ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0045
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0047

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0046


ตอนที่ 46 : จงยอมรับความผิดพลาด

ฉินหยุนรู้สึกได้ว่าพลังภายในกำลังไหลเวียนผ่านกระดูก มันกระทั่งเข้าถึงไขกระดูกของเขาได้ง่ายดาย เมื่อภายในกระดูกเปี่ยมด้วยพลังแข็งแกร่ง มันก็จะยิ่งสามารถยืนหยัดรับการปะทะที่แข็งแกร่งขึ้นได้!

กระดูกถือเป็นโครงสร้างของร่างกาย!

หากกระดูกแข็งแกร่ง เลือดและเนื้อก็จะแข็งแกร่ง อวัยวะภายในก็จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ราวกับนี่คือการขัดเกลาร่างกายขึ้นใหม่!

“วิถีกระดูกทรงพลังจริง ๆ เหมือนกับพลังภายใน พวกมันสามารถควบคุมเส้นโคจรของทั้งร่างกายและทำการเปิดทางที่รวดเร็วเพื่อให้พลังภายในไหลผ่านร่างกายไปได้” ฉินหยุนใช้วิถีกระดูกทำการโคจรพลังธาตุทั้งสองสายกระจายไปยังทุกส่วนของร่าง

วิถีกระดูกก่อเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์และเชื่อมโยงถึงกันหมด จากภายในกระดูก เสียงระเบิดแตกหักดังขึ้นเป็นชุดอยู่ภายในจนเขาได้ยิน!

ฉินหยุนรู้สึกคล้ายได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่ ความเจ็บปวดที่เขาทนแบกรับตอนนี้มลายหายไปเมื่อพลังภายในร่างกายเปี่ยมล้นไปทั่วทั้งร่าง

เยี่ยนชิงหยูถึงตอนนี้ได้ปลดปล่อยคลื่นกำลังภายในอีกหนึ่งระลอกแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่

ถึงตอนนี้ฉินหยุนเคลื่อนไหว!

เขากลิ้งกับพื้นหลบเลี่ยงกำลังภายในนั้นมาได้

เมื่อกระบี่กำลังภายในปะทะกับพื้น แผ่นหินแข็งพลันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง!

ไม่ช้า ฉินหยุนผุดลุกกระโดดขึ้นมาพร้อมใช้มือของตนเป็นใบมีดขณะปลดปล่อยวิชาวายุสังหาร

ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังภายในเพื่อปลดปล่อยวิชาวายุสังหารได้!

นี่หมายความว่าเขาเรียนรู้วิชาวายุสังหารได้ถึงขั้นกลางแล้ว

วิชายุทธ์ระดับวิญญาณขั้นสูง เพียงขั้นต้นก็ไม่ใช่อะไรที่ประมาทได้ พลังของมันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

เยี่ยนชิงหยูไม่เคยคิดว่าฉินหยุน ผู้ซึ่งผ่านการทรมานมากมายจนกระทั่งชีวิตก็ไม่น่ารอด จะพลันกระโดดลุกพรวดขึ้นมา!

นอกจากนี้ ตอนที่เขาบดขยี้ฉินหยุนจนเกือบหนึ่งชั่วโมง มันเป็นภาระแก่ร่างกายของเขาอย่างไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว!

เยี่ยนชิงหยูคือผู้ที่มาจากสถาบันยุทธ์หลิงเสวียน ดังนั้นเขาจึงสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด โดยทันที เขาเริ่มโคจรพลังปราณที่เหลือเพื่อคุ้มกันตนเอง

เขาไขว้มือทั้งสองเอาไว้ขณะพลังภายในไหลทะลักจากแขนก่อเกิดเป็นม่านพลังป้องกันใบมีดของฉินหยุน!

ฉินหยุนสับมือทั้งสองลงด้วยพลังภายในสั่นไหวที่ทะลักออก พลังนี้ถูกผลักดันออกมาพร้อมพลังภายในเปลวเพลิงร้อนแรง! ขณะมือทั้งสองสับลง ใบมีดขนาดใหญ่ที่เปี่ยมด้วยพลังอันกล้าแกร่งพลันหวดลงมาประหนึ่งภูผาบดขยี้พื้นพสุธา!

มือของทั้งสองฝ่าย หนึ่งโจมตี หนึ่งป้องกัน พลันปะทะกันด้วยความเร็วสูงยิ่ง!

ตู้ม!

ประกายไฟปลิวกระจายไปทั่วทิศทาง!

ที่ชวนตื่นตะลึงคือพลังภายในของฉินหยุนสามารถสลายพลังภายในที่แขนของเยี่ยนชิงหยูได้!

พลังสั่นไหวมาพร้อมกับพลังไฟก่อเกิดเป็นคลื่น มันกำลังถาโถมกดทับร่างของเยี่ยนชิงหยู!

แขนของเยี่ยนชิงหยูร่ายรำปัดป้องกลางอากาศ เปลวเพลิงพลันโหมใส่ปกคลุมร่างขณะเขาต้องกรีดร้องในสภาพดูไม่ได้!

ทุกสิ่งอย่างนี้เกิดขึ้นรวดเร็วจนทุกคนล้วนแข็งทื่อกันไปหมด!

ไม่มีใครคาดคิดว่าฉินหยุนจะพลันกลับมาอย่างมีชีวิตรอดและโจมตีใส่เยี่ยนชิงหยูด้วยการโจมตีร้ายกาจ!

“ปรมาจารย์เว่ย รีบปลดค่ายอาคม!” พระยาเยี่ยนคิดอยากกระโดดขึ้นลานประลองเข้าช่วยเหลือ แต่เขาก็ต้องถูกหยุดยั้งเอาไว้โดยค่ายอาคม

ต้องกล่าวเลยว่าค่ายอาคมที่ปรมาจารย์เว่ยติดตั้งไว้นั้นแข็งแกร่งยิ่ง พระยาเยี่ยนผู้อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่เก้ายังไม่อาจทำให้มันไหวติงแม้เล็กน้อย

จากที่เห็น ปรมาจารย์เว่ยลงทุนไปไมใช่น้อยเพื่อติดตั้งค่ายอาคมนี้ป้องกันไม่ให้ฉินหยุนได้รับความช่วยเหลือในช่วงเวลาวิกฤต

แต่แล้วขณะที่ปรมาจารย์เว่ยกำลังพยายามถอนค่ายอาคม เสียงวูบหนึ่งพลันดังขึ้นจากลานประลอง!

ที่เขาได้เห็นคือมือของฉินหยุนเปี่ยมล้นด้วยพลังธาตุไฟ ราวคมดาบกล้าแกร่ง เขากำลังใช้วิชายุทธ์ที่น่าสะพรึง!

และมันจะยิ่งน่าสะพรึงเข้าไปอีกเมื่อรวมกับพลังภายในสั่นไหวซึ่งไม่อาจมองเห็นที่แทรกอยู่ในกายเขาจนสามารถบุกฝ่าการป้องกันทั้งหมดเข้าไปได้!

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

ฉินหยุนปลดปล่อยวิชาวายุสังหาร สายลมฟาดฟัน ทลายคลื่น แยกภูผา และสายฟ้าสังหาร

พลังปราณที่ชวนขนลุก มันทั้งบ้าคลั่งและรุนแรง มันกำลังปกคลุมร่างของเยี่ยนชิงหยู!

เพียงสี่กระบวนท่า เส้นโคจรของเยี่ยนชิงหยูทั้งหมดแตกสลายเพราะวิชายุทธ์นี้ บริเวณผิวของร่างกาย มีเรื่องน่าตกใจอย่างสัญลักษณ์เต๋าจำนวนมากปรากฏขึ้น!

แทบจะในอึดใจ เยี่ยนชิงหยูถูกสับจนกลายเป็นแอ่งเลือดโดยมือทั้งสองของฉินหยุนที่โจมตีเข้าใส่!

ชั่วขณะนี้เอง ทรายในนาฬิกาทรายก็ไหลลงจนถึงเม็ดสุดท้าย ค่ายอาคมปลดออกด้วยตัวของมันเอง

ทั่วทั้งลานกว้างเงียบงัน หางตาของพระยาเยี่ยนและกล้ามเนื้อบนใบหน้าชรากระตุกอย่างรุนแรง ศิษย์ที่เหนือล้ำกว่าผู้ใดของตระกูลเยี่ยนกลับพ่ายแพ้และโดนบดขยี้ต่อหน้าต่อตาเขา!

หยางฉีเย่ว์เร่งพุ่งกายขึ้นยืนเคียงข้างฉินหยุน

เพราะทราบว่าฉินหยุนฝึกฝนวิถีกระดูกสำเร็จ เขาจึงสามารถระเบิดพลังอันน่าสะพรึงทั้งสี่ครั้งออกมาได้!

“พี่ชิงหยู!” เยี่ยนหยุนกรีดร้องอย่างน่าเวทนาจนกระทั่งสลบไป ขณะที่บรรดาหญิงสาวอื่นจากตระกูลเยี่ยนต่างร้องคร่ำครวญเสียงดังยิ่งกว่า

ฉินหยุนแค่นเสียง จนกระทั่งถึงเมื่อครู่ เขาทนรับการทนมานจนถึงจุดที่แทบทนไม่ไหวหาได้ผู้ใดกรีดร้องไม่ กับผู้คนเหล่านี้ ทั้งหมดล้วนยินดีที่ได้เห็นเขาทรมานขณะพูดคุยกันอย่างสนุกสนานด้วยซ้ำ!

พระยาเยี่ยนกระโจนกายขึ้นมาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเยี่ยนชิงหยูก่อนชี้หน้าฉินหยุน น้ำเสียงและมือนั้นสั่นรุนแรงขณะกล่าวตะโกน “ฉินหยุน! เจ้า!! นี่เจ้า!!”

ความโกรธนี้มหาศาลขนาดพูดไม่ออก ความโกรธท่วมท้นจนกระทั่งทั้งร่างสั่นไปหมด กระทั่งอากาศรอบกายนั้นยังสั่น...

นี่เป็นเพราะพลังธาตุของเยี่ยนชิงหยูสลายหายไปหมดสิ้น!

ใบหน้าของหยางฉีเย่ว์พลันเย็นเยือกดุจน้ำแข็ง นางยืนหยัดต่อหน้าฉินหยุนและกล่าวเย็นเยือกชัดก้อง “ทุกคนต่างได้เห็นว่าฉินหยุนไม่ได้ใช้วิชาปีศาจแต่อย่างใด กลับกัน เขาใช้พลังปราณไฟและวิชาวายุสังหารเพียงเท่านั้น! แน่นอนว่าวิชาวายุสังหารที่เขาใช้สำเร็จถึงขั้นกลางแล้ว อีกทั้งเขายังควบแน่นพลังภายในของตัวเองแล้วด้วย!”

ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า ควบแน่นพลังภายใน เชี่ยวชาญวิชาวายุสังหารถึงขั้นกลาง ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก ก็เป็นเรื่องยากแล้วที่จะต้านทานพลังระดับนี้

เว่ยเสวียนคุนตระหนักได้แล้วถึงพรสวรรค์อันน่าสะพรึงของฉินหยุนจนเอ่ยถามอย่างไม่ตั้งใจ “งั้นมัน... มันควบแน่นพลังภายในรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?”

“สิบวันในสระราชสีห์สวรรค์ และสิบวันในค่ายอาคมวิญญาณเก้าตะวันบรรจบ หากเป็นเจ้า เจ้าจะกล้าพูดหรือว่าไม่อาจควบแน่นพลังดังกล่าวได้?” ผู้อำนวยการแค่นเสียงตอบกลับมา “พรสวรรค์ในวิถียุทธ์แห่งเต๋าของฉินหยุนไม่เลว แต่ก็มีอีกหลายคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าเขานัก ยกตัวอย่างเช่นเชี่ยวเย่ว์หลานจากจักรวรรดิเทียนเชี่ยว นางอายุเพียงสิบหกก็มีพลังขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดแล้ว”

เชี่ยวเย่ว์หลานครอบครองพลังขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปดจริง!

ไม่เพียงเหล่าคนหนุ่มสาว กระทั่งผู้อาวุโสและอาจารย์ล้วนตื่นตะลึงเกินจะเชื่อ!

เด็กสาวอายุสิบหกครอบครองขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่แปด ระดับการฝึกฝนของนางเหนือล้ำกว่าอาจารย์หลายท่านและเหล่าข้าราชบริพารเฒ่าหลายคนในที่นี้เสียอีก!

เรื่องนี้ชวนตื่นตะลึงเกินไป หากเปรียบเทียบ ฉินหยุนไม่นับเป็นอะไรหากเทียบกับเชี่ยวเย่ว์หลาน

หลังผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยนขึ้นมาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเยี่ยนชิงหยู พวกเขาล้วนส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง อีกฝ่ายพิการเรียบร้อย กระทั่งลุกขึ้นเดินยังเป็นเรื่องยาก แม้ยังมีชีวิตก็เหมือนไม่มีแล้ว

ทางด้านพระยาเยี่ยน เมื่อเห็นเยี่ยนชิงหยูโดนหามออกไป เขาเดินลงไปก่อนจะนั่งทรุดที่เก้าอี้ เป็นเขาเจ็บปวดเหลือแสนจนแทบกระอักโลหิตออกมา

แม้เหล่าข้าราชบริพารเฒ่าแสดงว่าโศกเศร้า แต่ภายในนั้นลอบยินดีถึงหัวใจแล้ว

ศิษย์อัจฉริยะของตระกูลอื่นโดนทำลายจนสิ้นซาก เรื่องนี้เป็นพวกเขาชอบที่ได้พบเห็นนัก อย่างไรแล้วใครบ้างที่อยากเห็นผู้อื่นแข็งแกร่งกว่าตนเอง? ย่อมไม่มี!

ยิ่งไปกว่านั้น บ่อยครั้งพระยาเยี่ยนจะเหยียบหัวพวกเขาด้วยการคุยโว บ่อยครั้งที่คุยโม้โอ้อวดว่าเยี่ยนชิงหยูน่าทึ่งเพียงใด

“พวกเจ้าทั้งหมด จงคุกเข่ายอมรับความผิดพลาดต่อหน้าฉินหยุนเดี๋ยวนี้!” หยางฉีเย่ว์พลันตะโกนกราดเกรี้ยวเสียงดัง เป็นผลให้ทุกคนต้องตัวสั่นเทิ้ม

ทุกคนต่างนึกขึ้นได้ถึงสัญญาที่พระยาเยี่ยนและผู้อื่นกระทำไว้

หลังถอนหายใจ ปรมาจารย์เว่ยเดินขึ้นบนลานขณะกล่าวน้ำเสียงกระจ่าง “ข้าไม่คิดคืนคำ! จากการทดสอบก่อนหน้า ฉินหยุนไม่ได้ฝึกฝนวิชาของปีศาจ นอกจากนี้เขายังฝึกฝนวิถีกระดูกจนสำเร็จ พรสวรรค์เช่นนี้หาได้ยากยิ่งในวิถีแห่งผู้ฝึกตน!”

“ในกรณีนี้ ทุกคนต่างต้องรักษาคำพูดที่ให้ไว้ เพราะทุกคนที่นี้ต่างเป็นข้าราชบริพารผู้มีเกียรติของจักรวรรดิเรา!”

คำพูดนี้เต็มไปด้วยความชอบธรรม ขณะที่ทุกคนคิดว่าปรมาจารย์เว่ยจะคุกเข่าลงยอมรับความผิด พวกเขาพลันได้ยินคำกล่าวที่มาพร้อมเสียงหัวเราะออกจากใจ “ข้าราชบริพารทุกท่านต่างทราบ ฉินหยุนคือองค์ชายแห่งเทียนฉิน จึงเป็นเรื่องปกติที่สมควรต้องคุกเข่าให้!”

นี่หมายความว่าปรมาจารย์เว่ยไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้ เขาจะตีตนเหนือปัญหา ด้วยเหตุนี้เขาจึงหัวเราะออกได้ยามเมื่อได้เห็นเหล่าข้าราชบริพารระดับสูงต้องคุกเข่าลงขออภัยต่อฉินหยุน

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด