ตอนที่แล้วบทที่ 67 หนึ่งหมัด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 69 ป่าร้อยอสูร

บทที่ 68 หยูเหวินเทียน


บทที่ 68

หยูเหวินเทียน

ข่าวของหลี่ฟูเฉินที่ทำให้ชิงเฉาหยูบาดเจ็บสาหัสได้ด้วยหมัดเดียว มันกระจายไปเหมือนไฟป่าบนที่ราบ มันกระจายไปทั่วนิกายอย่างไม่มีครั้งหยุดยั้ง

ได้ยินเสียงอึกทึกไปทั่วขณะที่ข่าวกำลังเดินทาง

มันเป็นเพราะตอนแรกพวกเขาคิดว่าผู้คนที่อัจฉริยะย่อมมีความก้าวหน้าเร็วกว่า และหลี่ฟู่เฉินก็คงใช้พรสวรรค์ทั้งหมดของตนเองหมดไปแล้ว

แต่ไม่มีใครคิดว่าความคืบหน้าของหลี่ฟู่เฉินจะเร็วขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

สามารถเอาชนะชิงเฉาหยูได้เพียงหนึ่งหมัด ความสามารถโดยรวมของเขาจะต้องได้อย่างน้อย 10 อันดับแรกของหอคอยแห่งความลำเค็ญ

***

การนิททาทั้งหมดเหล่านั้นและยังมรข่าวลือไม่ได้ทำให้หลี่ฟู่เฉินกังวล เมื่อใดก็ตามที่เขามีเวลาว่าง เขาจะไปตกปลาที่ทะเลสาปคังหลุน

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่เขาถอนโอถสพยัคฆ์มังกรมากว่า 60 เม็ด คะแนนสะสมของเขาก็เหลืออยู่แค่ 29,500

ระหว่างการฝึกฝกวิชาสกัดกลั้นเต๋า เขาจะมาเยือนทะเลสาบคังหลุนบ้างเป็นครั้งคราว ด้วยเหตุนี้คะแนนการสนับสนุนของเขาจึงมีถึง 90,000 อีกครั้ง

แต่หลังจากแลกโอถสพยัคฆ์มังกรรอบสองออกมาแล้ว คะแนนสะสมของหลี่ฟู่เฉินก็กลายเป็นเกลี้ยงเกลา

ดังนั้นในอีกสองเดือนข้างหน้า หลี่ฟู่เฉินตั้งใจที่จะใช้เวลาในทะเลสาบคังหลุนแห่งนี้

ฝึกฝนและตกปลา ทั้งหมดทำในเวลาเดียวกัน

8500 กิโลกรัม… 9000 … 9500 … 10,000 กิโลกรัม

เพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการแข่งขันนิกายชั้นนอก ในที่สุดหลี่ฟูเฉินก็บรรลุระดับที่สองของวิชาสกัดกลั้นเต๋า

พละกำลังของเขามาถึง 10,000 กิโลกรัมแล้ว

ในความเป็นจริง โอถสพยัคฆ์มังกร 60 เม็ดไม่เพียงพอที่จะนำพาวิชาสกัดกลั้นเต๋าไปสู่ความสำเร็จบรรลุระดับสอง

และหลี่ฟู่เฉินเองไม่ได้อยากแลกโอถสพยัคฆ์มังกรเพิ่มเติมอีกต่อไป

แต่ทะเลสาบคังหลุนก็ไม่นับเป็นอะไร แต่มันก็ยังมีปลาสมบัติมากมาย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลี่ฟู่เฉินจะบริโภคปลาสมบัติชั้นหนึ่งและปลาสมบัติชั้นสองมากมาย

ปลาสมบัติชั้นหนึ่งราคา 100 คะแนนต่อกิโลกรัมและสิบกิโลกรัมจะเป็น 1,000 คะแนน การกินปลาสมบัติชั้นหนึ่งไม่แตกต่างจากการกินโอถสพยัคฆ์มังกร

ปลาชั้นสองคือ 1,000 คะแนนต่อกิโลกรัม และการกินมันหนึ่งตัวก็เทียบเท่ากับกินโอถสพยัคฆ์มังกรหลายเม็ด

เมื่อความแข็งแกร่งทางร่างกายมาถึง 10,000 กิโลกรัม น้ำหนักตัวของหลี่ฟู่เฉินก็พุ่งขึ้นสูงถึง 80 กิโลกรัม ร่างกายทุกนิ้วของเขามีความทนทานและเหนียวแน่นอย่างเหลือเชื่อ

ความสูงอยู่ที่ 1.75 เมตร หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ดูเหมือนคนที่มีกล้ามเนื้อและยังดูผอมบาง แม้ว่าใครก็ตามที่มามองอย่างใกล้ชิด เขาก็ดูเหมือนแค่คนที่มีน้ำหนัก 65 กิโลกรัม และดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

‘เทคนิคการขัดเกลาร่างกายไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ ปริมาณของทรัพยากรที่ใช้ไปเพื่อให้บรรลุถึงจุดๆ นี้ ควรอย่างน้อย 600,000 เหรียญทอง’

หลี่ฟู่เฉินรู้สึกวูบ

เดินทางจากความแข็งแกร่งทางกายภาพไม่กี่ร้อยกิโลกรัม จนมาถึง 10,000 กิโลกรัมในขณะนี้ หลี่ฟู่เฉินบริโภคโอสถบรรเทาร่างกายไปกว่า 500 เม็ด 120 โอถสพยัคฆ์มังกร และจำนวนของปลาสมบัติที่ไม่รู้จำนวน  ในแง่ของคะแนนสนับสนุนจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 และเมื่อแปลงให้เป็นเหรียญทอง นั่นจะประมาณ 600,000

อันที่จริง เหรียญทอง 600,000 เหรียญถือเป็นราคาที่ดีที่สุดแล้ว ในโลกภายนอก โอถสหายากเช่นโอถสบรรเทาร่างกายมักจะถูกทำเครื่องหมายและขายในราคาที่สูงเกินจริง

ดังนั้น มันคงจะไม่เกินความจริงที่ว่าตระกูลอาจจะต้องล้มละลายได้เพื่อที่จะพาให้จอมยุทย์ผู้นึงมาถึง 10,000 กิโลกรัม แม้แต่กระทั่งตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลี่ก็ต้องคิดวิธีที่เป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อที่จะสามารถทำมันได้

นี่คือความแข็งแกร่งทางกายภาพเพียง 10,000 กิโลกรัม ถ้าเป็น 20,000 50,000 หรือ 100,000 ใครจะรู้ว่าต้องใช้ทรัพยากรเท่าไหร่ไปกับมัน

แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อความแข็งแกร่งทางกายภาพเพิ่มขึ้น ทรัพยากรทั่วไปก็นำมาใช่ไม่ได้อีกต่อไป

สิ่งที่หลี่ฟู่เฉินสามารถใช้ได้ในตอนนี้ต้องเป็นโอถสพยัคฆ์มังกรสีเหลืองระดับสูงเท่านั้น แต่เมื่อวิชาสกัดกลั้นเต๋าเขาได้บรรลุระดับจนมาถึงขั้นตอนเสร็จสมบรูณ์ เขาจะต้องใช้โอถสบรรเทาร่างกายสีเหลืองนะดับสูงสุด

เม็ดยาบรรเทาร่างกายสีเหลืองระดับสูงสุดราคา 10,000 คะแนนต่อเม็ด ซึ่งหมายความว่ามันต้องเป็น 20,000 เหรียญทอง

หลี่ฟูเฉินจะปวดหัวทุกครั้งที่เขาคิดถึงมัน

‘ข้าสงสัยว่าเม็ดยาคุณภาพสูงที่สุดในนิกายคืออะไร’

แม้ว่าวิธีการปรับแต่งร่างกายเช่นนี้จะเป็นเส้นทางที่ยากมาก... และทุก 10,000 คนก็จะมีคนที่ไปถึงระดับสุดท้ายได้เพียง 1 คน…

อย่างไรก็ตามหลี่ฟูเฉินจะไม่ละทิ้งเส้นทางนี้

เขาเชื่อในความสามารถของตนเองว่าจะหาทรัพยากรที่เพียงพอมาได้ เทคนิคปรับแต่งร่างกายของเขาต้องสามารไปต่อได้

***

เนื่องจากการบริโภคปลาชั้นหนึ่งและชั้นสองมากเกินไป การเก็บเกี่ยวของหลี่ฟู่เฉินในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานั้นจึงไม่มากนัก หลังจากส่งพวกมันไปที่ห้องโถงภารกิจ เขาก็ได้รับคะแนนสะสมมาเพียง 4,000 คะแนนเท่านั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อาวุโสเห็นหลี่ฟู่เฉินได้รับคะแนนน้อยมาก เขารู้สึกโล่งอกและคิดว่า ‘งั้นแล้วเด็กคนนี้ก็ยังคงมีพลาดพรั้งบ้าง’

ระหว่างทางกลับไปที่ลานของเขา หลี่ฟูเฉินก็ได้เห็นฉากที่ทำให้เขาตกใจ

หวูชิงเหม่ยผู้ใกล้ชิดกับชางกวนหง จริงๆ แล้วเดินด้วยกันกับเยาวชนที่มีบึกบึนและแข็งแกร่ง

หากเขาเดาได้ถูกต้อง เยาวชนคนนี้ควรอยู่อันดับท็อปของ 10 อัจฉริยะ อันดับแรกในหอคอยแห่งความลำเค็ญ – หยูเหวินเทียน

คนของนิกายชั้นนอกที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว

หลี่ฟู่เฉินคิด ‘หวูชิงเหม่ยแน่แท้แล้วว่าไม่ง่าย!’

เขาไม่อาจถูกรบกวนด้วยเรื่องของคนอื่น ย้อนสายตากลับ และเขาต้องการที่จะออกไป

แต่ไม่มีใครคาดหวังว่าหยูเหวินเทียนพบกับหลี่ฟู่เฉินด้วยเช่นกัน จากนั้นเขาก็หยุดเขา “หลี่ฟู่เฉิน หยุดก่อน”

หลี่ฟู่เฉินถาม  “มีเรื่องอะไร?”

หยูเหวินเทียนตอบ “ข้าคือหยูเหวินเทียน เจ้าควรรู้จักชื่อของข้าแล้ว เจ้าสนใจการเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าหรือไม่? อย่ากังวล ข้าจะไม่ขออะไรจากเจ้า มันเป็นวิธีที่ข้าจะได้เห็นคุณค่าของตัวเจ้า”

(TL หมายเหตุ: ตระกูลของหยูเหวินเทียนเหมือนกับ เฉินตูและชางกวน)

หลี่ฟูเฉินแย้ง “ข้าก็เพียงแค่โครงกระดูกธรรมดาๆ ข้าไม่มีค่าอะไรสำหรับเจ้า”

หยูเหวินเทียนหัวเราะ “ศักยภาพอาจมีความสำคัญ แต่ผลลัพธ์ของจุดเชื่อมโยงในปัจจุบันก็มีความสำคัญเช่นกัน การใส่ความหวังลงไปในศักยภาพของคนๆ หนึ่ง เป็นเพียงพฤติกรรมของคนขี้ขลาด เจ้าที่สามารถแสดงพลังที่เทียบเท่าอัจฉริยะมาได้ มันแสดงให้เห็นว่าเจ้าไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดาพวกนั้น”

หลี่ฟู่เฉินส่ายหัว “ข้ามีความสุขที่เจ้าที่บุคคลผู้สูงส่งอย่างเจ้าเอ่ยคำชม แต่ข้าจะไม่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของใคร”

หวูชิงเหม่ยผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ หยูเหวินเทียนพยายามโน้มน้าวเขา “หลี่ฟู่เฉิน เจ้าทบทวนให้ดีก่อน หยูเหวินชีเก่อมีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว สิ่งที่เขาแลกมาภายในนิกายมักจะน้อยลงจากราคาจริง 30% หากเจ้าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา เจ้าจะมีช่วงเวลาที่ดีในอนาคต”

ในนิกายคังหลุน เกรดคงคงไว้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ศิษย์นิกายชั้นนอกจะถูกแบ่งเกรดเป็น เกรด 3 เกรด 2 และเกรด 1 เกินกว่าเกรด 1 ก็จะเป็นอัจฉริยะ

แม้ว่าอัจฉริยะจะเป็นศิษย์นิกายชั้นนอกระดับ 1 ด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาก็สามารถแลกของส่วนนี้ได้ถึง 50% ของราคา

หยูเหวินเทียนที่อยู่ด้านบนของอัจฉริยะและยังเป็นศิษย์ที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาวเพียงคนเดียว เขาจึงสามารถแลกสินค้าที่ 30% ของราคาเพียงแต่เท่านั้น(อารมณ์เหมือนว่า 30% แลกได้ทุกอย่าง แต่ 50% ได้เป็นอย่างๆ)

เห็นได้ชัดว่าหลี่ฟู่เฉินอิจฉา แต่เขาก็ไม่ยอมตกลงที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของใครและดังนั้นเขาจึงปฏิเสธหยูเหวินเทียน

ดูที่ด้านหลังของหลี่ฟู่เฉิน หวูชิงเหม่ยกล่าว “เขาหยิ่งจริงๆ”

หยูเหวินเทียนไม่ใส่ใจ “มันไม่สำคัญ ข้าแค่อยากรู้เกี่ยวกับเขาและอยากรู้จักเขามากขึ้น”

ในฐานะ ‘ราชา’ ของเหล่าศิษย์นิกายชั้นนอก เขาไม่ได้เห็นใครอยู่ในสายตา และโดยธรรมชาติแล้วเข้าย่อมไม่โกรธเคืองกับเรื่องแบบนี้

จากระยะไกลร่างกำลังพุ่งไปหาหวูชิงเหม่ย

“หวูชิงเหม่ย ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจซะตั้งแต่ตอนนี้ ข้ายังคงสามารถให้อภัยเจ้าได้”

คนที่รีบมาที่นี่คือชางกวนหง เขาแสดงออกอย่างโศกเศร้า

หวูชิงเหม่ยตอบกลับอย่างไม่แยแส “ชางกวนชีเซี่ยง ข้าไม่เคยชอบเจ้าตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ดังนั้นการเปลี่ยนใจที่เจ้ากำลังพูดถึงนี้คืออะไร?”

“หวูชีเหม่ย อย่าโกหกข้า ถ้าเจ้าไม่ได้ชอบข้า ทำไมเจ้าถึงทำตัวสนิทกับข้าในตอนแรก?” ชางกวนหงส่ายหัวเขา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรู้สึกอกหัก

หวูชิงเหม่ยกล่าว “ข้าปฏิบัติกับเจ้าเหมือนเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น โปรดอย่าคิดมันอีก”

“หวูชีเหม่ย เจ้ามันไร้หัวใจ เหตุผลที่เจ้าทิ้งข้า ไม่ได้เพราะเขาแข็งแกร่งและดีกว่าข้าหรือไร?” ชางกวนหงชี้ไปที่หยูเหวินเทียน

หยูเหวินเทียนยังคงนิ่งสงบ  “ชางกวนหง การก่อกวนเป็นพฤติกรรมที่โง่เขลา ตั้งแต่ที่หวูชิเหม่ยบอกว่านางไม่ชอบเจ้า เจ้าก็ควรยอมแพ้”

“หยูเหวินเทียน คอยดู วันหนึ่ง ข้าจะทำให้เจ้าพ่ายแพ้”

ชางกวนหงจ้องมองไปที่หยูเหวินเทียนและหวูชิงเหม่ย หลังจากนั้นก็หันกลับออกไปด้วยความโกรธ

“โลกนี้มีคนที่น่ารำคาญมากเกินไป” หยูเหวินเทียนส่ายหัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด