72 แย่งชิงและสร้างโชค
72 แย่งชิงและสร้างโชค
“รีบจับผู้หญิงคนนั้นให้ได้แล้วแม่จะได้เป็นคุณยายเร็วๆสักที!” จางซิวหยิงพูด
“เราเป็นแค่เพื่อนกัน”
“เพื่อนกันยิ่งดี พวกลูกรู้จักกัน เลิกพูดเรื่องความสัมพันธ์ธรรมดาๆกับแม่ แล้วเปลี่ยนมันให้กลายเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษได้แล้ว” แม่ของเขาพูด
คำพูดของแม่นั้นทำให้เขาต้องตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
“จบนะ แม่จะลงไปทำกับข้าว ไม่มีเวลาให้ยอมแพ้แล้ว!”
จางซิวหยิงบ่นและลงจากเนินเขาไป หวังเย้าถูกทิ้งอยู่กับความงุนงง
“จบแล้ว? จบอะไรกันล่ะ?!” หวังเย้าถามด้วยความสงสัย
ซานเซียนมองไปที่เจ้านายของมัน ในตอนที่กำลังกัดหางตัวเอง มันแสดงท่าทางเหมือนกับจะพูดว่า “ดูเหมือนนายจะมีปัญหานะ”
“ออกไป!” หวังเย้าพูด
มันคงจะเป็นเรื่องโกหกถ้าบอกว่าหวังเย้าไม่ได้คิดอะไรกับถงเว่ยเลย ผู้ชายทุกคนต้องชอบผู้หญิงที่งดงามและมีความคิดอยู่แล้ว แต่ หวังเย้ามีความคิดอีกอย่างหนึ่ง เขานั้นไม่มั่นใจเกี่ยวกับตัวเธอ และผู้หญิงที่เขาต้องการใช้ชีวิตด้วยต้องเป็นคนที่อ่อนโยนและเป็นกุลสตรี เธอต้องให้ความเคารพพ่อแม่ของเขาและดูแลตัวเองได้ดี นั้นคือสิ่งที่เขาต้องการ เพราะเขารู้ว่าชีวิตนั้นควรจะสงบและราบรื่น ชีวิตที่ตื่นเต้นและมีสีสันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถาวร
เฮ้ เลิกคิดได้แล้ว! เขาส่ายหัวแล้วเดินไปที่ต้นไม้ข้างกระท่อม เขาไปดูบาดแผลของอินทรีย์
หลายวันนี้อินทรีย์นั้นได้เลิกตั้งป้อมใส่หวังเย้าแล้ว มันแค่มองไปที่เขาเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ หวังเย้าเติมเนื้อและน้ำลงไปในถ้วย
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง ซานเซียนเห่าด้วยความหงุดหงิด เหมือนมันจะพูดว่า “ฉันก็อยากกินเนื้อนะ”
“ซานเซียน เด็กดี เดี๋ยวฉันจะเตรียมอาหารสุนัขให้แก รวมเนื้อหมู เนื้อและอาหารทะเล แล้วก็กระเทียมที่แกชอบด้วย”
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง
...
หวังเย้าคิดว่าเรื่องมันจบไปแล้ว แต่แม่ของเขากลับพูดมันอีกในมื้อเย็น
“พ่อคิดว่าเธอคนนี้ดีนะ ลูกควรจะลองและจีบเธอให้ติด!” หวังเฟิงฮวาแสดงความสนใจ
พ่อแม่ของเขาต่างคิดเหมือนกันในเรื่องนี้ หวังเย้าจึงไม่สามารถหาข้ออ้างได้
หรือจะลองจีบเธอดู? หวังเย้าคิดในระหว่างที่เดินกลับขึ้นไปบนเนินเขา
ดูเหมือนว่าหยางหมิงจะจีบเธออย่างโจ่งแจ้ง แล้วเขาจะต้องทำแบบนั้นเหมือนกันรึเปล่านะ?
“หยุด!” มีเสียงตะคอกในตอนที่หวังเย้ากำลังครุ่นคิดอยู่ มีชายคนหนึ่งพุ่งออกมาจากเงามืดพร้อมกับกลิ่นเมาเหม็นหึ่ง
“นายกำลังทำอะไร?” หวังเย้าตื่นตระหนก
“เพื่อน วันนี้ฉันไม่มีเงินเลย ให้ฉันยืมเงินหน่อยได้ไหม?” ชายคนนั้นพูด
“อะไรนะ?!” หวังเย้าประหลาดใจ
เขาเจอขอทานในหมู่บ้านของเขา ทำไมถึงโชคร้ายอย่างนี้นะ!
“ขอโทษ นายเมาใช่ไหม?” หวังเย้าเตรียมที่จะต่อสู้ถ้าเกิดมันจำเป็น
“ฉันรอนายมาทั้งวันแล้ว และฉันไปจะหาบ้านของนายถ้านายไม่ยอมให้เงินฉัน!”
ชายคนนั้นดึงมีดออกมาจากด้านหลัง หวังเย้าเงียบไปและมองไปที่ชายที่ดูแข็งแรง แล้วยังสูงกว่าและแข็งแรงกว่าเขา ชายคนนี้น่าจะหนักประมาณ 100กิโลได้
คุณสามารถปล้นและข่มขู่หวังเย้าได้ แต่ห้ามแตะครอบครัวของเขา! หวังเย้าโมโหมาก! พลังฉีพลุ่งพล่านไปทั่วท้องน้อยของเขาราวกับสายน้ำ
พัวะ! หวังเย้าชกไปที่ท้องของชายคนนั้น
พลัก! คนที่ดูแข็งแกร่งคนนั้นหงายหลังและกลิ้งลงไปกับพื้นคล้ายกับลูกบอล เขากลิ้งไปชนเข้ากับกำแพงและกำแพงก็พังลง มีเสียงร้องของหมูหลายตัวและกลิ่นเหม็นลอยออกมา
มันคือคอกหมูนั้นเอง
อะไรกัน? หวังเย้ามองไปที่มือของตัวเองด้วยความประหลาดใจ
เขารู้ว่าร่างกายของเขานั้นดีขึ้นมากจากการที่ฝึกพลังฉี และพลังฉีก็สะสมอยู่ภายในร่างกายของเขา แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะแข็งแรงได้ขนาดที่สามารถโยนคนที่มีน้ำหนักตัวถึง 100กิโลได้ และตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกมีพลังอยู่เต็มเปี่ยม มันทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เขามองไปที่ชายร่างใหญ่ที่นอนอยู่ในคอกหมู เขาไม่ได้วางแผนจะให้มันจบแค่นี้! คนอื่นจะต้องคิดว่าเขานั้นรังแกได้ง่ายถ้าเขายังปล่อยเรื่องนี้ไป
20นาทีต่อมา มีเสียงหวอและไฟจากรถตำรวจ หมู่บ้านเริ่มวุ่นวายและมีคนออกมาที่ถนนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาพูดคุยกันกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“เอ้? เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนถูกปล้น”
“อะไรนะ? ในหมู่บ้านของเราเหรอ?”
“ใช่ เขาถูกจับ พวกเขาใส่เขาไว้ในรถตำรวจ”
ทันใดนั้น ก็มีคำพูดมากมายหลายแบบเกิดขึ้น
ตำรวจนั้นรู้สึกหงุดหงิดมากที่มีแต่ขี้หมูอยู่ในรถตำรวจ พวกเขาจะต้องให้บทเรียนกับชายคนนี้ที่กล้าไปปล้นคอกหมู มันงี่เง่ามาก!
หวังเย้าก็ไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน
เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเขา เพราะกลัวว่าพวกเขาจะเป็นกังวล แต่เขากลับโทรหาหวังหมิงเปาแทน เพราะเขาคุ้นเคยกับตำรวจดี
“อะไรนะ? ปล้น? ใครกัน? มันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?” หวังหมิงเปาโกรธมากเมื่อเขารับสาย
ชายคนนั้นกล้าที่จะปล้นในหมู่บ้านของเขา แล้วยังปล้นเพื่อนสนิทของเขาอีก นั้นเป็นการท้าทายอย่างชัดเจน เขาจะต้องไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ!
“มันไม่มีอะไร เขาถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว นายช่วยคุยกับตำรวจหน่อย พวกเขาพยายามที่จะขู่ฉันอยู่”
“โอเค เข้าใจแล้ว”
เหมือนที่หวังเย้าบอก ชายร่างใหญ่ได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว เพราะเขาบาดเจ็บในตอนที่กำลังเข้าไปในคุก เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและเหงื่อท่วมตัว ตำรวจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงถามหวังเย้า และรู้ว่าหวังเย้าได้ชกท้องของชายคนนั้น พวกเขาจึงส่งชายคนนั้นไปที่โรงพยาบาล เขาได้รับบาดเจ็บหนัก กระดูกซี่โครงหักสองท่อนและมีเลือดออกในท้อง ดังนั้นโรงพยาบาลไม่สามารถจัดการได้ และส่งเขาไปยังโรงพยาบาลเขต
เมื่อพวกเขาไปถึงโรงพยาบาลเขต หมอได้ตรวจร่างกายเขาและต้องตกตะลึง มันเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะถ้าเกิดมาช้ากว่านี้เขาอาจจะตายได้
เมื่อได้ยิน ชายร่างใหญ่ก็รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง
ฉันแค่อยากจะปล้นเขา แต่กลับเกือบจะจ่ายด้วยชีวิตตัวเอง!
เขาล้มเหลว และได้รับบาดเจ็บสาหัส การปล้นคนอื่นมันยากขนาดนี้เลยเหรอ?!
ในเวลากลางคืน หวังเย้าออกมาจากสถานีตำรวจและพบว่าพ่อแม่กำลังวิ่งมาหาเขา