ตอนที่แล้วGE169 การทดสอบถึงตายของราชาแคว้นจิน [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE171 ปีกวายุอัสนี แก่นปราณเยือกแข็ง [ฟรี]

GE170 ผู้เยาว์ที่น่าสะพรึงกลัวในอนาคต [ฟรี]


ดาราเทพ!

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ราชาแคว้นจินได้เห็นดาราเทพ หนิงฝานต้องมีเส้นลมปราณเทพ เพราะมีเพียงเส้นลมปราณเทพเท่านั้นที่สร้างดาราเทพได้!

และสิ่งที่ไม่เชื่อสายตา คือดาราเทพนั้น เป็นดาราอัสนี! ที่สามารถควบคุมอัสนีได้

ราชาแคว้นจินสั่นสะท้าน สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่เปลี่ยนใหญ่หลวง

“สร้างดาราอัสนีเทพได้… เพียงดาราเทพนี้ เจ้าก็มีค่าพอให้ข้าไว้ชีวิตแล้ว...” ราชาแคว้นจินยังคงท่าทีของความเป็นราชา

แต่หนิงฝานเย้ยหยัน

“ข้าไม่ได้มีความสามารถแค่นี้...”

อัสนีขนาดยักษ์ ฟาดผ่าจากท้องนภาลงสู่ร่างราชาแคว้นจิน!

สีหน้าราชาแคว้นจินมืดมน มันคาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณจะกล้าเพิกเฉยต่อคำสั่งของมัน

อัสนีสายยักษ์ฟาดผ่าเข้าใส่ราชาแคว้นจิน อัสนีถ่ายเข้าสู่ร่าง กลิ่นอายของมันปั่นป่วนเล็กน้อย ปราณในร่างที่รวบรวมไว้สลายไป

หากเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น พวกมันไม่สามารถทำลายอัสนีของหนิงฝานได้ แต่ราชาแคว้นจินคือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง ความแข็งแกร่งย่อมต่างกันราวกับพิภพสวรรค์

แต่ทันทีที่ราชาแคว้นจินทำลายอัสนีหนิงฝานได้ สีหน้าของมันกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง หนิงฝานใช้ย่างก้าวพริบตาเข้าประชิด ชกหมัดทะลายน้ำแข็งเข้าใส่มันเต็มแรง

“หมัดทะลายน้ำแข็ง!”

“ฮึ่ม!”

หมัดทะลายน้ำแข็งผสานกับอัสนี ราชาแคว้นจินไม่มีเวลาเตรียมตัว จึงถูกหมัดเข้าอย่างจัง ผลักร่างกระเด็นไปถึง 100 จ้าง ปราณและโลหิตภายในร่างผันผวน แต่สีหน้ากลับเรียบเฉยรายกลับไม่ได้บาดเจ็บ

ร่างกายของมันแข็งแกร่งไม่แพ้ศพของปีศาจเฒ่า

ที่สำคัญ แรงสะท้อนจากร่างกายที่แข็งแกร่งของมัน ทำให้กระดูกแขนข้างที่ชกแทบหัก

เมื่อราชาแคว้นจินตั้งตัวได้ ดวงตาที่เปล่งแสงสีทองหายไป แปรเปลี่ยนเป็นดวงตาสีดำทมิฬ

“วิชาทรราชย์… สิบอาญาสิตย์!”

ความรู้สึกของภัยคุกคามที่อันตรายปรากฏขึ้นในใจหนิงฝานอีกครั้ง

ราชาแคว้นชกหมัดสีดำทมิฬในตำแหน่งเดิม แต่อานุภาพของหมัดกลับปะทะเข้ากับแขนที่ยกกันของหนิงฝาน อานุภาพของหมัดแทรกเข้าร่าง สีหน้าตกตะลึง จนต้องเร่งถอยห่างทันที

ในขณะที่หนิงฝานถอย หมัดสีดำทมิฬได้แยกตัวออกเป็นลำแสงสีดำ 10 สาย ไล่ล่าหนิงฝานที่กำลังร่นถอยเต็มกำลัง!

วิชาทรราชย์คือพลังที่ปกครองทุกสรรพสิ่ง!

หากเป็นวิชาที่เปล่งแสงสีทองเมื่อครู่ จะให้ความรู้สึกเหมือนราชาผู้ปกครองอย่างสันติ แต่วิชาทรราชย์กลับดูเหมือนทรราชย์ผู้ต้องการอยู่เหนือทุกสิ่ง

แม้ราชาแคว้นจินผู้นี้ไม่ได้มีเส้นลมปราณโบราณ แต่มันมีวิชาที่น่าสะพรึงกลัว วิชาของผู้เป็นราชาที่ครองแคว้นจิน หากวันใดมันบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ เจตจำนงค์เทพของมันต้องไม่ธรรมดาแน่

ราชาแคว้นจินแข็งแกร่งกว่าหนิงฝานมากจนไม่อาจเทียบได้ตามระดับพลัง ที่สำคัญ มันยังแข็งแกร่งกว่าปีศาจศพเฒ่า เป็นศัตรูที่หนิงฝานไม่อาจเอาชนะได้ง่ายๆ

แรงกดดันที่แฝงมากับลำแสงทั้ง 10 สายทำให้หนิงฝานรู้สึกด้อยกว่า… อีกฝ่ายเป็นราชา ตนเป็นเพียงคนธรรมดา… อีกฝ่ายเป็นเซียน ตนเป็นเพียงมนุษย์...

เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

เมื่อลำแสงทั้ง 10 สายเข้าล้อมจู่โจม หนิงฝานสัมผัสกระเป๋า นำแผ่นหยกโลหิตออกมา

หากตนไม่ทิ้งไพ่ในมือ ก็คงถูกฉีกร่างเป็นชิ้นๆ

เรื่องที่ตนอ่อนแอกว่าราชาแคว้นจิน เป็นสิ่งที่หนิงฝานไม่อยากยอมรับ

แต่ผู้เชี่ยวชาญกึ่งแก่นทองคำและผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง ห่างกันถึง 2 ขอบเขตใหญ่… แม้เรื่องที่หนิงฝานต่อกรกับราาแคว้นจินได้จะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ แต่หนิงฝานยังคงไม่พอใจ แม้แผ่นหยกโลหิตจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสได้ แต่ความจริงที่พลังของตนสู้อีกฝ่ายไม่ได้ก็ยังเป็นความจริง

หากหนิงฝานบดแผ่นหยกในมือ อาจช่วยให้ทำลายวิชาของราชาแคว้นจินได้

หรือกระทั่งทำให้มันบาดเจ็บสาหัสได้

แต่นั่นเป็นการยืมพลังของผู้อื่นมาใช้… ตนเองยังคงอ่อนด้อยกว่าราชาแคว้นจินอยู่ดี

กระบี่เพลิงผันแปร ทำให้ตนทำลายนิกายเทียนหลีโม่ได้สำเร็จ...

ฝักกระบี่โบราณ ทำให้ตนต้านรับการจู่โจมของเทพกษัตริย์เนี่ยได้...

และตอนนี้ ตนเองก็กำลังจะยืมพลังของขุนพลอสูร ต้านรับราชาแคว้นจิน...

“ข้ามักจะพึงพาพลังของผู้อื่นเท่านั้น! การจู่โจมนี้ทรงพลังเกินกว่าที่ร่างกายข้าจะรับได้ ที่ข้าสัมผัสได้ถึงความด้อยกว่า เพราะข้าหวาดกลัววิชาของมัน ยิ่งหวาดกลัว วิชาของมันก็ยิ่งทรงพลัง… นั่นคือวิชาทรราชย์ ข้าเข้าใจแล้ว… ดวงตาทองคำนั่นก็ไม่ต่างกัน ยิ่งกลัวก็ยิ่งเสริมพลัง!”

หนิงฝานเก็บแผ่นหยกในมือ แววตาปรากฏเจตนาต่อสู้

ความคลั่งแค้นพรั่งพรู

ระดับพลังไม่สลักสำคัญ

สิ่งสำคัญมีเพียงลำแสงทั้ง 10 ที่กำลังประชิดร่าง เมื่อจิตใจหนิงฝานใสกระจ่างราวกับวารี ลำแสงเหล่านั้นก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป

ขอบเขตกระดูกเงินที่ 2 เป็นระดับที่ห่างจากหนิงฝานเพียง 1 ระดับย่อย ไม่นับเป็นอันใด

ราชาแคว้นจินคือราชา เมื่อหนิงฝานหลงคิดว่าตนเองคือประชาชนทั่วไป จึงทำให้ด้อยกว่าอีกฝ่าย

“หมัดทะลายน้ำแข็ง!”

หมัดที่ทรงพลังสำแดงอานุภาพ แช่แข็งลำแสงสีดำทมิฬเส้นแรกและแตกสะลาย!

ราชาแคว้นจินสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง วิชาทรราชย์ของมันถูกผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณทำลายอย่างคาดไม่ถึง

หลังจากนั้น ลำแสงเส้นที่ 2… และ 3… ก็ถูกทำลาย!

หากเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้นจะไม่สามารถต้านทางลำแสงได้เกิน 3 เส้น

“ข้าดูแคลนเจ้าเกินไป… ความแข็งแกร่งระดับนี้ของเจ้า ข้าจะยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ ให้เจ้าได้เป็นแม่ทัพแห่งแคว้นจิน!” ราชาแคว้นจินกล่าวอย่างเย็นชา

แววตาของราชาแคว้นจินสั่นไหว หนิงฝานทำลายลำแสงสีดำได้ถึง 3 เส้น

เมื่อลำแสงเส้นแรกถูกทำลาย ลำแสงเส้นอื่นจะทรงพลังขึ้น 3 ใน 10 ส่วนอย่างต่อเนื่อง

แต่ถึงหนิงฝานจะทรงพลังยังไง ย่อมไม่มีทางทำลายลำแสงเส้นที่ 4 ได้

“ท่านราชาโปรดเมตตาด้วย!” เจี่ยเซียวป้องมือกล่าว

“อืม คนผู้นี้แข็งแกร่ง เป็นประโยชน์กับแคว้นจินของข้าเป็นอย่างมาก ข้าจะถอยวิชากลับ...”

ราชาแคว้นจินให้ความสำคัญกับหนิงฝาน หากหนิงฝานไร้ประโยชน์ มันจะฆ่าทิ้งทันที แต่หากหนิงฝานสำคัญ ต่อให้มีสายโลหิตอสูร มันก็มั่นใจว่าจะทำให้หนิงฝานสยบได้ เพราะมันคือราชา!

ในขณะที่มันกำลังจะถอนวิชา มันกลับตกตะลึงอีกครั้ง

ลำแสงเส้นที่ 4 และ 5 ถูกทำลาย

“ลำแสงเส้นที่ 5 ไม่มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางคนใดเคยทำลายได้มาก่อน… เด็กนั่นทำได้ยังไง?”

เมื่อราชาแคว้นจินใช้เนตรทองคำเหมือนก่อนหน้า สีหน้าของมันจึงแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“มันบ้าไปแล้ว!”

ขีดจำกัดของหนิงฝานอยู่ที่ลำแสงเส้นที่ 3

แต่เมื่อตัดสินใจว่าไม่ใช้พลังของขุนพลอสูรโต้กลับ จึงต้องใช้วิธีของตน!

หนิงฝานนำปราณเยือกแข็งระดับ 2 และ 3 จำนวนมากที่ได้มาออกมา แล้วบีบพวกมันให้ระเบิด

และปราณเยือกแข็งระดับ 4 อีก 2 ชนิดที่ได้มา เขาก็ทำให้พวกมันระเบิดเช่นกัน

เพราะปราณเยือกแข็งที่ระเบิดเหล่านั้น เสริมอานุภาพของหมัดทะลายน้ำแข็ง!

แววตาของหนิงฝานนิ่งสงบ จดจ่ออยู่กับการจู่โจม

ความเย็นที่น่าสะพรึงกลัวลอยวนรอบกาย ก่อเป็นหมัดทะลายน้ำแข็งทำลายลำแสงเส้นที่  และ 5

แต่นั่นยังไม่พอ!

หนิงฝานนึกถึงโอสถโลหิตหลอม เขาใช้ประโยชน์จากลำแสงเส้นที่เหลือได้

หนิงฝานนำโอสถโลหิตหลอมออกมา 1 ขวด ซึ่งภายในมีโอสด้วยกัน 10 เม็ด… เขากินมันรวดเดียวทั้งหมด!

อานุภาพของโอสถแล่นไปทั่วร่างราวกับสายน้ำคลั่ง ร่างกายขยายใหญ่ 9 จ้าง 9 ฉื่อ

อานุภาพของโอสถทำให้วิชากระดูกยักษ์ของหนิงฝานบรรลุจากขอบเขตที่ 2 เข้าสู่ขอบเขตที่ 3!

เมื่อร่างกายขยายใหญ่เป็น 10 จ้าง อานุภาพของหมัดทะลายน้ำแข็งก็เพิ่มขึ้น 3 ใน 10 ส่วน

เมื่อออกหมัดต้านลำแสงสีดำ อานุภาพที่เพิ่มขึ้นทำให้ลำแสงเส้นที่ 6 และ 7 ถูกทำลายทันที!

ราชาแคว้นจินนิ่งอึ้ง มีเพียงผู้บรรลุขอบเขตกระดูกเงินที่ 2 เท่านั้นที่ทำลายลำแสงเส้นที่ 7 ได้

สิ่งที่ทำให้มันเหลือเชื่อคือ ด้วยวิกฤติเช่นนี้ หนิงฝานยังคงบรรลุระดับร่างกายจนรับมือวิชาของมันได้

“7 ลำแสงก็พอแล้ว! ข้าจะให้เจ้าได้เป็น 7 แม่ทัพของแคว้น และให้เจ้าได้ทำภารกิจในแคว้นเพียง 10 ปี หลังจากนั้นเจ้าอยากได้สิ่งใดข้าจะประทานให้!”

7 แม่ทัพ!

แม่ทัพแห่งแคว้นจินมีด้วยกันทั้งหมด 14 คน แต่ผู้ที่อยู่อันดับ 7 ขึ้นไป คือผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง

คนเหล่านั้นถูกเรียกขานว่า 7 แม่ทัพ

แต่ก่อนหน้านี้ไม่นาน หนึ่งใน 7 แม่ทัพได้ตายไป สร้างความเสียใจแก่คนในแคว้น และราชาแห่งแคว้นจินด้วย

การเสียผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขึ้นกลางไปนับเป็นเรื่องร้ายแรง มันต้องเร่งหาคนมาแทนที่ เพื่อช่วยจำจัดอสูร

แต่น่าเสียดายที่หาผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางไม่ได้

เมื่อครั้งทีเจี่ยเซียวแจ้งเริ่มซัวหมิงไปหามัน มันประหลาดใจ มันรู้ว่าเจี่ยเซียวทรงพลัง และความสามารถของสัมผัสเยือกแข็งก็ไม่มีสิ่งใดรอดพ้น แต่ซัวหมิงผู้นี้กลับรอดพ้น ทำให้มันเร่งมาหาทันที

ราชาแคว้นจินคิดว่าซัวหมิงสมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง จึงเตรียมตัวมาเทียบเชิญ

แต่ผลที่ได้คือ ซัวหมิงผู้นั้นกลับไม่ใช่ทั้งผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ไม่ใช่ทั้งผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ทั้งยังมีโลหิตอสูรไหลเวียน จึงเข้าใจว่าหนิงฝานคือสายลับจากอสูรที่แฝงตัวมา

มันโกรธแค้นอย่างที่สุด จึงลงมือหวังสังหาร

แต่หนิงฝานกลับทำลายวิชาของมันได้ด้วยสัมผัสกระบี่

แต่ด้วยหนิงฝานไม่ได้สัมผัสกระบี่จู่โจมมัน จึงไม่รู้ว่าเป็นสัมผัสกระบี่ระดับไหน เมื่อมันลองตรวจสอบดูอีกครั้ง จึงได้พบว่าหนิงฝานบรรลุขอบเขตกระดูกเงิน

ดังนั้นมันจึงถอนเจตนาสังหารไป 7 ใน 10 ส่วน และอยากเห็นหนิงฝานแสดงพลัง

มันไม่ได้พอใจกับหมัดทะลายนำแข็งของหนิงฝานนัก แต่เมื่อพบดาราอัสนี มันพึงใจอย่างที่สุด

แต่เมื่อมันยอมให้หนิงฝานเข้าร่วมกองทัพแล้ว มันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานยังไม่ยอมหยุดมือ… มันจึงโกรธ และใช้วิชาทรราชย์ สิบอาญาสิตย์จู่โจม

มันแค่อยากสั่งสอนให้หนิงฝานรู้จักที่ต่ำที่สูง เมื่อหนิงฝานไม่อาจรับมือได้ มันจะลงมือช่วย

แต่ความแข็งแกร่งของหนิงฝานก็เหนือความคาดหมายของมันมาก กระทั่งอาญาสิตย์ของมันไปได้ถึง 7 อาญาสิตย์

แม้เด็กผู้นี้เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงเทียนได้กับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง

“ข้าไม่ต้องการเป็น 7 แม่ทัพ ข้าไม่ได้อยากได้สิ่งใด… ข้าขอเพียงอีก 3 เดือน ให้ข้าได้ใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย!”

“3 เดือน? ไม่สั้นไปหน่อยรึ?”

“ใช่...”

หนิงฝานนำขวดโอสถโลหิตหลอมออกมา 2 ขวด และกินโอสถลงไปทั้งหมด

ด้วยฤทธิ์ของโอสถและแรงกดดันจากวิชาของราชาแคว้นจิน ทำให้ร่างกายของหนิงฝานขยายใหญ่เป็น 2 จ้าง!

ทำลาย… ทำลาย… ทำลาย...

ลำแสงสีดำทั้ง 10 สายถูกทำลายพินาศ!

ราชาแคว้นจินตกตะลึงอีกครั้ง เจี่ยเซียวเองก็เช่นกัน

“ผู้ที่ทำลายอาญาสิตย์ทั้ง 10 ของราชาได้มีเพียง 3 คน... หนึ่งในนั้นคือแม่ทัพวารี แต่คนผู้นั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว… ซัวหมิงผู้นั้นแข็งแกร่ง องค์ราชาต้องการคนแบบนี้ช่วยเหลือ” เจี่ยเซียวอุทานขึ้น

แต่ราชาแคว้นจินยังไม่กล่าว

“3 เดือน… ข้าจะอยู่ในแคว้นจินเพียง 3 เดือนเท่านั้น!”

หนิงฝานคืนสู่ร่างปกติ กลิ่นอายและแรงกดดันแปรเปลี่ยน เขานำแผ่นหยกโลหิตออกมาเพื่อป้องกันคนลอบจู่โจม

ราชาแคว้นจินหันมองเจี่ยเซียวและหนิงฝาน ก่อนกล่าว

“ได้… 3 เดือน!”

“อืม!”

หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉยก่อนจะออกจากตำหนักไป

หนิงฝานไม่ได้คิดทำอันตรายราชาแคว้นจิน

จิงสั่วและชู่ซวนเชียนสื่อเดินทางไปด้วยกัน… แม้หนิงฝานจะใช้ชื่อปลอมว่าซัวหมิง แต่ราชาแคว้นจินคงตามสืบไปกระทั่งทราบว่าหนิงฝานมาจากแคว้นเย่วได้

มีความแค้นไม่อาจระบาย มีความโกรธไม่อาจแสดงออก หนิงฝานไม่พอใจเป็นอย่างมาก

หนิงฝานรู้ว่าต่อให้ใช้พลังของขุนพลอยู่ อย่างมากก็ทำให้มันบาดเจ็บเท่านั้น

อีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่บรรลุขอบเขตกระดูกเงิน ทำให้หนิงฝานไม่อาจต่อกรได้

“ข้าด้อยกว่ามัน… แต่ไม่นานนักหรอก หากข้าบรรลุแก่นทองคำเมื่อไหร่ ข้าจะบรรลุดวงจิตแรกเริ่มและตัดวิญญาณ วันนึงข้าจะทำให้มันรู้ว่าข้าทรงพลังขนาดไหน!”

เมื่อหนิงฝานจากไป เจี่ยเซียวก็ผ่อนคลาย

แม้วันนี้ผลจะกลับตาลปัตร แต่สุดท้ายหนิงฝานก็ทำให้ราชาแคว้นจินพึงพอใจได้

“ยินดีด้วยองค์ราชา ที่ได้แม่ทัพคนใหม่! แม้คนผู้นี้จะอยู่กับเราเพียง 3 เดือน แต่ข่าวจากวิหารพิรุณก็แจ้งมาว่า วันแห่งการตัดสินจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน...” เจี่ยเซียวกล่าว

แต่ทันใดนั้นเอง ราชาแคว้นจินกลับกระอักโลหิตออกมา กลิ่นอายผันผวน

“ยินดี...ฮึ่ม! ยินดีที่ข้าบาดเจ็บ!”

“เป็นไปได้ยังไง? องค์ราชาบาดเจ็บได้ยังไง!” เจี่ยเซียวแตกตื่น

“การที่รับเด็กนั่นไว้เพียง 3 เดือนนับเป็นเรื่องดี เพราะหลังจากที่มันทำลายวิชาของข้าได้อย่างสมบูรณ์ ข้าสัมผัสถึงความทะเยอทะยานอันบ้าคลั่งของมัน หากเราเก็บมันไว้ 10 ปี จะกลายเป็นปัญหาร้ายแรง ที่สำคัญ ข้ายังสัมผัสกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้จากมัน และมันก็คิดจะสังหารข้าจริงๆ!”

ราชาแคว้นจินสะกดอาการบาดเจ็บแล้วยิ้ม

“ถ้ามันจู่โจมข้าด้วยพลังในขอบเขตตัดวิญญาณ คงทำลายวิชาได้ และตัวข้าก็คงบาดเจ็บไม่น้อย แต่มันกลับไม่ใช้ มันเลือกที่จะใช้พลังของตนเพื่อทำลายวิชาข้า… วิชาทรราชย์ของข้านั้นขึ้นอยู่กับความคิด หากคิดว่าแพ้ก็ไม่อาจสู้ได้ แต่เด็กนั่นก็ทำได้… ทำให้โต้กลับจนข้าได้รับบาดเจ็บ... ยามนี้มันเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ หากในอนาคตมันบรรลุดวงจิตเริ่ม คงไม่มีใครในแคว้นที่จะเอามันอยู่”

แววตาราชาแคว้นจินแปรเปลี่ยนสงบนิ่ง

แต่เจี่ยเซียวที่ได้เห็นและได้ฟังไม่อยากเชื่อสายตา

ซัวหมิงผู้นั้นแข็งแกร่งมากเลยหรือ? หากบรรลุดวงจิตแรกเริ่มแล้ว จะสู้กับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงได้หรือ?

“เจี่ยเซียว ไปแจ้งคนอื่นๆว่าข้าจะพักรักษาตัว ห้ามผู้ใดรบกวน… ส่วนนี่ เจ้าเอาไปให้ซัวหมิง ข้าจะยกเลิกความบาดหมางลง และช่วยมันยกระดับพลัง”

ราชาแคว้นจินได้มอบกระเป๋าสีทองให้เจี่ยเซียว จากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อเจี่ยเซียวเปิดกระเป๋าดู แสงสีทองสว่างไหวจนแสบตา

“นี่มัน! คาดไม่ถึงว่าองค์ราชาจะมอบสิ่งนี้ให้ซัวหมิง!”

กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากกระเป๋า ดูเหมือนของสิ่งนี้จะเป็นของแม่ทัพวารีที่ตายไป

แต่นั่นก็ทำให้เจี่ยเซียวเข้าใจว่าเหตุใดราชาแคว้นจินจึงมอบสิ่งนี้ให้

นั่นเพราะต้องการเทียบเชิญหนิงฝาน

“เฮ้อ… ดูท่านองค์ราชาจะหวาดกลัวมันจริงๆ…” เจี่ยเซียวถอนหายใจ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด