บทที่ 43 กฎเกณฑ์ และ ความสามารถ
บทที่ 43
กฎเกณฑ์ และ ความสามารถ
ดวงตาของเขาเบิกโตขึ้น แต่โล่ไคก็ไม่สามารถตอบโต้การโจมตีได้
ฟึ่บบ!
ดาบไม้ปรากฏขึ้นและจ่อแทงไปที่หน้าอกของโล่ไคเลือดสดทะลักพุ่งออกมา
“อะไรเนี่ย…ดาบเล่มนี้มันความเคลื่อนไหวอย่างไรโล่ไคไม่สามารถโต้ตอบมันได้ทันเวลาจริงเหรอ?”
“ดาบเคลื่อนไหวอย่างร้ายกาจ ผู้มาใหม่ผู้นี้น่ากลัวนัก”
ฝูงชนต่างงงงัน พวกเขาคาดหวังว่าโล่ไคจะชนะหลี่ฟูเฉิน แต่ก็ไม่ได้คาดหวังถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
“แต่…มันจะเป็นไปได้อย่างไร?” โล่ไคมองหลี่ฟูเฉินอย่างไม่เชื่อ
“นับว่าเจ้าโชคดี ข้าไม่อยากมีปัญหาใดๆ ข้าเพิ่งเข้านิกายเมื่อเดือนที่แล้ว หากไม่ใช่ในกรณีนี้ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ”
หลักการของหลี่ฟู่เฉินคือการไม่เริ่มต้นปัญหา แต่ก็ไม่เกรงกลัวพวกเขาเช่นกัน
“เจ้าทำมันได้ยังไง” โล่ไคถามด้วยเสียงเบา ๆ
"มันก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า "
หลี่ฟู่เฉินดึงดาบไม้ของเขาออกจากหน้าอกของโล่ไค แล้วเดินเลี้ยวไปทางซ้าย
***
การพ่ายแพ้ต่อหลี่ฟูเฉิน ทำให้โล่ไคไร้เกียรติที่จะอยู่ต่อที่นั่นและออกเดินทางในวันเดียวกัน หลี่ฟูเฉินครุ่นคิดก่อนที่จะตัดสินใจออกจากอ่าวประมงด้วยเช่นกัน
ด้วยคำพูดที่ว่า'อย่าพัฒนาความมุ่งร้าย แต่จงระวังตัวจากผู้ที่มาโจมตี'
หลี่ฟู่เฉินเป็นห่วงว่าโล่ไคอาจเผยแพร่เรื่องของเขา
เนื่องจากเป็นเรื่องยากสำหรับสาวกนิกายชั้นนอกที่จะได้รับแต้มสะสมหากมีคนรู้ว่าเขามีปลาขุมทรัพย์มูลค่ากว่า10,000แต้มพวกเขาจะรีบไปที่นี่เพื่อบังคับเอามาจากเขาเป็นแน่
ด้วยจุดแข็งของหลี่ฟู่เฉินปัจจุบันเขายังไม่ได้ถูกจัดอันดับ ผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกที่น่ายำเกรงอาจบดขยี้เขาได้ง่าย
หลี่ฟูเฉินมาที่นี่ด้วยมือเปล่าและกลับมาพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยปลาขุมทรัพย์
ภายในตะกร้ามีปลาขุมทรัพย์ปกติประมาณ100 ~ 200กิโลกรัม ปลาขุมทรัพย์ชั้นที่หนึ่งหลายสิบกิโลกรัมและปลาขุมทรัพย์ชั้นที่สองมากกว่า10กิโลกรัม
พวกมันจะมีมูลค่ามากกว่า10,000แต้มสะสมหลังจากแลกแล้ว
นี่เป็นจำนวนมหาศาล สำหรับผู้อาวุโสชั้นนอกที่จะได้รับ 10,000แต้มสะสมซึ่งจะต้องใช้เวลานานมาก ด้วยคะแนน 10,000แต้ม ผู้นั้นสามารถแลกเปลี่ยนเป็นวิชายุทธ์ระดับลี้ลับได้
หลี่ฟู่เฉินแบกปลาขุมทรัพย์ที่มากเกือบ200กิโลกรัมทำให้ความเร็วในการเดินทางของ หลี่ฟู่เฉินลดลงเล็กน้อย เขาใช้เวลา 5วันเพื่อกลับไปที่นิกายคังเหลียน
เขาออกนอกเส้นทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาแย่งชิงรางวัลของเขาระหว่างทาง
“ดูสิ เขากลับมาแล้วตะกร้าบนหลังของเขาจะต้องเต็มไปด้วยปลาขุมทรัพย์!”
“พี่โล่พูดถูก ชายผู้นี้มีพรสวรรค์ในการตกปลาที่ไม่ธรรมดา เขาใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนในการหาปลาได้ถึง200กิโลกรัม ในนั้นมีปลาชั้นหนึ่งและปลาชั้นสองด้วย”
“พวกเจ้าคิดว่ามันแปลกหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ ทำไมเขากลับมาเร็วขนาดนี้? ข้าได้ยินว่าศิษย์อาวุโสหลายคนออกเดินทางจากนิกายเพื่อสกัดกั้นเขา”
“หากเขารอบคอบเช่นนี้ ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่เป้าง่าย ๆ ซะแล้ว”
ศิษย์นิกายชั้นนอกหลายคนปลุกระดมความโกลาหลเมื่อหลี่ฟู่เฉินก้าวเข้าสู่เขตนิกายชั้นนอกหลายคนแสดงสีหน้าหน้าอิจฉาริษยา
“ข้าคิดไว้แล้วเชียว…” ท่าทีของหลี่ฟู่เฉินเยือกเยือกเย็นราวน้ำแข็ง เขาประเมินค่าโล่ไคมากเกินไป
ถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ป่านนี้ปลาในตะกร้าคงถูกขโมยไปนานแล้ว
“โล่ไคข้าจะจารึกหนี้นี้ไว้ว่าเจ้าติดหนี้ข้า” หลี่ฟูเฉินขึ้นบัญชีดำกับการที่โล่ไคสร้างความโกลาหลนี้ หลี่ฟู่เฉินรีบไปที่ห้องโถง
“มอบตะกร้าปลาให้ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” มีผู้ที่เข้ามาขวางทางหลี่ฟู่เฉินกล่าว
“เขาคือโจวเหวยหลง หลี่ฟู่เฉินช่างงโชคร้าย โจวเป็นผู้อาวุโสเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในขอบเขตพลังลมปราณขั้นที่เก้า”
สาวกนิกายชั้นนอกทั้งหมดคึกคักด้วยความตื่นเต้น ต่างกระซิบกระซาบกัน
ในหมู่พวกเขามีผู้คนมากมายที่ชื่นชมยินดีในความโชคร้ายของหลี่ฟู่เฉินนั่นเป็นเพราะหลี่ฟู่เฉินเป็นเพียงผู้เล่นหน้าใหม่ที่ได้รับ 10,000 แต้มสะสมในคราวเดียวและสิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่มีความสุขมาก
เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหาวิธีที่จะได้รับแต้มสะสมจำนวนมากเช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่ต้องการให้หลี่ฟู่เฉินได้รับเช่นกัน
“เขาคือหลี่ฟู่เฉิน” ในบรรดาฝูงชนมี จือฮงซั่ว, เหอปิง, เฉินตูจิว และกวนเผิ้ง
“คนที่ได้รับปลาขุมทรัพย์นั้นคือเขาจริงๆเหรอ?” เฉินตูจิวเลิกคิ้วขึ้นและรู้สึกไม่มั่นใจ
กวนเผิ้งเย้ยหยัน“โจวเหวยหลงผู้อาวุโสขอบเขตพลังลมปราณขั้นที่เก้าปลาของหลี่ฟู่เฉินไม่รอดแน่”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น” เฉินตูจิวพยักหน้ารับ
"หนุ่มคนนี้เป็นจุดสนใจเสมอไม่ว่าเขาจะขยับไปทางไหน!" จือฮงซิ่วซีส่ายศีรษะเป็นกังวลเรื่องหลี่ฟูเฉิน
หลี่ฟู่เฉินคาดเดาโจวเหวยหลง, และกล่าวว่า “พวกเราต่างอยู่ในสำนักนิกายคังเหลียนเจ้าพยายามจะทำอะไร?”
"ข้าจะพูดซ้ำอีกครั้ง ส่งตะกร้ามา" โจวเหวยหลงมองหลี่ฟูเฉินด้วยหางตาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
"เป็นไปไม่ได้หรอก!" หลี่ฟู่เฉินปฏิเสธทันทีทันใด
"เจ้ารนหาที่ตาย"โจวเหวยหลงยกมือขวาขึ้น ลูกบอลลมปราณสีดำล้อมรอบฝ่ามือของเขา
การสำแดงพลังลมปราณ ในฐานะผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตพลังลมปราณขั้นที่เก้า โจวเหวยหลงสามารถปลดปล่อยพลังลมปราณและพลังทำลายล้างมันไม่ใช่สิ่งที่จอมวายร้ายอย่างโล่ไค สามารถเปรียบเทียบได้
เสียงอากาศโดยเสียดในขณะที่โจวเหวยหลงส่งหมัดพุ่งไปที่หลี่ฟูเฉิน
โจวเหวยหลงรวดเร็วมาก หลี่ฟูเฉินมองเห็นได้จากในใจ แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงทางกายได้ เขาทำได้แค่เพียงยกแขนไขว้ป้องกัน
ราวกับว่าโดนกระแทกด้วยเสาโลหะ แขนซ้ายของหลี่ฟูเฉินบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาดเนื่องจากกระดูกข้างในหักจากพลังคลื่นลมปราณที่ขยายออกไปสู่ร่างกายของหลี่ฟูเฉิน ทำให้เขากระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก
หลี่ฟูเฉินได้รับบาดเจ็บเพียงหมัดชกเดียว
"หากว่านี่ไม่ใช่นิกายคังเหลียน ข้าจะสังหารเจ้าจนตายและเอาร่างกายของเจ้าให้สุนัขกิน"โจวเหวยหลงดูถูกหลี่ฟูเฉินซ้ำ
หลี่ฟูเฉินดิ้นรนที่จะปีนกลับขึ้นมาจากพื้น“เขาได้แต่พึมพำ ครั้งนี้ข้าจะจดจำมันด้วยหัวใจดวงนี้ของข้า”
“ทำไม เจ้าต้องการแก้แค้นข้าเหรอ ดูซะ ข้าจะทำลายเข้า” โจวเหวยหลงโกรธแค้นและปลดปล่อยประจุอีกครั้ง
"อะไรกัน!
เสียงคำรามยาวดังก้องสะท้อนอากาศ
“ท่านอาวุโสเฉิน” ทุกคนมองไปหาเสียงที่มาและคำนับด้วยความเคารพ
เขาคือผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกเฉินจงหมิง เขาเดินอย่างไม่เร่งรีบและมองไปทั้งหลี่ฟู่เฉินและโจวเหวยหลง จากนั้นก็ตะโกนขึ้นว่า “โจวเหวยหลง เจ้าจงยึดถือกฎว่านี่ไม่ใช่บ้านของเจ้า”
"ผู้อาวุโสเฉิน ศิษย์รุ่นน้องพูดจาหยาบคายและข้าแค่จัดแจงเขาให้เข้าที่เพียงเท่านั้น"
โจวเหวยหลงไม่เกรงกลัวเฉินจงหมิง แต่ก็ไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคืองเช่นกัน
"บทเรียนที่สอนไปแล้ว หรือตอนนี้เจ้าต้องการไปที่หอบังคับคดี?"
“ได้ ข้าจะจากไปเดี๋ยวนี้” ก่อนออกเดินทางโจวเหวยหลง ฉายประกายแสงจ้าชั่วร้ายไปที่หลี่ฟู่เฉิน
“แยกย้ายกันได้แล้ว!” เฉินจงหมิงโบกไม้โบกมือ
เมื่อทุกคนกระจัดกระจายกันออกไป เฉินจงมิงกล่าวกับหลี่ฟู่เฉินว่า “นี่คือวิธีของนิกาย แม้ว่าจะมีกฏเกณฑ์อยู่ แต่ความสำคัญคือความสามารถมาเป็นหลัก เจ้าจงฝึกให้หนัก!” เขาตบไหล่ของหลี่ฟู่เฉิน และหมุนตัวออกไปทางซ้าย
“ท่านอาวุโสเฉิน ข้าขอบคุณมากขอรับ”
หลี่ฟูเฉินรู้สึกขอบคุณเฉินจงหมิง แม้ว่าจะเป็นเพียงภาระหน้าที่ของเขาก็ตาม หลี่ฟู่เฉินทำเครื่องหมายลงในความโปรดปรานนี้และวางแผนที่จะตอบแทนเขาเป็นสิบเท่าสำหรับหนี้นี้ที่เขาเป็นหนี้
ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บหลี่ฟู่เฉินเดินโซเซไปที่ห้องโถงงาน
ฮู่!
หลี่ฟู่เฉินปลดปล่อยลมลมหายใจ “ปัจจุบันข้าอ่อนแอเกินไปหากข้าไม่ต้องการถูกละลาน ข้าต้องเข้มแข็งกว่านี้ แต้มสะสมเหล่านี้จะช่วยให้ข้าบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น”
ก่อนที่จะมาที่นิกายคังเหลียน เขาคิดว่ากฎของนิกายนั้นเข้มงวด แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เขาเข้าใจว่ากฎนั้นไม่น่าเชื่อถือ เขาต้องพึ่งพาความสามารถของเขาเองเท่านั้น
"ข้าต้องการกลับไปทำงาน"
หลี่ฟู่เฉินวางตะกร้าปลาบโต๊ะรับงาน
ทันใดนั้นผู้อาวุโสของงานก็ตกตะลึงเมื่อเขามองเข้าไปในตะกร้า
“ปลาขุมทรัพย์ทั้งหมดเป็นของเจ้าเหรอ?” ผู้อาวุโสงานสอบถาม
หลี่ฟู่เฉินตอบว่า "ท่านผู้อาวุโส มีอะไรหรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่อยากรู้อยากเห็น" ผู้อาวุโสงานเริ่มชั่งน้ำหนักปลา
....