เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0032
ตอนที่ 32 : โทเทมราชสีห์สวรรค์
หยางฉีเย่ว์รับหน้าที่จากผู้อำนวยการจางต่อ นางรอคอยอย่างอดทนอยู่ด้านนอกของประตู ทั้งนี้นางยังสำรวจสัญญาณชีวิตของฉินหยุนเป็นระยะ
ความจริงที่ว่าฉินหยุนสามารถแช่ตัวในสระราชสีห์สวรรค์หลายวันก็เป็นการเผยถึงศักยภาพยอดเยี่ยมของเขาแล้ว สิ่งนี้ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่ง
อีกสามวันผ่านพ้น ฉินหยุนใช้เวลาในสระราชสีห์สวรรค์แล้วทั้งสิ้นสิบวัน!
วันที่สิบ ในที่สุดฉินหยุนก็คลานออกจากสระราชสีห์สวรรค์ได้
เขาหันศีรษะมองกลับไปยังสระน้ำ น้ำภายในสระตอนนี้เดิมทีเป็นสีเลือดแดงเข้ม ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นใสกระจ่าง
“นี่ผ่านมาแล้วกี่วัน? ถึงกับเผลอหลับไปไม่รู้ตัว!” เพราะในสระที่แช่ตัวมันสบายยิ่ง เป็นผลให้เขาหลับใหล
หากบอกผู้อื่นว่าเขาหลับไปสิบวันในสระราชสีห์สวรรค์ คงไม่มีผู้ใดเชื่อเป็นแน่
ทุกคนต่างทราบดีถึงความน่าสะพรึงของสระราชสีห์สวรรค์ เพราะเช่นนั้นมันถึงถูกผู้คนเรียกว่าสระราชสีห์สวรรค์!
ในประวัติศาสตร์ของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถแบกรับความเจ็บปวดจนสลบคาบ่อ กระทั่งว่ากระดูกถูกหลอมละลายไปเลยก็มี
ฉินหยุนตอนนี้หยิบเสื้อผ้าของตนขึ้น และขณะกำลังจะสวมใส่ เขาพลันนึกขึ้นได้ว่ามันมีเส้นสีทองม่วงจำนวนมากปรากฏบนแขนข้างซ้าย แถมมันยังดูค่อนข้างคุ้นอย่างประหลาด
เมื่อเขาสำรวจมองให้ดี เขาพลันแตกตื่นและร้องโพล่งออก “นี่มัน... โทเทมราชสีห์สวรรค์?”
เหตุผลที่เขารู้สึกว่าคุ้นกับมันก็เพราะมีโทเทมราชสีห์สวรรค์จำนวนไม่น้อยสลักเอาไว้บนกำแพงและพื้นบนระเบียงทางเดินระหว่างที่เดินเข้ามา
“หรือเพราะแช่ตัวแล้วเผลอหลับ? แต่โทเทมราชสีห์สวรรค์พวกนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรเท่าไหร่” ฉินหยุนใช้มือลูบสัมผัสขณะคิดว่ามันเติบโตขึ้นจากผิวกายของตน
เขารู้สึกสับสน เขาไม่ทราบว่าโทเทมราชสีห์สวรรค์จะมีผลข้างเคียงอะไรกับตนหรือไม่
“เอาเถอะ ถ้าโดนเห็นก็แค่บอกว่าวาดมันขึ้นมาเองก็แล้วกัน!” เขาเป็นกังวลว่าหากบอกความจริงต่อผู้อื่น พวกเขาจะคิดว่าเขาเป็นบุคคลชั่วร้าย ทั้งยังจะยกอ้างเรื่องในอดีตอย่างเขาฝึกฝนวิชาของปีศาจหรืออะไรพวกนั้นขึ้นมาอีก
เขาไม่ทราบว่าตนแช่อยู่ในสระราชสีห์สวรรค์มากว่าสิบวันแล้ว
หลังสวมใส่เสื้อผ้า ฉินหยุนสำรวจมองสระราชสีห์สวรรค์ ผลลัพธ์ที่มันมอบให้ทำให้เขารู้สึกยินดีไม่น้อย
ขณะคิด เขาควบคุมพลังปราณให้หมุนวนด้วยความเร็วสูง พลังปราณตอนนี้สามารถโคจรผ่านเส้นทางโคจรทั้งหมดได้แล้ว รวมทั้งผ่านกระดูกก็สามารถกระทำ
“เยี่ยมไปเลย เปิดเส้นทางโคจรได้ครบแล้ว!” เขาหัวเราะคิกคักกับตัวเองอย่างพึงพอใจ
เส้นโคจรทั้งหมดของเขากระจ่างชัด พลังปราณไหลเวียนลื่นไหลยิ่ง เขาถึงขั้นใช้พลังปราณได้ตามใจนึกเลยก็ว่าได้
ผลลัพธ์ที่ได้นี้ ในการต่อสู้จะกลายเป็นประโยชน์ยิ่ง
หลังการบำรุงหล่อเลี้ยงร่างกายด้วยน้ำพุราชสีห์สวรรค์ ร่างกายของเขาทั้งแข็งแรงและแข็งแกร่งมากขึ้น
“เราสามารถเรียกใช้ก้าวอัคคีเมฆาได้ในทันที!” เขาพยายามใช้วิชาเคลื่อนไหวจึงพบว่าสามารถโคจรพลังปราณได้อย่างรวดเร็วเพื่อเรียกใช้
สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นมากที่สุดคือพลังธาตุสามารถปลดปล่อยเส้นไหมของพลังภายในขณะหมุนวนด้วยความเร็วสูงได้
“นี่คือพลังภายใน? เราฝึกฝนได้ถึงขนาดนี้ระหว่างที่หลับหรือนี่!” ฉินหยุนเรียกความทรงจำก่อนหน้านี้ หยางฉีเย่ว์เคยสอนเขาเรื่องการฝึกฝนพลังภายใน
การฝึกฝนพลังภายในหมายความถึงเขาสามารถทำการแกะสลัก และเรียนรู้วิถีจารึกแห่งเต๋าได้!
หยางฉีเย่ว์ยังอยู่ที่ด้านนอกทางเข้าของสระราชสีห์สวรรค์ ใบหน้างดงามของนางเปี่ยมด้วยความกังวล นางถึงขั้นเดินวนไปมา
แต่แล้วอย่างกะทันหัน ประตูหินของสระราชสีห์สวรรค์ก็เปิดออก!
ฉินหยุนที่ร่างเปี่ยมด้วยพลัง ขณะเขาก้าวเดินออกมาก็พลันได้กลิ่นหอมโชยมา นี่เป็นกลิ่นที่เขาคุ้นเคย!
เมื่อเห็นประตูหินเปิดออก หยางฉีเย่ว์เร่งร้อนเดินเข้าหา นางวันนี้เพียงสวมใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย เป็นชุดกระโปรงสีเหลืองทอง ใบหน้าของนางตอนนี้ประดับด้วยความกังวล แม้กระนั้นก็ยังสง่างามเช่นเคย
ฉินหยุนคิดว่าเป็นผู้อำนวยการจางที่รอเขาอยู่ด้านนอก ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเป็นหยางฉีเย่ว์ เขาพลันรู้สึกยินดีขึ้นมาจากใจ
ขณะหันมองรอบ เขาเอ่ยถามว่า “อาจารย์! ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่? แล้วผู้อำนวยการละ?”
“เจ้า... สบายดีหรือไม่?” หยางฉีเย่ว์ขมวดคิ้วถามด้วยความเป็นกังวล
“แน่นอนขอรับ ข้าสบายดี แถมยังฝึกฝนพลังภายในได้แล้วด้วย!” เมื่อกล่าวจบคำ เขาเผยฝ่ามือขณะปล่อยเส้นใยสีทองม่วงอ่อนจางออกมา
เมื่อหยางฉีเย่ว์ได้เห็นเส้นใยพลังภายใน นางรู้สึกทึ่ง ราวกับเรื่องนี้ทำให้หัวใจของนางหยุดเต้นได้!
การฝึกฝนพลังภายในไม่ใช่เรื่องเล็ก มันคือก้าวหนึ่งสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก!
“เจ้าปีศาจน้อย... ประหลาดอะไรได้ขนาดนี้กัน!” หยางฉีเย่ว์ค่อยเผยความโล่งใจ นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกอย่างอ่อนโยนและกล่าว “เจ้าอยู่ในนั้นมาสิบวันแล้ว นี่เจ้าไม่หวั่นเกรงต่อความเจ็บปวดเลยหรือ? น้ำพุราชสีห์สวรรค์ร้อนแรงขนาดสามารถหลอมละลายโลหะ ผู้คนส่วนใหญ่แค่วันเดียวก็แทบแย่แล้ว!”
ฉินหยุนเผยสีหน้าแตกตื่น “สิบวันหรือ? ข้าไม่รู้ตัวเลย! แล้วมันเจ็บปวดอันใด? ข้าไม่คล้ายรู้สึกแบบนั้น! กลับกัน มันสบายมากเลยต่างหาก เพราะงั้นข้าถึงเผลอหลับอยู่ข้างในนั้น!”
สบายมาก? อีกทั้งยังเผลอหลับ? หยางฉีเย่ว์งุนงงไปวูบขณะความแตกตื่นเกิดขึ้นภายในใจ นางกล่าวเสียงเบาออกมา “กลับก่อนแล้วค่อยพูดคุย!”
หยางฉีเย่ว์เร่งรีบพาฉินหยุนออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ราชสีห์สวรรค์
ช่วงสิบวันมานี้ ศักยภาพของฉินหยุนได้รับการแพร่ขยายเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์ กระทั่งแพร่กระจายข่าวคราวนี้ทั้งจักรวรรดิเทียนฉิน
เรื่องราวที่เขาแช่กายในสระราชสีห์สวรรค์ถึงสิบวันจะกลายเป็นหัวข้อใหม่ครั้งใหญ่!
หลายคนในสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงต่างลอบถอนหายใจ เพราะพวกเขาอยากทำความรู้จักกับฉินหยุนเอาไว้ ทว่าฉินหยุนไม่ใช่ศัตรูกับเพียงแค่ฝ่ายจักรพรรดินี เขายังก่อความเกลียดชังเอาไว้กับเว่ยเสวียนคุน ดังนั้นแล้วชั่วขณะที่คิดเป็นมิตรกับฉินหยุน พวกเขาก็เท่ากับตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจักรพรรดินีและเว่ยเสวียนคุน
นอกจากนี้ ไม่เพียงฉินหยุนทำเว่ยเสวียนคุนบาดเจ็บ กระทั่งทำอาวุธวิญญาณที่บิดาของอีกฝ่ายอย่างปรมาจารย์เว่ยหักต่อหน้าผู้คน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นการยั่วยุปรมาจารย์เว่ยถึงเพียงใด!
บิดาของเว่ยเสวียนคุนต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปโดยง่ายแน่
ทุกผู้คนล้วนเชื่อมั่น ว่าเมื่อฉินหยุนก้าวเท้าออกจากสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง เมื่อนั้นความตายต้องมาเยือนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!
สถาบันยุทธ์ฮัวหลิง ในป่าไผ่ที่เงียบสงบ ฉินหยุนกำลังนั่งบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนกลางศาลา ฝ่ามือของเขาผายออกขณะปลดปล่อยพลังภายในที่รุนแรงที่สุดออก นี่ก็เพื่อให้หยางฉีเย่ว์ทดสอบพลังของเขา
“อาจารย์ ทำไมข้าถึงรู้สึกสบายนักทั้งที่แช่สระราชสีห์สวรรค์กว่าสิบวัน?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องนี้เกินจะเชื่อได้แม้กับตนเอง
หยางฉีเย่ว์กล่าวตอบ “สระราชสีห์สวรรค์สร้างขึ้นจากน้ำพุพิเศษ รวมถึงโลหิตของราชสีห์สวรรค์! น้ำพุราชสีห์สวรรค์สังกัดธาตุไฟ อาจเพราะ... เจ้ามีวิญญาณยุทธ์ไฟระดับทองม่วง จึงทำให้ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด”
ฉินหยุนทำได้เพียงยอมรับคำอธิบายนี้ จากนั้นเขาจึงถาม “อาจารย์ขอรับ ในวันประลองยุทธ์ ท่านไปทำอะไรมาหรือ?”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ สีหน้าของหยางฉีเย่ว์เต็มไปด้วยความไม่ยินดี นางแค่นเสียงออก “เรื่องนั้น เพราะมีใครบางคนเล่นสกปรกกับข้า คิดอยากย้ายข้าไปที่อื่น หรือกระทั่งทำให้ข้าออกห่างจากเจ้า!”
โดยทันที ฉินหยุนตระหนักได้ว่าสมควรเป็นจักรพรรดินีก่อการ ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการจางก็เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน
หยางฉีเย่ว์โกรธเกรี้ยว นางแค่นเสียงบอกกล่าวออกมา “หลังเข้าร่วมสถาบันยุทธ์ประมาณหนึ่งเดือน เด็กใหม่จะต้องออกไปหาประสบการณ์! ดังนั้นในวันที่มีการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์ ข้าจึงเข้าพบผู้อำนวยการใหญ่และขอให้เขาอนุญาตให้ห้องเรียนของเราไม่ต้องออกสู่ภายนอก”
“แต่น่าเสียดายที่พวกเราโดนกลุ่มคนก่อกวน ผู้อาวุโสสองคนยืนยันต่อต้านเรื่องนี้ กล่าวว่าเจ้ามีทรัพยากรมากมาย ดังนั้นเจ้าจึงสมควรต้องออกไปฝึกฝนเพื่อยืนยันถึงพละกำลังของตนเอง! กระทั่งบอกให้ข้าไปทำหน้าที่อื่นและให้เจ้าเข้าร่วมห้องเรียนอื่นแทนด้วยซ้ำ”
เมื่อฉินหยุนได้ยินว่าตนต้องออกไปภายนอก เขาเริ่มเผยความกังวลขณะเอ่ยถาม “ข้าเหลือเวลาอีกกี่วันขอรับ?”
หยางฉีเย่ว์รินน้ำใส่แก้วให้ฉินหยุนและกล่าวตอบ “เหลืออีกประมาณสิบวัน อาจารย์จะร่วมทางไปด้วย นี่น่าจะพอรับประกันความปลอดภัยได้บ้าง ถึงตอนนั้นข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ “อาจารย์ขอรับ พอจะช่วยข้าซื้อหากระดาษยันต์กลับมาได้หรือไม่? รวมถึงมีดแกะสลักด้วย”
เขานำเหรียญม่วงสิบเหรียญออกมาและส่งพวกมันให้อีกฝ่าย สิ่งนี้มีมูลค่าทัดเทียมหนึ่งหมื่นเหรียญผลึก เพียงพอต่อการซื้อกระดาษยันต์เปล่าจำนวนมาก
ก้าวแรกของการเรียนรู้วิถีจารึกคือวาดผังวิญญาณบนกระดาษยันต์ เพื่อสร้างความคุ้นชินกับตนเอง เพื่อทำให้ผังวิญญาณสมบูรณ์แบบเป็นการเตรียมพร้อม
กระดาษยันต์จะถูกนำไปแช่เลือดของสัตว์ปีศาจก่อน จากนั้นจึงค่อยล้างด้วยของเหลววิญญาณ กระดาษยันต์จะมีพลังวิญญาณสถิตอยู่ หากมีการสลักลายเส้นบนกระดาษยันต์ มันสามารถใช้เพื่อให้เกิดผลพิเศษได้
หยางฉีเย่ว์เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมเจ้าถึงต้องการกระดาษยันต์?”