บทที่ 55 เน่ยหมิงผู้พ่ายแพ้
บทที่ 55
เน่ยหมิงผู้พ่ายแพ้
“เกลียวคลื่นกระแทก!”
วิชาลูกเตะเคลื่อนเมฆ แข็งแกร่งขึ้นภายใต้ผลของน้ำ อาจกล่าวได้เช่นเดียวกันกับวิชาคลื่นสีขาว
ที่ทะเลสาบ เน่ยหมิงเพียงคนเดียวที่เหยียบลงไปบนพื้นผิวของทะเลสาบทันที ภายใต้น้ำที่สาดกระเซ็น, เน่ยหมิงฟาดเตะไปที่หลี่ฟู่เฉิน
การเตะครั้งนี้ดุร้ายไม่เหมือนใคร คลื่นของทะเลสาบเสริมแรงทำให้ช่วยเพิ่มพลังการเตะ
“เน่ยหมิงผู้นี้มีปัญญา ที่ที่มีน้ำจะช่วยดึงศักยภาพของวิชาคลื่นสีขาวและวิชาเตะเคลื่อนเมฆให้เต็มศักยภาพ”ชายหนุ่มสูงและดูชอบธรรมแสดงความคิดเห็นขณะยิ้ม
เยาวชนอีกคนที่อยู่ข้างเขา: “เจ้าทำได้แค่ตำหนิความโง่เขลาของหลี่ฟู่เฉิน ที่ต้องต่อสู้กับเน่ยหมิงบนทะเลสาบ”
ทุกคนรับรู้ความสามารถของ หลี่ฟู่เฉิน
ที่ขอบเขตพลังลมปราณ โครงกระดูกยังไม่มีอิทธิพลมากนัก หลังจากเข้าถึงขอบเขตก่อกำเนิด โครงกระดูกจะสะท้อนให้เห็น
แม้ว่าคุณภาพโครงกระดูกของหลี่ฟูเฉินนั้นเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่ง แต่เขาก็มีประสาทสัมผัสที่สูงเป็นพิเศษ
สิ่งนี้ทำให้เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสั่นสะเทือนปฐพี ความเร็วในการพัฒนาของเขาอาจเกินกว่าอัจฉริยะสิบคนของนิกายชั้นนอก
“พายุจรัสแสง”
ร่างของหลี่ฟู่เฉินเปลี่ยนสภาพเป็นเลือนลางทันที ในทะเลสาบดูเหมือนจะมีพายุควบแน่นพัดผ่านในแนวนอน พลังเตะของเน่ยหมิงไม่สามารถสัมผัสหลี่ฟู่เฉินได้
พายุจรัสแสงเป็นกระบวนท่าแรกของวิชาลูกเตะพายุหมุน หากจัดลำดับความสำคัญของร่างกาย การขยับเท้าเป็นหัวใจสำคัญในการเริ่มต้นเรียนรู้วิชาลูกเตะพายุหมุน และด้วยความเชี่ยวชาญ กระบวนท่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีความเร็วดั่งพายุ
ซวู้ด, บนทะเลสาบ คลื่นขนาดใหญ่สั่นกระเพื่อม ขณะที่หลี่ฟูเฉินกระพริบวิบวับไปทั่ว เน่ยหมิงมาพร้อมกับความเร็วสูงจนวิถีการเคลื่อนที่ของเขาไม่สามารถตามได้
ปราศจากสัญญาณใดๆ ที่ข้างหลังเน่ยหมิง หลี่ฟูเฉินฟาดฝ่ามือโดยใช้ พลังฝ่ามือพิฆาตศิลา
ทั้งลูกเตะพายุหมุนและฝ่ามือศิลาพิฆาตที่ได้รับการบ่มเพาะในระดับขั้นฌาน ทำให้การเคลื่อนไหวของหลี่ฟู่เฉินรวดเร็วเหมือนสายฟ้าผ่าและไม่มีห้วงเวลา
ในช่วงเวลาสำคัญ เน่ยหมิง พลันหันกลับมาใช้มือเหมือนตัวล็อคเหล็ก กุมฝ่ามือศิลาพิฆาตของหลี่ฟู่เฉินโดยทันที
ด้วยเสียงที่ดังขึ้น น้ำที่อยู่รอบ ๆ พวกเขาก็ถูกระเบิดขึ้น เน่ยหมิงถูกกระแทกอย่างแรงในขณะที่ขาส่วนล่างของเขาจมอยู่ในทะเลสาบ
ขณะที่หลี่ฟู่เฉินนั้น ก้าวถอยหลังไปอีกเจ็ดก้าวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีเสียงดูดดังขึ้นเล็กน้อย …
เมื่อเน่ยหมิงคิดว่าเขาปลอดภัย หลี่ฟูเฉินดูดก้อนน้ำด้วยฝ่ามือของเขาและเหวี่ยงไปที่เน่ยหมิงราวกับว่าพวกมันเป็นอาวุธที่ซุกซ่อนอยู่
มันเป็นช่วงเวลาที่เน่ยหมิงรู้ว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการวาดดาบไม้ของเขา
ลูกบอลน้ำขนาดเท่าไข่ถูกกระแทกอย่างต่อเนื่อง ด้วยการร่ายรำของวิชาดาบไม่มีแม้ลูกบอลน้ำลูกเดียวที่พลาดไป
“ข้าขอยอมรับว่าความสามารถในการต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ข้าจินตนาการไว้มาก แต่ข้า เน่ยหมิงจะไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด”
เขาขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้าด้วยขาทั้งสอง เน่ยหมิงพุ่งไปหาหลี่ฟู่เฉิน พร้อมกวัดไกวดาบ!
การกวัดแกว่งดาบนี้เป็นเหมือนระลอกคลื่น แรงของดาบครอบคลุมไปถึงระยะไกลเมื่อรวมกับน้ำที่กระเซ็นกลางอากาศมันทำให้เกิดภาพลวงตาว่าลมและฝนรวมตัวกันและไม่อาจต้านทานได้
หลี่ฟูเฉินรู้สึกไม่พอใจ เขาชักดาบและเริ่มกระบวนท่าวิชาสัมผัสแห่งหยกแดง
เมื่อหลี่ฟู่เฉินวาดดาบเป็นรูปครึ่งวงกลมกลางอากาศ น้ำสาดกระเซ็นไปทั่ว ท้องฟ้าเริ่มรวมตัวกันภายใต้อิทธิพลของพลังที่มองไม่เห็น พวกมันทั้งหมดมารวมกันรอบ ๆ ดาบไม้ของหลี่ฟู่เฉิน พลังดาบอันแรงกล้าของหลี่ฟู่เฉิน มำให้น้ำระเหยกลายเป็นหมอกสีแดงเรื่อ และพลันเข้าโจมตีเน่ยหมิงอย่างโหดร้าย
ใช้ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามต้านทานตัวเขาเอง
“ไม่!”
เน่ยหมิงตกตะลึง หมอกสีแดงเรื่อปกคลุมวิสัยทัศน์ทำให้เขามองเห็นไม่ชัด ทางเลือกเดียวของเขาคือการล่าถอย และเป็นการถอยอย่างไม่มีเงื่อนไข เขารู้ว่าถ้ามีหมอกสีแดงเรื่อตามเขาได้ เขาจะไม่มีโอกาสชนะเลย
“น้องกวนเซี่ย ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะประเมินเขาต่ำเกินไป ไม่แปลกใจเลยที่เขามีความมั่นใจเช่นนี้”
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่กวนเซี่ยพร้อมเด็กสาวผู้บอบบางและเด็กสาวสายตาเฉี่ยวคม มาถึงที่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ
พวกนางทั้งสามดูเหมือนกำลังไตร่ตรองและคนที่พูดก็คือเด็กสาวสายตาเฉี่ยวคม ผู้นั้น
กวนเซี่ย “ใช่ดูเหมือนว่าเราสองคนจะข้ามเส้นทางของกันและกัน ข้าแค่หวังว่าเส้นทางของเราจะไม่พันกันมากเกินไป”
แม้ว่านางจะประหลาดใจกับความสามารถของ หลี่ฟู่เฉินแต่นางก็ไม่ลืมที่จะรักษามารยาท
นั่นก็เพราะนางซ่อนความสามารถที่แท้จริงของนางไว้นั่นเอง
หลังจากบริโภคเม็ดโอสถบ่มเพาะโอสถคลื่นสีขาว วิชาคลื่นสีขาวของนางก็บรรลุขึ้นจนถึงขั้นที่แปด แต่เนื่องจากนางมาที่นี่ตลอดทั้งปีและไม่สามารถบรรลุขั้นที่เก้าได้ นางจึงได้รับคะแนนสะสมเพียง 30,000 แต้มเท่านั้น
หากนางมีวิชาคลื่นสีขาวขั้นที่แปด นางจะสามารถไต่ไปถึงลำดับ 300 หรือ 400 เท่านั้น
แต่เนื่องจากโครงกระดูกน้ำระดับ 4 ดาวของนางนั้นเข้ากันได้ดีกับวิชาคลื่นสีขาว มันจึงช่วยเพิ่มพลังวิชายุทธ์ได้อย่างมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ความสามารถที่แท้จริงของนางดูไม่ธรรมดาเหมือนหน้าตาท่าทาง
หลังจากดูว่าการต่อสู้กับเน่ยหมิง นางมั่นใจเต็มที่ว่านางจะชนะหลี่ฟู่เฉินได้แน่นอน
ในความเป็นจริงความสามารถของนาง ในวิชาดาบนั้นยอดเยี่ยมกว่าพรสวรรค์ในการฝึกฝนของนาง
เด็กสาวร่างบาง อดไม่ได้ที่จะถาม “พี่กวนเซี่ย, เขาพึงใจกับสิ่งที่ท่านอธิบายกับเขาในอดีตหรือเปล่า?”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กวนเซี่ยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลี่ฟู่เฉินแก่พวกเขา
หลี่ฟู่เฉินในอดีตมีการรับรู้ที่ค่อนข้างดี แต่มันก็ไม่ได้ดีอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้
หลี่ฟูเฉินปัจจุบันอาจจะดีเท่ากับยอดอัจฉริยะสิบคน มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจแข็งแกร่งกว่าพวกยอดอัจฉริยะ
พวกเขารู้ถึงความจริงที่ว่าสาวกโครงกระดูกปกติบางคนอาจเพิกเฉยต่อข้อจำกัด ของโครงกระดูกและสามารถเข้าถึงขอบเขตปฐพีได้
และคนอย่างพวกเขามักจะมีการรับรู้ที่ดีเยี่ยมที่เกินกว่าโครงกระดูกระดับ 3 ดาวในช่วงต้นๆของการพัฒนา
แต่คนเหล่านั้นน้อยมากที่มีโครงกระดูกเกินกว่าระดับ 3 ดาว การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นเหนือกว่าโครงกระดูกระดับ 4 ดาวไปแล้ว
อาจไม่จริง เพราะสาวกโครงกระดูกระดับ 4 ดาวส่วนใหญ่ไม่ได้เทียบเท่ามาตรฐานของหลี่ฟู่เฉิน
สิ่งที่ทั้ง 3คน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าดวงจิตวิญญาณของหลี่ฟู่เฉินได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว การรับรู้ของเขาเหนือกว่าโครงกระดูกระดับ 4 ดาวแล้ว
การรับรู้ของเขาในปัจจุบันอย่างน้อยก็อยู่ในระดับโครงกระดูกระดับ 5 ดาวหรือบางทีอาจสูงกว่า ..
กวนเซี่ยไม่พูดอะไร นางสงสัยว่าชายคนนี้ยังเป็นหลี่ฟู่เฉินหรือไม่
“เน่ยหมิง คนนี้มีความสามารถในการต่อสู้ค่อนข้างดี น่าเสียดายที่ข้าแข็งแกร่งกว่า”
ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป แม้ว่าเขา ก็ไม่เข้าใจว่าระดับปัจจุบันของเขาอยู่ขั้นใด
การรับมือกับเน่ยหมิง เขาใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริงเพียง 50%
นอกจากการฝึกฝนและรูปแบบวิชาของเขาแล้ว เขายังอยู่เหนือเน่ยหมิงในทุกๆที่
“ดาบไขว้พยัคฆ์สังหาร!”
วิชาดาบไขว้พยัคฆ์สังหารดูเหมือนง่ายเมื่ออยู่ในมือของหลี่ฟู่เฉิน ให้ความรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์
ด้วยแสงแวววับสีแดงเรื่อ ละอองหมอกสีแดงเรื่อก็แยกออกจากกันทันที
เน่ยหมิงถอยกลับอย่างต่อเนื่อง เลือดของเขาไหลพุ่งพล่าน
"แย่แน่. หากสิ่งนี้ยังคงอยู่ ความพ่ายแพ้คงใกล้เข้ามา ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากใช้กระบวนท่านี้”
เน่ยหมิงขบฟันและโคจรวิชาคลื่นสีขาวให้ถึงสุดขีด พลังลมปราณสีฟ้าหนาทึบไหลผ่านแขนขวาไปสู่ดาบไม้
ได้ยินเสียงคลื่นสั่นกระเพื่อม เมื่อน้ำสาดกระเซ็นรอบ ๆ ดาบและไหลแนบไปกับดาบ
“ปะทะ!”
เน่ยหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เหวี่ยงดาบในแนวนอน เสียงของคลื่นนั้นกว้างและใหญ่และมีพลังดาบที่มากล้น
วิชาดาบระดับสีเหลืองขั้นสูง - วิชาดาบคลื่นโหมกระหน่ำ!
การเผชิญหน้ากับพลังลมปราณและพลังดาบที่กว้างเหมือนเกลียวคลื่น หลี่ฟู่เฉินเปลี่ยนแปลงท่าทีเล็กน้อย
การเคลื่อนไหวดาบนี้เป็นสิ่งที่น่าเกรงขามเช่นเดียวกับคลื่นยักษ์ที่เคลื่อนเข้ามา หากทั้งคู่มีกำลังเท่ากันหลี่ฟู่เฉินจะถูกสยบด้วยกำลังของดาบนี้
กระบวนท่าที่สองของวิชาดาบหยกแดง หลี่ฟู่เฉินได้ปล่อยกระบวนท่าหยกแดงสังหารเพื่อทำลายการเคลื่อนไหวดาบของคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง
กระบวนท่าหยกแดงสังหาร ใช้แรงต้านของสัมผัสแห่งหยกแดงขับออกมา
ด้วยแรงขับของดาบทำให้อากาศสั่นสะเทือน เกิดสุญญากาศในอากาศชั่วขณะหนึ่ง
ปึ้งง!
ก้อนน้ำพองตัวขึ้นเหมือนบอลลูนก้อนโตและแตกหลังจากนั้นไม่นาน
เน่ยหมิงชะงักงันราวกับถูกสายฟ้าฟาด ร่างของเขาเอนตัวไปข้างหลังและถูกกระแทก
สำหรับหลี่ฟู่เฉิน เขาเพียงแค่ก้าวถอยหลังไปสักไม่กี่สิบก้าว..