้นดูเล็กไปถนัดตา
เมื่อเห็นจ้าวหมิงเยวี่ยไม่ว่าจะเป็นหยูเหวินเทียน ชางกวนหง หงเฟิง หรือซันจุน ทุกคนตาสว่างขึ้นด้วยความปรารถนาอันเร่าร้อนต่อเธอ
จ้าวหมิงเยวี่ยไม่ได้เป็นเพียงคนงามที่สมบูรณ์แบบ แม้แต่กระทั้งความสามารถและสถานะของเธอก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน ไม่มีใครที่ไม่ต้องการเธอเป็นคู่แต่งงาน
มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่จ้าวหมิงเยวี่ยมีสายตาที่สูงส่งมาก มีข่าวลือว่าหยูเหวินเทียนพยายามไล่ตามจ้างหมิงเยวี่ย แต่ก็ถูกปฏิเสธมา
คนที่ผ่านป่าร้อยอสูรมาเป็นลำดับที่ 8 คือ กั่วเซี่ย
พร้อมกับร่างที่งดงาม กั่วเซี่ยปรากฏตัว นอกจากนี้เมื่อบวกกับทัศนียภาพที่สวยงามของจุดสุดสุดป่าร้อยอสูร คนงามจ้างหมิงเยวี่ยและอีกคนงาม ภาพลักษณืที่สวยสดเริ่มขัดแย้งกันเอง
อันดับที่ 9 เป็นอีกหนึ่งใน 10 อัจฉริยะ
อันดับที่ 10 คือ หวูชิงเหม่ย
ปฏิเสธแม้แต่นิดเดียวไม่ได้ว่าลักษณะที่ดูอ่อนล้าของหวูชิงเหม่ยเองก็ดูสง่างาม ในทางกลับกัน มันช่วยยกระดับความงามของเธอ ซึ่งจุดประกายไฟอันน่าหลงใหลภายในใจของหยูเหวินเทียน
เมื่อมองตรงไปยังหยูเหวินเทียน ใบหน้าของชางกวนหงก็แสดงความโกรธออกมา
มันเป็นยังงี้จนกระทั่งอันดับที่ 14 ฟางเหล่ยไห่ปรากฏตัวขึ้น
เขาจ้องไปที่หลี่ฟู่เฉินอย่างดุร้าย หากการจ้องมองสามารถฆ่าใครบางคนได้ หลี่ฟู่เฉินคงจะตกตายไปหลายครั้งแล้ว
ในฝูงชน ถ้าพวกเขาไม่ได้มีความรู้สึกที่คมชัดหรือสัมผัสธ์ที่ชัดเจน พวกเขาทั้งหมดก็จะไม่รู้สึกถึงความเกลียดชังของฟางเหล่นไห่ที่มีต่อหลี่ฟู่เฉินได้ ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาในป่าร้อยอสูร
อันดับที่ 16 อันดับที่ 18 อันดับที่ 20
ในที่สุด 20 อันดับแรกก็โผล่ออกมาจากป่าร้อยอสูร
“ยอดเยี่ยม! หากพวกเจ้าทุกคนสามารถผ่านป่าร้อยอสูรมาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ มันก็พิสูจน์แล้วว่าพวกเจ้ามีความสามารถที่ยอดเยี่ยม การจับคู่การจัดอันดับจะเริ่มขึ้นในอีก 3 วัน ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อเตรียมตัว และเตรียมตัวให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการเข้าร่วม”
เซี่ยวช่างเฟิง มีลักษณะของความคาดหวัง
***
สามวันต่อมา...
=แถบนิกายคังหลุนชั้นนอก =
ที่นี่มีเวทีขนาดใหญ่ที่สามารถรับผู้ชมดูได้นับหมื่นคน
“ข้าได้ยินมาว่าการแข่งขันชั้นนอกของศิษย์ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมที่แข็งแกร่ง บางทีอาจเทียบได้กับปีที่ดาบคลั่งซีเซียงเข้าร่วมได้ ข้าสงสัยว่ามันจริงหรือไม่”
“นั่นเป็นการพูดเกินจริงไปแน่นอน ถึงแม้ว่าปีนี้หนึ่งในพวกเขาจะมีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว หยูเหวินเทียนอยู่ด้วยก็เถอะ แต่ในระหว่างการแข่งขันครั้งสุดท้าย จักรพรรดิดาบซีเซียงจะมาดูด้วยใช่ไหม?”
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม เราจะรู้เมื่อเราเห็นมัน ที่ป่าร้อยอสูรควรจะจบลงนานแล้วถูกไหม?”
ในหมู่ผู้ชมมีศิษย์นิกายชั้นในจำนวนมากที่สละเวลามาดู พวกเขาเป็นศิษย์ทั่วไปซึ่งกลายเป็นศิษย์ชั้นในเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงยังคงมีความอาลับอาวรเกี่ยวกับกิจการในนิกายชั้นนอกอยู่บ้าง
นอกเหนือจากนั้น ศิษย์นิกายชั้นนอกส่วนใหญ่ก็มาถึง และนั่งไกลออกไปที่แถวหลัง
“ดูนั้น ดาบเมฆาซีเซียงก็อยู่ที่นี่ เขาเข้าไปเขตชั้นในตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน และตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็บรรลุระดับที่สามของขอบเขตต้นกำเนิดแล้วแล้ว”
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดา ดาบเมฆาซีเซียงก่อนหน้านี้เป็นศิษย์อัจฉริยะนิกายชั้นนอก ไม่เหมือนกับพวกเราทั้งคู่”
“ดาบสะพรั้งก็ชีเจี๋ยอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน มันแปลกๆ เธออยู่ในระดับที่ห้าของขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว เธอคงยังสนใจในการแข่งขันของศิษย์นิกายชั้นนอกอยู่?”
“บางที ในบรรดาศิษย์นิกายชั้นนอกอาจมีคนที่เป็นญาติของเธออยู่หนึ่งถึงสองคน”
ศิษย์ชั้นในที่อยู่ในแถวหน้าจะทำการตรวจสอบผู้ชมอบู่บ้างเป็นครั้งคราว และเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาค้นพบร่างที่น่าทึ่ง พวกเขาจะเริ่มซุบซิบ
สำหรับดาบเมฆาชีเซียงและดาบสะพรั้งชีเจี๋ย ชื่อเหล่านั้นมีไว้สำหรับผู้ที่มีความสามารถอันโดดเด่นเท่านั้น บางชื่อได้มาหลังจากที่ประสบความสำเร็จในโลกภายนอก
ในขณะที่ผู้ชมกำลังคุยกันอย่างเมามัน เยาวชนสูง 1.9 เมตรและชายที่คล้ายโคถึกก็เดินเข้ามา
เขาคนที่สูง พลังฉีเองก็สอดคล้องตามกัน แต่มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นศิษย์ของนิกายชั้นในมากเกินไป มันราวกับภูเขาเป็นภูเขาที่ไม่อาจถูกย่อขนาดลงได้
“มันเป็นดาบจักรพรรดิชีเซียง”
เสียงในฝูงชนหยุดลง ขณะที่เยาวมองเขาด้วยสายตาที่อิจฉาและชื่นชม