บทที่ 53 สิบยอดอัจฉริยะ
บทที่ 53
สิบยอดอัจฉริยะ
เห็นได้ชัดว่ากวนเซี่ยสังเกตเห็นหลี่ฟู่เฉินเช่นกัน
หลี่ฟู่เฉินคนปัจจุบันให้ความประทับใจต่อกวนเซี่ยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การเปลี่ยนแปลงดวงจิตวิญญาณของเขาและการสำเร็จวิชาการต่อสู้สีเลือด หลี่ฟู่เฉินปล่อยรัศมีเรืองรองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวดูน่าเกรงขาม ราวกับว่าเขาจะไม่พ่ายแพ้ต่อใคร
มองจากที่ไกลเขาเป็นเหมือนดาวที่ส่องแสง แม้ว่าจะไม่ได้จ้องมอง ราวกับดวงอาทิตย์ที่ดูลึกซึ้งและดูเหมือนลี้ลับ
“นิกายชั้นนอกมีผู้ชายที่มีเสน่ห์เช่นนี้ เมื่อใดกัน?”
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ กวนเซี่ยเป็นสาวน้อยที่มีดวงตาเฉี่ยวคม
สาวกชายนิกายชั้นนอกที่สามารถดึงดูดความสนใจขอนางสามารถนับได้เพียงมือเดียวและส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์สิบอันดับแรกของนิกายชั้นนอก
“พี่กวนเซี่ย, นั่นมันหลี่ฟู่เฉิน” หญิงสาวผู้บอบบางข้างกวนเซี่ยกระซิบ
กวนเซี่ยพยักหน้าและเข้าไปหาหลี่ฟู่เฉิน
"เจ้ามาถึงสักพักนึงแล้วเหรอ"
เมื่อมาถึงโต๊ะที่หลี่ฟู่เฉินนั่งลง กวนเซี่ยลูบปอยผมสวยงามของเธอขณะกล่าวทักทาย
“ใช่แล้ว” หลี่ฟู่เฉินไม่ได้วางตะเกียบในมือของเขา เพียงแค่ส่งพยักหน้าเล็กน้อยให้กวนเซี่ยเท่านั้น
กวนเซี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาจะยืนขึ้นแล้ว
“เรื่องเกี่ยวกับการหมั้น…ข้าขอโทษ” กวนเซี่ยกล่าว
หลี่ฟูเฉินหัวเราะออกมา“การล้มเลิกเป็นสิ่งที่ดี เจ้าสบายใจได้และนั่นก็ใช้ได้กับข้าเช่นกัน”
“ข้าหวังอย่างยิ่งว่านั่นคือสิ่งที่เจ้าคิด” กวนเซี่ยเดาใจหลี่ฟู่เฉินพยายามอ่านสิ่งที่อยู่ในใจของเขา
น่าเสียดาย แววตาของหลี่ฟู่เฉินสงบและไม่ไหวติง ไม่สามารถตรวจจับอารมณ์ใด ๆ ได้
กวนเซี่ยจีบปากกล่าวว่า“วิธีการที่เจ้าได้รับแต้มสะสมเหล่านั้นทำให้คนจำนวนมากเคือง โดยเฉพาะศิษย์ชั้นนอก 500 อันดับแรก เจ้าควรระวังให้ดีและหากเจ้ามีข้อโต้แย้งใด ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะตามหาข้า”
การทำลายการหมั้นเป็นความผิดของตระกูลกวน นางต้องการเสนอสิ่งนี้เพื่อจะช่วยให้นางสามารถลบล้างความเสียใจและส่งผลให้เกิดการฝึกฝนที่ดีขึ้นในอนาคต
“ขอบคุณสำหรับความตั้งใจที่ดีของเจ้า แต่ข้าสามารถแก้ไขปัญหาของตัวข้าเองได้” หลี่ฟู่เฉินปฏิเสธข้อเสนอที่ดีของกวนเซี่ย
สาวน้อยดวงตาคมเฉียบขัดจังหวะ“ชื่อเจ้าคือหลี่ฟู่เฉินใช่ไหม? เจ้าไม่ควรดื้อดึง ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าเอาชนะหวางฮุได้อย่างไร แต่เขาอยู่ในอันดับที่ 485 ใน 500 ของศิษย์ชั้นนอก ส่วนข้านั้นไม่เอาถ่านได้เพียงตำแหน่งที่ 452 อย่างไรก็ตามกวนเซี่ยของข้านั้นแตกต่าง นางอยู่ในอันดับที่ 366!”
จริง ๆ แล้วนางคิดว่าหลี่ฟู่เฉินพึงพอใจในดวงตาของนาง หลี่ฟู่เฉินดูดีไปทุกท่วงท่าและทุกอย่างมีศักยภาพ
“ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ ข้าทานเสร็จแล้ว เชิญเจ้า ข้าคงต้องขอตัวก่อน”
หลี่ฟู่เฉินชอบที่จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับคนเหล่านี้ เขาวางตะเกียบลงแล้วก็เดินจากไป
“ผู้ชายคนนี้…” ศิษย์หญิงที่มีแววตาเฉียบแหลมขมวดคิ้ว
กวนเซี่ย:“ลืมเขาซะเถอะ เขาเป็นแบบนี้ตั้งนานมาแล้ว”
“ดูเหมือนว่าเจ้ายังรู้จักเขาดีอยู่เหรอ?” หญิงสาวแววตาเฉียบแหลมหัวเราะคิกคัก
ท่าทีของกวนเซี่ยเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ข้ารู้จักเขาดี เขาถูกกำหนดให้อยู่ในโลกที่แตกต่างจากพวกเรา โครงกระดูกของเขาเป็นเพียงโครงกระดูกปกติ”
“โครงกระดูกปกติเหรอ” ศิษย์หญิงร่างบางถึงกับตกตะลึง
ทั้งสามคนมีโครงกระดูกที่ไม่ธรรมดาและ กวนเซี่ยนั้นดีที่สุดคือมีโครงกระดูกระดับ 4 ดาวพิเศษ
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมพวกเขาทั้งสามจึงอยู่ด้วยกันเสมอ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผู้คนมักเรียกพวกเขาว่า "กลุ่มวิหคน้อย"
“นั่นเป็นไปไม่ได้! โครงกระดูกปกติจะเก่งขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างไร” หญิงสาวที่มีแววตาเฉียบแหลมแสดงใบหน้าไม่เชื่อ
กวนเซี่ย:“คงมีสิ่งที่ไปเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเขา ทำให้การรับรู้สูงผิดปกติ หรือเว้นแต่เขาได้รับยาสมุนไพรระดับปฐพี เพราะมันเป็นไปไม่ได้สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงกระดูกของเขา”
สมุนไพรระดับสีเหลืองเป็นเรื่องธรรมดาและสมุนไพรระดับลี้ลับนั้นมีพลังงานอันลี้ลับของสวรรค์และปฐพี แต่เพื่อปรับเปลี่ยนโครงกระดูกของบุคคลหนึ่ง จำต้องมีสมุนไพรระดับปฐพี
สาวน้อยแววตาแหลมคมมองว่า:“การรับรู้ในระดับสูงจะเป็นประโยชน์ต่อขอบเขตปฐพีเท่านั้น หากต้องการบรรลุไปยังขอบเขตสวรรค์มันไม่เพียงพอที่จะพึ่งพาเพียงแค่การรับรู้”
หญิงสาวร่างบางพยักหน้าเห็นด้วย
***
ระหว่างทางกลับ หลี่ฟูเฉินมองเห็นเหอปิง
และดูเหมือนว่าเหอปิงจะมีปัญหา ในขณะที่เขาถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มศิษย์
“น้องเหอปิงไม่ต้องอาย เจ้าควรรู้สึกเป็นเกียรติที่พี่ฝางเชิญให้เจ้ามาเป็นผู้ติดตามของเขา” เด็กหนุ่มท่าทีดุร้ายพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันต่อเหอปิง ขณะที่วางมือบนไหล่ของเหอปิง
เหอปิงโต้กลับ“ผู้ติดตามเป็นเพียงแค่ฉากหน้า…วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือให้ข้ามอบโอสถให้เขาใช่มั้ย!”
เมื่อสาวกจำนวนมากในนิกายคังเหลียนมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สาวกที่แข็งแกร่งจะรับสมัครผู้ติดตามจำนวนมากและผู้ติดตามเหล่านี้จะให้โอสถเพื่อเป็นการยกย่องผู้นำของพวกเขา เมื่อผู้นำเริ่มแข็งแกร่งขึ้นฝ่ายของพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่มีคุณสมบัติที่จะมีกลุ่มของตนเอง เมื่อผู้นั้นเริ่มสร้างกลุ่ม พวกเขาจะเผชิญกับความท้าทายจากกลุ่มอื่น
เมื่อพ่ายแพ้ กลุ่มจะล่มสลาย
เพื่อที่จะรักษากลุ่มของตัวเอง ความสามารถของตัวเองจะต้องเข้มแข็ง หากความแข็งแกร่งของตัวเองไม่ดีพอจะไม่มีใครอยากจะรับใช้
นอกเหนือจากความแข็งแกร่งแล้วผู้นั้นต้องมีภูมิหลังที่ดีเช่นการสนับสนุนจากศิษย์นิกายชั้นในที่มีความสามารถ โดยปกติแล้วจะไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลอันควร
นอกจากนี้การมีศักยภาพที่น่าอัศจรรย์ก็เป็นอุปสรรคอย่างมากเช่นกัน
หากมีศิษย์โครงกระดูกระดับ 4 ดาว คนอื่นๆก็จะไม่เผชิญกับปัญหาใดๆ
"อะไร? ไม่เต็มใจ? ข้าแนะนำให้เจ้าคิดให้ละเอียดรอบคอบ การปฏิเสธพี่ฝางจะหมายถึงจุดจบของวันอันสงบสุขของเจ้า” เยาวชนที่ดูดุร้ายพูดข่มขู่
เหอปิง:“ขออภัย ข้าคงจะไม่ปฏิบัติตาม”
“เจ้าต้องการถูกลงโทษมากกว่ายอมแพ้ แล้วให้ข้าบอกให้เจ้าเข้าใจว่าการต่อต้านเรานั้นจะเป้นอย่างไร
เยาวชนที่ดูดุดันใช้แรงกดจับที่ไหล่ของ เหอปิง
คลิ้ก…แครก!
เยาวชนที่ดูดุร้ายนั้นอยู่ที่ขอบเขตพลังลมปราณระดับแปดแต่เหอปิงนั้นอยู่ที่ระดับที่เจ็ดเท่านั้น ภายใต้แรงกดดัน ห้านิ้วของเหอปิงเริ่มเต็มไปด้วยเหงื่อและไม่สามารถดิ้นรนได้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม
หลี่ฟู่เฉินส่ายศีรษะ และเดินเข้ามา
“เฮ้! พวกเจ้าควรหยุดก่อนที่จะเลยเถิดไปกว่านี้!” เสียงของหลี่ฟู่เฉิดังเข้าไปในหูของพวกเขา
เยาวชนที่ดูดุร้ายจ้องมองไปที่หลี่ฟูเฉิน“ไอ้หนุ่ม เจ้าเป็นใคร เจ้าอยากตายเหรอไง”
“มันคือหลี่ฟู่เฉิน”เยาวชนคนหนึ่งจำหลี่ฟู่เฉินได้
เมื่อได้ยินเสียงพูด เยาวชนที่ดูดุร้ายคลายมือของเขาและหันไปเผชิญหน้ากับหลี่ฟู่เฉิน“หลี่ฟู่เฉินใช่มั้ย! ข้าแนะนำให้เจ้าหลีกเลี่ยงเรื่องนี้”
ชื่อเสียงของหลี่ฟู่เฉินเป็นสิ่งที่เขาได้ยินมาหลายครั้ง
หากปราศจากจอมยุทธ์หนุนหลังเขาคงไม่กล้าที่จะหาเรื่องกับหลี่ฟู่เฉิน
“ไปซะ! ข้าจะไม่พูดซ้ำอีกครั้ง” หลี่ฟู่เฉินตะโกนอย่างเมินเฉย
“เจ้า!” เด็กที่มีรูปใบหน้ายาวกล่าวตื่นเต้น
"ไปกันเถอะ หลี่ฟูเฉิน เจ้าจะต้องเสียใจกับสิ่งนี้” เยาวชนที่ดูดุร้ายนั้นสงบลง จากนั้นเขาก็นำกลุ่มจากไป
เหอปิงหมุนนวดไหล่และกล่าวว่า“เจ้าไม่ควรทำอย่างนั้น”
หลี่ฟู่เฉิน หัวเราะ“แล้วทำไมเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอของพวกเขาเล่า”
เหอปิงตอบเลี่ยงๆ“การเป็นลูกศิษย์ของพี่ฝางคนนั้นจะช่วยให้ข้าลำบากมากขึ้น แต่มันจะชะลอความเร็วในการฝึกฝนของข้า”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าได้ยินมาว่าในนิกายชั้นนอกนั้นมีบางกลุ่มที่ปกป้องสาวกที่อ่อนแอกว่า เจ้าควรเข้าร่วมพวกเขา” หลี่ฟู่เฉินแนะนำ
“แล้วเจ้าล่ะ”เหอปิงไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมกลุ่มใด ๆ แต่ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ข้าคุ้นเคยกับการอยู่คนเดียว” หลี่ฟู่เฉินส่ายหัว
เหอปิงคิ้วขมวด“พี่ฝางคนนั้นไม่ใช่ใคร เขาเป็นหนึ่งใน 10 อันดับอัจฉริยะของนิกายชั้นนอกที่อยู่ในอันดับที่ 10 ของสาวก 500 อันดับแรกและมีศักยภาพที่น่ากลัว เขาจะมาหาเจ้าอย่างแน่นอน”
“ไปกันเถอะ รอจนกว่าพวกเขาจะมาหาเอง” หลี่ฟู่เฉิน เหอปิงต่างโบกมือ แยกย้าย....