บทที่ 71 สัตว์ปีศาจกลายพันธุ์
บทที่ 71
สัตว์ปีศาจกลายพันธุ์
ไม่กี่นาทีต่อมาเจตนาฆ่าของหลี่ฟู่เฉินก็หายไป
ฮึฮึ
“หากไม่ใช่เพราะการป้องกันทางร่างกายที่แข็งแกร่งของข้า แม้ว่าจะจะมีพละกำลังมากว่านี้ถึงสองเท่า ข้าก็คงจะต้องนอนลงอยู่ที่นั่นอย่างพ่ายแพ้”
การเผชิญหน้าครั้งนี้ มันทำให้หลี่ฟู่เฉินมุ่งมั่นที่จะดำเนินต่อไปในเส้นทางที่ยาวไกลและน่าเบื่อของการปรับแต่งร่างกาย
บนเส้นทางแห่งจอมยุทธ์ มีกับดักและอุปสรรคมากมาย
หลี่ฟู่เฉินยังคงเป็นศิษย์นิกายชั้นนอกอยู่ ดังนั้น เขาจึงไม่จำเป็นต้องออกไปทำภารกิจนอกนิกาย
เมื่อเขาเข้าไปเป็นศิษย์ชั้นใน เขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยกับหนึ่งภารกิจในทุกๆ ปีเพื่อนิกาย
ระหว่างการปฏิบัติภารกิจ ถ้าทุกอย่างราบรื่น มันจะดีที่สุด แต่ถ้ามันติดขัดแม้ต่เพียงหนึ่งครั้งนั้นก็จะพบกับอันตรายได้อย่างง่ายดาย
อันตรายมีอยู่หลายชนิด บางคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าท่านจะมีความสามารถสูงส่งมากแค่ไหน
เมื่อสิ่งเช่นนั้นเกิดขึ้น หากไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองอย่างเพียงพอ แม้ว่าท่านจะมีความสามารถในการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด เมื่อท่านถูกโจมตี ท่านก็ยังคงได้รับบาดเจ็บ ด้วยอาการบาดเจ็บซ้อน สภาพร่างกายของท่านก็จะตกต่ำลง และผลสุดท้ายที่จะได้รับก็คือการพังทะลาย
***
กลุ่มหก… กลุ่มห้า…
เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น หลี่ฟู่เฉินตามทันกลุ่มที่ห้าและกลุ่มที่สี่ซึ่งกำลังตั้งค่ายกันอยู่ แต่หลี่ฟู่เฉินก็ไม่รู้ว่า
เขานำหน้าพวกเขาเหล่านั้นไปแล้ว
ก็ในเมื่อหลี่ฟู่เฉินกำลังวิ่งอยู่ในป่ามืดอยู่ หูของเขาได้ยินเสียงที่ไม่ได้เกิดมาจากเขาเอง
แกร๊บ!
ไม้พุ่มด้านข้างเปิดออก ปรากฎเป็นสัตว์ปีศาจที่มีสีแดงคล้ายเลือดพุ่งออกมา
มันคือพยัคฆ์กระดูกโลหิต
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง พยัคฆ์กระดูกโลหิตนี้ดูมีกระดูกไม่แข็งแรงมากนัก และตาเป็นสีม่วงแทนที่จะเป็นสีแดง
หลี่ฟู่เฉินคิด ‘เป็นไปได้ว่าอาจเป็นสัตว์อสูรกลายพันธ์?’
สัตว์ปีศาจและมนุษย์แตกต่างกัน เลือดและโครงสร้างภายในร่างกายต่างกันมาก
ตัวอย่างเช่น ร่างกายของสัตว์อสูรประเภทเสือดาวจะมีสายเลือดจากสัตว์อสูรที่แตกต่างกันหลายสิบสายพันธุ์
สำหรับสัตว์ปีศาจที่แข็งแกร่งมากไปกว่านั้น มีอยู่ 2 อย่าง การกลายพันธุ์หรือวิวัฒนาการ
การกลายพันธุ์คือการรวมกันของสายเลือด สร้างสายเลือดใหม่เอี่ยม
วิวัฒนาการคือการเลือกสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกาย และจากนั้นจะชำระร่างของตนเพื่อรองรับสายเลือดนั้น
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นพยัคฆ์ที่มีสายเลือดแบบกลายพันธุ์ มีความสามารถมากกว่าอย่างน้อยสองเท่าจากพยัคฆ์กระดูกโลหิตธรรมดา
กรรช์!
พยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธ์โกงหลัง และในทันทีก็กระโจนไปที่หลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟูเฉินเอียงร่างและหลบการโจมตีของพยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์
พยัคฆ์กระดูกโลหิตเป็นปีศาจระดับ 1 ขั้นสูง แต่ทว่าความเร็วของมันมาถึงขั้นสูงสุดแล้ว
ความเร็วของพยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธ์นี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่าจากเดิม แม้แต่หลี่ฟู่เฉินก็พบว่ามันยากที่จะหลบการโจมตีจากมัน
ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงจะตายไปแล้ว
สิ่งนี้สามารถนิยามได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ
และอุบัติเหตุก็มักทำให้เกิดการเสียชีวิต
เมื่อการโจมตีครั้งแรกพลาดเป้าหมาย พยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์จึงหยุดตัวด้วยขาหน้าของมัน และเหวี่ยงหางยาวที่เหมือนกับท่อนไม้ไปยังหลี่ฟู่เฉิน
ปั๊ง!
ท้ายที่สุดแล้วหลี่ฟู่เฉินก็ไม่สามารถหลบมันได้อีกต่อไป เขาทำได้เพียงแต่ยกแขนซ้ายตั้งรับมันแต่เพียงเท่านั้น
ร่างกายของเขาเหวี่ยงไปด้านข้าง และเขาก็รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งนี้
ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา อันที่จริงเขาจะต้องพ่ายแพ้ให้กับพยัคฆ์กระดูกโลหิตไปแล้ว
แต่มันก็โชคดีที่คุณลักษณะที่แข็งแกร่งที่สุดของพยัคฆ์โลหิตกลายพันธุ์คือความเร็ว ดังนั้นมันยังจึงขาดความแข็งแกร่งอยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้นแขนข้างซ้ายของหลี่ฟู่เฉินจึงยังสามารถตั้งรับมันได้อยู่ โดยที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
ขณะที่เขาอยู่กลางอากาศ หลี่ฟูเฉินชักดาบไม้ของเขาออกมา และเมื่อตอนที่เขาล่วงลงเขาก็กระโจนเข้าหาพยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์ทันที
เช้ง!
พยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธ์ก็ยังเหมือนกับพยัคฆ์กระดูกโลหิตธรรมดา พื้นผิวของมันยังมีชั้นเลือดและกระดูก
เพียงแค่ว่าพยัคฆ์กระดูกโลหิตนั้นมีเลือดและกระดูกสีแดง ในขณะที่พยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธ์นั้นมีเลือดและกระดูกสีม่วง
เมื่อดาบไม้กระทบกับเลือดและกระดูก มันก็บดเลือดและกระดูกนั้น รอยเลือดสีแดงม่วงสามารถมองเห็นได้จากมัน
“ตาย!”
หลังจากที่เขาสับลงไป หลี่ฟู่เฉินกำดาบของเขาด้วยมือทั้งสองและเพิ่มความเร็วในการระเบิดพลังดาบออกไป ตัวดาบแทงเข้าไปในลำคอของพยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์
ตกตายโดยหยกแดง
ดึงดาบออกมา พยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์ตกลงไปที่พื้นเหมือนกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต ไม่นานการมีอยู่ของพลังฉีก็หดหายไป
‘ถ้าสัตว์ปีศาจพยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์ตัวนี้ไม่ได้อยู่ระดับ 1 มันก็สมควรอยู่ไม่ไกลกว่านั้นมากนั้น’
ในบรรดาเผ่าพันธุ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ ปีศาจระดับ 1 ทั้งหมด มีความแข็งแรงทางกายภาพประมาณ 10,000 กิโลกรัม คู่กับพลังฉีปีศาจที่เต็มไปด้วยเลือดของพวกมัน มันจึงทำให้สัตว์ปีศาจระดับ 1 ทั้งหมดยืนอยู่จุดสูงสุดของระดับ 1 จากเผ่าพันธุ์ทั้งหมดที่ไม่ใช่มนุษย์
มีครั้งหนึ่ง เมื่อปีศาจระดับ 1 ปรากฏตัวขึ้นใกล้เมืองหยุนหวู มันถูกจัดการลงหลังจากจอมยุทธ์ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดกว่า 10 คนออกมา
แม้ว่าวัตถุดิบจากพยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์นั้นจะมีค่พอสมควร แต่ส่วนที่มีค่าที่สุดก็คือแกนปีศาจภายในร่างกาย
จากสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ทั้งหมดมันจะมีโอกาส 80% ที่จะมีแกนปีศาจอยู่ภายใน
พยัคฆ์กระดูกโลหิตกลายพันธุ์ถูกหั่นออกเป็นชิ้นเล็กๆ หลี่ฟู่เฉินทำการค้นหาอย่างละเอียดและพบผลึกสีแดงสีม่วง
แกนปีศาจขั้นสูงระดับ 1 มีมูลค่าอย่างน้อย 1,000 ทอง ในทางตรงกันข้าม แกนปีศาจกลายพันธุ์ชั้นสูงจะมีมูลค่ากว่า 5,000 เหรียญทอง
'แม้ว่าข้าจะไม่ได้ขาดคะแนนสะสม แต่ข้ายังต้องการเหรียญทองอยู่'
หลี่ฟูเฉินเช็ดเลือดบนแกนปีศาจออก และเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านในของเขา
***
เมื่อท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมืดมิด พลังฉีปีศาจในป่าร้อยอสูรก็ยิ่งรุนแรงและน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นจากทุกทิศทุกทาง ส่งผลทำให้เหล่าศิษย์ที่เหนื่อยล้า ไม่กล้าแม้แต่จะหยุดพัก
เช่นเดียวกับที่ในคืนที่ผ่านมา ผู้ที่กำลังเร่งรีบตลอดทั้งคืนก็รู้สึกเหนื่อยล้ามากนัก
ในขณะที่คนอื่นกำลังอ่อนล้า แต่หลี่ฟู่เฉินยังคงเต็มไปด้วยพลังงานและรักษาความเร็วสูงสุดของเขาไว้เสมอ
ในช่วงเที่ยง ในที่สุดหลี่ฟูเฉินก็มาถึงแนวหน้า
‘ฟางเหล่ยไห่ จงภวนาไม่ให้ข้าเจอเจ้า’
ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงเขาก็สังเกตสิ่งรอบตัวของเขาเช่นเดียวกับฟางเหล่ยไห่
ฟางเหล่ยไห่ส่งคนมาขัดขวางเขา หากเขาไม่ได้แก้แค้น สำหรับเขาแล้วมันคงจะขี้ขลาดเกินไป
แคร๊ก!
หลี่ฟู่เฉินพบร่างที่สง่างาม หลังจากตัดผ่านส่วนที่หนาแน่นของป่าออกมา
มันเป็นหวูชิงเหม่ย
หวูชิงเหม่ยเข้ามาหา “หลี่ฟู่เฉิน”
หลี่ฟู่เฉินถาม “เจ้าเห็นฟางเหล่ยไห่ไหม?”
หวูชิงเหม่ยส่ายหัวของนาง “ข้าไม่เห็นเขา”
“ขอบใจเจ้ามาก ข้าคงจะต้องนำไปก่อน”
หลี่ฟู่เฉินเพิ่มความเร็วของเขา และทิ้งหวูชิงเหม่ยไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งสภาพจิตใจของเขาเองก็กลายเป็นมืดมนลง
มองดูร่างที่หายไปของหลี่ฟู่เฉินจากด้านหลัง หวูชิงเหม่ยมีใบหน้าที่ดูแปลกประหลาด ในตอนแรกเธอไม่ได้เคารพหลี่ฟู่เฉินมากนัก แต่ตอนนี้ เขาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของนิกายชั้นนอก และบางคนก็ยังเปรียบเทียบเขากับหยูเหวินเทียน
ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขา พลังงานของหลี่ฟู่เฉินจึงยังคงอยู่จุดสูงสุดของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่พักในช่วงเวลาเที่ยงและเดินทางต่อไป
ยกเว้นหวูชิงเหม่ย เขาไม่เคยเห็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกของหอคอยแห่งความลำเค็ญ
เขาเดาว่าคนอื่นใช้เส้นทางที่แตกต่างจากเขา หลังจากทั้งหมดแล้ว ป่าร้อยอสูรมีขนาดใหญ่และทุกคนไม่สามารถเลือกเส้นทางเดียวกันได้
ในเย็นวันที่สอง หลี่ฟู่เฉินพบกับ เกาช่างเทียนโดยบังเอิญ
เกาช่างเทียนมองอย่างประหลาดใจ “ข้านึกว่าเจ้าอยู่ด้านหน้าข้าเสียอีก”
เกี่ยวกับหลี่ฟูเฉิน เขามีความรู้สึกหลากหลาย
ใครจะคิดว่าศิษย์โครงกระดูกธรรมดาจะแสดงความสามารถที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาได้
การทำชิงเฉาหยูบาดเจ็บสาหัสได้ในหมัดเดียวก็นับเป็นความสำเร็จแล้ว แม้เขาจะไม่ผ่านการแข่งขันครั้งนี้ก็ตาม
“เห็นฟางเหล่ยไห่ไหม?” หลี่ฟู่เฉินกล่าวถาม
“เขาอาจเลือกเส้นทางอื่น ทำไมเจ้าถึงมองหาเขา?”
“ข้ามองหาเขาเพื่อต้องการแก้ไขปัญหาส่วนตัวบางอย่าง” หลี่ฟู่เฉินไม่ได้อธิบายรายละเอียดในหัวข้อนี้
เกาช่างเทียนคิดก่อนจะกล่าว “เส้นทางภายในป่าร้อยอสูรเริ่มแคบลง และหากเราไปต่อมันก็จะมาบรรจบกัน บางทีเจ้าอาจจะเห็นเขาหากเดินทางต่อไป”
“เป็นเช่นนั้น? ขอบคุณมาก”
หลังจากกล่าวออกไปแบบนี้ หลี่ฟู่เฉินก็เริ่มตีตัวออกห่างเกาช่างเทียน
เกาช่างเทียนหัวเราะอย่างขมขื่น ในระหว่างการเดินทางระยะไกล ผู้ที่มีสภาพร่างกายที่ดีกว่า จะถูกรับพิจารณาเป็นพิเศษ
สภาพร่างกายของเขาไม่อ่อนแอ เขาบรรลุวิชาร่างกายเจ็ดดาราแปลงแล้ว และยังเลือกวิชากายาพายับเมฆาประจัญบาณระดับลึกลับขั้นต่ำมาฝึกฝน
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาเกิน 5,000 กิโลกรัมมานานแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลี่ฟู่เฉินดูเหมือนว่าช่องว่างยังคงห่างไกล