บทที่ 63 แร่ทองแดงสีแดง
บทที่ 63
แร่ทองแดงสีแดง
“เก่าช่างเทียน บังเอิญอะไรเช่นนี้!” ชางกวนหงทักทายเมื่อเขาเห็นเก่าช่างเทียน
“ชางกวนเซียง หวูชีเหม่ย!”
(TL note: เซียง = พี่)
เก่าช่างเทียนเก็บกิริยาอาการ และแสดงมารยาทออกมา
ชางกวนหงหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาหันไปพูดกับหวูชิงเหม่ย “หวูชีเหม่ย เจ้าเห็นไหม? ในนิกายชั้นนอก ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครที่สุภาพไปกว่าเก่าช่างเทียนแล้ว เจ้าไม่คิดว่าเขาน่ารัก?”
หวูชิงเหม่ยล้อเลียน
เสียงหัวเราะนี้มันถึงขั้น ‘คอขาดบาดตาย’ ทั้งชางกวนหงและเก่าช่างเทียนกลายเป็นมึนงง
รอยยิ้มย้อนกลับจากคมงามนั้นเพียงพอที่จะสร้างเสน่ห์ให้กับผู้ชายนับร้อยคน
ชางกวนหงพยายามดิ้นรนเรียกคืนวิสัยทัศน์ของเขากลับคืนมาเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าอึดอัดของเก่าช่างเทียน เขาเปลี่ยนหัวข้อ “เก่าช่างเทียน ข้าสงสัยว่าข้างเจ้าเป็นใคร? คนที่สามารถเดินเคียงข้างเจ้าได้ แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ใช่ใครก็ได้”
เก่าช่างเทียนแนะนำ “นี้ชีเต๋อที่กำลังเป็นหัวข้อยอดนิยมล่าสุดของสำนักชั้นนอกของเรา หลี่ฟู่เฉิน”
ชางกวนหง “หลี่ฟู่เฉิน ข้าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน หากข้าเคยได้ยินชื่อของเจ้า เจ้าก็นับได้ว่าดีเยี่ยม”
หลี่ฟู่เฉินหัวเราะเบาๆ เท่านั้นและไม่ได้พูดอะไรออกมา
หวูชิงเหม่ย “หลี่ชีเต๋อและกู่เซี่ยเหม่นเกี่ยวข้องกันหรือไม่? ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าทั้งคู่มาจากเมืองหยุนหวู”
หลี่ฟู่เฉินกล่าวตอบ “เราไม่เกี่ยวข้องกัน พวกเราแค่มาจากเมืองเดียวกัน”
“โห? ดูไม่เหมือนจะเป็นเช่นนั้นนะ ข้าเคยได้ยินมาจากศิษย์คนงานที่ดูแปลกๆว่าเจ้าและกู่เซี่ยเคยหมั้นหมายกันมาก่อน นั่นเป็นเรื่องจริงไหม?” หวูชิงเหม่ยยังตอแยไม่ยอมเลิก
หลี่ฟู่เฉิน “นั่นเป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว”
เขาเดาว่าเสินตูเหลี่ยงจะต้องเป็นผู้เผยแพร่ข้อมูลนี้ และต้องการใช้สิ่งนี้เป็นรูปแบบของการแก้แค้น
หลังจากทั้งหมดแล้ว มันก็มีคนจากสำนักนอกที่ชอบกู่เซี่ยอยู่มากเกินไป
“เจ้าจงแน่ใจได้เลยว่าเจ้าโชคดีที่ได้หมั้นหมายกับกู่เซี่ยไว้ แต่โชคจะไม่ทำงานหากไร้ศักภาพในเส้นทางแห่งจอมยุทธ์ และถ้าไม่มีการสนับสนุนระหว่างพันธมิตร เจ้าก็จะมีคุณสมบัติที่จะอยู่ด้วยกัน”
ชางกวนหงคงเกริ่นกล่าวในเรื่องของโครงกระดูก
ในสายตาของเขา เฉพาะผู้ที่มีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวเท่านั้น ที่สามารถพูดกับเขาได้อย่างเท่าเทียมกัน ผู้ที่มีโครงกระดูกต่ำกว่า 4 ดาวทั้งหมด มันก็ไม่ต่างจากมด
เก่าช่างเทียนเข้าข้างหลี่ฟู่เฉิน “หลี่ชีเต๋อไม่ใช่บุคคลธรรมดา ข้าเชื่อมั่นในศักยภาพของเขา”
“คึคึ เก่าช่างเทียน เจ้าแน่ใจแล้วนะว่าต้องการเป็นคนดี” ชางกวนหงล้อเลียน
หวูชิงเหม่ยถาม “หลี่ชีเต๋อ เจ้ามีเพียงโครงกระดูกระดับปกติจริงหรือ? เป็นไปได้ไหมที่เจ้าจะมีความลับซ่อนอยู่?”
เธอไม่เชื่อว่าบุคคลที่มีกระดูกปกติจะสามารถเพิ่มความสามารถของตัวเองได้อย่างมากภายในหนึ่งปี ด้วยสติปัญญาของเธอ เธอจึงคิดว่าหลี่ฟู่เฉินต้องมีความลับบางอย่าง
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้มองทั้งสามคน และเงยหน้าขึ้นมาท้องฟ้า “หากข้าไม่มีศักยภาพ ก็คงเป็นเวลานานกว่าข้าจะแข็งแกร่งและพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว”
ชางกวนหง “เจ้าดูเหมือนเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถบรรลุอณาจักรต้นกำเนิดได้ก่อนอายุ 20 ปี สิ่งกีดขวางนี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนที่มีกระดูกปกติ”
หลังจากจบประโยคของเขา ชางกวนหงก็หันไปพูดกับหวูชิงเหม่ย “หวูชีเหม่ย ไปกันเถอะ”
การกล่าววกไปวนมาแบบนี้มันทำให้หลี่ฟู่เฉินรู้สึกเบื่อหน่าย
“หลี่ชีเต๋อ อย่าได้น้อยใจไป บุคลิกของชางกวนหงผู้นี้ค่อนข้างหยิ่ง” เก่าช่างเทียนปลอบประโลมเขา
หลี่ฟู่เฉินส่ายหัวและหัวเราะ “ข้าไม่เคยสนอยู่แล้วเลยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับข้า”
ความเย่อหยิ่งของ 10 อัจฉริยะเป็นที่รู้จักกันดี ยกเว้นเพียงแต่เก่าช่างเทียน
อันที่จริงแล้ว เก่าช่างเทียนเขาก็มีความเย่อหยิ่งของตัวเองเช่นกัน แต่มันก็เป็นเพียงแค่ว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
หลี่ฟูเฉินเองก็ยังหยิ่งในบางเรื่องด้วยเช่นกัน แต่เขาก็ไม่สามารถลดระดับของตัวเองเพื่อโต้เถียงกับคนเหล่านี้ได้
***
เขากล่าวคำอำลากับเก่าช่างเทียนเสร็จ หลี่ฟู่เฉินจึงกลับไปที่ลานบ้านของเขา
เขาต้องการลองดูฤทธิ์ของโอถสพยัคฆ์มังกร
บริโภคโอถสพยัคฆ์มังกรหนึ่งเม็ดแล้วหลี่ฟู่เฉินจึงทำสมาธิ การเคลื่อนที่อันทรงพลังถูกสกดข่มไว้ในใจของเขาตลอดเวลา
โดยไม่ต้องลงแรงมาก ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินก็เริ่มมีไอและเส้นเลือดของเขาก็เริ่มโผล่พ้นออกมา
‘โอถสพยัคฆ์มังกรแน่นอนว่าย่อมต้องเหมือนชื่อของมัน ผลกระทบปัจจุบันอยู่ในระดับเดียวกับโอสถบรรเทาร่างกาย 6 เม็ด’
ด้วยวิชารูปแบบการต่อสู้สีเลือด หลี่ฟู่เฉินจึงพยายามบริโภคโอสถบรรเทาร่างกายไปและหาหนทางทำให้มันเกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด
ตอนนี้เขากินโอถสพยัคฆ์มังกรเข้าไป มันจึงให้ความรู้สึกราวกับว่าเขากินโอสถบรรเทาร่างกายเมื่อตอนที่เขาเพิ่งเริ่มฝึกฝนวิชารูปแบบการต่อสู้สีเลือด
ด้วยโอถสพยัคฆ์มังกร 6 เม็ดที่ถูกดูดซับไว้ได้เต็มหน่วย วิชาสกัดกลั่นเต๋าของหลี่ฟู่เฉินจึงมาถึงขั้นที่สองแล้ว
ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นอีกเป็น 5,000 กิโลกรัม
‘ภารกิจเพื่อรับคะแนนสะสมเป็นเส้นทางที่ไร้สิ้นสุด!'
อย่างเลี่ยงไม่ได้ หลี่ฟูเฉินกลับมาที่ภูเขาแร่
เขาตั้งใจจะพึ่งโชคของเขาเพื่อค้นหาแร่ระดับสูง
***
คราวนี้ หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ไปที่ภูเขาแร่เคิงเชียง แต่ไปที่ภูเขาแร่ตงหลูแทน
เมื่อภูเขาแร่ตงหลูยังไม่ถูกทิ้งร้าง แต่มันก็อุดมไปด้วยแร่ระดับต่ำสีเหลือง แร่ทองแดง
ในบรรดาแร่ทองแดงเป็นสิ่งที่ปรากฏได้ยากที่สุดก็คือสีเหลืองระดับกลาง แร่ทองแดงสีเขียวและสีเหลืองระดับสูง แร่ทองแดงสีแดง
มันก็เป็นเช่นเดียวกับภูเขาแร่เคิงเชียง ภูเขาแร่ตงหลูนั้นกว้างใหญ่ และมีเขาวงกตอยู่ภายใน มีหุบเขาและถ้ำลึกมากมาย
เมื่อพบแร่ทองแดงทุกชนิด หลี่ฟูเฉินจะทำการเก็บรายละเอียดของสภาพแวดล้อมรอบข้าง สำรวจพื้นหรือพนัง ใช้พลังฉีและสติปัญญาของเขาในการสำรวจภายใน
แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีอะไรเลย
“หวงเซี่ยวสาน ส่งแร่ทองแดงสีแดงมาซะ หรืออยากจะทุกข์ทรมาน”
“อย่าคิดฝัน! ถ้าเจ้าต้องการแร่ทองแดงสีแดงชิ้นนี้ ก็เอามันไปจากศพของข้า!”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า?!”
ด้านหน้าของถ้ำ ศิษย์ชั้นนอกสองคนขัดแย้งกัน
และไม่ไกลจากสองคนนี้ก็คือแร่ทองแดงสีแดงขนาดเท่ากะละมัง
แร่ทองแดงสีแดงมีค่า 30 คะแนนต่อกิโลกรัม และชิ้นนี้มีน้ำหนักอย่างน้อยหนึ่งร้อยกิโลกรัม
“สหายต่อเลย…”
เมื่อผ่านมาและได้เห็นฉากนี้ ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินก็สดใสขึ้น เนื่องจากแร่ทองแดงสีแดงสามารถพบได้ในถ้ำแห่งนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีแร่ทองแดงสีแดงซ่อนอยู่ภายใน
ฟืดดด
หลี่ฟู่เฉินพุ่งเข้าไปในถ้ำ
ศิษย์สาวกนิกายชั้นนอกทั้งสองเริ่มมีเหงื่อเย็นเยียบ พวกเขาจำหลี่ฟู่เฉินได้ และก็รู้ว่าถ้าหลี่ฟูเฉินต้องการเรียกร้องแร่ทองแดงสีแดงของพวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่สามารถทำอะไรได้
ภายในถ้ำมืดและแคบ และโลกภายนอกก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างช้าๆโดยหลี่ฟู่เฉิน
การค้นหาแร่เป็นเหมือนกับการค้นหาเข็มในกองหญ้า หลี่ฟูเฉินยกคบเพลิงและค้นหาอย่างช้าๆ แต่ทั่วถึง
ทุกร่องรอยของแร่ หลี่ฟู่เฉินจะเคลือบพลังฉีและจิตสำนึกของเขาลงไปในผนังทันที
ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณของเขา หลี่ฟูเฉินสามารถขยายขอบเขตเวลาจิตสำนึกของเขาออกไปได้ ในตอนแรกได้เพียง 7.5 นาที แต่ตอนนี้มันนานถึง 15 นาที
หลังจากพักหายใจสักครู่ เขาก็สามารถเคลือบจิตสำนึกลงไปได้อีกครั้ง มันเกิดขึ้นหลายครั้งต่อวัน
ในวันที่สาม ในที่สุดก็เกิดผลลัพธ์บางอย่าง ลึกเข้าไปในผนัง มันเป็นแร่ทองแดงสีเขียวขนาดเท่ากะโหลกศีรษะ
“เล็กเกินไป มันไม่คุ้มค่ากับเวลาขุด”
แร่ทองแดงสีเขียวไม่กี่สิบกิโลกรัมเป็นเพียงไม่กี่ร้อยคะแนนสะสม หลี่ฟูเฉินเคยให้ความสำคัญกับสิ้งนี้มาก แต่ก็ไม่อีกต่อไปแล้ว
จนกระทั่งวันที่สิบที่ ในที่สุดหลี่ฟู่เฉินก็ค้นพบแร่ทองแดงสีแดงชิ้นใหญ่แล้ว
แร่ทองแดงสีแดงชิ้นนี้อยู่ใต้กำแพงเหมืองไปไม่กี่เมตร ด้วยจิตสำนึกของเขา เขาคาดว่าน่าจะเป็นแร่ขนาดเท่าแท็งเก็บน้ำ
ด้วยความหนาแน่นของแร่ทองแดงสีแดงก้อนนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีน้ำหนัก 3 ถึง 4 พันกิโลกรัม
นั่นคือคะแนนสะสมอย่างน้อย 100,000 คะแนน
โดยไม่ลังเลใดๆ หลี่ฟู่เฉินเคลือบพลังฉีสีแดงลงบนพลั่วและเริ่มขุดแร่หาทองแดงสีแดง
1 ชั่วโมงต่อมา หลี่ฟู่เฉินก็นำแร่งทองแดงสีแดงออกมาได้ทั้งหมด
‘3800 กก. บวกลบ 10 กก.'
หลี่ฟูเฉินยกแร่ขึ้นและรู้ได้ทันทีว่าแร่ทองแดงสีแดงชิ้นนี้มีน้ำหนักเท่าไร