บทที่ 72 เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
บทที่ 72
เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
ในเช้าวันที่สาม หลี่ฟู่เฉินพบฟางเหล่ยไห่ที่ริมแม่น้ำ
“ฟางเหล่ยไห่”
“หลี่ฟู่เฉิน”
เมื่อดวงตาของพวกเขาสบกัน และผลจากภายใต้พลังฉี สายลมที่พัดผ่านใบไม้ออกมาจากต้นหลาย
“เจ้ามาพบข้าได้จริงๆ ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะล้มเหลว” ฟ่งเหล่ยไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงสมเพช
หลี่ฟูเฉินโต้กลับอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะ แต่กลับใช้วิธีที่น่ารังเกียจเช่นนั้นจริงๆ แน่นอนว่านี้มันนับว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาข้ายิ่งนัก”
ฟางเหล่ยไห่หัวเราะ “ภายในป่าร้อยอสูร ยกเว้นการฆ่าคน ก็ไม่มีกฎอื่นใดอีก ข้าเพียงแต่ใช้ข้อได้เปรียบของตัวเอง”
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ตั้งใจที่จะกล่าวอะไรกับศัตรูของตนเองอยู่แล้ว เหตุนั้นเขาจึงดึงพลังฉีกลับมา และกล่าว “ข้าสงสัยว่าเจ้าจะสามารถเป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกได้ไหม หลังจากที่ข้าทำให้เจ้าบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว”
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าคิดว่าข้าในปัจจุบันยังคงเหมือนเดิมจากครึ่งปีที่แล้ว? ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็น ว่าข้าพัฒนาไปมากแค่ไหน!”
ด้วยการระเบิดของพลังฉี ฟางเหล่ยไห่ก็พุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินด้วยความเร็วสูง
ฮ่า!
พร้อมกับเสียงคำราม ฟางเหล่ยไห่ก็พุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินดุจดังลูกศรที่มีหมัดเป็นของขวัญ
ด้วยการฝึกฝนมากว่าครึ่งปี เทคนิคกายาเหล็กของฟางเหล่ยไห่ก็บรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับเก้าแล้ว และยังเชี่ยวชาญการโคจรพลังฉี ในพริบตา พลังฉีก็ถูกส่งไปทั่วร่างกายของเขา นอกจากนี้ พลังฉีจากกายาเหล็กที่ปรากฏออกมาบนชั้นผิวหนังของเขาก็พิเศษขึ้นกว่ามากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
มากกว่านั้นยังมี การที่วิชากายาเหล็กของเขาอยู่ลำดับที่สามเนื่องจากความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ให้มากถึง 7000 กิโลกรัม
“เจ้าพัฒนาขึ้น แต่ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ได้สลักสำคัญ”
ฟางเหล่ยไห่พัฒนาไปมาก แต่การพัฒนาของฟางเหล่ยไห่ก็ไม่มากนักเมื่อเทียบกัน
ก้าวขาซ้ายออกไป หลี่ฟู่เฉินส่งหมัดไปยังฟางเหล่ยไห่
กร๊อบ!
เมื่อได้ยินเสียงกระดูกที่แตกหัก ฟางเหล่ยไห่ก็ถูกส่งขึ้นฟ้าไปราวกับอัสนีบาต เขาลงไปในแม่น้ำและเปียกโชก
“ฟางเหล่ยไห่ เจ้ากับข้า แต่เดิมไม่เคยมีความขุ่นเคืองต่อกัน แต่เจ้าก็ไม่รู้จักพอและท้ายที่สุดนี่ก็เป็นผลลัพธ์ มันเป็นผลเนื่องจากตัวเจ้าเอง”
หลี่ฟู่เฉินจะไม่ปล่อยฟางเหล่ยไห่ไปง่ายๆ
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้”
ด้วยหมัดก่อนหน้ามันทำให้ใบหน้าของฟางเหล่ยไห่กลายเป็นสีซีด เมื่อเขาหวาดหวั่น เขาก็เริ่มกรีดร้องออกมาแบบไม่รู้ตัว อีกเหตุผลนึงอาจเป็นเพราะหลี่ฟู่เฉินได้เริ่มเดินเข้ามา
ไม่มีใครตำหนิเขาได้ เพราะความกลัวจากความพ่ายแพ้เริ่มเกาะกินในใจ
ความจริงก็คือตัวหลี่ฟู่เฉินเองที่ผิดปกติ
ครึ่งปีที่แล้ว เขายังสามารุคงสู้ต่อต้านหลี่ฟู่เฉินได้ แต่ครึ่งปีต่อมา เขาไม่สามารถทนรับได้แม้แต่หมัดเดียว เขาจะสามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้อย่างไร?
มันราวกับว่าท่านอ่อนแอกว่าศัตรูเล็กน้อย และต้องการแก้แค้นหลังจากการฝึกฝนมาอย่างหนัก แต่หลังจากนั้นก็ถูกโบกปัดโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ความแตกต่างที่มากมหาศาลย่อมไม่สามารถมีใครจิตนาการได้
เมื่อเห็นว่าหลี่ฟูเฉินเกือบจะมาถึงตรงหน้าเขาแล้ว ฟางเหล่ยไห่ก็กรีดร้องและพยายามหลบหนีด้วยความหวาดกลัว ส่งผลทำให้น้ำจากแม่น้ำลอยไปทุกทิศทุกทาง
แต่อย่างไรก็ตามความเร็ซของหลี่ฟู่เฉินนั้นรวดเร็วกว่าฟางเหล่ยไห่ หลังจากทิ้งเงาไว้ข้างหลัง หลี่ฟู่เฉินก็พุ่งเข้าหาฟางเหล่ยไห่ได้แทบจะในทันที
“ไม่!”
ฟางเหล่ยไห่คำรามด้วยความโกรธ เขาดึงดาบไม้ของเขาออกมาด้วยพละกำลังจากมือซ้าย และเหวี่ยงมันไปข้างหลังเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างเขากับหลี่ฟู่เฉิน
ปั๊ง!
ด้วยลูกเตะ หลี่ฟู่เฉินส่งฟางเหล่ยไห่กระเด็นออกไปกว่าหนึ่งไมล์
เมื่อการกลิ้งสิ้นสุดลง เขาก็เดินไปหาฟางเหล่ยไห่อีกครั้ง
ฟางเหล่ยไห่ใกล้จะหมดสติลงแล้ว ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยความคั่งแค้นและความหวาดกลัว
“สารเลว ออกไป!”
ร่างที่ไร้ตัวตนพุ่งเข้ามาโจมตีหลี่ฟู่เฉินด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
หลี่ฟู่เฉินปล่อยหมัดสวนกลับไปอย่างรุนแรง
ปั๊ก!
เลือดสดพุ่งออกมาจากปาก หลี่ฟู่เฉินกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ด้านหลัง จากนั้นมันก็แยกออกเป็นสองส่วน
จอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิด
ผู้ที่โจมตีคือจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิด หากไม่ใช่หลี่ฟู่เฉินด้วยการโจมตีครั้งนี้ก็อาจถึงคาดได้
เงยหัวขึ้น หลี่ฟู่เฉินเห็นชายคนนึงที่ร่างคล้ายกับโคถึกซึ่งกำลังส่วนใส่ชุดผู้ดูแลนิกายชั้นนอก ชายผู้นั้นยืนอยู่ที่ขอบของริมลำธารและจ้อมาที่หลี่ฟู่เฉินอย่างเย็นชา
ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาที่มีถึง 10,000 กิโลกรัม หลี่ฟู่เฉินจึงมีการป้องกันที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน สิ่งนี้ต้องชมเชยพลังฉีสีแดงเพลิงของเขา การป้องกันของเขาเพียงพอที่จะสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีพละกำลังถึง 20,000 กิโลกรัม
และด้วยเหตุนั้นในการโจมตีนี้เขาไม่ได้รับแรงกระแทกแบบเต็มกำลัง แถมยังมีโอกาสสวนหมัดกลับไปได้ด้วย
มันเป็นผลทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ทั้งที่เป็นผู้ดูแลของนิกายชั้นนอก เจ้าก็ยังแทรกแซงการแข่งขันรอบคัดเลือก นี่ไม่ได้เป็นการทำบางอย่างที่มากเกินไป?” ระงับความโกรธของตนเอง หลี่ฟู่เฉินลุกขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆ
ชายที่มีร่างคล้ายโคถึกกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก “ยังเด็กอยู่แต่เลวทรามได้ถึงเพียงนี้ พ่อแม่ของเจ้าไม่ได้สอนมารยาทขั้นพื้นฐานให้หรือไร?”
“อย่าเปลี่ยนหัวข้อ คำถามของข้าคือเจ้า แทรกแซงการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าได้รับอนุญาติจากผู้อาวุโสชั้นนิกายแล้วหรือไม่?” หลี่ฟูเฉินยังคงตั้งคำถาม
ช่วยฟางเหล่ยไห่ให้ลุกขึ้นยืน ชายร่างคล้ายโคถึกไม่ตอบคำถามโดยตรง “หากข้าต้องการฆ่าเจ้า ข้าคงใช้พละกำลังไม่ถึง 10% จากความแข็งแกร่งทั้งหมด แต่ครั้งนี้ข้าจะใช้พลังกำลังทั้งหมด เจ้าควรรู้สึกโชคดีกับสิ่งที่เจ้าจะได้รับ”
เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนของตระกูลฟาง และในแง่ของอาวุโส เขาเป็นลุงของลูกพี่ลูกน้องฟางเหล่ยไห่
เมื่อการแข่งขันรอบคัดเลือกเริ่มขึ้น เขาก็ติดตามฟางเหล่ยไห่อย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องเขา
ระหว่างการต่อสู้ของฟางเหล่ยไห่และหลี่ฟู่เฉิน เขารู้สึกว่าด้วยความสามารถของฟางเหล่ยไห่ เขาน่าจะรับมือหลี่ฟู่เฉินได้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าฟางเหล่ยไห่จะพ่ายแพ้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว
หากหลี่ฟู่เฉินออกไปทั้งยังงั้น เขาจะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่หลี่ฟู่เฉินโหดร้ายเกินไป ซึ่งเป็นการบังคับให้เขาต้องลงมือสั่งสอนหลี่ฟูเฉิน
“สิ่งที่จะได้รับ หือ? ปัญหานี้จะถูกรายงานไปยังผู้อาวุโสนิกายชั้นนอก” หลี่ฟู่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมน
“เจ้าหนุ่มน้อย ลอยดีกว่าจมน้ำ ผลที่ตามมาคือสิ่งที่เจ้าจะไม่สามารถแบกรับไว้ได้” ชายร่างโคถึกกล่าวพร้อมกับเจตนาสังหาร
“แล้วยังไงหล่ะ? เจ้าจะปิดปากข้าด้วยการสังหาร?”
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกถึงการคงอยู่ใกล้เคียง และสงบสติอารมณ์ก่อนที่จะกล่าว
“หากเจ้าลือกที่จะแสวงหาความตาย ข้าสามารุมอบความปรารถนาให้แก่เจ้าได้” โคจรพลังฉี ชายร่างโคถึกนั้นง้อเข่าเล็กน้อย เตรียมที่จะเปิดฉากการโจมตีเวลาใดก็ได้
“ฟางต้าเห่อ เจ้าพยายามจะทำอะไร?”
เสียงที่ถูกปล่อยออกมานั้นทำให้ผิวน้ำบนลำธารเริ่มกระเพื่อมเต้น แม้แต่ใบไม้ที่ร่วงหล่นก็เริ่มกลายเป็นไอ
“อาวุโสซิ่ว”
ใบหน้าของฟางต้าเห่อดูน่าเกลียด ในขณะที่หันไปเผชิญหน้ากับผู้ทรงภูมิซึ่งที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้
ผู้ทรงภูมิคืออาวุโสชั้นนอก จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “แทรกแซงการแข่งขันของศิษย์ชั้นนอกอย่างเปิดเผย เจ้าสมควรได้รับการลงโทษอะไร?”
ฟางต้าเห่อตอบกลับอย่างเป็นกังวล “อาวุโสซิ่ว ฟางต้าเห่อเพียงแค่แกล้งเล่น โปรดอาวุโสซิ่วให้อภัย”
“แกล้งเล่น? นี่เป็นวิธีที่เจ้าแกล้งเล่น?”
ใบหน้าของผู้อาวุโสซิ่วแสดงออกอย่างเป็นกลาง “เมื่อเจ้ากลับไป จงสารภาพความผิดของเจ้าแก่อาวุโสเสี่ยวซะ”
“ขอรับ” ฟางต้าเห่อตอบพร้อมกับลงหัว
เบนสายตาไปที่หลี่ฟู่เฉิน อาวุโสซิ่วกล่าว “หลี่ฟูเฉิน ไม่ต้องกังวล ผู้อาวุโสของนิกายชั้นนอกจะจัดการเรื่องนี้เอง”
“ขอบคุณขอรับ อาวุโสซิ่ว”
หลี่ฟูเฉินแสดงความเคารพนับถือ แต่ในใจกลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
เมื่อมองดูทัศนคติของอาวุโสซิ่ว ที่จะไม่เอาผิดฟางต้าไห่
ต้องจำไว้ว่าฟางเหล่ยไห่และฟางต้าเห่อเป็นผู้สนับสนุนเมืองใหญ่ของเมืองซานไห่ และนั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองที่มีอยู่ดาดๆ ทั่วไป แต่เป็นเมืองแห่งหนึ่งที่เป็นเมืองหลักของนิกาย ตำแหน่งของเขาอยู่ในระดับเดียวกับผู้อาวุโสนิกายชั้นนอก ด้วยปัจจัยเหล่านี้ หลี่ฟูเฉินจึงรู้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฟางต้าเห่อ
หลังจากที่หลี่ฟู่เฉินจากไป ผู้อาวุโสซิ่วก็เหวี่ยงเม็ดยาไปที่ฟางต้าเห่อ “ยาเม็ดนี้สามารถช่วยให้กระดูกฟื้นตัวเร็วขึ้น”
เมื่อจบประโยค ผู้อาวุโสก็หายตัวไปในพริบตา
“ลุงต้าเห่อ ผู้อาวุโสจะลงโทษท่านอย่างไร?” ฟางเหล่ยไห่เป็นกังวล
ฟางต้าเห่อหัวเราะ “อย่าได้กังวลไป จะไม่มีการลงโทษที่ร้ายแรง หลังจากทั้งหมดแล้ว พ่อของเจ้าก็คือเจ้าเมืองของซานไห่ ซึ่งมีความผูกพันกับผู้อาวุโสนิกายชั้นในหลายคน ถ้าไม่แล้ว ทำไมอาวุโสซิ่วถึงต้องมอบของขวัญชิ้นนี้ให้เจ้า”
“นั้นฟังดูดีมาก”
ฟางเหล่ยไห่ปล่อยลมหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังรู้สึกภูมิใจในหัวใจของเขาเช่นกัน
ความภาคภูมิใจนี้ มีได้แค่คนที่มีภูมิหลังที่ดีเท่านั้น