ตอนที่แล้วGE166 คำสั่งของราชาแคว้นจิน [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE168 นิกายอาภรณ์ม่วง...เจี่ยเซียว [ฟรี]

GE167 กุมมือ [ฟรี]


สามเดือนที่ผ่านมา หนิงฝานฝึกวิชาอสูร และปรุงโลหิตหลอมเป็นโอสถโลหิตหลอม

โอสถชนิดนี้เป็นโอสถผันแปรที่ 3 เป็นโอสถที่ช่วยเสริมวิชากระดูกยักษ์ ในการยกระดับร่างกาย

โอสถชนิดนี้เมื่อกินเข้าไปจะทำไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดทรมาน เพียงแต่จะทำให้ผู้ที่กินเข้าสู่สภาวะคลั่ง

ซึ่งมีแต่การสังหารเท่านั้นที่จะช่วยบรรเทา

การจะใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายในแคว้นจินได้นั้น ต้องเข้าร่วมกองทัพเพื่อล่าสังหารอสูร

และนั่นก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะคลายฤทธิ์ของโอสถโลหิตหลอม...

ยามนี้ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกขั้นกลางที่มาเยือน ทำให้หนิงฝานเป็นกังวล

เพราะยังไม่ทราบถึงเจตนาที่แท้จริงของมัน

หลังจากที่มันผู้นั้นเรียกขานชู่ซวนเชียนสื่อ เงาร่างของมันแปรเปลี่ยนเป็นลำแสง ทะยานเข้าหาด้วยความเร็วสูง กระทั่งเคลื่อนผ่านระยะทางหลายร้อยลี้ได้เพียงไม่กี่อึดใจ ก่อนร่อนลงยังดาดฟ้าเรือ

ความเร็วระดับนั้น หนิงฝานยังด้อยกว่า

คนผู้นั้นดูอายุราว 25 - 26 ปี แต่อายุกระดูกกลับมากถึง 700 ปี หมายความว่าผู้เยาว์เบื้องหน้าคือปีศาจเฒ่า

ชุดคลุมสีเงิน สูงโปร่ง แววตาเฉียบคม

คนผู้นี้นาม ‘หยุนขวาง’... เป็นทูตแห่งวิหารพิรุณ!

การปรากฏตัวของคนผู้นี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจำนวนมากไม่อาจขยับ พวกมันล้วนตกตะลึง

“นั่น ‘กระบี่ราตรี’ หยุนขวาง!”

“500 ปีในการบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม… อีก 200 ปีในการบรรลุดวงจิตแรกเริ่มขึ้นกลาง… คนผู้นั้นสมควรเป็น 1 ใน 50 ทูตแห่งวิหารพิรุณใต้!”

กระบี่ราตรี… ข่าวลือว่าหยุนขวางหยุนขวางมักจะทำภารกิจที่วิหารพิรุณมอบหมายให้ในยามราตรีเพียงลำพัง และเมื่อรุ่งสาง มันจะนำศพของผู้ที่ตามล่ากลับมาด้วยเสมอ มันจึงได้ฉายาว่ากระบี่ราตรี

ข่าวลือว่าหยุนขวางได้รับศิลาเทพจากวิหารพิรุณ ทำให้มันได้ครอบครองเจตจำนงค์เทพเทียม โดยที่มีลักษณ์เจตจำนงค์เทพเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ทำให้ผู้อาวุโสหลู่แห่งวิหารพิรุณใต้ให้ความสำคัญกับหยุนขวางเป็นอย่างมาก

คาดไม่ถึงว่าวิหารพิรุณจะส่งผู้เชี่ยวชาญระดับนี้มาช่วยเหลือแคว้นจิน… บางทีอสูรที่รุกรานแคว้นจินอาจไม่ธรรมดา

ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญแห่งแคว้นจินแสดงท่าทางหยิ่งผยอง แต่ยามนี้พวกมันกลับก้มหน้าด้วยความเคารพอีกฝ่าย

“คารวะท่านทูต!”

“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี!”

หยุนขวางยกมือเป็นเชิงปราม ยามนี้มันยืนอยู่บนเรือเหาะ จ้องมองชู่ซวนเชียนสื่อและยิ้มให้

ลักษณะท่าทางของคนผู้นี้ทำให้หนิงฝานขมวดคิ้ว

500 ปีบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม… เมื่ออายุถึง 700 ปี บรรลุดวงจิตแรกเริ่มขึ้นกลาง ทั้งยังเป็น 1 ใน 50 ทูตที่ทรงพลังของวิหารพิรุณใต้

คนผู้นี้สมควรมีสถานะที่ไม่ธรรมดาในวิหารพิรุณ

จิตคลั่งของหยุนขวาง ผสานกับเจตจำนงค์เทพเทียม ทำให้แรงกดดันของมันแผ่ออกมาโดยยากจะควบคุม แม้มันจะยืนนิ่ง แต่แรงกดดันก็แผ่ออกไปรอบทิศอย่างต่อเนื่อง

เพียงแต่มันเลี่ยงแรงกดดันไม่ให้โดนชู่ซวนเชียนสื่อ แต่หนิงฝานและจิงสั่วยังต้องแรงกดดันของมัน

จิงสั่วขมวดคิ้วแน่น มันเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญกึ่งดวงจิตแรกเริ่ม จึงไม่อาจต้านทานแรงกดดันของอีกฝ่ายได้

แต่หนิงฝานกลับยังยืนได้อย่างสงบราวกับไร้แรงกดดัน

เพราะแรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางยังไม่พอที่จะกดดันหนิงฝานได้

“หืม?”

หยุนขวางสงสัย มันแผ่สัมผัสเทพสำรวจหนิงฝาน และพบว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญกึ่งแก่นทองคำ มันจึงไม่ใส่ใจ

ส่วนกับจิงสั่ว เมื่อมันทราบว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งแก่นดวงจิตเหมือนกับชู่ซวนเชียนสื่อ มันจึงแผ่แรงกดดันเข้าข่มขู่

เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นดวงจิตแรกเริ่มอย่างจิงสั่วกลับทนแรงกดดันของมันไม่ได้ แต่หนิงฝานกลับไม่เป็นไร

“สงสัยสหายน้อยผู้นี้คงจะโชคดี ได้รับสมบัติที่ช่วยต้านทานแรงกดดันได้… เห็นแก่เจ้าเป็นผู้เยาว์ที่มากับเชียนสื่อ ข้าจะไม่ชิงสมบัติเจ้า!”

มันคิดว่ามันคิดถูก ว่าหนิงฝานใช้สมบัติคุ้มกายจากแรงกดดัน มันจึงไม่สนใจหนิงฝานอีก

“แม่นางเชียนสื่อ 100 ปีมาแล้วที่เราไม่ได้พบกัน เจ้ายังงดงามไม่ต่างจากเมื่อก่อน… ในอดีต ข้าใช้หยกสวรรค์นับล้านเพื่อแลกกับการได้เห็นรอยยิ้มของเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธ… คาดไม่ถึงว่าเราจะมีโอกาสได้พบกันในแคว้นจินอีกครั้ง”

“ข้าไม่อยากพบเจ้า...” นางขมวดคิ้ว เดินห่างจากหยุนขวาง เข้าข้างกายหนิงฝาน

นางไม่พอใจ คนผู้นี้เย่อหยิ่งจองหอง ยิ่งแรงกดดันที่มันแผ่ออกมายิ่งทำให้นางไม่พอใจ

เมื่อร้อยปีก่อน มันยอมทุ่มหยกสวรรค์นับล้าน เพื่อให้ได้เห็นรอยยิ้มของนาง

เรื่องนี้ตกเป็นที่พูดคุยของผู้คนไปทั่วทั้งทางใต้ของโลกพิรุณ

แต่หากเทียบกับมันแล้ว ชู่ซวนเชียนสื่อชอบหนิงฝานมากกว่า

จิตใจของหนิงฝานช่างลึกลับ ราวกับบ่อวารีที่ไร้ก้นบึ้ง

เป็นความลึกลับที่ไม่ได้เสแสร้ง

แม้หนิงฝานจะประสบกับความยากลำบาก เขาก็จะเพียรพยายามไม่ย่อท้อ

เมื่อยามที่อยู่แคว้นเหว่ย แต่ละวันนางจะฝากผู้เชี่ยวชาญของแคว้นเหว่ย ออกสืบข่าวคราวของหนิงฝาน

เรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มลึกลับเอาชนะอสูรในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มได้นั้น นางรู้ว่าคนผู้นั้นคือหนิงฝาน เพียงแต่เขาไม่ได้อยากเผยตัวตน

ประมุชซัวหมิงแห่งหมู่บ้านหยวนจื่อ ผู้ที่สยบทั่วไปแคว้นเหว่ย… นางคิดว่าคนผู้นี้ก็สมควรเป็นหนิงฝานเช่นกัน

เรื่องการสังหารและปล้นชิง นางไม่ชอบเอามากๆ แต่นางรู้ดีว่าหนิงฝานทำเพราะไม่มีทางเลือก แม้ว่าเขาจะทำสิ่งเลวร้ายและถูกตำหนิ แต่เขาก็ยิ้มเสมอ

ซัวหมิงผู้นั้นเอาชนะผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของวิหารพิรุณถึง 2 คน... ข่าวนี้โด่งดังในหมู่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ เมื่อนางได้ทราบข่าว แม้นางจะประหลาดใจ แต่นางก็เศร้าใจเวลาเดียวกัน

หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ยังไม่บรรลุแก่นทองคำ แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม

เมื่อหนิงฝานกลับมา นางคิดจะกล่าวถามเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในแคว้นเหว่ย แต่สุดท้าย นางก็เลือกที่จะเป่าขลุ่ยให้หนิงฝานฟังเงียบๆ

“เจ้ามันโง่...” นางพึมพัม

สุดท้ายนางก็รู้ว่า ตัวตนของหนิงฝานได้สลักลงไปในใจของนาง แต่นางไม่คิดจะบอกหนิงฝาน เพราะสิ่งที่หนิงฝานแบกรับอยู่นั้น...หนักหนามากพอแล้ว นางไม่อยากเพิ่มความกังวลให้เขา...

กับหยุนขวางยามนี้ นางกล่าวกับมันด้วยความขุ่นเคือง

ในอดีต แม้นางจะไม่พอใจหยุนขวางที่มาตามตื้อ แต่ด้วยที่นางยังยึดมั่นในความดี นางจึงพูดคุยกับมันเล็กน้อย

แต่ยามนี้ นางกลับมองมันด้วยแววตาเย้ยหยัน

แม้หยุนขวางจะมีพรสวรรค์มากกว่าหนิงฝาน มีระดับที่สูงกว่าหนิงฝาน แต่นางยังเชื่อมั่นว่ามันสู้หนิงฝานไม่ได้… ต่อให้มีหยกสวรรค์นับล้าน มีทองคำนับหมื่น แต่ยังแลกกับความอบอุ่น ยามที่ได้พูดคุยกับหนิงฝานอย่างมีความสุขไม่ได้

หยุนขวาง...เทียบหนิงฝานไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ แม้มันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลาง… แม้มันจะเป็นทูตแห่งวิหารพิรุณ...

แต่ชั่วลมหายใจนั้น การแสดงออกของนางกลับทำให้หนิงฝานประหลาดใจ ส่วนหยุนขวางโกรธเคือง

นางกุมมือหนิงฝานเบาๆ จ้องมองใบหน้าที่อบอุ่น และยิ้มอย่างงดงาม

รอยยิ้มนี้...ราวกับออกมาจากจิตใจที่มีความสุข อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอด 600 ปีที่ผ่านมา

รอยยิ้มนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำที่ใช่สัมผัสเทพเฝ้ามอง นิ่งอึ้งไม่ไหวติง

รอยยิ้มของสาวงามเช่นนาง ช่างทำให้ทุกคนลุ่มหลง...

“นายน้อยหยุน ข้ากับคนผู้นี้เป็นสหาย ไม่ได้เกินเลยสิ่งใด...”

แม้นางจะกล่าวเช่นนั้น แต่มือที่กุมไว้กลับดูตรงกันข้าม

แม้นางจะกล่าวเช่นนั้น แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจกลับดูตรงกันข้าม

หากไปถึงทะเลไร้สิ้นสุด นางอาจไม่ได้พบหนิงฝานอีก...

ที่นางกุมมือหนิงฝานเช่นนั้น เพราะนาง...จะคิดถึงเขาไปตลอดกาล

“สหายเต๋า… เจ้าชอบหาเรื่องให้ข้าจริงๆนะ...” หนิงฝานกล่างกับนางด้วยสัมผัสเทพ มีเพียงหนิงฝานเท่านั้นที่จะช่วยให้นางเลี่ยงหยุนขวาง นางจึงทำเช่นนี้

“เรียกข้าเชียนสื่อ...”

“อะไรนะ?”

“เจ้าเรียกชื่อข้าไม่ได้เหรอ? เจ้าบอกเองว่าข้าคชอบปัญหามาให้เจ้า… แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็จะเป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยน”

“ช่างเถอะ... ใครใช้ให้ข้ามีเสน่ห์จนเจ้าเลือกข้าแทนหมอนั่น… ดีที่มันเป็นคนของวิหารพิรุณ คงไม่ได้ชั่วร้ายมากนัก ไม่จำเป็นที่ข้าต้องลงมือ อย่างมาก… ก็ร่วมเดินทางไปแคว้นจินกับมัน”

หนิงฝานฝืนยิ้มพลางส่ายหน้า เขาไม่ได้กลัวหยุนขวาง แต่ต้องระวังมันไว้

ที่สำคัญ ในใจลึกๆของหนิงฝานเองก็ไม่อยากให้นางใกล้มัน

เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มโกรธ หนิงฝานจึงป้องมือ ยิ้มพลางกล่าว

“สหายเต๋าหยุน… เชียนสื่อเป็นสหายของข้า นางเพียงไม่อยากพูดคุยกับท่าน ตัวท่านเป็นถึงทูตแห่งวิหารพิรุณอันยิ่งใหญ่ สมควรไม่บังคับขู่เข็นนางใช่หรือไม่?”

“สหาย?!”

หยุนขวางมองชู่ซวนเชียนสื่อที่ยังกุมมือหนิงฝานไม่วาง พลางขบฟัน

ความเป็นปฏิปักษ์ที่มีต่อหนิงฝานเพิ่มพูน แต่ก็เพียงชั่วขณะ เพราะแม้มันจะคลั่ง แต่ด้วยเจตจำนงค์เทพที่มี ทำให้มันมีความอดกลั้น

“เจ้าชื่ออะไร?!”

“ซัวหมิง!” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย

แต่คำกล่าวของหนิงฝานราวกับอัสนีฟาดผ่าข้างหูของผู้เชี่ยวชาญที่อยู่บริเวณนั้น

พวกมันเคยได้ยินชื่อของประมุขหมู่บ้านหยวนจื่อ...ซัวหมิงผู้นั้น

สายตาของทุกคนจับจ้องที่หนิงฝานด้วยความตกตะลึง ผู้เยาว์ประสานวิญญาณผู้นี้ แท้จริงกลับเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม

มิน่าถึงได้กล้าใกล้ชิดชู่ซวนเชียนสื่อต่อหน้าหยุนขวาง ช่างน่านับถือ!

แต่น่าเสียดายที่หยุนขวางไม่รู้จักซัวหมิง จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ซัวหมิง… นับว่ามีชะตาต้องกันถึงได้พบกัน...” มันเรียกชื่อหนิงฝานตรงๆ การทำเช่นนี้ถือเป็นการเสียมารยาทอย่างที่สุด ทำให้หนิงฝานขมวดคิ้ว

มันจงใจยั่วยุ… วิหารพิรุณทำให้หนิงฝานเป็นกังวล และกฏของพวกมันไม่มีใครกล้าหลบหนี

เพราะกฏนั้น ทำให้หนึ่งชายชราและหนึ่งสาวงามจู่โจมหนิงฝาน

แม้หยุนขวางจะไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่มันคงขัดขวางหนิงฝานอย่างลับๆ...

หนิงฝานจำเป็นต้องใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายของแคว้นจิน เขาไม่ได้อยากสร้างปัญหา แต่ชู่ซวนเชียนสื่อกลับหาปัญหามาให้

เมื่อเห็นว่าหนิงฝานไม่โกรธเคือง หยุนขวางจึงหัวเราะกลบเกลื่อน

“จริงสิ… ที่เจ้าจะเดินทางแคว้นจิน เพราะต้องการใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายใช่หรือไม่?”

“ใช่… ไม่รู้ว่าสหายเต๋าหยุนมีสิ่งใดจะแนะนำข้าหรือไม่?”

“ข้าไม่มีสิ่งใดจะแนะนำเจ้า แต่หากจะใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย เจ้าต้องเข้าร่วมกองทัพแคว้นจิน เพียงแต่ผู้ที่จะร่วมอย่างน้อต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ… แต่ระดับพลังของเจ้าเพียงกึ่งแก่นทองคำ เกรงว่าจะยังไม่พอ...”

“ระดับพลังของข้ายังเพียงพอ แต่ในอนาคตย่อมเพียงพอ สหายเต๋าหยุนไม่ต้องกังวล!”

“ฮึ่ม! แล้วข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะทำได้หรือไม่!”

ในขณะที่หยุนขวางจะกล่าวต่อบนท้องนภากลับปรากฏลำแสงสายหนึ่งที่รวดเร็วแทบจะเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูง!

เมื่อแสงนั่นพาดเข้าใกล้ผ่าน มันแปรสภาพเป็นเสียงของชายชรา

“ทูตวหารพิรุณรวมตัว ข้ามีเรื่องจะกล่าว!”

แม้เสียงนั่นจะไม่ดังมากนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญบริเวณนั้นยังคงได้ยินอย่างชัดเจน

สำหรับหนิงฝานแล้ว แม้เสียงนั่นไม่ได้แผ่แรงกดดัน แต่ก็ทำให้เขาขมวดคิ้ว

ลำแสงเมื่อครู่ เป็นของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ

“เหตุใดผู้อาวุโสถึงมาเยือนแคว้นจิน!”

ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของวิหารพิรุณเรียก หยุนขวางย่อมไม่กล้าขัดคำสั่ง

มันขมวดคิ้วมองหนิงฝาน หันมองชู่ซวนเชียนสื่อ แค่นเสียง แล้วทะยานจากไปอย่างรวดเร็ว

แต่นั่นไม่ได้ทำให้หนิงฝานคลายความกังวลใจ

เพราะหากเข้าสู่แคว้นจิน เขาต้องเผชิญหน้ากับวิหารพิรุณ

นอกจากนี้ สถานะการณ์ของแคว้นจินยังเหนือกว่าที่จินตนาการไว้มาก

วิหารพิรุณถึงกับส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสูงมาก นั่นหมายความว่า ผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นต้องมาเพื่อจัดการกับขุนพลปีศาจในแคว้นจิน

สิ่งที่หนิงฝานต้องทำคือเข้าร่วมกองทหารแคว้นจิน ทำภารกิจไล่ล่าสังหารอสูรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเร่งจากแคว้นจินไป นอกจากนี้ เขายังต่อระวังตัวจากขุนพลอยู่และหยุนขวาง

“เป็นปัญหาจริงๆ… คงต้องหาทางเข้าร่วมกองทหารแคว้นจินก่อน… ว่าแต่ เจ้าจะปล่อยมือข้าเมื่อไหร่?” หนิงฝานส่ายหน้าพลางกล่าว

“ขอบคุณ…” นางกล่าวตอบ ยิ้มให้ แล้วยอมปล่อยมือ

ตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา นางยิ้มให้หนิงฝานเพียงผู้เดียวเท่านั้น

“ดูท่าคงต้องเก็บเรือเหาะไว้ก่อน ส่วนผู้ติดตามเจ้า หากเจ้าเชื่อใจข้า ข้าจะดูแลให้ก่อน...”

“ข้าเชื่อใจเจ้า… แต่เจ้าจะดูแลยังไง?”

“ก็… แบบนี้!”

หนิงฝานสบัดมือซ้ายแสดงแหวนให้นางเห็น

เรือเหาะถูกนำเข้าไปไว้ในแหวน

เยว่หลิง ชุ่ยหลิง และสตรีของแคว้นซ่งก็ถูกนำเข้าไปในแหวนเช่นกัน

“ที่แท้เจ้ามีสิ่งที่เอาไว้แอบซ่อนสตรีมากมาย!” นางขมวดคิ้วพลางกล่าว

“หรือเจ้าอยากเข้าไปดู?

“ไม่!”

“ไปกันเถอะ! ไปขอเข้าร่วมกองทหารแคว้นจินกับผู้เชี่ยวชาญพวกนั้น แล้วทำภารกิจให้ได้มากที่สุด เราจะได้ไปทะเลไร้สิ้นสุดเร็วๆ”

วิหารพิรุณคือวังสีครามขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนภูเขา

ภูเขาลูกนั้นสูงนับหมื่นจ้าง มีน้ำตกขนาดใหญ่ที่งดงาม

ไอน้ำจากน้ำตกทำให้เกิดรุ้ง... ปราณที่ได้ธรรมชาติบริเวณนี้ทำให้วิหารพิรุณลอยอยู่บนฟ้าได้

ภายในวิหารพิรุณ หยุนขวางและผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มอีกหลายคนถูกเรียกตัวมาอย่างเร่งด่วน

ภายในวิหารมีบุรุษใบหน้าอ่อนเยาว์ แต่ผมกลับเป็นสีขาวยืนอยู่ แรงกดดันที่แผ่ออกมาของมัน ทำให้ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มไม่กล้าหายใจแรง

แม้คนผู้นั้นจะอ่อนเยาว์ แต่มันมีอายุหลายพันปี มันคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ… การที่มีผมขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์ หมายความว่ามันใช้วิชาอำพราง

หยุนขวางและคนอื่นๆเดาว่า การที่คนผู้นี้ปรากฏตัว คงมีเรื่องร้ายแรงบางอย่าง

“จากคำทำนายของผู้อาวุโสระดับสูง… ในแคว้นจินแห่งนี้มีอสูรในขอบเขตตัดวิญญาณ ที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อจะกำจัดมัน!”

ชายผู้นั้นกล่าววาจาด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนทำให้ทูตทั้งหมดสั่นสะท้าน

ขุนพลอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณ… ต้องล่าสังหารพวกมันให้หมด!

“ให้พวกเจ้าทุกคนเข้าร่วมกับทหารแคว้นจิน… อีก 3 เดือนหลังจากนี้  ข้าจะตัดสินเป็นตายกับมันที่สระมังกรนิทรา… มีใครจะคัดค้านหรือไม่!”

“มิกล้า!”

“ดี… แล้วหยุนเลี่ยกับหยุนโร่วเวยหายไปไหน?”

“รายงานท่านเสวี่ย… หยุนเลี่ยกล่าวว่าจะไปสำรวจสระมังกรนิททราเพียงลำพัง...” ซ่งยี่กล่าวด้วยความสำรวม

“รายงานท่านเสวี่ย หัวใจปีศาจของหยุนโร่วเวยกำเริบ ต้องใช้เวลาสยบ...”

“ฮึ่ม!” เมื่อได้ฟังรายงาน คนผู้นั้นก็โกรธขึ้นทันที

“หยุนเลี่ยบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นสูงสุด อีกไม่นานจะบรรลุดวงตัดวิญญาณ… แต่การที่มันไปสระมังกรนิทราเพียงลำพังก็เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว… ส่วนหยุนโร่วเวยมีสถานะพิเศษในวิหารพิรุณ ช่างเถอะ ถ้านางมาถึงแคว้นจินนางก็ส่งข่าวข้าเองนั่นแหละ”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด