ตอนที่แล้วตอนที่ 22 - สิ่งมีชีวิตลึกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 - คำโกหกที่ปรารถนาดี

ตอนที่ 23 - ทรายทองคำ


ตอนที่ 23 ทรายทองคำ

-------------------------

ตอนที่ 23 ทรายทองคำ

เฉินโจวอี้เช็ดน้ำลายบนใบหน้าของเขา เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนร้ายชั่วร้าย

แต่เขากลับไม่คิดที่จะปล่อยเธอไป

เขาจับมันด้วยความสามารถของตัวเอง แล้วทำไมเขาต้องปล่อยมันไปด้วยล่ะ?

เขาวางเด็กหญิงเปลือกหอยไว้ที่พื้น ใช้ปลายอีกด้านของเชือกป่านผูกติดกับหญ้า

จากนั้นเขาก็หยิบท่อนไม้ขึ้นมา เตรียมฝึกวิชาดาบ

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนกับการฝึกที่โลกมนุษย์

ภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกนี้ เขารู้สึกว่าทุกครั้งที่ตัวเองออกแรงมันกัลป์เชื่องช้าและหนักขึ้น กล้ามเนื้อของเขาแข็งทื่อเหมือนกับเครื่องจักรขึ้นสนิม ค่อนข้างใช้แรงเยอะ ดูเหมือนว่าเขาจะย้อนกลับไปยังวันที่เขาฝึกวิชาดาบช่วงแรกๆ มันไม่ชำนาญและราบรื่นเหมือนตอนที่อยู่โลกมนุษย์อีกต่อไป

และทุกครั้งที่ฝึกไปแค่ไม่กี่นาที กล้ามเนื้อของเขาก็เริ่มปวดเมื่อย ดูเหมือนว่าร่างกายจะเป็นอัมพาต จนทำให้เขาต้องพักสักครู่

อย่างไรก็ตามยิ่งสภาพแวดล้อมโหดร้ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผลของการฝึกมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เขารู้สึกว่าถ้าหากตัวเขาเองสามารถอยู่ที่โลกที่แตกต่างได้ เขาก็จะสามารถฝึกได้จนถึงขั้นรับส่งตามใจต้องการ ระดับทักษะวิชาดาบของเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกขั้น

....

ในช่วงเวลานั้น เด็กหญิงเปลือกหอยใช้โอกาสช่วงที่เฉินโจวอี้ไม่สนใจ เธอพยายามที่จะหลบหนี

เธอพยายามที่จะแกะเชือกที่ข้อเท้าของเธอ น่าเสียดายที่เชือกมัดเงื่อนตาย บวกกับแรงอันอ่อนแอของเธออีก เธอพยายามแกะเป็นชาติก็ยังไงก็แกะไม่ออก

จากนั้นเธอก็เริ่มทุบหญ้าเล็กๆ ต้นนั้น

พูดถึงหญ้าต้นเล็ก นั่นมันก็แค่สำหรับเฉินโจวอี้เท่านั้น แต่สำหรับเด็กหญิงเปลือกหอยแล้วมันใหญ่กว่าต้นขาของเธอเสียอีก

ไม่ว่าจะออกแรงดึงสักเท่าไร หรือว่าสุดท้ายจะใช้ปากกัดเท่าไร จนกระทั่งหมดแรงแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำให้หญ้าขาดออกจากกันได้

ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ สายลมพัดโชยผมบางๆ ของเธอพลิ้วไหวเบาๆ เธอนั่งลงบนพื้นอย่างไร้อำนาจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังและตายด้าน บางทีอาจเป็นเพราะกำลังคิดถึงอนาคตที่มืดมนของเธออยู่ น้ำตาไหลอาบแก้มของเธอช้าๆ มันช่างน่าสมเพชและน่าสงสารยิ่งนัก

สักพักเธอก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อย เธอจึงบินไปยังดอกไม้ใกล้ๆ เพื่อกินน้ำหวาน แล้วกลับมานั่งยอมรับชะตากรรมของตัวเองต่อ

....

เวลาดำเนินไปอย่างช้าๆ ดวงอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนไปยังทิศตะวันตก เฉินโจวอี้เริ่มรู้สึกว่าท้องหิวแล้ว ในที่สุดเขาก็หยุดฝึก เขาพบว่าตัวเองผิดพลาดเสียแล้ว รู้งี้น่าจะเอาอาหารติดเข้ามาสักหน่อย

จากนั้นเขาหันกลับมามอง พบว่าในมือของเด็กหญิงเปลือกหอยจับก้อนกรวดอยู่ เธอโยนขึ้นโยนลง ดูเหมือนว่ากำลังเล่นสนุกอยู่

ในตอนแรกเฉินโจวอี้ยังไม่ทันได้สังเกต จนกระทั่งแสงสีทองส่องผ่านดวงตาของเขา เขาก็พบว่ามันดูผิดปกติ

เขาเดินเข้าไป ทำให้เด็กหญิงเปลือกหอยตกใจจนโยนก้อนกรวดทิ้ง แล้วรีบถอยหนี

แต่ว่าเป้าหมายของเฉินโจวอี้กลับไม่ใช่เธอ แต่เป็นก้อนกรวดที่เธอพึ่งจะโยนทิ้งไปเมื่อกี้

เขาหยิบขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ก้อนกรวดมีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดงาเล็กน้อย แต่มันกลับส่องแสงสีทองแวววาว

สีที่ดึงดูดความสนใจคนเช่นนี้ ทำให้เขาใจเต้นแรง

" ทองนี่นา ! " เฉินโจวอี้อุทานออกมา

ที่ไหนได้มีทองคำอยู่บนเกาะ!

เขารีบสำรวจพื้นทรายอย่างละเอียด แต่กลับไม่พบอะไรเลย

" เธอเจอมันที่ไหน ? "

" @¥#%&;@ " เด็กหญิงเปลือกหอยส่ายหัวของเธออย่างหมดหวัง น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอพูดภาษาแปลกๆ ด้วยเสียงที่เหมือนแมลงวัน

มองดูท่าทีของเธอ เห็นได้ชัดว่าตอบไม่ตรงคำถาม

เฉินโจวอี้อดกลั้น เขาใช้นิ้วมือชี้ไปที่ก้อนกรวด แล้วชี้มาที่ตัวเอง จากนั้นทำท่าทางบางอย่าง

เขาอดทนพยายามสื่อสารซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง แต่เด็กหญิงเปลือกหอยยังดูไม่เข้าใจเขา

เฉินโจวอี้คิดไปสักพัก เขาคิดว่าจะต้องทำท่าทางที่ทั้งสองโลกนี้สามารถเข้าใจได้ง่าย

เขาคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่สักพัก ทันใดนั้นเขาก็คิดออก

วินาทีต่อมา เขาอ้าปากแล้วเอาทรายสีทองวางใส่ลงไปในปาก ก่อนจะเคี้ยวอยู่สองสามครั้งแล้วกลืนลงไป แต่ในความเป็นจริงแล้วทรายสีทองยังคีบอยู่ในซอกมือของเขา

จากนั้นเขามองไปยังเด็กหญิงเปลือกหอย ทำสีหน้าเคร่งขรึม พลางเลียริมฝีปาก

ปากของเขาสำหรับเด็กหญิงเปลือกหอยแล้ว ไม่ต่างอะไรจากอ่างเลือดขนาดใหญ่ เป็นไปตามคาด เธอดูตกใจกลัวเป็นอย่างมาก เธอพยายามถอยหนีอย่างสุดชีวิต ใบหน้าของเธอขาวซีด

ในไม่ช้า ดูเหมือนเธอจะนึกอะไรออก เธอมองซ้ายทีขวาที ทันใดนั้นเธอก็บินขึ้น

หลังจากบินไปได้สองสามเมตรเธอก็ค่อยๆ บินต่ำลงมาที่พื้น เขาไม่เห็นว่าเธอหามันเจอได้อย่างไร ในไม่ช้าก้อนกรวดก้อนหนึ่งก็ถูกเธอจับไว้ในมือ จากนั้นเธอก็บินกลับมาอย่างรวดเร็ว และวางมันลงบนฝ่ามือของเฉินโจวอี้แต่โดยดี

เขามองอย่างมีความสุข ที่นี่มีอยู่ไม่น้อยเลย

แต่บนใบหน้าของเขายังคงไม่แสดงออกอะไร เขายังคงเอามันใส่ลงไปในปากเรื่อยๆ แล้วจ้องเขม็งไปที่เด็กหญิงเปลือกหอย

เด็กหญิงเปลือกหอยผู้น่าสงสารยังไม่ทันได้สูดลมหายใจดี ก็ต้องรีบบินไปบินมาอย่างรวดเร็วเพื่อหาก้อนกรวดสีทองตรงพื้นที่โดยรอบ

เฉินโจวอี้มองไปสักพัก เขาเกิดความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาพบว่าเด็กหญิงเปลือกหอยดูเหมือนจะมีสัญชาตญาณที่เฉียบแหลม เธอทำได้แม้กระทั่งสามารถพบเม็ดทรายสีทองฝังอยู่ในทรายได้อย่างแม่นยำ

เขาเห็นเด็กหญิงเปลือกหอยขุดผิวทรายอยู่หลายครั้ง ก่อนจะนำทรายทองคำออกมา

หลักจากผ่านไปสักพัก จำนวนทรายทองคำในมือของเฉินโจวอี้จากสองเพิ่มมาเป็นสิบแปดเม็ด เม็ดที่เล็กมีขนาดเพียงปลายเข็มเท่านั้น ส่วนเม็ดใหญ่มีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว

แต่พอเห็นเด็กหญิงเปลือกหอยบินไม่ขึ้น นั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง เหงื่อท่วมตัว

มองเธอที่มีท่าทีเหนื่อยล้า เฉินโจวอี้รู้สึกละอายใจขึ้นมา จึงไม่ได้บีบบังคับเธออีก

ท้องก็เริ่มหิวขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจจะออกไปกินข้าวข้างนอก

เขาเหลียวมองไปที่เด็กหญิงเปลือกหอย หลังจากลังเลไปสักพัก ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจให้เธออยู่ที่นี่

เขาวางเปลือกหอยอันที่เธอใช้ซ่อนตัวไว้ที่ข้างกายเธอ ถ้ามีการปกป้องจากเปลือกหอยนี้อยู่ เชื่อว่าเธอไม่น่าจะได้รับอันตรายใดๆ อย่างน้อยๆ เลยเวลาที่มีแมลงมา เธอก็สามารถหลบซ่อนตัวอยู่ในนี้ได้

....

ในไม่ช้า เขาก็แสร้งทำสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินออกจากตึกร้างนี้ไป

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

ไม่นานเขาก็พบชุดข้อความ จึงเปิดดู

เขาดูไปสักพัก พบว่าข้อความทั้งหมดเป็นของจางเซียวเยว่

" น่าเบื่อจังเลย ! "

" นายทำอะไรอยู่ "

....

" วันนี้ฉันกินอาหารที่พ่อฉันทำ แทบจะกินไม่ได้แหน่ะ! "

ทันใดนั้นใบหน้าของเฉินโจวอี้ก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา เขารีบตอบกลับข้อความทันที: " ขอโทษทีนะ เพิ่งฝึกศิลปะการต่อสู้เสร็จ เพิ่งเห็นข้อความ เธอทำอะไรอยู่เหรอ ? "

ไม่นาน ก็มีข้อความตอบกลับมา

" กำลังงีบตอนกลางวันอยู่ นายก็ปลุกฉันพอดี น่าเกลียด! " จางเซียวเยว่นอนอยู่บนเตียง ถือโทรศัพท์มือถือ เธอพิมพ์ข้อความลงไปอย่างรวดเร็ว

พูดไปแล้ว เธอรู้จักเฉินโจวอี้อย่างจริงจังก็ตอนเมื่อขึ้น ม.6 ในเดือนนี้นี่แหละ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอไม่เคยประทับใจอะไรในตัวเขาเลย

นั่นเป็นเพราะเมื่อก่อนเขาเป็นผู้ชายที่มักจะถูกเพิกเฉยได้ง่าย ไม่มีความรู้สึกของการมีตัวตนอยู่ในห้องเลย

จนกระทั่งวันหนึ่ง จู่ๆ เขาก็ได้แสดงท่าแทงดาบในคาบเรียนวิชาศิลปะการต่อสู้ จนทำให้ทุกคนประหลาดใจ เธอถึงจะค่อยๆ ให้ความสนใจผู้ชายคนนี้

และต่อมาเรื่องที่ทั้งสองคนได้พบกับคนเถื่อนในร้านหนังสือ เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ แล้วปกป้องเธอให้เบียดออกมาจากฝูงชนได้ด้วยใบหน้าที่สงบเยือกเย็น ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ราวกับมีแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดเธอได้

....

" ต้องเป็นเพราะท่านอนหลับของเธอไม่ถูกต้องแน่ๆ! " เฉินโจวอี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

" งั้นนายลองพูดมาสิ ว่าตอนนอนต้องนอนท่าไหน? "

เฉินโจวอี้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสโลแกนในอินเทอร์เน็ตที่ว่า " ท่าทางมีมากมายยิ่งนัก มีมากเสียกว่าสามสิบหกกระบวนท่าเพิ่มสมรรถภาพทางกายเสียอีก "

จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง จึงรีบลบข้อความอย่างรวดเร็ว เพิ่งจะลบไปได้ไม่นาน อีกฝ่ายก็ตอบกลับมา

" นายนี่เสื่อมจริงๆ คิดไม่ถึงเลยนะนายจะไม่ใช่คนซื่อแบบนี้ "

เฉินโจวอี้ตกใจ เขารีบส่งสติกเกอร์เหงื่อท่วมตัวกลับไปในทันที

เขาพบร้านขายหม่าล่าทางร้านหนึ่ง หลังจากที่สั่งอาหารแล้วเขาจึงส่งข้อความต่อ " เธอพูดอะไรเหรอ? ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย! "

เฉินโจวอี้กินหม่าล่าทางไปด้วย พลางตอบกลับข้อความด้วยรอยยิ้มไปด้วย ในช่วงเวลาหนึ่งมื้อนี้ ข้อความถูกส่งไปหลายสิบข้อความแล้ว เขารู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างมีเรื่องให้พูดคุยกันไม่จบไม่สิ้น

สุดท้ายแล้ว เขาก็พยายามสิ้นสุดหัวข้อสนทนาด้วยข้อความที่ว่า " ฉันต้องไปฝึกวิชาดาบแล้ว อีกพักหนึ่งค่อยคุยกันใหม่นะ! "

" อืม นายต้องสู้ๆ นะ! "

เฉินโจวอี้เห็นข้อความแล้วจึงรีบปิดโทรศัพท์มือถือ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกมีพลังเต็มเปี่ยม

....

กลับมาที่ในอุโมงค์มิติ

เด็กหญิงเปลือกหอยนั่งอยู่บนเปลือกหอย เธอแกว่งเท้าของเธอไปมาอย่างนุ่มนวล พอเห็นมนุษย์ยักษ์ตัวใหญ่กลับมาอีกครั้ง

เธอก็รีบกลับเข้าไปในเปลือกหอยอีกครั้ง

เฉินโจวอี้เหลียวมองไปแวบหนึ่ง พบว่าที่ด้านข้างเปลือกหอย มีทรายทองคำเพิ่มขึ้นมาอีกเจ็ดแปดเม็ด สีทองอร่ามช่างเย้ายวนใจผู้คนเหลือเกิน เห็นได้ชัดว่ามันถูกรวบรวมไว้เมื่อตอนที่เขาออกไป

คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กหญิงเปลือกหอยจะมีความใส่ใจแบบนี้ด้วย

เฉินโจวอี้คิดว่าดูแล้วต่อไปนี้คงต้องดีกับเธอให้มากขึ้น นี่มันไก่ที่วางไข่ทองคำเลยนะเนี่ย !

เขาอารมณ์ดีมาก จึงเดินลาดตะเวนสำรวจรอบๆ เกาะ เป็นการย่อยอาหารไปในตัว

จากนั้นเขาก็ฝึกฝนวิชาดาบต่อไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ค่ำคืนอันมืดมิดของโลกที่แตกต่างค่อยๆ คืบคลานเข้ามา

ไม่มีทั้งแสงจันทร์ และไม่มีแม้กระทั่งแสงดาว

โลกมนุษย์จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าสุดท้ายแล้วโลกที่แตกต่างเป็นโลกแบบไหนกันแน่ มันดูเหมือนไม่อยู่ในระบบจักรวาลปกติ

นอกจาก " ดวงอาทิตย์ " ที่ดูเหมือนจะยังเป็นปกติแล้ว นอกนั้นไม่เห็นระบบดาราศาสตร์อื่นๆ อีกเลย

แต่ที่นี่ไม่ใช่ไม่มีแสงสว่างเลย

เฉินโจวอี้มองไปยังมหาสมุทร บางครั้งมีการเรืองแสนนับไม่ถ้วนมาบรรจบกัน บางครั้งก็กระจายตัวออกไป ราวกับริบบิ้น ราวกับแสงออร่า ดูสวยงามและน่าตื่นเต้น ในขณะเดียวกันก็ดูน่าตกใจและลึกลับ

แม้กระทั่งบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ ยังมีแสงสว่างเหมือนดวงดาวค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น ผสมกับหมอกเป็นสาย ให้ความรู้สึกเหมือนสีที่เป็นมนต์ขลัง

ในเวลานี้เขาได้ยินเสียงคนร้องเพลงอยู่รางๆ น้ำเสียงดูเศร้าสร้อย ราวกับว่าแว่วมาจากมหาสมุทรที่อยู่ห่างไกล ทำให้คนอดที่จะหยุดฟังไม่ได้

เฉินโจวอี้กลับฟังแล้วให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก เวลายามค่ำคืนของโลกที่แตกต่างเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก มันเป็นโลกของภูตผีปีศาจ ข้อมูลมากมายนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับโลกที่แตกต่างได้กล่าวถึงเรื่องราวเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เขามองไปที่เด็กหญิงเปลือกหอย กลับพบว่าเธอซ่อนตัวอยู่ในเปลือกหอยแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด