ตอนที่ 229 ครั้งแรกมักยากสุด
ไม่กี่วันก่อน ผู้คุ้มกันที่หานเซี่ยวส่งออกมาได้ติดต่อกับคนเร่ร่อนในอาณานิคมต่างๆ อธิบายถึงจุดประสงค์ของเขตอนุรักษ์และเชิฐคนเร่ร่อนให้มาพักอาศัยหรือทำงาน
ด้วยการใช้อาหารและรอยยิ้ม คนเร่ร่อนบางคนที่ไม่มีชีวิตดีนักจึงยอมตกลง
จากที่ห่างไกล คนเร่ร่อนหลายร้อยสามารถมองเห็นกำแพงสูงที่ยังคงสร้างพร้อมตัวอักษร’เขตอนุรักษ์สามปีศาจทมิฬ’ พวกเขาพบว่ามันน่าเหลือเชื่อ
“ไหนพวกเขาบอกว่าเพิ่งมาถึงได้ไม่กี่วัน นี่ดูไม่เหมือนอะไรที่เพิ่งก่อสร้างเลยนะ..”ชายวัยกลางคนลังเล คนอื่นเองก็สงสัยเช่นกัน
พวกเขาเคยคิดว่าเขตอนุรักษ์กำลังสร้าง และสภาพมันคงเป็นเศษขยะอยู่ ในจินตนาการพวกเขา มันคงดูไม่ดีเท่ากับบ้านหลังน้อยของพวกเขาในอาณานิคม พวกเขาพร้อมเผชิญกับความยากลำบาก แต่ความจริงกลับทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก
“พวกเขาเอาเวลามาทุ่มกับการสร้างกำแพงจนหมดงั้นหรอ?”บางคนยังสงสัย
เมื่อพวกเขาเข้าเขตอนุรักษ์ไปตามถนนหลัก ข้อสงสัยก็กระจ่าง
เมื่อดูกำแพงสูง อาคารเรียบร้อยและถนนลาดยาง ทุกคนก็ไม่อาจเชื่อได้ว่าความคืบหน้านี้ใช้เวลาแค่สิบวัน
การสร้างบ้านไม้ของพวกเขายังนานซะยิ่งกว่านี้!
ผู้คุ้มกันพาคนเร่ร่อนที่ยืนเอ๋อไปบ้านพวกเขา ซึ่งไม่ใช่ค่ายหรือบ้านไม้ แต่เป็นบังเกอร์ใหม่เอี่ยม มีหลายห้องและไฟฟ้าพร้อมน้ำให้ใช้งาน ยังมีครัวเป็นส่วนกลางและพวกเขาก็สามารถทำอาหารเองได้
พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
สิ่งนี้เรียกว่าเขตอนุรักษ์งั้นหรอ?นี่อาจเรียกว่าบ้านพักตากอากาศได้เลย!
…
“ท่าน เราได้นำคนเร่ร่อนกลับมา427คน มีอาณานิคม15แห่งรอบรัศมีเรารวมทั้งสิ้น3500คน ทีมอื่นยังคงอยู่ในช่วงเจรจา และก็มีประมาณ300คนที่ปฏิเสธเราอย่างชัดเจน”
แค่400กว่าคน นั่นไม่นับว่ามาก
จุดประสงค์ของเขตอนุรักษ์คือการปกป้องมนุษย์ โดยมีเป้าหมายใหญ่สุดคือคนเร่ร่อน มันจะเป็นเรื่องตลกหากไม่มีใครอยู่หลังมันก่อสร้างเสร็จ
มีคนเร่ร่อนไม่มากในคาส และคนเร่ร่อนที่อยู่ไกลออกไปอาจไม่เต็มใจต้องเดินทางไกลเช่นนี้ เพื่อให้ผู้คนย้ายบ้าน หานเซี่ยวรู้สึกว่ามันต้องใช้การควบคุมของเบนเน็ต ซึ่งจะสามารถโยกย้ายคนเร่ร่อนจำนวนมากที่เต็มใจมาพักในนี้ได้ อย่างไรก็ตาม นั่นควรเกิดหลังสิ่งต่างๆเข้ารูป ตอนนี้มันเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของการก่อสร้าง
หานเซี่ยวโบกมือและไล่หลิวจ้าวออกไป จากนั้นเขาก็เดินกลับไปห้องทำงานและไตร่ตรองสถานการณ์ หนึ่งในข้อกำหนดของ[เขตอนุรักษ์สาม]เขาคือผู้อยู่อาศัย4หมื่นคนไม่รวมผู้เล่น นี่เป็นหนึ่งในข้อกำหนดภารกิจที่ให้รางวัลมากสุด และมันก็จะเพิ่มการให้คะแนนโดยรวมของภารกิจ
เมื่อเดินตามถนนและเห็นฉากมีชีวิตชีวาของผู้เล่น หานเซี่ยวก็รู้ว่าเพื่อให้บรรลุแผนเมืองหลักของผู้เล่น มันต้องมีNPCอยู่ตัว และตัวละครสำคัญจะดีสุด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งภารกิจ และจากนั้นผู้เล่นก็จะถูกดึงดูดเข้ามาเอง
จำนวนผู้อยู่อาศัยเป็นข้อกำหนดของเขตอนุรักษ์เช่นกัน ซึ่งเชื่อมโยงกับแผนเขา
นี่เป็นภารกิจระยะยาว หานเซี่ยวคิด
มีผู้เล่นหลายคนมาคุยกับเขา อยากซื้ออุปกรณ์ หานเซี่ยวไม่ปฏิเสธและกำจัดอุปกรณ์ไร้ประโยชน์ในคลังเขาและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน
...
กลับไปโรงงาน อุปกรณ์สกัดยังคงทำงานและหานเซี่ยวก็อารมณ์ดีมาก ไม่ต้องการเสียโอกาส เขาหยิบอะไหล่ออกมาและเริ่มสร้างดาบประกอบแม่เหล็ก พยายามทำให้ได้คุณภาพสีม่วงและคราวนี้เขาก็รู้สึกว่าเชี่ยวชาญกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ฉันอาจทำสำเร็จ!
เสียงของอุปกรณ์สกัดดังก้องทั่วห้อง แต่หานเซี่ยวก็ไม่ได้รับผลใด เมื่อเครื่องสกัดหยุด เขาก็ทำงานเสร็จพอดี
ท่านได้สร้างดาบประกอบแม่เหล็ก(สีม่วง)
ข้อกำหนดการเลื่อนสายอาชีพ : สร้างอุปกรณ์สีม่วงเหนือกว่าระดับ60
ความคืบหน้า : 1/5
หานเซี่ยวถอนหายใจโล่งอก
ครั้งแรกมักยากสุดเสมอ เช่นเดียวกับการให้อภัย หลังครั้งแรก จะมีครั้งที่สองและสามตามมาเรื่อยๆจนคุ้นชิน
ฉันควรสามารถเลื่อนสายอาชีพได้ในหนึ่งเดือน หานเซี่ยวยิ้ม
โดยไม่มองหน้าต่างสถานะ หานเซี่ยวคุ้ยเคยกับอุปกรณ์สีม่วงดี ตั้งแต่สีฟ้า คุณภาพจะค่อยๆสร้างความแตกต่างอย่างมากในค่าสถานะ ค่าสถานะพื้นฐานของอุปกรณ์สีม่วงจะสูงกว่าสีฟ้า20-30% ความเสียหายของดาบประกอบสีม่วงมากกว่าสีฟ้ามาก
หลังแทนที่อุปกรณ์สีม่วงแทนสีฟ้า หานเซี่ยวก็ตรงไปดูผลลัพธ์การสกัด
ผลึกสองตันกลายเป็นกองผลึกรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ ผลึกสีฟ้าอ่อน แต่ละอันมีขนาดครึ่งฝ่ามือ แร่ดั้งเดิมเต็มไปด้วยรอยแตกและเส้นยุ่งเหยิง แต่ผลิตภัณฑ์หลังการสกัดกลับใสจนมองทะลุ แสงส่องผ่านผลึกโดยไร้สิ่งกีดขวางและหักเหอยู่ภายในเหมือนมีดวงอาทิตย์ขนาดเล็กภายในผลึก
ผลึกพลังงานระดับต่ำ : บรรจุพลังงานบริสุทธิ์ที่สามารถแปลงและสกัดได้
ผลึกพลังงานส่วนใหญ่ถูกใช้ในอารยธรรมเวทมนตร์และอารยธรรมผลึก มันยังเป็นแหล่งอาหารสำหรับสัตว์บางชนิด
หานเซี่ยวพยักหน้า เขายังไม่ได้คิดหาวิธีอื่นเพื่อใช้ประโยชน์จากผลึกพลังงานนอกจากใช้มันเป็นแหล่งพลังงาน สายจอมเวทย์ต้องมีวิธีใช้มันมากกว่า
ฉันควรเก็บมันไว้ก่อน มีไข่ของไวเปอร์เงามืดในคลังที่สามารถบ่มเพาะได้ หานเซี่ยวคิดว่าไข่พวกมันจำเป็นใช้มืออาชีพและหญ้ามรกตก็เหมาะกับงาน
...
ดาวเต็มท้องฟ้า
บนชายแดนมังกรดารา เฮลิคอปเตอร์สีดำจอดลงช้าๆ ใบพัดมันหมุนจนวัชพืชลู่ลม
ทหารกองกำลังพิเศษมังกรดาราโยนคนที่พวกเขาอุ้มไว้ลงมาด้วยสีหน้าจริงจัง คนๆนี้สวมผ้าปิดตาโลหะและผ้าพันแผล เธอมีผมแห้งยุ่งและไม่ได้รับการดูแลเป็นเวลานาน และริมฝีปากเธอก็ซีดและแตก ใบหน้าครึ่งล่างเธอแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้หญิง
“ท่านครับ นี่คือเธอ”ทหารหน่วยพิเศษได้คำนับเจ้าหน้าที่ที่รออยู่ข้างล่าง
“ยืนยันสถานะร่างเธอ ทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ตื่น”เฟิงจุนกล่าว เขารับผิดชอบการแลกเปลี่ยน ผู้หญิงคนนื้คือหญ้ามรกตต อาชญากรตัวยงที่พวกเขาพาตัวออกจากเกาะระฆังแห่งความตาย
“ไม่ต้องห่วงครับ”หมอกล่าว“ผมได้ฉีดยากล่อมประสาทขนาดใหญ่ให้เธอแล้ว”
“ยืนยันมันอีกครั้ง”
เฟิงจุนก้มมองนาฬิกา เวลาการแลกเปลี่ยนใกล้เข้ามาแล้ว ดังนั้นเขาจึงประหม่า ไม่เพียงแต่เขาต้องทำภารกิจแลกเปลี่ยนที่ได้รับมอบให้เสร็จสมบูรณ์ แต่เขายังต้องเอาข้อมูลของสถานะปัจจุบันหานเซี่ยวมาด้วย
เขาสงสัยว่าใครจะมาแลกเปลี่ยนและใครที่เขาต้องเผชิญ แม้เฟิงจุนจะรู้จักหานเซี่ยว เขาก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจกับบุคลิกของหานเซี่ยว
วินาทีและนาทีผ่านไป พวกเขารอเงียบๆ เสียงลมพัดผ่านหญ้าและเสียงกระหึ่มจากแมลงนับเป็นเสียงเดียว บรรยากาศตึงเครียดขึ้นพร้อมกับอารมณ์หลากหลาย
หวืออ
มันเป็นเสียงของใบพัดที่ตัดผ่านอากาศ เฟิงจุนหรี่ตาและเงยหน้ามอง
เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังบินมา ไฟแสดงสถานะกะพริบในรูปแบบรหัสและเฟิงจุนก็บอกให้คนตอบกลับทันที หลังส่งสัญญาณ เฟิงจุนก็ทำการสแกน แต่ก็ไม่พบสัญลักษณ์ขององค์กรใดบนเฮลิคอปเตอร์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มันจะไม่รู้แต่เฟิงจุนก็ยังสามารถเห็นว่าหานเซี่ยวได้เข้าร่วมองค์กรหนึ่งแล้ว
“คนๆนั้นอยู่ไหน?”ชายในหน้ากากกระโดดลงมา
เฟิงจุนโบกมือ และคนดด้านหลังเขาก็นำตัวหญ้ามรกตมา ชายหน้ากากเปิดดแล็บท็อปและยืนยันว่ามันคือหญ้ามรกตจริงๆก่อนจะแบกเธอขึ้นเครื่อง เฮลิคอปเตอร์นำเครื่องขึ้นทันที กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงนาที เฟิงจุนไม่มีโอกาสสื่อสาร เขาทำได้แค่มองดูเฮลิคอปเตอร์บินหายไป
เฟิงจุนหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหากู่หุ่ยเพื่อรายงาน
“เขาได้เข้าร่วมองค์กรอื่นแล้ว และมันก็เป็นเพราะองค์กรนี้ที่ซ่อนตัวเขาจนเราไม่อาจหาเจอ”กู่หุ่ยไตร่ตรอง“มันจะเป็นองค์กรอะไรไปได้?”
…
บนเครื่อง ชายหน้ากากปลดที่ปิดตาและผ้าพันแปลของหญ้ามรกตออก
ทันนั้น หญ้ามรกตที่หลับสนิทก็ลืมตาขึ้นและจ้องมองเขา พวกเขามองหน้ากันเกือบครึ่งนาที หญ้ามรกตก้มหัว เธอกรีดเนื้อบนแขน หยิบอุปกรณ์ที่ชุ่มเลือออกมาและทุบมันจนแหลก
เธอไม่ได้หลับเลย ในฐานะผู้สร้างยา เธอจะไม่ฝึกการต่อต้านยาได้ยังไง?ดังนั้น ยากล่อมประสาทจึงไม่ได้ผลกับเธอ แต่เธอก็ปกปิดสิ่งนั้นมาตลอดช่วงเวลาที่ถูกคุมขัง
“พวกเขาแลกเปลี่ยนฉันเพื่ออะไร?”หญ้ามรกตถาม ไม่รู้สึกเหมือนเธอตกอยู่ในอันตรายเลย มันราวกับกำลังพูดคุยกับเพื่อนเก่าแม้เธอจะไม่รู้จักชายสวมหน้ากาก
“ข้อมูล”ชายสวมหน้ากากมองหญ้ามรกต้วยความสนใจ
“ถูกมาก”หญ้ามรกตขมวดคิ้วไม่พอใจ“คุณสนใจความสามารถการผลิตยาของฉันสินะ?”
“อะไรทำให้เธอพูดอย่างนั้น”ชายหน้ากากถาม
“คุณไม่มีทางสนใจความสามารถอื่นนอกเหนือจากนี้”หญ้ามรกตกล่าวเย็นชา“และคุณก็แข็งแกร่งเกินไป”
ไม่กี่วันก่อน เมื่อทหารเกาะระฆังแห่งความตายฉีดยากล่อมประสาทใส่เธอและพาขึ้นเครื่อง หญ้ามรกตก็รู้ว่าเธอกลายเป็นเครื่องต่อรองและในที่สุดก็เห็นโอกาสหลบหนี
ในขณะที่เธอแสร้งทำเป็นหลับ เธอก็ได้ยินการสนทนาระหว่างทีมและรู้ว่าจะเกิดการพบปะ หญ้ามรกตวางแผนใช้ความสามารถเธอเพื่อหลบหนีในตอนนั้น
ความสามารถของหญ้ามรกตคือการควบคุมพืชในระยะ ดังนั้น สัญชาตญาณเธอจึงเฉียบแหลมมาก ความรู้สึกที่ชายหน้ากากปล่อยออกมาเหมือนสัตว์ร้ายภายใต้คราบมนุษย์ พร้อมกินเหยื่อได้ทุกเวลา เขารู้สึกอันตรายยิ่งกว่าตอนที่ทหารหน่วยพิเศษมังกรดาราชี้ปืนใส่เธอ หญ้ามรกตรู้ทันทีว่าเธอไม่มีโอกาสหลบหนี ดังนั้นเธอจึงเลิกคิดต่อต้าน
“ฉันคิดหนี แต่ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตาย”หญ้ามรกตกล่าวตามตรง
หานเซี่ยวถอดหน้ากากและยิ้ม“เธอฉลาดมาก”
หานเซี่ยวปลอมตัวมาเพื่อพบปะครั้งนี้และมาด้วยตัวเอง เขารู้ดีว่าหญ้ามรกตไม่ใช่ธรรมดาและการส่งใครมาแทนก็จะเสี่ยง ดังนั้น เขาจึงมาด้วยตัวเอง
ตามคาด หญ้ามรกตได้ซ่อนบางอย่างไว้ หากเขาไม่มา เธอคงหลบหนีไปแล้ว หญ้ามรกตสงบมาก เธอไม่ประหลาดใจเลยเมื่อถูกพาตัวมา เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่เหมาะกับการวิจัยมากเพราะเธอจะไม่กลัวอุบัติเหตุระหว่างการทดลอง
“คุณต้องการให้ฉันทำอะไร?”หญ้ามรกตถาม
“ฉันจะบอกเธอเมื่อเราไปถึง”หานเซี่ยวหยิบอุปกรณ์ออกมาและสแกนดูว่ามีอุปกรณ์ตรวจจับอื่นบนร่างของหญ้ามรกตไหม พร้อมคิดถึงวิธีการทำงานของหญ้ามรกตและหาวิธีให้เธออยู่ในเขตอนุรักษ์ด้วยความเต็มใจ แม้เขาจะควบคุมหญ้ามรกตไว้ได้ เขาก็ไม่คิว่าเธอจะล้มเลิกความคิดหลบหนีในอนาคตหากมีโอกาส และเขาก็ไม่อาจเฝ้าดูเธอตลอดเวลาได้