บทที่ 52 ฟันแทงไม่เข้า
บทที่ 52
ฟันแทงไม่เข้า
การปรับการไหลเวียนของเลือดและการโคจรพลังลมปราณไม่ได้เป็นของเด็กเล่น นอกจากความเข้าใจอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับร่างกายของตนเองแล้วยังจำเป็นต้องมีการรับรู้ที่แข็งแกร่งเช่นกัน
หากขาดความเข้าใจ ปัญหาอาจจะเกิดขึ้นได้ง่าย
หากการรับรู้ของคนหนึ่งไม่ดีพอ การปรับเปลี่ยนการไหลเวียนของเลือดและการโคจรพลังลมปราณอย่างฉับพลันจะส่งผลให้เกิดความหายนะ
ถ้าหลี่ฟู่เฉินเต็มใจที่จะชะลอความเร็วในการฝึกฝน เขาสามารถทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนเลือดและการโคจรของลมปราณ แต่เขาไม่ต้องการชะลอ
‘ผลลัพธ์ของวิชาการขัดเกลาร่างกายนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยพอเป็นไปได้'
หลี่ฟู่เฉินผู้ซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ในสนาม เริ่มพินิจพิเคราะห์ร่างกายด้วยสติ
มีการกล่าวว่ามีเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์ ขอบเขตดาวไถสวรรค์เท่านั้นที่สามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่อยู่ใต้ขอบเขตสวรรค์จะมีความตระหนักในจิตสำนึก แต่ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
แต่เหตุผลหลักคือจอมยุทธ์จะไม่มีสติที่แข็งแกร่งพอก่อนที่พวกเขาจะไปถึงขอบเขตปฐพี
หลี่ฟู่เฉินตรวจร่างกายของเขาซ้ำ ๆ เพื่อทำความเข้าใจร่างกายของเขาเองอย่างละเอียดและละออยิ่งขึ้น
ในระหว่างการตรวจ หลี่ฟู่เฉินสามารถมองเห็นเส้นแวงและจุดชีพจรอย่างชัดเจนโดยสติของเขาสามารถตรวจจับได้
“ตำแหน่งของจุดชีพจรไม่กี่จุดเหล่านี้กลายเป็นว่าแตกต่างกันในแต่ละคน
ไม่น่าแปลกใจเลย ในระหว่างการโคจรมีสิ่งกีดขวางที่ขัดขวางการบ่มเพาะของข้า”
ไม่กี่วันถัดมา หลี่ฟู่เฉินได้ทำการปรับเปลี่ยนวิธีการไหลเวียนโลหิตและการโคจรพลังลมปราณ
แต่.. ก็ไม่ถือว่าเป็นการดัดแปลงเพราะ 90%ของวิธียังคงเหมือนเดิม สำหรับ 10%ที่ไม่ได้เป็น หลี่ฟู่เฉินรวมวิธีการในร่างกายของเขาและทำการปรับเปลี่ยนบางอย่าง
เมื่อวิธีการไหลเวียนได้ถูกปรับเปลี่ยน การโคจรของหลี่ฟู่เฉินไม่มีข้อจำกัด และร่างกายของเขาไม่เกิดผลข้างเคียงอีกต่อไป
4000กิโลกรัม, 4,400กิโลกรัม, 4,400กิโลกรัม
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของหลี่ฟู่เฉินเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปในแต่ละวัน เช่นเดียวกับความหนาแน่นของผิวหนังและเนื้อของเขา
หลี่ฟูเฉินซึ่งน้ำหนัก65กิโลกรัมตอนนี้อยู่ที่ 70กิโลกรัม
แต่จุดสำคัญคือเขาสูงประมาณ1.7เมตรและหนัก 70กิโลกรัม เขาจะดูไม่แข็งแกร่งขนาดนี้หากใครก็ตามที่มองเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะคิดว่าเขามีน้ำหนักประมาณ 60กิโลกรัม
4800กิโลกรัม… 5,000กิโลกรัม!
เมื่อเหลือเม็ดโอสถเพียง20เม็ดเท่านั้น วิชาการต่อสู้สีเลือดของหลี่ฟู่เฉินก็สำเร็จลุล่วงไปในที่สุด
ในขั้นตอนการบรรลุผล วิชาการต่อสู้สีเลือดนั้นน่าเกรงขาม ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณภาพของผิวหนังและเนื้อหนังของเขาแน่นขึ้น แต่ยังเพิ่มพลังและความแข็งแกร่งให้กับมันอีกด้วย
แคล้ง!
เสียงของการปะทะกันของโลหะสะท้อนออกมาเมื่อหลี่ฟู่เฉินเฉือนตัวเองด้วยดาบเหล็กของเขา
หลี่ฟู่เฉินใช้กำลังแรงประมาณ3,000กิโลกรัมในการเฉือนนี้ คมดาบไม่สามารถตัดผิวหนังของเขาได้
เมื่อปรับให้กำลังสูงสุดถึง4,000กิโลกรัม เขาก็ยังไม่เป็นอันตราย
ในที่สุดด้วย5,000กิโลกรัม บาดแผลตื้น ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนร่างของหลี่ฟู่เฉิน
เมื่อแผลเปิดออกมันก็จะทำการซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็วตามธรรมชาติ
นอกเหนือจากการเฉือน หลี่ฟู่เฉินตระหนักว่าเมื่อใช้แรงผลักมันจะต้องใช้พลังงานทางกายภาพเพียง 4,000กิโลกรัมเท่านั้นที่จะแทงทะลุผิวหนังของเขา
หลี่ฟู่เฉินหายใจเข้าลึก ๆ และหมุนโคจรวิชาเปลวเพลิงสีแดงขั้นที่แปด เมื่อพลังลมปราณเปลวเพลิงสีแดงอันร้อนแรงปกคลุมทั่วร่างกายของเขาทั้งหมด
แคล้ง!
หลี่ฟูเฉินเฉือนร่างของเขาอย่างรุนแรง
คมมีดนี้มีแรงถึง6,000กิโลกรัม
แต่ไม่มีอะไรเหลืออยู่บนร่างกายของเขายกเว้นรอยประทับสีขาว
7000กก., 8000กก.
หลี่ฟู่เฉินสามารถเปิดบาดแผลได้หลังจากเพิ่มพลังให้เขาเป็น8000กก. ผลทำให้เลือดพุ่งไหลออกมา
วิชาการต่อสู้สีเลือดพิสูจน์แล้วว่ามันน่ากลัว แม้ว่าดาบหรือหอกจะทำอะไรข้าไม่ได้ แต่เมื่ออยู่ที่ขอบเขตพลังลมปราณ ข้าแทบคงกระพันอยู่แล้ว '
ความแข็งแกร่งของร่างกายที่ระดับ8000กิโลกรัมคือจุดสุดยอดของขอบเขตพลังลมปราณ
โจวเหวยหลงและโล่จงเทียนสามารถจัดการกำลังได้เพียง 6,000กิโลกรัมเท่านั้นและแม้แต่หวางฮูก็มีกำลังเพียง 7000กิโลกรัมเท่านั้น
หลี่ฟูเฉินคิดว่าถ้าเขาใช้กำลังเต็มที่เขาก็สามารถออกแรงได้อย่างน้อย10,000กิโลกรัม
พละกำลังคือความแข็งแรงที่แสดงหลังจากการสะสมพลัง
ความแข็งแกร่งทางกายภาพ, การบ่มเพาะ, วิธีและวิชายุทธ์ล้วนมีส่วนร่วมในการสะสมพลัง
พลังที่ 10,000 กิโลกรัมสามารถส่งวัตถุ 10,000 กิโลกรัมบินได้ในระยะทางสั้น ๆ
***
“เจ้าเคยได้ยินไหม หลี่ฟู่เฉินเอาชนะหวางฮูได้”
“ข้อมูลนั้นเชื่อถือได้? หวางฮูเป็นหนึ่งในสาวก 500 คนแรกที่เจ้ารู้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายเขาก็ยังไม่อยู่ในระดับเดียวกับโจวเหววยหลงและโล่จงเทียน
“ข้าสงสัยข้อมูลนี้เช่นกัน แต่ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าหลี่ฟู่เฉินบดขยี้หวางฮูอย่างง่ายดาย”
“ลวงมันต้องเป็นข่าวลวง ใครจะสามารถปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว? ไม่ว่าในกรณีใดข้าจะไม่เชื่อในข่าวลือนี้”
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ข่าวของหลี่ฟู่เฉินที่เอาชนะหวางฮูได้ก็ร่ำลือไปทั่วนิกายชั้นนอก
แต่ปฏิกิริยาแรกของทุกคนก็คือการไม่เชื่อ
คนส่วนน้อยเชื่อข่าวลือ เนื่องจากพวกเขารู้ข่าวว่านี้เกิดขึ้นที่ไหนและส่วนใหญ่มักน่าเชื่อถือ
เมื่อหลี่ฟู่เฉินบรรลุวิชาการต่อสู้สีเลือดและออกจากสนาม ข่าวลือกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงที่สุดของนิกาย ทุกคนที่เขาเดินผ่านมามองเขาแปลก ๆ
หลี่ฟู่เฉินกลับมาที่เมืองหยุ่นวู่อีกครั้ง
“เจ้าเคยโจมตีเฉินตูเหลียงมาก่อนหรือไม่?” คนที่ค่อยๆเข้ามาหา คือเฉินตูจิว
เฉินตูจิวปัจจุบันอยู่ที่ระดับเจ็ดขอบขอบเขตพลังลมปราณ
“มีอะไร?”หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้ว
“ข้าต้องการโอสถบรรเทาร่างกายจำนวนมาก เจ้าเพียงแค่มอบให้ข้า 50 เม็ดและข้าจะตัดหนี้ออกเดี๋ยวนี้” เฉินตูจิวกล่าวแนะนำ
แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินทำได้ดีในเขตชั้นนอกนิกาย แต่ตระกูลหลี่ ของเขาและตระกูลเฉินตูยังคงไม่คุ้มค่าที่จะเปรียบเทียบ
หลี่ฟูเฉินหัวเราะ“เจ้าคิดว่าข้าจะมอบให้เจ้างั้นเหรอ?”
"ทำไม? เจ้ากล้าที่จะไม่เชื่อฟังตระกูลเฉินตูของข้าเหรอ? เฉินตูจิวกล่าวด้วยความขุ่นเคือง
“ตอนนี้ข้าเป็นศิษย์นิกายชั้นนอกของนิกายคังเหลียนและเป็นศิษย์ชั้นนอกนิกายระดับหนึ่ง เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาพูดกับข้า” จบประโยค หลี่ฟู่เฉินจากไปทันที
“หลี่ฟู่เฉินยังพึ่งดีใจไป เมื่ออยู่ที่ขอบเขตก่อกำเนิด เจ้าจะได้สัมผัสกับความสำคัญของโครงกระดูก เจ้าที่โครงกระดูกปกติจะอยู่ที่ด้านล่างของห่วงโซ่อาหาร”
เฉินตูจิวยับยั้งความโกรธของเขา
เหตุผลเบื้องหลังที่ว่าทำไมเขาถึงต้องการเม็ดโอสถบรรเทาร่างกายเพราะเขาเพิ่งแลกแต้มกับคัมภีร์วิชาเสื้อผ้าเหล็ก
และการฝึกฝนวิชาเสื้อผ้าเหล็กร่างกายต้องการโอสถบรรเทาร่างกายจำนวนมาก หากไม่มี พวกเขาก็จะใช้เวลาหลายปีเพื่อบรรลุความสำเร็จ
หลี่ฟู่เฉิน ผู้ซึ่งเดินไปไกลแล้วไม่ได้สนใจคำพูดของเฉินตูจิวแม่แต่น้อย
สิ่งที่คนอื่นไม่ทราบ เขาเข้าใจเป็นอย่างดีมากและสถานการณ์ที่เขาเป็น เขาอาจมีคุณภาพโครงกระดูกที่เลวร้ายที่สุด แต่การรับรู้ของเขามาถึงสภาวะที่สามารถฝ่าฝืนกฎธรรมชาติได้ ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งเขาได้
***
หลี่ฟูเฉินมาถึงที่ชั้นสามของหออาหารและสั่งชุดอาหารชั้นสูง
ตั้งแต่เขาเริ่มบ่มเพาะวิชาการต่อสู้สีเลือด เขาไม่เคยกินอาหารโภชนาการที่มีมูลค่า 1 เหรียญเงิน แต่กลับเป็นอาหารชั้นสูง1 เหรียญทองแทน
อาหารชั้นสูงเป็นเนื้อสัตว์อสูรที่ชำระล้างลมปราณอสูรออกแล้ว เนื้อพวกมันสดผุดผ่องและไม่ถูกย่อยอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงช่วยให้คงความอิ่ม ในเวลาเดียวกันยังเติมพลังและความแข็งแกร่งของร่างกาย ผักที่ปลูกในนิกายคังเหลียน จริงๆแล้วไม่แตกต่างจากสมุนไพรและมีสารอาหารทั้งหมดที่ร่างกายต้องการ
หลังจากนั่งลงบนที่นั่ง หลี่ฟู่เฉินรับประทานอาหารของเขาอย่างประณีต
เสียงฝีเท้าของสะสมดังขึ้นเมื่อมีกลุ่มคนเดินขึ้นมาจากชั้นสอง
หลี่ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้นและหลี่ตามอง
นั่นคือกวนเซี่ย
ชุดที่นางสวมใส่ดูอ่อนหวานและเรียบง่าย นางกลายเป็นคนโดดเด่นและชดช้อยงดงาม ลูกตาดำเล็กๆละเอียดละออของนางให้ความรู้สึกเย่อหยิ่งเล็กน้อย
ข้างๆเธอเป็นหญิงสาวอีกสองคนที่น่าประทับใจเช่นกัน
และเมื่อทั้งสามคนเดินไปด้วยกันมันชวนมีเสน่ห์ต่อใครหลายคน...