ตอนที่แล้วตอนที่13 ได้เวลาออกจากบาเรียแล้วสิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่15 ถึงมหาวิทยาลัยแล้วสิ

ตอนที่14 ต่อสู้จริงครั้งแรกแล้วสิ


ตอนที่14 ต่อสู้จริงครั้งแรกแล้วสิ

เพื่อความเข้าใจสัตว์อสูรคือสัตว์ที่วิวัฒนาการมานะครับ ฉะนั้นหนูกลายพันธ์ถือว่าเป็นสัตว์อสูรชนิดหนึ่ง

———————————

“ครึ่กครึก ครึ่กครึก ครึ่กครึก”

เบลซชี่เจ้าดาบน้อยและตรงไปยังมหาวิทยาลัยโดยใช้ทางที่เขาคุ้นเคย

อาจจะเรียกได้ว่าโชคดีก็ได้ที่หลังจากเดินทางมา1กิโลเมตรแล้วแต่ว่ากลับไม่มีหนูยักษ์ตัวไหนเลยที่ไล่ตามเขา สองข้างทางของถนนเต็มไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้งเป็นช่วงๆ และรถที่ชนกันบางจุด

ในมือของเบลซถืออาวุธคู่กายของเขา

ง้าวกรีดนภา อาวุธขาว ระดับ6 แต่ทันใดนั้นเอง

“จี๊ดดดด” หนูยักษ์ตัวนึงวิ่งเข้ามาจากทางข้างหน้า

“ก๊าสสสสสสสสส!” เจ้าดาบน้อยส่งเสียงขู่ขณะที่วิ่งไปข้างหน้าด้วย

ระยะห่างของทั้งสองใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“ฟูวววว” เปลวเพลิงสีม่วงถูกพ่นออกมาจากปากของเจ้าดาบน้อย

“จี๊ดดดดดดด” เพลิงสีม่วงไหม้ขนบริเวณหัวของหนูยักษ์ มันร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นเพื่อจะดับไฟ

เบลซแทงง้าวออกไปมันตรงไปที่หัวของหนูยักษ์ทันที

“ฉึก!” ง้าวจมเข้าไปในหัวของหนูยักษ์มันตายทันที

“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ2ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx1”

เบลซโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงประกาศจากระบบแต่ยังวางใจมากไม่ได้เพราะเกิดเสียงเขารีบผ่าหัวมันออกมาเก็บคริสตัลสีขาวใสแล้วรีบจากไปทันที

หลังจากวิ่งไปอีกเบลซไปซีฟอสก็เจอหนูกลายพันธ์วิ่งเข้ามาหาบ้างทีละตัวสองตัวแน่นอนว่าพวกเขาหนึ่งคนหนึ่งตัวจัดการมันได้สบายๆ

หลังจากที่วิ่งมาได้ราวๆ10กิโลเมตร เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ถนนแคบลงเล็กน้อยแต่ที่หนักคือมีซอยตัดเยอะแยะและบาเรียที่คุ้มกันบ้านก็หายไปแล้วด้วยไปรู้ว่าจะมีใครวิ่งลากหนูกลายพันธ์มาให้พวกเขารึปล่าว

“ลดความเร็วลงหน่อย” เบลซพูดเจ้าดาบน้อยจึงวิ่งลดค่อยๆความเร็วลงเหลือราวๆ30 กม./ช.ม. เบลซถึงบอกให้มันหยุดลดความเร็ว เสียงที่วิ่งก็เบาลงตามไปด้วย

“แพร้ง!”

ในขณะที่วิ่งไปเรื่อยๆตึกตรงถนนแยกข้างๆซอยเล็กๆเป็นถนน2เลนมีเสียงกระจกแตกชายคนนึงถูกอะไรบางอย่างตบจนกระเด็นออกมาจากประตูกระจก

“จี๊ดดดดด” หนูกลายพันธ์ตัวนึงวิ่งตามออกมาจากแต่กวาดกรงเล็บทันที

“อ๊ากกก!” ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“สงสัยบาเรีย15นาทีคงหมดไปพักนึงแล้วสิ  ไปช่วยดีไหมนะ?” เบลซคิดในใจแต่เข้ามองไปรอบๆทางตรงข้ามมันมีหนูกลายพันธ์มาเพิ่มอีก4ตัวรวมกับตัวแรกเป็น5ตัว ถ้าเขาไปช่วยก็คงจะโดนล้อมแต่ว่าก่อนหน้านี้เขาและเจ้าดาบน้อยได้ฆ่าพวกหนูกลายพันธ์ไปพอสมควรระดับก็เพิ่มใช้พอได้

“อีกอย่างนี้พึ่งเริ่มช่วงแรกของวันหายนะพวกนี้ยังไม่โหดมากฝึกสู้ตอนอยู่ในวงล้อมหน่อยก็ดี” เบลซคิดอย่างนั้นจึงให้เจ้าดาบน้อยวิ่งเข้าไปในซอยด้วยความเร็วสูงสุด

“ซูวววว!” เสียงปะทะอากาศด้วยความเร็วเมื่อเจ้าดาบน้อยพุ่งมาถึงเบลซก็ตวัดง้าวออกไป

“ฉัวะ...พุฟฟฟ” หัวของหนูกลายพันธ์รอยละลิ่วออกจากลำคอพร้อมเลือดที่ไหลออกมาเป็นสาย

“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ1ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx1”

จากนั้นเบลซก็ลงจากหลังของซีฟอสแล้วก็หันไปทางหนูกลายพันธ์อีก4ตัวที่พุ่งมา

“เพลิงสายฟ้า!”

“พรึบบ! เปรี๊ยะ!” เพลิงสีเหลืองส้มและสายฟ้าสีขาวลุกท่วมและวนอยู่รอบๆ ง้าวของเบลซ

“ฟูววววววว” เมื่อหนูกลายพันธ์ทั้ง4ตัวเข้ามาใกล้เจ้าดาบน้อยพ่นเพลิงสีม่วงออกไปแบบกวาด ด้วยสันชาตญาณพวกมันกระโดดถอยหลังหลบ

“ฉัวะ! แครก! ในขณะที่มันกระโดดถอยหลังง้าวที่ท่วมไปด้วยเพลิงสายฟ้าซัดใส่หนูกลายพันธ์สองตัว ขณะเดียวกันซีฟอสก็กระโดดเหยียบหนูกลายพันธ์จนล้มลงและกัดเข้าทีลำคอของหนูกลายพันธ์อีกตัวตายทันที

“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ1ถูกสังหารไม่ได้รับเหรียญชีวิต”

“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ3ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx1”

“ซีฟอสสังหารหนูกลายพันธ์(ขาว) ได้รับเหรียญชีวิตx1”

“จี๊ดดด” หนูตัวสุดท้ายกระโจนเข้าใส่เบลซในระยะใกล้แน่นอนว่าเขาชักง้าวกลับมาไม่ทัน เบลซจึงยื่นมือซ้ายออกไป

“ฉึก ฉึก ฉึก” เถาวัลย์สีเขียวปลายแหลมและรอบๆเต็มไปด้วยหนามสีแดงสดยื่นออกมาจะข้อมือและรอบๆสามเถา เถาทั้งสามแทงเข้าไปจังๆยัง หัว คอและอกของหนูกลายพันธ์ตัวสุดท้าย(TL. ซะขนาดนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแล้วม้างง)

“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ4ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx2”

“ฮูวว ฮาา ฮูวว ฮาา” เบลซเหนื่อยหอบจากการเดินทางอย่างตึงเครียดมาตลอดสิบกว่ากิโลเมตรนี้

ดอกเถาโลหิตทั้งสามเถาแยกย้ายเอาปลายเถาไปยังแอ่งเลือดของพวกหนูกลายพันธ์เบลซรู้สึกว่าอาการเหนื่อยของเขาหายไปเร็วขึ้นแต่ก็ยังต้องนั่งพักซักหน่อยอยู่ดี

“ระบบ”

ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต11เหรียญ

ระดับ4

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว

พลังธาตุ <ไฟ น้ำ สายฟ้า> ระดับ ขาว (0/100)

อาชีพ ไม่มี

อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน

ฉายา นายแห่งอสูรอเวจี (+5ทุกค่าสถานะ เพิ่มความแรงธาตุไฟ และ เพิ่มอัมพาตธาตุสายฟ้า 50%)

Strength(แรงกาย) : 13+8

Agility(ความว่องไว) : 12+8

Vitality(พละกำลัง) : 9+8

Stamina(ความทรหด) : 7/10+8

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 26/20+8

ทักษะ ไม่มี

สัตว์อสูรสงคราม

ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)

ยูทาห์แร็พเตอร์เพลิงอเวจี(ลูก) ระดับ3

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว

พลังธาตุ เพลิง ระดับขาว

Strength(แรงกาย) : 19

Agility(ความว่องไว) : 21

Vitality(พละกำลัง) : 35

Stamina(ความทรหด) : 20

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 7

ทักษะ

<เพลิงอเวจี> ด้วยสายเลือดแห่งนรกอเวจีทำให้ใช้เพลิงที่จากนรกได้(เพลิงแรงขึ้น75%)

พืชปรสิตดอกเถาโลหิต ระดับ2

สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว

พลังธาตุ พืช โลหิต ระดับขาว

Strength(แรงกาย) : 1

Agility(ความว่องไว) : 1

Vitality(พละกำลัง) : 39

Stamina(ความทรหด) : 1

Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1

ทักษะ

<พึ่งพาอาศัย> +3ทุกสถานะของโฮสต์ และ โฮสต์สามารถเรียกเถาออกมาช่วยโจมตีหรือป้องกันได้โดยจะมีค่าสถานะทุกอย่างเท่ากับโฮสต์ ยกเว้นVitality ในขณะเดียวกัน เถาโลหิตต้องได้รับพลังงานทุกวันจากโฮสต์

<แบ่งพลังธาตุพืช> แบ่งพลังธาตุพืชให้โฮสต์ใช้ชั่วขณะ ผ่านเถาวัลย์

<ดูดโลหิต> ดูดเลือดหรือพลังงานมาฟื้นฟูให้โฮสต์

เลื่อนอีกระดับแล้วเบลซอมยิ้มออกมาเล็กน้อย

แน่นอนว่าการเลื่อนระดับจะเพิ่มค่าสถานะมา1แต้มโดยสุ่มตามความเหมาะสมเช่นถ้าคนที่มีสไตล์การต่อสู้เป็นความเร็ว ค่าสถานะส่วนใหญ่ก็จะไปลงที่Agility

แต่ว่าในกรณีของเบลซตอนนี้ค่า Spirituality ของเขามากจนเกินพอขนาดใช้เพลิงสายฟ้าไปมันก็ยังไม่ค่อยลด  มันเลยยังไม่ค่อยเพิ่มแต่ว่าค่าVitalityของเขาน้อยมากจนเป็นจุดอ่อนก็เลยเพิ่มขึ้นคละๆไปกับ StrengthและStaminaจากการที่ผมต้องใช้แรงสู้และเดินทางเป็นระยะเวลานาน

และเป็นความโกงของดอกเถาโลหิตที่พอเลเวลอัพก็จะอัพไปที่ค่าvitalityอย่างเดียวค่านี้ถ้ายิ่งสูงโครงสร้างร่างกายจะยิ่งแข็งแรงทำให้อึดและพลังป้องกันสูงขึ้นพอระดับสูงขึ้นเรื่อยๆจะยิ่งเห็นชัดไม่นานมันจะกลายเป็นอาวุธกันตายและชุดเกราะชั้นเลิศของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด