บทที่ 69 ป่าร้อยอสูร
บทที่ 69
ป่าร้อยอสูร
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในทันใด และมันก็เป็นเวลาสำหรับการแข่งขันนิดกายชั้นนอกแล้ว
การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการแข่งขันและส่วนที่สองคือการแข่งขันการจัดอันดับ
ศิษย์นิกายชั้นนอกทั้งหมดที่อยู่สูงกว่าระดับแปดของขอบเขตพลังฉีมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าร้อยอสูร 20 คนแรกที่ชำระล้างป่าแห่งนี้ได้จะมีโอกาสแข่งขันในการจัดอันดับ
เมื่อรวมตัวกันที่ที่ราบหน้าป่าร้อยอสูร ศิษย์นิกายชั้นนอกนั้นก็มีมากกว่า 10,000 คน
ข้างหน้าพวกเขาเป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ของนิกายชั้นนอก เซียวฉางเฟิง เขากล่าด้วยเวียงอันดัง “เมื่อเข้าไปในป่าร้อยอสูร จะไม่มีกฎข้อยกเว้นในเรื่องสำหรับการฆ่า มีเพียง 20 คนแรกเท่านั้นที่ชำระล้างป่าได้ ถึงจะได้รับโอกาสในการแข่งขันในการจัดอันดับ คนอื่นๆ ทั้งหมดจะถูกตัดออกไป เพื่อเตือยความจำสำหรับพวกเจ้าทุกคน ป่าร้อยอสูรนี้มีขนาดใหญ่มาก และนิกายได้เพาะพันธ์อสูรไว้ภายในมากกว่าร้อยสายพันธ์ สัตว์เหล่านี้บางตัวกลายพันธุ์และเป็นอันตรายอย่างยิ่ง พวกเจ้าบางคนอาจจะไม่สามารถทำอันตรายมันได้ และอาจต้องตายในป่า เตรียมตัวของพวกเจ้าไว้”
อันที่จริงเขาก็แค่พยายามขู่ผู้เข้าร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เตรียมตัวล่วงหน้าไว้ก่อน นอกเหนือจากผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 คน ผู้อาวุโสจากนิกายชั้นนอกหลายสิบคน และผู้ดูแลระดับสูงกว่าหนึ่งพันคนก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
แต่แน่นอน ในระหว่างการแข่งขันศิษยชั้นนอก ความตายเป็นเหตุการณ์ปกติ หากอุบัติเหตุเกิดขึ้น นิกายสามารถทำได้เพียงแค่ปลอมประโลมพวกเขา
ในหมู่ผู้เข้าร่วม มี 5 คนมาจากเมืองหยุนหวู
หลี่ฟู่เฉิน
กั่วเซี่ย จือฮงซิ่ว หยางไค่ และเฉินตูเจี๋ย
หลี่ฟู่เฉินและกั่วเซี่ยต่างก็อยู่ในระดับที่เก้าของของเขตพลังฉี
จือฮงซิ่ว หยางไค และเฉินตูเจี๋ยอยู่ในระดับที่แปดของของเขตพลังฉี
จือฮงซิ่วอยู่ในช่วงกลางของระดับที่แปด หยางไคอยู่จุดสูงสุดของระดับที่แปด และเฉินตูเจี๋ยอยู่จุดเริ่มต้นของระดับที่แปด
จ้องไปที่หลี่ฟู่เฉินอย่างเงียบๆ หยางไคและเฉินตู่เจี๋ยทั้งคู่ต่างก็รู้สึกซับซ้อน
กลับไปที่เมืองหยุนหวู พวกเขาเป็นอัจฉริยะ พวกเขาเป็นราชาและมีทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ ผู้เฒ่าเผ่าเหล่าพวกนั้นทุกคนต้องแสดงความเคารพต่อพวกเขา
แต่ตอนนี้ที่นิกายคังหลุน พวกเขาไม่มีอะไรเลย
เมื่อพวกเขามาถึงครั้งแรก พวกเขาก็ไม่คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และยังคงแสดงความเย่อหยิ่งเหมือนครั้งที่อยู่ในเมืองหยุนหวู พวกเขาต้องดิ้นรนไปมาเนื่องจากทำเช่นนั้น
แต่เมื่อเทียบกับพวกเขา หลี่ฟูเฉินผู้ซึ่งมีเพียงโครงกระดูกธรรมดา เขาอยู่ได้ดีในนิกายชั้นนอกนี้ ไม่เพียงแต่เขาไม่ต้องกลิ้งไปมา เขายังเอาชนะศิษย์คนอื่นๆ ได้
มีอัจฉริยะอยู่ในหมู่รายการที่พ่ายแพ้เขาเช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกใจและอิจฉาในเวลาเดียวกัน
“เอาล่ะ ทุกคนเข้าไปในป่าร้อยอสูรได้นับบัดเดี๋ยวนี้!”
อาวุโสใหญ่ของนิกายภายนอก เซียวฉางเฟิงกวาดมือออกไปเป็นคลื่น
ได้ยินดังนั้น ศิษย์นิกายชั้นนอกกว่า 10,000 คนก็โถมเข้าไปในป่าราวกับฝูงปลาตัวเล็กๆ นับไม่ถ้วน ฝ่าเข้าไปในป่าร้อยอสูร
“อาวุโสเซียว การแข่งขันชั้นนอกครั้งนี้ดูเหมือนจะมีเมล็ดพันธ์ที่ดูดีอยู่บ้าง” ผู้อาวุโสถอนสายตาของเขาแล้วหันไปหาเซียวฉางเฟิง
เซียวฉางเฟิงพยักหน้า “ด้วยประสบการณ์หลายปีของข้า ผู้เข้าร่วมในปีนี้เปรียบได้กับผู้เข้าร่วมเมื่อสองปีที่แล้ว”
“สองปีที่แล้ว? เจ้าหมายถึงปีที่ดาบคลั่งคงอยู่หรือไม่?”
ผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกอีกคนกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ
สองปีที่แล้ว ผู้เข้าร่วมเหล่านั้นการรวมตัวกันของหัวกระทิ ไม่เพียงแต่มีดาบคลั่งแต่เพียงเท่านั้น มันยังคงมีดาบพยัคฆ์ด้วยเช่นกัน และยังมีดาบไร้ปราณี ทั้งสามคนนี้เป็นศิษย์โดยตรง และได้บรรลุขอบเขตปฐพีไปแล้ว
มีข่าวลือว่าในปีที่ดาบคลั่งคงอยู่ เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ศตวรรษที่ผ่านมา
เซียวฉางเฟิง “อัจฉริยะอันดับหนึ่งของปีนี้จาก 10 อัจฉริยะ หยูเหวินเทียนเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับดาบคลั่ง ปีนี้เรามี 10 อัจฉริยะ แต่สองปีก่อน มีเพียง 8 ดังนั้นพวกเขาจึงเกือบจะเสมอกันในแง่ของความสามารถ”
“นั่นเป็นเรื่องจริง” ผู้อาวุโสทุกคนเห็นด้วย
***
ภายในป่าร้อยอสูร อารมณ์มันหนักหน่วงและยังมืดมิด สถานที่ทั้งหมดนี้มันเต็มไปด้วยฉีปีศาจ
เมื่อศิษย์ 10,000 คนเข้ามาในป่า ก็ไม่มีใครสามารถตรวจจับเสียงหรือการเคลื่อนไหวได้อีก ราวกับว่าพวกเขาไม่มีความหวังที่จะย้อนกลับคืนแล้ว
บนยอดไม้และภายในพุ่มไม้ใคร ๆ ก็สามารถเห็นร่างของผู้แดและจากนิกายได้
ในนิกายคังหลุน การไล่ระดับสีได้รับการยกย่องอย่างสูงส่ง คะแนนเหล่านี้ถูกจัดอันดับจากต่ำไปสูง ผู้ดูแลนิกายชั้นนอก ผู้ดูแลนิกายชั้นใน ผู้ดูแลนิกาย และผู้อาวุโสนิกายภายใน
ผู้ดูแลฝึกหัดนิกายชั้นนอกอยู่ในขอบเขตพลังฉี
ผู้ดูแลฝึกหัดนิกายชั้นในและผู้ดูแลชั้นนอกอยู่ในขอบเขตต้นกำเนิด
ผู้ดูแลชั้นในและผู้อาวุโสชั้นนอกอยู่ในขอบเขตปฐพี
ผู้อาวุโสชั้นในอยู่ในขอบเขตสวรรค์
กว่าหนึ่งพันผู้ดูแลนิกายชั้นนอกก็หมายถึงจอมยุทธ์ชั้นต้นกำเนิดกว่าพันคน ดังนั้นมันจะไม่มีอุบัติเหตุใดๆ มันยากมากแม้ว่าผู้เข้าร่วมจะต้องการฆ่าตัวตายก็ตาม
ในหมูของพวกเขาก็ต้องเพิ่มเหล่าผู้อาวุชั้นนอกไปอีกหลาย 10 คน
ผู้อาวุโสชั้นนอกล้วนแล้วแต่อยู่ในชั้นปฐพีและหากพวกเขาต้องการซ่อนการปรากฏตัวของพวกเขา แม้แต่ผู้ที่ดำเนินงานเป็นพวกขอบเขตต้นกำเนิด ก็ยังพบว่ายากที่จะตรวจจับพวกเขาได้
วูสสส, ซูดดด…
ภายในป่ามืดนั้นมีเงาหลายดวงกำลังเคลื่อนผ่านต้นไม้ บางคนรวดเร็ว บางคนก็ช้าลงเล็กน้อย
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกซาบซึ้งที่เขาได้เรียนรู้วิชาลูกเตะพายุหมุนมา แม้ว่าทักษะสำหรับเตะนี้จะไม่มีประโยชน์สำหรับการต่อสู้แต่อย่างใด แต่มันก็ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทาง
ด้วยเท้าของเขาที่เหยียบย่ำลงไปบนกิ่งไม้ หลี่ฟูเฉินก็มองไปทางด้านหลังของเขา ถ้าเขารู้สึกได้ถูกต้อง คนที่ติดตามเขาก็คือผู้ดูแลชั้นนอก
ผู้แดแลนิกายชั้นนอกซึ่งอยู่ในขอเขตต้นกำเนิดสามารถปฝึกฝนเทคนิคตัวเบาที่ดีขึ้นกว่านี้ได้
เทคนิคการขัดเกลาร่างกายที่ต่ำที่สุดของพวกเขาคือเทคนิคสีเหลืองระดับสูงสุด
ในขณะที่เทคนิคตัวเบาอย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเป็นขั้นลึกลับระดับต่ำ
หลังจากฝึกฝนเทคนิคตัวเบา ร่างกายของคนหนึ่งจะกลายเป็นแสงเมื่อต้องการและจะไม่เกิดเสียงใดๆ ในขณะที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง หากไม่ใช่จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของหลี่ฟู่เฉินและประสาทสัมผัสที่เฉียบคม เขาก็จะไม่ตรวจพบการปรากฏตัวของผู้ดูแลนิกายชั้นนอก
‘เด็กคนนี้จะสังเกตเห็นข้า’
บนต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง ผู้แดแลที่มองแล้วอยู่ในวัย 40 ปีเผยความประหลาดใจ
เขาฝึกฝนเทคนิคตัวเบาลึกลับระดับต่ำ เทคนิคห่านเมฆา เมื่อเขาโคจรพลังฉี มันจะไม่มีเสียงใดๆ เกิดออกมา แต่ผลเสียของมันก็คือความเร็ว หากเขาเร็วเกินไป เขาอาจจะทำให้เกิดเสียงบางอย่างขึ้นได้
หลังจากทั้งหมดแล้ว เทคนิคห่านเมฆาของเขาก็ยังไม่เสร็จสมบรูณ์
เฉพาะห่านเมฆาที่สมบรูณ์แล้วเท่านั้น ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้เดินทางด้วยความเร็วสูง โดยที่ไม่มีเสียงและแสดงตัวตนออกมาใดๆ
ด้วยชั้นภวังค์ของเทคนิควิชาลูกเตะพายุหมุน หลี่ฟูเฉินก็รวดเร็วดุจดั่งพายุ เขาแซงหน้าศิษย์ชั้นนอกคนอื่นไปราบกับดาวตก กระดอนออกจากต้นไม้
ฮู!
ทันใดนั้นเอง งูที่มีลวดลายสีน้ำเงิน ซึ่งหนาพอๆ กับต้นขาพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน
สัตว์ปีศาจระดับ 1 ชั้นสูง : งูสีลายน้ำเงิน(ชื่อเขาหรือชื่อแอดมันสิ้นคิดฟ่ะ 555)
สัตว์ปีศาจระดับ 1 ย่อมมีความรวดเร็วในการโจมตีที่สูงส่ง
ด้วยอาวุธที่ซ่อนอยู่ในมือ ผู้แดแลนิกายชั้นนอกก็สั่งให้ตัวเองก้าวเข้าไปและเตรียมช่วยหลี่ฟู่เฉินทุกเมื่อ
อันที่จริงหลี่ฟู่เฉินเห็นงูมาตั้งแต่ไกลแล้ว แต่เขาไม่ต้องการเสียเวลาเปลี่ยนวิถีการเคลื่อนที่ของเขา
ด้วยหมัดขวาที่ยกขึ้น หลี่ฟู่เฉินชกใส่หัวของงูลายน้ำเงินก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เคลื่อนไหวออกไปด้านหลังทันที
ปึสส!
เลือดพุ่งออกมาทันใดนั้นเอง งูลายน้ำเงินกลายเป็นงูหัวขาด
'ความเร็วในการตอบโต้และพลังที่ร้ายกาจ!'
ผู้ดูแลนิกายชั้นนอกนั้นตกลงไปอยู่ในความหวาดหวั่น
วิธีการของหลี่ฟู่เฉินเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับขอบเขตต้นกำเนิดระดับต่ำ และความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาอยู่เหนือตารางไปแล้ว
มันง่ายที่จะส่งงูลายน้ำเงินบินออกไปด้วยหมัดเดียว แต่การระเบิดสมองด้วยหมัดเดียว มันไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทำได้
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ร้ายหัวกะโหลกเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดเสมอ
‘ศิษย์ผู้นี้แข็งแกร่งและน่ากลัว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องค่อยประกบตัวเขา ข้าควรมองหาศิษย์ที่อ่อนแอกว่าคนอื่นๆ '’
หน้าที่ของผู้ดูแลนิกายชั้นนอกคอาการรักษาความปลอดภัยของศิษย์นิกายชั้นนอก แต่หลี่ฟู่เฉินนั้นแข็งแกร่งเกินไปและไม่ต้องการการปกป้องจากเขา และยิ่งไปกว่านั้น ภายในป่าร้อยอสูร มันไม่มีความเป็นไปได้ที่สัตว์ปีศาจระดับ 2 จะปรากฎตัว
‘เขาจากไปแล้ว?’
หลี่ฟู่เฉินยกคิ้วขึ้น ความเป็นจริง เขาไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดที่ถูกคนติดตาม
การแยกสมองของงูนั้นออกจากกัน มันเป็นวิธีหนึ่งที่จะตรวจสอบว่าเขาสามารถทำให้ผู้ดูแลจากไปได้ไหม
และจากการคาดเดาของเขา ผู้ดูแลคงจากไปแล้ว