EH7 น้องสาวผู้แข็งแกร่ง
แพนโดร่าใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวได้อย่างปกติสุข ถึงผมจะไม่ได้อธิบายความเป็นมามากมายนัก แต่ดูเหมือนพี่สาวของผมจะไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้แพนโดร่ากลายเป็นเหมือนน้องแท้ๆ พี่สาวของผมสงสารเธอที่ต้องผ่านชีวิตอันเลวร้าย
ผมกังวลเรื่องตัวตนของแพนโดร่าในสังคม เพราะเธอไม่มีบัตรประชาชน
“การบันทึกข้อมูลของโลกใบนี้ค่อนข้างดึกดำบรรพ์” แพนโดร่าดูเหมือนจะพึงพอใจในเทคโนโลยีของเธอ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ สถานการณ์ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
“แพนโดร่า เธอจะไปโรงเรียนกับชั้นได้หรือเปล่า?” ระหว่างไปโรงเรียน ผมมองแพนโดร่าแล้วปวดหัว ผมไม่อยากให้เธออยู่ร่วมกับมนุษย์ ถึงผมจะอยากให้เธอปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้เร็วๆ แต่ผมไม่ไว้ใจเธอเลยแม้แต่น้อย ผมกลัวว่าเธอจะรังแกคนอื่น
“ถ้าเพื่อปกป้องท่านจักรพรรดิ ดิชั้นสามารถติดตามท่านไปได้ทุกที่” แพนโดร่าพูดด้วยสีหน้านิ่งเหมือนคนที่ไม่มีความรู้สึก
“อืม… งั้นก็จำคำพูดไว้ดีๆ...”
“อาจุน!”
จู่ๆด้านหลังก็มีเสียงคนเรียกผม ผมหันหน้ากลับไปดูก็เห็นชู่เชียนเชียนกำลังวิ่งตรงมา
“อาจุน ทำไมเมื่อวานนายไม่มาโรงเรียน? แล้วยังไม่บอกอีกว่า… นั่นใครหน่ะ? สาวน้อยคนนั้นหน่ะ?”
“เธอชื่อฟานลี่ลี่ เป็นน้องสาวของชั้น”
“น้องสาวนาย?” เชียนเชียนมองแพนโดร่าตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่รู้จักกับผมมา เชียนเชียนไม่รู้ว่าผมเคยมีน้องสาวมาก่อน เธอเลยแปลกใจ “นายมีน้องสาวด้วยหรอ?”
“อืม… คิดไม่ถึงสิท่า”
แล้วผมก็เริ่มอธิบายเรื่องราวของแพนโดร่าให้เชียนเชียนฟัง “จริงๆแล้วชั้นกับลี่ลี่เป็นพี่น้องที่พรัดพรากกัน เธอมีแซ่เป็นของตัวเอง ชั้นก็เลยไม่คิดจะให้เธอเปลี่ยนแซ่ แต่ถึงเราจะมีแซ่ต่างกัน แต่เราก็มีสายเลือดเดียวกัน”
เชียนเชียนอ้าปากค้าง เธอไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ผมพูด เพราะมันเหมือนละครทีวีเกินไป และทำให้เธอไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไง “จะ...จริงหรอ... ไม่อยากจริงๆ แต่ก็ยินดีด้วยนะ”
เชียนเชียนพูดพลางยื่นมือสัมผัสแก้มของแพนโดร่า “น้องสาวของนายมองไม่เห็นหรอ?”
“อืม” ผมลูบหัวแพนโดร่าเบาๆ แล้วลูบลงไปที่แผ่นหลัง ทำท่าเหมือนสายตาของเธอไม่สามารถโฟกัสได้
“จอประสาทตาของลี่ลี่มีปัญหา อาจเป็นผลมาจากการกระทบกระเทือนทางจิตใจที่รุนแรง ทำให้เธอมองไม่เห็นถาวร”
ผมไม่ได้บอกว่าตาของแพรโดร่าเป็นเหมือนเรดาห์
“งั้นหรอ… แล้วทำไมถึงไม่เธอไปเรียนโรงเรียนคนตาบอด? ทางนี้มันไปโรงเรียนเราไม่ใช่หรอ?”
ถ้าเธอไม่ไปโรงเรียนผมจะดีใจมากกว่า!
แต่ผมพูดออกไปไม่ได้
“ชั้นก็คิดแบบนั้น แต่ลี่ลี่บอกว่าจะไปโรงเรียนด้วย… ลี่ลี่มีชั้นอยู่ข้างๆ แล้วเธอก็ดูแลตัวเองได้พอสมควร ถึงจะยากไปบ้างแต่ลี่ลี่น่าจะเข้าเรียนโรงเรียนปกติได้”
เชียนเชียนคิดได้ว่าไม่ควรจะพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าลี่ลี่ เพราะอาจทำให้เธอคิดถึงอดีตที่น่าเจ็บปวด เชียนเชียนก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
ถ้าเกิดเชียนเชียนถามเจาะลึกรายละเอียดเรื่องของแพนโดร่า ผมคงไปไม่เป็น
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูโรงเรียน เชียนเชียนที่เดินจูงมือแพนโดร่ามาอย่างมีความสุขก็พูดขึ้น “ที่นี่เป็นโรงเรียนที่เธอต้องมาเรียนในอนาคต เป็นยังไงบ้าง?... โทษที พี่ลืมว่าเธอมองไม่เห็น”
“ไม่เป็นไร” แพนโดร่าพูดเบาๆ จากนั้นอิงตัวซบผมเบาๆ พร้อมกับมีเสียงของเธอดังขึ้นในหัวของผม “ทางซ้าย 175 เมตร มีสิ่งมีชีวิตอันตรายที่มีคาร์บอนเป็นพื้นฐาน มือข้างหนึ่งถืออาวุธที่มีภัยคุกคามต่ำ จะให้กำจัดเลยหรือเปล่า?”
“อะไรนะ?” แพนโดร่ารายงานสิ่งที่เห็น ผมตกใจจนไม่รู้ว่าจะทำยังไง
*ปัง* จู่ๆเสียงปังก็ดังขึ้น กลุ่มนักเรียนจำนวนมากวิ่งกรูกันออกมาจากโรงเรียนชางหลาง นักเรียนกลุ่มหน้าที่วิ่งออกมาตะโกนว่า “หนีเร็ว! พวกนั้นมีปืน”
ยิงปืนในโรงเรียน? ทำแบบนั้นได้ด้วยหรอ?
เสียงปืนดังมาจากโรงเรียนชางหลาง เป็นโรงเรียนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ผมสังเกตุเห็นชายร่างใหญ่ 3 คนกำลังวิ่งไล่หลังกลุ่มนักเรียนมา แต่ละคนมีอาวุธปืนในมือ! ใน 3 คนนั้น คนกลางลากนักเรียนที่โชกเลือดมา น่าจะเป็นคนที่โดนยิ่งเมื่อกี้
ไม่ไกลจากหน้าประตูโรงเรียน มีรถยนต์สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ พวกมันที่วิ่งไล่หลังกลุ่มนักเรียนมายิงปืนไปทั่วอย่างไร้จุดหมาย เหมือนต้องการเปิดทางหนี
ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจว่าเรื่องราวจะเป็นมายังไง ใครไปข่มขืนใคร ผมคิดแค่ว่าต้องหยุด 3 คนนั้นให้ได้ ไม่งั้นจะมีนักเรียนอีกหลายคนที่โชคร้าย
แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เพราะไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ที่ผมทำได้ตอนนี้ก็แค่หนี แต่ดูเหมือน… ผมจะยังเหลืออีกตัวเลือก
“แพนโดร่า เธอเคยบอกว่าพวกคนของชี่หลิงคือเผ่าพันธุ์นักสู้ใช่มั้ย? เธอมีวิธีจัดการกับพวกนั้นหรือเปล่า?” ผมรีบถาม
“รับคำสั่งภายนอก… วิเคราะห์รูปแบบคำสั่ง… ลงมือ!”
สิ้นเสียงแพนโดร่า ท้องฟ้าที่สว่างใสก็เปลี่ยนไป!
เสียงที่ชวนขนหัวลุกดังสะท้อนทั่วฟ้า ท้องฟ้ากระจ่ายใสเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน แสงสีทองค่อยๆปรากฏบนท้องฟ้าเหนือหัว จนปรากฏเป็นนาฬิกาสีทองขนาดใหญ่ นาฬิกาเรือนนั้นเปล่งแสง ทำให้นักเรียนที่กำลังวิ่งหนีด้วยความตกใจ ฝุ่นควัน เม็ดทราย ทุกๆสิ่งบริเวรนั้นไม่สามารถขยับเคลื่อนไหว
เวลาหยุดเดิน! แพนโดร่าของผมเข้าสู่โหมดต่อสู้ แสงสีเขียวส่องลงมาจากท้องฟ้าเหมือนในหนัง ชุดเกราะรบสีเงินสวมทับร่าง หน้ากากสีเขียวปกปิดใบหน้า เหลือให้เห็นแค่ดวงตาสีม่วงอมแดงแดง
ผมมองชุดรบที่ทำจากโลหะผสมและรัดรูปของเธอ จนอดอุทานไม่ได้ “ยังไม่โตเต็มที่เลย!”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเรื่องเหลือเชื่อกับตา แต่ที่ผมยังสงบใจได้ แสดงว่าผมบ้าไปแล้วหรือเปล่า?
แพนโดร่าไม่ได้สนใจสายตาของผม เธอจ้องมองไปยังชายร่างใหญ่ 3 คนข้างหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา
สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนผมดูหนังแอคชั่นไซไฟไม่มีผิด...