เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0029
ตอนที่ 29 : การเลื่อนระดับชวนตื่นตะลึง!
“ฉินหยุน ข้าจะยอมให้เจ้าได้โจมตีก่อนสองครั้ง!” เว่ยเสวียนคุนยิ้มอหังการกล่าวคำ “วันนี้ ข้าจะให้เจ้าได้ประจักษ์เองว่าผู้ฝึกตนอัจฉริยะแท้จริงคืออะไร โจมตีเข้ามา!”
เมื่อฉินหยุนได้ยิน เขาเรียกใช้งานก้าวทะยานเมฆโดยทันทีพร้อมพุ่งเข้าหาเว่ยเสวียนคุน! ด้วยหมัดหนึ่ง แสงพลันระเบิดและเผาไหม้อย่างเจิดจ้า!
วูบ!
หมัดของฉินหยุนปะทะเข้ากับม่านพลังปราณเพชรของเว่ยเสวียนคุน เป็นผลให้เกิดเสียงลมคำราม!
พลังปราณที่เขาปลดปล่อยออกหายวับอย่างลึกลับ ราวกับมันโจมตีใส่หินแข็งก้อนหนึ่งที่ไม่สะดุ้งสะเทือน!
รุ่นพี่หลายคนผิวปากก่อนระเบิดเสียงหัวเราะ
“ม่านพลังที่ปลดปล่อยด้วยพลังภายในแบบนั้น กับพลังภายในอ่อนด้อยของมัน สมควรแล้วที่ไม่อาจทำอะไร!”
“ช่างไม่ประมาณตนเอง!”
“หมัดอ่อนเปลวเพลิงก็ดีอยู่ แต่ระดับการฝึกตนยังอ่อนด้อย!”
นักเรียนรุ่นพี่หลายคนเย้ยหยันกันไม่สนุกปาก
ฉินหยุนถอยกลับไปหลายก้าว เขาเตรียมใช้การระเบิดรุนแรง หลังหมัดถูกปล่อยออก พลังปราณจึงระเบิด!
ตู้ม!
เมื่อหมัดปะทะกับม่านพลัง แรงลมรุนแรงระเบิดกระจายออก แม้ม่านพลังสั่นเล็กน้อย แต่เว่ยเสวียนคุนก็ยังอยู่ดีไร้อาการบาดเจ็บแต่อย่างใด!
เรื่องนี้ก็เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิดไว้ หากฉินหยุนไม่หนี ผลลัพธ์หลังจากนี้คือความตายแล้ว
“แข็งแกร่งจริง!” ฉินหยุนเร่งรีบถอยห่างออกจากเว่ยเสวียนคุน หากเขาโดนโจมตีเข้าสักครั้ง ถึงตอนนั้นก็เป็นปัญหาแล้ว
“คิดหนี?” เว่ยเสวียนคุนยิ้มกล่าว “ไม่มีโอกาสให้เจ้าอีกต่อไปแล้ว!”
ดังแสงวาบ เขาพุ่งตัวเข้าหาฉินหยุนในพริบตา มันถึงกับมีภาพติดตาทิ้งไว้เบื้องหลัง!
“ก้าวทะยานวายุ ระดับวิญญาณขั้นสูงนี่! ไม่สิ นี่ก็เป็นก้าวกลืนเมฆาด้วย! เว่ยเสวียนคุนอัจฉริยะนัก ถึงกับสามารถผสานสองวิชาเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน” ดวงตาของซุยฮ่วยลุกโชนเป็นประกายกล่าวอย่างยืดอกภาคภูมิ เมื่อได้เห็นสีหน้าของหยางฉีเย่ว์ย่ำแย่กว่าเก่า นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นภายในใจ!
วิชายุทธ์ของเว่ยเสวียนคุนนับว่าเป็นเลิศผู้หนึ่ง เขาถึงกับสามารถผสานเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวระดับวิญญาณถึงสองเข้าด้วยกัน!
ฝีมือการเคลื่อนไหวระดับที่เขาทำได้ตอนนี้ ยากที่ผู้อื่นจะสามารถได้รับ
“พี่คุนชนะแน่นอนแล้ว! เมื่อใดที่เขาเข้าสระราชสีห์สวรรค์ เขาต้องเลื่อนระดับสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่หก! ทั้งภายหน้าเมื่อหลอมสมบัติวิญญาณได้ เขาสัญญาว่าจะมอบมันแก่ข้า!” เยี่ยนหยุนคุยโวอย่างออกหน้าออกตา เป็นผลให้นักเรียนหญิงคนอื่นรู้สึกอิจฉาริษยาเหลือประมาณ
“ฉินหยุน รีบยอมรับความพ่ายแพ้เร็ว!” หยางฉีเย่ว์เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี นางตัดสินใจตะโกนเสียงดัง
“อย่าได้ฝัน!” เมื่อเว่ยเสวียนคุนถึงตัวฉินหยุน เขาหัวเราะดังให้ได้ยินขณะฝ่ามือเคลื่อนลงต่ำรุนแรง เป็นผลให้เกิดคลื่นเสียงระเบิด!
“ฝ่ามือระเบิดคลื่นเสียง! วิชายุทธ์ระดับวิญญาณ!”
ตึก! ตึก!
แม้ฉินหยุนกลิ้งร่างหลบ ไหล่ซ้ายของเขายังโดนตัดออกเป็นสองซีก ความเจ็บปวดนี้เกินจะกล่าว!
ตึง!
เว่ยเสวียนคุนเร็วมาก เพียงพริบตาเขาก็ยื่นฝ่ามือออกเข้าหาฉินหยุนที่ล้มกับพื้นแล้ว!
ถัดจากนั้น ตามมาด้วยการปล่อยพลังภายในอย่างรวดเร็ว มันหลุดออกจากร่างก่อนกดลงอย่างหนักหน่วง เมื่อมันปกคลุมพื้นที่ เป็นผลให้ฉินหยุนไม่สามารถเคลื่อนไหว!
“ยอมรับความพ่ายแพ้หรือ? อย่าได้คิดฝัน ข้าจะสำเร็จโทษเจ้า!” เว่ยเสวียนคุนเผยรอยยิ้มชั่วช้า
หยางฉีเย่ว์แทบพุ่งตัวออกไป ทว่าโดนซุยฮ่วย ผู้อาวุโสอีกหลายท่าน และอาจารย์อีกหลายคนเข้าหยุดยั้ง นางไม่อาจก้าวได้แม้ครึ่งก้าว!
“ผู้อำนวยการจาง ฉินหยุนยอมแพ้แล้ว!” หยางฉีเย่ว์ตะโกนอย่างขุ่นเคืองที่โดนห้าม
“ตัวเขาเองยังไม่ได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ การประลองยุทธ์นั้นโหดร้ายเสมอมา และก็เป็นเช่นนี้ไม่เคยเปลี่ยน” ซุยฮ่วยลั่นคำพูดใส่หน้า “หยางฉีเย่ว์ ทางที่ดีเจ้าจงอย่าได้แหกกฎของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง!”
ฉินหยุนโดนกดดันด้วยพลังภายในจนถึงขั้นไม่อาจเคลื่อนไหว แต่ว่า... เขาก็ไม่ได้ยอมรับความพ่ายแพ้!
อย่างกะทันหัน พลังธาตุในตันเถียนของเขาเริ่มหมุนวนด้วยความเร็วสูงยิ่ง มันกระทั่งส่องประกายเกิดจ้า!
พลังปราณภายในร่างกำลังทะลักราวสัตว์ร้ายบ้าคลั่ง เสียงคำรามทรงพลังอำนาจทุ้มลึกล้ำดังลั่นภายในกายจนเขาได้ยินไม่หยุดหย่อน!
“ฉินหยุน นี่คือความแตกต่างระหว่างเจ้ากับข้า! จงอย่ากล่าวโทษกันไป การประลองยุทธ์โหดเหี้ยมเช่นนี้เสมอ ยอมรับชะตาเสีย!” เว่ยเสวียนคุนพล่ามเสียงดัง ฝ่ามือระเบิดคลื่นเสียงปรากฏเตรียมปล่อยออกจากฝ่ามือแล้ว
อย่างกะทันหัน หมอกสีทองม่วงพลันทะลักจากร่างฉินหยุน มันก่อเกิดขึ้นเป็นร่างวิญญาณสั่นสะเทือนส่งเสียงหวีดหวิว นี่คล้ายเสียงร้องของมังกร!
“นี่... เป็นไปไม่ได้!” ผู้อำนวยการจางหรี่ตาที่ชราภาพลงเล็กก่อนจะเบิกออกกว้างมองฉินหยุนด้วยความแตกตื่น
“อะไรกัน! ออร่านี้... เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้!” ซุยฮ่วยส่ายหน้ารุนแรงพูดกล่าวกับตัวเอง
“อายุเพียงสิบห้า เป็นไปได้อย่างไรกัน?” ผู้อาวุโสคนหนึ่งร้องอุทาน
“จริงหรือนี่?” หยางฉีเย่ว์เองก็อุทานอย่างมึนงงเช่นกัน!
นักเรียนทุกคนที่นี้ต่างมองกันเองอย่างไม่เข้าใจ นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้น?
เว่ยเสวียนคุนยิ่งแตกตื่นกว่า ใบหน้านั้นซีดเผือด พลังที่ชวนสะพรึงนี้ มันกำลังสะกดข่มเขา!
หมอกสีทองม่วงทะลักจากร่างของฉินหยุนต่อเนื่องจนเริ่มเกิดคลื่นลม
ไม่ช้า คลื่นพลังปราณขนาดใหญ่พลันทะลักออกจากร่างนั้นคล้ายคลื่นยักษ์!
“ทะลวง!”
อย่างกะทันหัน ฉินหยุนคำรามลั่นทั้งร่างสั่นสะท้าน กระดูกทั้งหลายลั่นคล้ายเสียงฟ้าผ่าคำราม ออร่าสีทองม่วงไหลทะลักราวพายุ เป็นผลให้เว่ยเสวียนคุนต้องถอยกลับไปหลายก้าว!
“พลังปราณแผ่กระจายออกจากร่างเหมือนพายุรุนแรงไม่ก็คลื่นยักษ์ นี่เป็นสภาพของการเลื่อนสู่ระดับห้าของขอบเขตกายวรยุทธ์!” ผู้อาวุโสร้องอุทานออกอย่างไม่อาจสะกดคำพูด “ฉินหยุน... เขา... เขาก้าวสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า!”
ว่าอะไร? ฉินหยุนเลื่อนระดับพลัง?
ทั้งนักเรียนใหม่และนักเรียนเก่าต่างแตกตื่นทั้งยังตกใจคล้ายโดนคลื่นลมซัดโหม พวกเขาเผยความอิจฉาอย่างเกินจะกล่าวอะไรออกมาได้!
ฉินหยุนเพิ่งเข้าสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงยังไม่ทันถึงเดือน แต่มาวันนี้กลับเลื่อนพลังสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า
เว่ยเสวียนคุนก็ตื่นตกใจ เขากว่าจะเลื่อนพลังสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าก็ต้องใช้เวลาราวสองปี แต่แล้วบุคคลตรงหน้า ฉินหยุนที่เพิ่งเข้าเรียนกลับใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือน
การเลื่อนพลังสู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้าด้วยความรวดเร็วเพียงนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง มีเพียงสถาบันยุทธ์ระดับสูงเท่านั้นถึงจะมีสัตว์ประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้น ทว่ามันก็เป็นเรื่องหายากเหลือเชื่อ
อะไรคืออัจฉริยะวิถียุทธ์แห่งเต๋า? หากมีก็ต้องเป็นสิ่งที่พวกเขาเห็นตรงหน้านี้แล้ว!
หลังฉินหยุนยันกายยืนขึ้น พลังปราณรุนแรงของเขาเปรียบเสมือนเขี้ยวและเล็บที่แหลมคม มันกำลังถูกดูดกลืนหายกลับเข้าร่าง
พลังปราณในร่างสามารถดูดกลืนกลับและปลดปล่อยได้อย่างใจเขาต้องการ!
อำนาจควบคุมพลังปราณนี้ถึงระดับที่เขาสั่งการได้ดังใจ! เป็นผลให้หัวใจของบรรดานักเรียนรุ่นพี่ต้องสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุม!
ท่าเท้าของฉินหยุนหาได้ใช่ก้าวทะยานเมฆอีกต่อไป กลับกัน มันคือก้าวเมฆประกาย มันเร็วยิ่งกว่าก่อนหน้านี้!
เพียงสองวินาที เขาเข้าถึงข้างกายเว่ยเสวียนคุนที่อยู่ห่างกว่ายี่สิบเมตรได้!
ด้วยความเร็วระดับนี้ เว่ยเสวียนคุนไม่มีทางหลบเลี่ยง แต่อย่างไรแล้วเขาก็ยังมีม่านพลังปราณเพชร ต่อให้รู้ว่าหมัดของฉินหยุนพุ่งเข้ามา ก็ไม่จำเป็นต้องแตกตื่นกังวลแต่อย่างใด
หมัดอ่อนเปลวเพลิงของฉินหยุนคราวนี้ยิ่งบ้าคลั่งกว่าครั้งก่อน!
หมัดสีแดงฉานประหนึ่งพยัคฆ์อัคคีพิโรธ มันพุ่งขึ้นสู่หมู่เมฆก่อนทะยานลงมาเข้าปะทะกับม่านพลังอย่างรุนแรง!
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วทุกทิศทางพร้อมคลื่นลม มันถึงกับทะลวงผ่านม่านพลังปราณเพชรพร้อมพุ่งตรงเข้าโจมตีใส่หน้าอกของเว่ยเสวียนคุน!
ครึก!
เสื้อท่อนบนของเว่ยเสวียนคุนฉีกขาด ผิวหนังกระทั่งถูกฉีกกระชาก เลือดคำโตกระอักออกจากปากจนต้องถอยเท้าไปหลายก้าว!
“เจ้า! กล้าดียังไงทำร้ายข้า!” อย่างไรแล้วเขาก็คือบุตรของปรมาจารย์เว่ย ไม่เคยมีใครกล้าคุกคามเขาถึงเพียงนี้มาก่อน
“โห ทำไมข้าถึงไม่กล้ากันเล่า?”
ฉินหยุนตอนนี้เข้าถึงข้างกายเว่ยเสวียนคุนแล้ว หมัดนั้นกำแน่น มันร้อนแรงประหนึ่งโลหะถูกหลอมด้วยความร้อนสูง มันพุ่งเข้าใส่เว่ยเสวียนคุนรุนแรงราวพายุคลั่ง!
ด้วยพลังปราณของระดับห้าที่ก่อเกิดเป็นหมัดอ่อนเปลวเพลิง สิ่งนี้ไม่ต่างอันใดกับสัตว์ร้ายอัคคีที่พุ่งเข้าใส่เว่ยเสวียนคุน สะเก็ดเปลวเพลิงถึงกับกระจายทั่ว!
ตึง! ตึง! ตึง!
ฉินหยุนหาได้ออมมือไม่ หมัดนี้ประหนึ่งสัตว์ร้ายที่หลุดการควบคุม มันคำรามขณะเขาทะยานกายออก นี่รวมถึงความดุร้ายของเขาผสมผสานเข้าไปด้วย!
ทุกครั้งที่ร่างของเว่ยเสวียนคุนโดนหมัดนี้ทำร้าย หัวใจทุกผู้คนแทบเต้นผิดจังหวะหรือไม่ก็หยุดนิ่ง!
ไม่เคยมีใครคาดคิด ว่าหมัดอ่อนเปลวเพลิง วิชายุทธ์ระดับสูงถึงกับทรงพลังจนน่าหวั่นเกรงได้เพียงนี้! ที่เป็นแบบนี้ได้ก็เพราะหมัดอ่อนเปลวเพลิงถูกปลดปล่อยด้วยเจตนาเปี่ยมล้นของฉินหยุน!