ตอนที่แล้ว70 สวนที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี ห้องที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่เต้นรำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป72 แย่งชิงและสร้างโชค

71 ความงมงายในอดีต กลับกลายเป็นเงียบงันดั่งสายน้ำ


71 ความงมงายในอดีต กลับกลายเป็นเงียบงันดั่งสายน้ำ

 

“พ่อ ให้ผมไปส่งพ่อที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาที่นี่ดีกว่าไหมครับ? มันไม่ได้ไกลมาก แล้วยังเหลือเวลาอีกมากว่าจะเที่ยง ผมสามารถไปส่งพ่อแล้วค่อยกลับมาที่นี่ได้นะ” หวังเย้าขับรถและพูด

 

“ไม่ต้อง ฉันรู้ว่าต้องกลับบ้านยังไง เด็กสาวคนนั้นเป็นใครเหรอ?”

 

“เพื่อนร่วมชั้นของผมเองครับ” หวังเย้าอธิบาย

 

“ลูกควรจะอยู่คุยกับเธอนานๆ ไม่ต้องรีบกลับบ้านล่ะ ลูกอยู่จนดึกเลยก็ได้ พ่อจะเฝ้าแปลงสมุนไพรให้เอง” หวังเฟิงฮวาพูดอย่างจริงจัง

 

“อะไรนะครับ?” หวังเย้าตกใจ แล้วเขาก็เข้าใจความหมายที่พ่อของเขาพูด

 

“หยุดตะโกน!” หวังเฟิงฮวาจ้องเขา

 

“เข้าใจแล้วครับ” หวังเย้ารับปาก

 

หวังเย้าขับรถไปที่โรงพยาบาลหลังจากที่ส่งพ่อของเขาที่ป้ายรถบัสแล้ว เขาตั้งใจที่จะซื้อของขวัญให้กับพ่อแม่ของถงเว่ย แต่เขากลับได้รับสายจากถงเว่ยว่าเธอได้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว

 

“เธอไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่ของเธอเหรอ?” หวังเย้าถาม

 

“ไม่ต้องหรอก พี่ชายของฉันอยู่ที่นั่นแล้ว” ถงเว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“แม่ของเธออาการดีขึ้นรึยัง?”

 

“ดีขึ้นแล้ว ไม่นานก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”

 

“เยี่ยมไปเลย แล้วเราไปไหนกันดี?”

 

“ฉันเป็นคนเลี้ยง นายเลือกร้านได้เลย” ถงเว่ยพูดอย่างใจกว้าง

 

“ฉันไม่ค่อยคุ้นกับร้านอาหารในเมืองสักเท่าไหร่ เธอเป็นคนเลือกได้ไหม?”

 

“โอเค”

 

ถงเว่ยเลือกร้านที่โดดเด่นร้านหนึ่ง มันเป็นร้านที่ดูสะอาดและมีการตกแต่งที่ดี ภายในร้านมีลูกค้าอยู่หลายคนแม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลาอาหารกลางวันก็ตาม ดังนั้นร้านอาหารร้านนี้น่าจะเป็นร้านที่มีชื่อเสียง พวกเขาเลือกที่นั่งติดกับหน้าต่างและเลือกสั่งอาหารมาหลายจาน พวกเขานั่งคุยกันในระหว่างที่รออาหารมาเสริฟ

 

“เธอยังอยู่ที่เมืองเต๋ารึเปล่า?”

 

“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับบริษัทและฉันจะอยู่ที่บ้านไปก่อน ฉันคงยังไม่กลับไปเร็วๆนี้” ถงเว่ยพูด

 

“ก็ดีนะ เธอจะได้พักบ้าง”

 

“แล้วเธอล่ะ? เธอทำงานอะไรอยู่? ถึงได้มีรถหรูแบบนี้”

 

“ฉันก็ยังทำงานปลูกสมุนไพรอยู่ที่บ้านนั่นแหละ แล้วก็ซื้อรถคันใหม่”

 

“เพื่อน นายนี่ดูเหมือนว่าจะมีความลับหลายอย่างเลยนะ!” ถงเว่ยพูด

 

“ไม่มีอะไรหรอก” หวังเย้าพูด

 

“ฉันอยากจะไปเยี่ยมแปลงสมุนไพรของนายบ้าง ถ้าฉันมีเวลา จะได้ไหม?” ถงเว่ยถามอย่างสบายอารมณ์

 

“ได้สิ ฉันยินดีต้อนรับเธอเสมอ”

 

แล้วอาหารก็มาเสริฟที่โต๊ะ พวกเขาสั่งน้ำผลไม้มาสองขวด แต่ไม่ได้สั่งไวน์มา พวกเขาทานอาหารไปด้วยและพูดคุยเรื่องเก่าๆสมัยเรียนไปด้วย พวกเขาจะยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงความทรงจำที่ดีในอดีต

 

ถงเว่ยงดงามเหมือนกับดอกไม้และรอยยิ้มของเธอนั้นมีเสน่ห์มาก

 

หวังเย้านั้นแทบจะลืมตัวในเวลานั้น เธอช่างเป็นผู้หญิงที่...

 

พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับอดีตและปัจจุบัน

 

หวังเย้าเคยฝันเอาไว้ว่าอยากทำธุรกิจ เขาจะได้มีเงินเยอะๆ แต่การที่มีระบบแพทย์ปรุงยาและแปลงสมุนไพรได้เปลี่ยนแปลงเขาไป ความงมงายที่ *เคย* มีในอดีตได้หายไปและชีวิตในปัจจุบันคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง

 

ภูเขาหนึ่งลูก กระท่อมหนึ่งหลัง แปลงหนึ่งแปลง หมาหนึ่งตัวและหนังสือหลายเล่ม สงบและเงียบ ทำงานกลางวันและพักกลางคืน ฟังดูเป็นเรื่องที่ดีและนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ

 

ความคิดของหวังเย้าได้ทำให้ถงเว่ยต้องประหลาดใจ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่คนหนุ่มแบบเขาควรจะพูดแบบนี้เลย มันควรจะเป็นชายแก่สักคนที่ใช่ชีวิตอย่างที่หวังเย้าพูดไป

 

“เพื่อน นายเปลี่ยนไปมาก” เธอพูด

 

จากคำพูดของเธอ หวังเย้าก็ได้มีความคิดใหม่เกี่ยวกับตัวเธอ เธอนั้นเป็นเด็กสาวที่เข้มแข็งและมีพลัง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หวังเย้าได้เห็นเมื่อเธออยู่ที่โรงเรียน เธอนั้นโดดเด่นและมีความรู้ ดังนั้น เธอมีมาตรฐานที่สูงสำหรับคนอื่นๆและตัวเธอก็ไม่มีทางที่จะเป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งแน่นอน

 

เธอดูราวกับถูกขัดเกราจนกลายเป็นมุกเม็ดงาม เธอสมควรจะได้มีชีวิตที่ยอดเยี่ยมและมีสีสัน เธอหวังว่าจะได้อยู่ในเมืองหลวงและเมื่อเธอรู้สึกเหนื่อยล้า เธอก็จะกลับมาที่บ้านนอก

 

มันดูเป็นความคิดที่ย้อนแย้ง

 

พวกเขาพูดคุยไปเรื่อยๆ พวกเขาดูคล้ายกับคนรักที่อยู่ห่างไกลกัน แต่ถึงอย่างไรงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา เมื่อคุณมีความสุขเวลาก็มักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

“ตอนกลางวันเธอยุ่งไหม?” หวังเย้าถาม

 

“ไม่ยุ่ง” ถงเว่ยคิดว่าเขาน่าจะชวนเธอไปเดต และเธอก็ดีใจ

 

“งั้น ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านหรือโรงพยาบาลดี?” หวังเย้าทำให้ถงเว่ยต้องประหลาดใจ

 

ดูเหมือนเขาจะไม่ทำตามขั้นตอน?

 

เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาหมายความแบบนั้นจริงๆ เธอก็ยิ้มและพูด “โรงพยาบาล”

 

“โอเค ฉันจะไปส่งเธอที่นั่น”

 

หวังเย้าต้องการจะเป็นคนเลี้ยงเธอ แต่ถงเว่ยไม่เห็นด้วยกับเขา เขาจึงแค่ขับไปส่งเธอที่โรงพยาบาล เขายังอยากที่จะไปดูอาการให้แม่ของเธอ แต่เขาคิดว่าครอบครัวของเธอคงจะไม่ชอบถ้าเขาทำ ดังนั้นเขาจึงไม่ไป

 

ถงเว่ยมองรถที่ขับออกไป

 

ฉันไม่มีเสน่ห์มากพอหรือเป็นเพราะเขาไม่ได้มีความรู้สึกกับฉันกันนะ?

 

เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเสียความมั่นใจ

 

หวังเย้าจอดรถและขึ้นไปบนเนินเขาทันทีที่ถึงบ้าน

 

“ทำไมลูกถึงกลับมาแล้วล่ะ?” แม่ถามเขาเมื่อเขาขึ้นมาบนเนินเขา เธอดูไม่ค่อยพอใจ

 

“แล้วผมควรจะไปที่ไหนล่ะครับถ้าไม่ใช่ที่นี่?” หวังเย้างุนงง

 

“แล้วเด็กสาวคนนั้นล่ะ?”

 

“ใครครับ?”

 

“เลิกตีมึนได้แล้ว พ่อบอกแม่ว่าเพื่อนร่วมชั้นของลูกพาลูกไปเลี้ยงข้าว แล้วเธอก็สวยและดูดีมาก”

 

“แม่ของเธอรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และเธอก็ต้องกลับไปดูแม่ของเธอในตอนกลางวัน”

 

“แล้วทำไมลูกไม่อยู่เป็นเพื่อนเธอล่ะ?”

 

“แล้วทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเธอมาทานข้าวที่บ้านของเรา”

 

“ไม่ครับ ทำไมผมต้องชวนเธอมาบ้านด้วย? เราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นธรรมดากันเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเลย!”

 

“เพื่อนร่วมชั้นธรรมดาๆ? แล้วทำไมเธอถึงเลี้ยงข้าวลูก?” จางซิวหยิงถาม

 

“ผมเคยช่วยเธอไว้”

 

“แล้วทำไมเธอไม่ชวนคนอื่นด้วย แต่ชวนแค่ลูกคนเดียว?” จางซิวหยิงถามต่อ

 

“ผมบังเอิญเจอเธอ!”

 

“บังเอิญ? แค่บังเอิญ? ลูกโง่รึเปล่า? เธอจะต้องคิดอะไรกับลูก แต่ลูกไม่รู้เรื่องอะไรเลย หรือลูกชอบคนอื่นอยู่?” จางซิวหยิงถาม

 

“ไม่ครับ”

 

“ลูกจะบวชเป็นพระงั้นเหรอ?” จางซิวหยิงเบิกตากว้าง เมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เลวร้ายที่สุด “ไม่ดีแล้ว ฉันจะต้องเผาหนังสือพวกนั้นให้หมด!” เธอเข้าไปในกระท่อม

 

“แม่ แม่!” หวังเย้ารีบคว้าตัวเธอเอาไว้ “ผมไม่ได้จะเป็นพระ!”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด