บทที่ 70 หนึ่งต่อหนึ่งร้อย
บทที่ 70
หนึ่งต่อหนึ่งร้อย
ป่าร้อยอสูรนั้นมีขนาดใหญ่มาก มันตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาและทอดตัวลึกเข้าไปในภูเขา
การเดินป่าข้ามป่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน ออกเดินทางตั้งแต่รุ่งเช้าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว
หลี่ฟู่เฉินไม่รีบ แต่กลับกันเขาพักผ่อนและเคี้ยวอาหาร
ไม่มีใครสามารถวิ่งได้เป็นเวลา 3 วันโดยไม่ต้องนอนหรือพักผ่อน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาพักผ่อน มันจึงเป็นการดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนตัวเอง และปล่อยให้สภาพร่างกายคงอยู่ในระดับสูงสุดไว้
หลี่ฟู่เฉินพักอยู่หนึ่งชั่วโมงตามเส้นทางที่เขามา
หากมีจอมยุทย์ระดับปรมาจารย์ ลอยอยู่เหนือผืนป่าร้อยอสูร ปรมาจารย์ผู้นั้นก็จะสามารถใช้ผัสผัสของเขาเพื่อตรวจสอบป่าได้ และก็จะสามารถสังเกตได้ว่าศิษย์ 10,000 คนถูกแยกออกเป็นกลุ่มๆ ประมาณกลุ่มละหนึ่งโหล
กลุ่มแรกคือหยูเหวินเทียนและคนจากกลุ่มของเขา พวกเขาออกตัวล้าหลังกว่ากลุ่มสอง
เนื่องจากเขาพักผ่อนไปหนึ่งชั่วโมง หลี่ฟู่เฉินจึงอยู่ในกลุ่มที่สิบ
สำหรับกลุ่มที่อยู่นอกเหนือกลุ่มที่สิบ พวกเขาทั้งหมดเป็นศิษย์ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและมาที่นี่เพื่อเป็นตัวประกอบของตัวเลขแต่เพียงเท่านั้น พวกเขาตระหนักถึงขีดจำกัดของตนเอง และไม่รีบเร่งตัวเองแต่อย่างใด
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่ฟู่เฉินก็มาถึงกลุ่มที่เก้า
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่ฟู่เฉินก็ตามทันกลุ่มที่แปด
ขณะที่เขากำลังจะตามหากลุ่มที่เจ็ด แก๊งคนกว่าร้อยก็ล้อมรอบหลี่ฟู่เฉิน
ผู้นำของแก๊งนี้ก็คือเจ็ดผู้เชี่ยวชาญของฟางเหล่ยไห่
นี่หมิงกล่าว “หลี่ฟู่เฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเราทุกคนที่นี่ และเจ้าก็คงจะมอบความพ่ายแพ้ให้แก่ข้าได้ด้วยกระบวนท่าเดียว แต่ด้วยความแข็งแกร่งของคนกว่าร้อย เจ้าจะไม่สามารถผ่านไปได้แม้ว่าเจ้าจะเป็นเทพ!”
หลี่ฟู่เฉินยืนอยู่บนกิ่งไม้ห่างจากพื้นเพียงไม่กี่เมตร สายตามองไปยังพวกเขา “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทุกคนจะยอมแพ้ต่อการแข่งขัน”
“ถูกแล้ว มีเพียง 20 คนเท่านั้น ที่จะผ่านการแข่งขันนี้ไปได้ และแน่นอนว่าพวกเราย่อมไม่ดีพอ” ขุ่ยเที่ยตอบ
หลี่ฟู่เฉินถาม “มีบางอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ ฟางเหล่ยไห่ให้ประโยชน์อะไรกับเจ้า เจ้าถึงต้องเสียสละเพื่อเขา”
หลี่ฟู่เฉินเป็นบางคนที่มีความแข็งแกร่งที่แท้จริง การรุกรานเขามันไม่มีความหมายอะไรเลย แต่เมื่อพวกเขารู้แล้วว่าหลี่ฟู่เฉินนั้นน่ากลัวเพียงใด แต่ก็ยังคงยืนกรานว่าจะทำให้เขาขุ่นเคืองให้ได้ มันจะต้องมีเหตุผล
เหม่ยหรุยหลงกล่าว “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผล”
ความจริงก็คือพวกเขาติดตามฟางเหล่ยไห่เพื่อผลประโยชน์ในอนาคต
หากคนๆ นึงได้เป็นอัจฉริยะ อย่างน้อยคนๆ นั้นก็ย่อมต้องสามารถบรรลุขอบเขตสวรรค์ได้ การเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ จะหมายถึงผลประโยชน์ที่ดีสำหรับทั้งตัวเองและกลุ่มของพวกเขา
สำหรับหลี่ฟู่เฉิน พวกเขารู้สึกว่าการทำให้เขาขุ่นเคืองนับไม่ได้นับเป็นอะไรเลย
หลี่ฟูเฉิน ผู้ซึ่งมีเพียงโครงกระดูกธรรมดาๆ เท่านั้น ขอบเขตมากสุดที่จะไปถึงย่อมมีจำกัด และจะไม่มีวันเหมือนอัจฉริยะ
“หลี่ฟู่เฉิน ข้าแนะนำให้เจ้าพักอยู่ที่นี่ และอย่าบังคับให้พวกเราต้องลงมือ”
“ถูกแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของคนกว่าร้อย ถึงแม้ว่าตัวเจ้าจะทำมาจากเหล็ก เจ้าก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“เจ้าเป็นคนฉลาด ดังนั้นเจ้าควรรู้ว่าต้องตัดสินใจอะไร”
ลูกน้องของฟางเหล่ยไห่ตะโกนออกมาอย่างดุร้าย
หลี่ฟู่เฉินหัวเราะเบาๆ “ไม่ว่าหมาป่าจะรวมกันเป็นจำนวนเท่าใด มันจะไปเปรียบเทียบกับมังกรได้อย่างไร พวกเจ้าไม่คู่ควร”
จบประโยคของตัวเอง หลี่ฟู่เฉินก็กระโจนออกจากกิ่งไม้และพุ่งตัวเข้าไป
ขุ่ยเที่ยตะโกน “หยุดเขา! โจมตีเข้าไปแบบคิดจะฆ่า การป้องกันร่างกายของเขาแข็งแกร่ง ไม่ต้องกังวลกับการฆ่าเขาโดยไม่ตั้งใจ”
ด้วยศิษย์ขอบเขตพลังฉีกว่าร้อยจะต้องสามารถหยุดชายคนหนึ่งได้ พวกเขาเป็นเหมือนคลื่นขนาดใหญ่
“ตั๊กแตนขวางเกวียน!”
หลี่ฟู่เฉินไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หวเราะออกมา กางแขนเปิดออก เขาพุ่งทะยานเข้าหาฝ่ายตรงข้ามเหมือนนกอินทรี
ปั๊ง ปั๊ง ปั๊…
ฉากที่ไม่น่าเชื่อถูกปลดปล่อยออกมา แก๊งคนราวกับน้ำขึ้นน้ำลง ทั้งหมดนั้นไม่สามารถหยุดหลี่ฟู่เฉินได้ แต่ละคนถูกชนกันหรือบินออกไป มีเลือดทั่วบริเวณและกระดูกหัก
“ตั้งแต่ที่พวกเจ้าทุกคนตัดสินใจที่จะต่อต้านข้า ดังนั้นเตรียมตัวให้ดีสำหรับผลที่จะตามมา”
หลี่ฟู่เฉินเร็วเกินไป ที่ใดก็ตามที่มีศัตรู เขาจะรีบไปที่พวกนั้น
ในแต่ละตำแหน่งเขารีบไป ผู้คนต่างก็ถูกกระแทกและพ่นเลือดออกมา
“หลี่ฟู่เฉิน อย่าได้ใจไปนัก!”
ด้วยขุ่ยเที่ยที่เป็นผู้นำหลัก ผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดเริ่มประสานงามกันเพื่อเริ่มโจมตีหลี่ฟู่เฉิน ดาบนั้นราวกับตาข่ายที่ไม่สามารถหลีกหนีพ้น
“ไปให้พ้น!”
ด้วยการหมุนตัว หลี่ฟู่เฉินใช้วิชาลูกเตะพายุหมุน ‘พายุหักโหม’ เตะไร้ที่สิ้นสุดถูกส่งออกไปในทุกทิศทาง
ปั๊ก! ปั๊ก! ปั๊ก…
ผู้เชี่ยวชาญทั้งเจ็ดคนถูกบังคับให้คายเลือดออกมา และแสดงออกอย่างหวาดกลัว
อำนาจเช่นนี้…
ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินไม่ได้อยู่ที่ขอบเขตพลังฉีแล้ว ดูเหมือนว่าจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับต่ำก็คงจะได้รับชะตากรรมเดียวกัน
ไม่ได้หมายความว่าจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดไม่แข็งแกร่งพอ
ประเด็นหลักก็คือจอมยุทธ์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับต่ำไม่สามารถเทียบการป้องกันทางกายภาพของหลี่ฟู่เฉินได้
ในตอนต้น หลี่ฟู่เฉินถูกประเคนลูกเตะกว่าสิบลูกไปให้ แต่ต่อมาดาบหลายสิบเล่มก็ถูกส่งเข้าไปเหมือนกัน
แต่หลี่ฟู่เฉินก็ไม่ได้รับอันตราย และที่เหลือก็ถูกบังคับให้กลับไป อาเจียนออกมาเป็นเลือด
“การป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากแต่ก่อน” ขุ่ยเที่ยอ้าปากค้าง
เหมยหรุยหลงกล่าวด้วยความปั่นป่วน “ข้าอยากจะเห็นว่าเขาจะทนการโจมตีของเราได้อีกนานแค่ไหน”
ไม่ว่าเทคนิคการขัดเกลาร่างกายจะได้รับการฝึกฝนมาอย่างไร เมื่อมีการโจมตีเพียงพอ มันก็ยังคงต้องใช้พลังฉี
เหมือนก้อนหิน การโจมตีด้วยค้อนหนึ่งครั้งอาจไม่สามารถทำลายได้ แต่ด้วยการทุบมากขึ้น แม้แต่ก้อนหินที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะพัง
เหม่ยหรุยหลงตะโกน “ผู้ที่ยังยืนอยู่ได้ โถมเข้าไป!”
ด้วยลมที่พัดแรง คลื่นที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเงาก็กระโดดไปที่หลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟูเฉินยังคงไม่แยแส “เมื่อเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวเจ้าเอง งั้นแล้วอย่าได้โทษข้า”
พลังฉีพุ่งพร่านและความร้อนแรงก็หลั่งไหลออกมาจากหลี่ฟู่เฉิน ในพริบตา หลี่ฟูเฉินก็ส่งลูกเตะออกไปเหมือนกับฝนที่ตกหนัก และพลังที่อยู่เบื้องหลังการเตะแต่ละครั้งก็เหมือนกับพายุหมุนที่รุนแรง
คนที่ถูกโจมตีกระดูกหักและหมดสติลงไปในทันที
หลี่ฟูเฉินได้ออมพลังแล้วในตอนแรก แม้ว่าแต่ครั้งนี้เขาก็ไม่ได้ใช้พลังออกไปอย่างเต็มที่เช่นกัน แต่มันก็เพียงพอที่จะให้บาดเจ็บสาหัส
หากความตายเกิดขึ้นโดยบังเอิญมันจะไม่เป็นไปตามอย่างที่คาดหวัง
เขาไม่สามารถถูกตำหนิในเรื่องนี้ได้ หากมีใครคนหนึ่งที่ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนกว่าร้อยคน พวกเขาจะรู้สึกขุ่นมัวเหมือนกัน
เขาเชื่อว่าแม้ว่าเขาจะฆ่าใครบางคนนิกายก็จะไม่ลงโทษเขา
เมื่อใครก็ตามที่อยู่ในระยะประชิด เขาจะส่งหมัดออกไปทันที
ปั๊ง!
ด้วยการเตะลงไปที่ไหล่ของเหม่ยหรุยหลง ไหล่ของเขาก็หักลงไปในทันที ด้วยการเปลี่ยนทิศทาง หลี่ฟู่เฉินก็เตะต่อไปที่เอวของนี่หมิงและส่งเขากลิ้งออกไป และเลือดออกอยู่ที่พื้น
“พอ หยุดอยู่ตรงนั้น”
ผู้ดูลนิกายชั้นนอกที่ซ่อนตัวอยู่ ไม่สามารถทนดูได้ และเปิดเผยตัวเองออกมา
พวกเขากังวลว่าหากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป หลี่ฟู่เฉินจะฆ่าผู้รุกรานไปสองสามคน
ขุ่ยเที่ยเห็นคนของเขาพ่ายแพ้คล้ายกับเยื่อกระดาษที่ผุบาง ดวงตาของเขาแดงและรีบไปหาหลี่ฟู่เฉินอย่างต้องการจะฆ่า
“เจ้ากำลังมองหาความตาย?!” ผู้ดูแลนิกายชั้นนอกจ้องมองอย่างเย็นชา
เขาประทับฝ่ามือไปที่ขุ่ยเที่ย ส่งให้เขากระเด็นออกไปติดต้นไม้และล้มลงมา
“เจ้าควรจะไป! ฝากสิ่งนี้ไว้กับพวกเรา” หัวหน้าผู้ดูแลกล่าวกับหลี่ฟู่เฉิน
หายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟู่เฉินพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหยุดยั้งการฆ่า เขากล่าวด้วยเสียงโทนต่ำ “ขอบคุณมาก”
จบคำพูดของเขาเขา เขาก็หันและจากไป
“ช่างเป็นปีศาจที่ร้ายกาจ”
คล้ายกับภาพลวงตา ผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกก็ปรากฏตัวขึ้น
“ผู้อาวุโส” ผู้ดูแลทุกคนโค้งคำนับเขาด้วยความเคารพ
ผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกโบกมือของตัวเอง “ศิษย์ผู้นี้มีมีศักยภาพที่ไม่ธรรมดาและยังดูดุร้าย โชคดีที่สิ่งนี้เกิดขึ้นภายในนิกาย หากมันเกิดขึ้นที่ด้านนอก จะมีศิษย์น้อยกว่าครึ่งเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้”
“หนึ่งต่อหนึ่งร้อย ภายในนิกายชั้นนอก สามารถนับจำนวนศิษย์สาวกที่มีความสามารถเช่นนี้ได้ด้วยมือเดียว”
ผู้นำของผู้ดูแลนิกายชั้นนอกนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย