ตอนที่ 31 พิษโลหิตเพชรฆาต
ความจริงเมื่อครู่ที่ฉู่ชิงหยุนบอกให้ปรมาจารย์พิษเหยียนหยุดก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงแล้ว
แต่ตอนนี้ฉู่ชิงหยุนเป็นฝ่ายกระโจนออกไปโจมตีปรมาจารย์พิษเหยียนด้วยตัวเอง นี่ทำให้พวกเขาตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม
ความเร็วของดาบนั้นรวดเร็วมากและเกือบจะถึงตัวปรมาจารย์พิษเหยียนได้ในพริบตา สายลมที่รุนแรงทำให้ใบหน้าที่ผอมแห้งของเขาสั่นเล็กน้อยและมืดมนมากยิ่งขึ้น
ปรมาจารย์พิษเหยียนเคลื่อนไหวเพื่อหลบดาบและตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า "เจ้าเด็กเหลือขอ กล้ามากที่โจมตีใส่ข้า รนหาที่ตาย!"
ฉู่ชิงหยุนไม่ตอบกลับ และยังคงกวัดแกว่งดาบเพื่อฆ่าปรมาจารย์พิษเหยียนต่อไป
การฟาดฟันดาบในแต่ละครั้งของฉู่ชิงหยุนนั้นรวดเร็วมาก หากอีกฝ่ายโดนฟันจะต้องตายอย่างแน่นอน
"ถ้าเจ้าอยากรนหาที่ตายนัก เช่นนั้นข้าก็จะสนองให้!" ปรมาจารย์พิษเหยียนกล่าวและยกแขนเสื้อขึ้น ทันใดนั้นหมอกพิษสีดำและม่วงก็พุ่งออกมาไปที่ฉู่ชิงหยุน
"ผู้นำระวัง!" เหล่าผู้คุ้มกันส่งเสียงอุทานออกมา พวกเขาโดนพิษนั่นเล่นงานเขาเลยตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาอ้าปากพูด ร่างของฉู่ชิงหยุนก็ถูกหมอกพิษนั่นกลืนกินเข้าไปทั้งร่างแล้ว
"สวรรค์มีเจ้ากลับไม่ไป แต่เลือกที่จะลงนรกแทน ช่างโง่เขลายิ่งนัก!" ปรมาจารย์พิษเหยียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และหันหลังกลับไป แต่ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงจากด้านหลัง
ปัง!
คมดาบเจาะไปที่กำแพงภูเขา ปรมาจารย์พิษเหยียนขมวดคิ้วแน่น เมื่อเขาหันหลังกลับไปมองก็เห็นฉู่ชิงหยุนยืนอยู่ด้านหลังเขาพร้อมกับดาบที่อยู่ในมือและปล่อยปราณดาบออกมา
"หลังจากที่เจ้าถูกหมอกพิษของข้ากลืนกิน เจ้ายังยืนอยู่ได้ยังไง?" สีหน้าของปรมาจารย์พิษเหยียนดูตกตะลึง ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฉู่หู่และคนอื่นด้วย พวกเขาเห็นเต็มตาว่าฉู่ชิงหยุนถูกหมอกพิษกลืนกินทั้งร่าง แล้วเขารอดมาได้อย่างไร?
"หมอกพิษนั่นเป็นหมอกพิษชนิดหนึ่งที่หลังจากเข้าไปในร่างกายจะละลายในโลหิตทันที แล้วจะทำให้แขนขาอ่อนแรงและหมดสติ ทว่าตราบใดที่ข้าปิดทวารทั้งเจ็ด หมอกพิษนั่นก็จะไม่มีทางเข้าไปในร่างกายของข้าได้ ดังนั้นมันจึงไม่มีผลกับข้า"
ฉู่ชิงหยุนชี้ดาบของเขาไปที่ปรมาจารย์พิษเหยียนจากระยะไกล และพูดประชดประชันว่า "เจ้าคงไม่ได้คิดง่ายไปหน่อยใช่ไหมที่จะเอาชนะข้าด้วยหมอกพิษอันรุนแรงนั่น?"
"เจ้า..." ดวงตาของปรมาจารย์พิษเหยียนกลายเป็นดุร้าย นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่มีคนกล้าดูหมิ่นเขา และอีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กหนุ่มเท่านั้น
ปรมาจารย์พิษเหยียนยกแขนเสื้ออีกครั้ง และหมอกพิษโลหิตที่มีกลิ่นคละคลุ้งก็พุ่งไปที่ฉู่ชิงหยุน
ฉู่ชิงหยุนเพียงแค่เหลือบมองมันและพูดว่า "หมอกพิษนี่ค่อนข้างพิเศษทีเดียว มันไม่ละลายในโลหิต แต่จะละลายในพลังปราณ และสามารถกระจายไปทั่วร่างได้ตามการไหลเวียนของพลังปราณ และร่างของคนที่สูดดมพิษเข้าไปก็จะเน่าเปื่อยและตายในที่สุด และวิธีรับมือกับหมอกพิษนี้ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงแค่ไม่โคจรพลังปราณ"
ในขณะที่พูดฉู่ชิงหยุนหยุดโคจรพลังปราณและก้าวเดินไปข้างหน้า
หมอกพิษโลหิตปกคลุมเขา แต่มันกลับไม่มีผลใดๆต่อฉู่ชิงหยุนเลย
ในขณะนั้น ฉู่หู่และเหล่าผู้คุ้มกันต่างเผยสีหน้าตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่พิษของปรมาจารย์พิษเหยียนไม่อาจทำอะไรฉู่ชิงหยุนได้ และเขายังพูดวิธีรับมือกับหมอกพิษออกมา
ปรมาจารย์พิษเหยียนรู้ดีว่าฉู่ชิงหยุนกำลังเยาะเย้ยเขา แต่เขาก็ไม่อาจทำอะไรได้
หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่ชิงหยุนก็มายืนอยู่ด้านหน้าปรมาจารย์พิษเหยียน เขาวางดาบลงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าได้ยินมาว่าพิษของปรมาจารย์พิษเหยียนนั้นไม่มีใครเทียบได้ แต่ที่ข้าเห็นวันนี้มันทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังยิ่งนัก แน่นอนว่าถ้าเจ้าใช้พิษโลหิตเพชรฆาต บางทีอาจมีโอกาสเล็กน้อยที่จะจัดการข้าได้"
"หืม?" เมื่อได้ที่ฉู่ชิงหยุนพูด ใบหน้าของปรมาจารย์พิษเหยียนเริ่มแข็งทื่อและจ้องเขม็งไปที่ฉู่ชิงหยุน
ฉัวะ!
ดาบฟันไปที่แขนของปรมาจารย์พิษเหยียน ทำให้สติของเขากลับมาทันที
"เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้าจะจดจำมันไว้!" ปรมาจารย์พิษเหยียนกัดฟันพูด เขาจ้องมองไปที่ฉู่ชิงหยุนด้วยสายตาเย็นชา และดูเหมือนจะจดจำหน้าของฉู่ชิงหยุนไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ จากนั้นเขาก็กระโจนหนีไป
"เขาไปแล้ว?" ฉู่หู่และคนอื่นเห็นปรมาจารย์พิษเหยียนหลบหนีไป ในตอนแรกพวกเขารู้สึกตกตะลึงก่อนที่จะระเบิดเสียงร้องดีใจออกมา
มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาคงไม่มีทางเชื่อว่าฉู่ชิงหยุนที่มีพลังระดับหลอมกายาขั้นห้าจะสามารถทำให้ปรมาจารย์พิษเหยียนที่มีพลังระดับจิตวิญญาณขั้นเก้าต้องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นแพร่งพรายออกไป ทั้งเมืองซีเฟิงจะต้องสั่นคลอนอย่างแน่นอน!
"นายน้อย ท่านแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" ฉู่หู่รีบเดินเข้ามาหาด้วยแววตาที่เป็นประกาย
เหล่าผู้คุ้มกันเองก็เผยแววตาที่สงสัยออกมาให้เห็น ถ้าพวกเขาต้องการเอาชนะคนที่อยู่ระดับจิตวิญญาณขั้นเก้า พวกเขาจะต้องบรรลุระดับจิตวิญญาณซะก่อน หรือว่าฉู่ชิงหยุนปกปิดพลังที่แท้จริงของตัวเองอยู่?
ดูเหมือนกับว่าเขาจะอ่านความคิดของทุกคนออก ฉู่ชิงหยุนเลยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและพูดว่า "เหตุผลที่ข้าสามารถเอาชนะปรมาจารย์พิษเหยียนได้นั่นเป็นความฉลาดของข้า พวกเจ้าไม่สังเกตเลยหรือว่าตั้งแต่ต้นจนจบปรมาจารย์พิษเหยียนไม่ได้ใช้พลังปราณเลย?"
ทุกคนรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้ยินฉู่ชิงหยุนพูดแบบนั้นออกมา
ถ้าฉู่ชิงหยุนไม่พูดออกมา พวกเขาคงไม่มีทางรู้ ปรมาจารย์พิษเหยียนไม่ได้ใช้พลังปราณและทักษะต่อสู้ใดๆ เขาใช้แค่พิษอย่างเดียวเท่านั้น
"เมื่อปรมาจารย์พิษเหยียนเข้าใกล้ข้า ข้าได้กลิ่นบางอย่างจากร่างกายของเขา กลิ่นนั่นมาจากพิษที่เรียกว่าพิษโลหิตเพชรฆาต มันเป็นพิษที่ร้ายแรงมาก แม้กระทั่งจอมยุทธระดับจิตวิญญาณก็ไม่อาจต้านทานได้"
"เขาฝึกฝนโดยการกลืนพิษเข้าไปในร่างกายและดูดซับมัน แต่ลมหายใจที่เป็นพิษถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของปรมาจารย์พิษเหยียน นี่แสดงให้เห็นว่าเขาพิษที่เขากลืนเข้าไปยังดูดซับไม่สำเร็จ ด้วยการฝึกฝนของเขา เขาจะต้องใช้พลังทั้งหมดไปกับการสยบพิษนั้น เมื่อใดที่ผ่อนคลาย พิษโลหิตเพชรฆาตก็จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาและนั่นจะเป็นจุดจบของเขาทันที"
ฉู่ชิงหยุนอธิบายอย่างช้าๆ ดังนั้นฉู่หู่และคนอื่นก็ตระหนักว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ปรมาจารย์พิษเหยียนจะไม่ใช้พลังปราณ เพราะเขาใช้มันเพื่อสยบพิษภายในร่างกายไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
"แม้ว่าตอนนี้ปรมาจารย์พิษเหยียนจะหนีไปแล้ว แต่ด้วยนิสัยของเขาจะต้องกลับมาแก้แค้นพวกเราอย่างแน่นอน และถ้าเขาดูดซับพลังของพิษโลหิตเพชรฆาตเสร็จ แล้วพวกเราจะรับมือกับเขาได้อย่างไร?" ฉู่หู่ถอนหายใจ
"ไม่ต้องกังวล ข้ารับรองได้เลยว่าเขาไม่สามารถรอให้ถึงวันนั้นได้"
ฉู่ชิงหยุนพูดอธิบายอย่างมั่นใจ "พิษโลหิตเพชรฆาตนั้นรุนแรงเป็นพิเศษ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของปรมาจารย์พิษเหยียนเขายังดูดซับมันไม่ได้ ในอีกสามวัน เพียงแค่สามวันเท่านั้น พิษนั่นจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายและเริ่มแทรกซึมเข้าไปในอวัยวะภายในของเขา และเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน นอกจาก..."
"นอกจากอะไรหรือนายน้อย หรือว่าท่านจะมียาแก้พิษ?" ฉู่หู่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฉู่ชิงหยุนยิ้มและไม่ตอบคำถาม แต่เดินไปที่เหล่าผู้คุ้มกันตระกูลฉู่อย่างช้าๆ และวางนิ้วลงบนร่างกายพวกเขาก่อนที่จะปล่อยพลังปราณเข้าไปในร่างกายของพวกเขา
ไม่นานหลังจากนั้น สีหน้าของเหล่าผู้คุ้มกันเริ่มบรรเทาลงและร่างกายของพวกเขาก็ค่อยๆฟื้นตัว
"ความพิเศษของพิษโลหิตเพชรฆาตนั้นไม่แข็งแกร่ง ข้าได้ช่วยพวกเจ้าระงับมันไว้ชั่วคราว ตอนนี้พวกเจ้าจะต้องรีบลงจากภูเขาทันที เมื่อพวกเรากลับไปถึงเมืองฉู่ ข้าจะช่วยเตรียมยาแก้พิษให้ และเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมดจะต้องปิดเป็นความลับ ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด" ฉู่ชิงหยุนกล่าวเตือน
"ขอรับ!" ทุกคนพยักหน้าและขานตอบ หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันทำให้พวกเขาเลื่อมใสในตัวฉู่ชิงหยุนมากยิ่งขึ้น ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเขา เกรงว่าพวกเขาทุกคนคงจะตายด้วยน้ำมือของปรมาจารย์พิษเหยียนไปแล้ว
พวกเขาเก็บกวาดพื้นที่อยู่สักครู่ และออกจากเหมือง
ก่อนที่จะลงจากภูเขา ฉู่ชิงหยุนแอบชำเลืองมองไปที่ป่าหนาทึบที่อยู่ด้านข้าง และยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย
หลังจากที่ฉู่ชิงหยุนและคนอื่นออกไปจากเหมือง ร่างของคนผู้หนึ่งก็กระโจนออกมาพร้อมกับกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยพิษ ปรากฏว่าเขาไม่ได้หนีไปไหน แต่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อแอบฟัง
"เจ้าเด็กนั่นเป็นใครกัน? เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่ามีพิษโลหิตเพชรฆาตอยู่ในร่างกายของข้า และคำพูดทิ้งท้ายนั่นยังทำให้ข้าสงสัย หรือว่าเขาจะรู้วิธีแก้พิษโลหิตเพชรฆาตจริงๆ?"
ความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจ ปรมาจารย์พิษเหยียนส่ายหน้าปฏิเสธทันที
เขาประสบปัญหานี้มานานหลายปี แต่ก็หาวิธีรักษาไม่ได้ แล้วอีกฝ่ายที่เป็นแค่เด็กจะรู้วิธีแก้พิษโลหิตเพชรฆาตได้อย่างไร?