67 สายน้ำไหลผ่าน, ความปรารถนาของดอกไม้
67 สายน้ำไหลผ่าน, ความปรารถนาของดอกไม้
หลังจากนั้น ทุกคนต่างอิ่มเอมและเริ่มพูดคุยกันว่าจะไปไหนต่อหลังจากนี้ จุดประสงค์ของงานเลี้ยงรวมรุ่นนั้นคือโอกาสของการได้ดื่ม กินและเฮฮาร่วมกัน
“ฉันมีข้อเสนอ ไปร้องคาราโอเกะกันที่ร้านเคทีวีข้างๆนี้เป็นไง?” หยางหมิงพูดเสียงดัง
ที่ข้างโรงแรมนั้นมีร้านคาราโอเกะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม ร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นาน และกิจการก็ดีมาก
“ความคิดดี! นายเลี้ยงใช่ไหม?” บางคนเล่นมุก
“ไม่มีปัญหา!” หยางหมิงหัวเราะ
“นายจะไปไหม?” หลี่ชูกางถามหวังเย้า
“ไม่ไป” หวังเย้ามองเวลา มันเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว พวกเขาคงจะอยู่ที่ร้านคาราโอเกะจนถึงสี่ทุ่มเป็นอย่างต่ำ เขาคงกลับบ้านก่อนเที่ยงคืนไม่ทันแน่ๆ หวังเย้าไม่อยากให้พ่อแม่ของเขาต้องค้างคืนบนเนินเขา
ทุกคนต่างพากันออกมาจากห้องจัดเลี้ยงและเตรียมที่จะไปสนุกกันต่อที่ร้านคาราโอเกะข้างๆ หยางหมิงได้เดินไปจ่ายเงิน
หวังเย้ารออยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม เมื่อมีคนเรียกเขา เขาหันไปและเห็นเทียนหยวนถู
“ไฮ เทียน!” หวังเย้าพูด
“ไฮ คุณได้ดื่มไหม? ถ้าดื่มผมจะให้คนขับรถให้คุณ” เทียนหยวนถูพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ ผมไม่ได้ดื่ม ผมขับรถกลับเองได้” หวังเย้าพูด
“ได้ โทรถ้าผมถ้าคุณต้องการอะไร” เทียนหยวนถูพูด
“ได้เลย” หวังเย้าพูด
เทียนหยวนถูตบบ่าหวังเย้าและจากไป
หวังเย้าเดินออกมาจากโรงแรม เขาจงใจเว้นระยะห่างระหว่างเขากับเพื่อร่วมชั้นเอาไว้ จากนั้น ก็มีคนเดินเข้ามาหาเขา
“นายไม่ไปกับพวกเราเหรอ?” เขาคือเหอห่าย
“ไม่ล่ะ ฉันต้องกลับบ้าน นายช่วยบอกหยางหมิงให้หน่อยได้ไหม?” หวังเย้าถาม
“ได้สิ ไว้เราเจอกันวันอื่นนะ” เหอห่ายพูด “แล้วนายจะกลับบ้านยังไง?”
“ฉันขับรถมาน่ะ” หวังเย้าพูด
“ขับรถดีดีล่ะ” เหอห่ายพูด
หลังจากที่บอกลาเหอห่าย หวังเย้าก็เดินไปที่ที่จอดรถคนเดียว ในตอนที่เขาสตาร์ทรถและขับออกไปจากที่จอดรถ เขาก็เห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่บนทางเท้า หญิงสาวคนนั้นมีผมยาวและสวมเสื้อโค้ทยาว เธอดูกังวลอยู่เล็กน้อย
หวังเย้าจอดรถใกล้กับที่ที่เธอยืนอยู่ เขาลดกระจกลงและพูดกับเธอ
“ถงเว่ย!” หวังเย้าพูด
“หวังเย้า?” ถงเว่ยประหลาดใจที่เห็นหวังเย้า
“เธอกำลังจะไปที่ไหนเหรอ? ฉันไปส่งเธอได้นะ” หวังเย้าพูด
“โอเค ขอบคุณนะ ฉันต้องไปที่โรงพยาบาลน่ะ” ถงเว่ยเข้ามานั่งในรถของหวังเย้า ทำให้ภายในรถมีกลิ่นหอมของน้ำหอมลอยมา
หวังเย้าขับรถตรงไปที่โรงพยาบาลทันที
“คนในครอบครัวของเธอป่วยเหรอ?” หวังเย้าถามเมื่อเห็นใบหน้าที่เป็นกังวลของถงเว่ย
“ใช่ ฉันเพิ่งได้รับสายจากโรงพยาบาลว่าแม่ของฉันอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะมีอาการปวดหัวฉับพลัน” ถงเว่ยพูด
“อย่าเพิ่งคิดมากเลย” หวังเย้าพยายามปลอบถงเว่ย
จากนั้นไม่นาน ได้มีรถออดี้ขับออกมา
“ฮัลโหล เธออยู่ไหน?” หยางหมิงที่เริ่มเมาออกมาจากรถของเขาและโทรหาถงเว่ยเมื่อเขาหาเธอไม่เจอ
“ฮัลโหลหยางหมิง” ถงเว่ยรับสาย
“เธออยู่ที่ไหน? ฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลเอง” หยางหมิงพูด
“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ฉันกำลังไปโรงพยาบาลแล้ว เธอควรจะอยู่กับเพื่อนๆต่อ ขอบคุณนะ!” ถงเว่ยพูดด้วยเสียงอ่อนหวาน
“รอก่อน ยังไงฉันก็จะไปที่โรงพยาบาล!” หยางหมิงวางสายแล้วขับรถไปที่โรงพยาบาล สำหรับเขาแล้ว ถงเว่ยที่งดงามคือคนที่พิเศษสำหรับเขาเสมอมา
หวังเย้าและถงเว่ยไปถึงโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แม่ของถงเว่ยเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยโรคออกมา เธอมีเส้นเลือดอุดตันอยู่ในสมอง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วนอะไร เธอกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในแผนกประสาทวิทยาของโรงพยาบาล
“ฉันต้องรีบไปหาแม่ แล้วไม้เจอกันใหม่นะ” ถงเว่ยพูด
“ได้ แต่ฉันจะไปกับเธอ เผื่อว่ามีอะไรให้ฉันช่วยได้” หวังเย้าพูด
“นายไม่ต้องมาหรอก” ถงเว่ยพูด
“ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ” หวังเย้ายืนยัน
ทั้งสองขึ้นลิฟท์ไปยังแผนกประสาทวิทยาที่อยู่บนชั้น 15 พ่อกับพี่ชายของถงเว่ยนั้นได้รออยู่ที่นั้นแล้ว แม่ของเธอนั้นได้อยู่ภายในห้องห้องหนึ่งของโรงพยาบาล
“แม่เป็นยังไงบ้างคะ?” ถงเว่ยถามด้วยความกังวล
“เมื่ออยู่ที่บ้านเธอรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา เธอเลยขอให้พี่ชายของลูกส่งเธอไปที่โรงพยาบาล โชคดีที่เรามาทันเวลา เธอกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในตอนนี้” พ่อของถงเว่ยพูด
“เธอจะไม่แนะนำเพื่อนของเธอหน่อยเหรอ?” พี่ชายของถงเว่ยถาม แล้วชี้ไปที่หวังเย้า
“แน่นอน นี้เป็นเพื่อนเก่าของหนู หวังเย้าค่ะ เขาเป็นคนขับรถมาส่งหนูที่นี่” ถงเว่ยพูด “นี่คือพ่ายแล้วก็พ่อของฉันเอง” ถงเว่ยหันไปหาหวังเย้าและแนะนำคนในครอบครัวของเธอให้กับเขา
“สวัสดีครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดี” พ่อของถงเว่ยพูดและสังเกตุเขาไปด้วย
“ฉันคิดว่าฉันกลับก่อนดีกว่าในเมื่อไม่มีอะไรให้ฉันช่วย” หวังเย้าพูดกับถงเว่ย
“โอเค ให้ฉันไปส่งนะ” ถงเว่ยพูด
“ไม่ต้องหรอก ขอบคุณ เธออยู่กับครอบครัวของเธอดีกว่านะ” หวังเย้าพูด
ถงเว่ยยังคงเดินไปส่งหวังเย้าที่ลิฟท์อยู่ดีและมองจนเขาหายไป โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นอีกครั้ง เธอมองไปที่ชื่อของหยางมือบนหน้าจอแต่ไม่ต้องการจะรับสายของเขา
สิบนาทีต่อมา หยางหมิงที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล ก็มาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับของขวัญ
“ไฮ ถงเว่ย แม่ของเธอเป็นยังไงบ้าง?” หยางหมิงถาม
“เธอกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ เธอจะดีขึ้น ฉันบอกเธอแล้วว่าไม่ต้องมา” ถงเว่ยพูด
“ฉันจะไม่มาได้ยังไง?” หยางหมิงพูด
เขาอยู่ภายในห้องของโรงพยาบาลและพูดคุยกับพ่อและพี่ชายของถงเว่ย แล้วเขาจึงโทรหาใครบางคนที่เขารู้จักในโรงพยาบาลแห่งนี้
“ผมรู้จักคนที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลนี้ เขาบอกผมว่าพรุ่งนี้เขาจะเข้ามาดูอาการของคุณแม่ให้ครับ ผมหวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง” หยางหมิงพูด
“ขอบคุณ” ถงเว่ยพูด
จากนั้น เพื่อนที่มางานเลี้ยงรุ่นได้โทรหาหยางหมิง
“นายควรจะไปกับพวกเขานะ” ถงเว่ยพูด
“ก็ได้ ฉันจะไป แล้วเจอกันนะครับคุณลุง” หยางหมิงพูด
หยางหมิงไม่ได้อยากไปเลย แต่เขาเป็นคนจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมา เขาจึงต้องอยู่จนกว่างานจะจบ อาการของแม่ของถงเว่ยนั้นคงที่แล้ว และเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ อีกอย่าง เขาก็ยังอย่างจะพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่มีประโยชน์สำหรับหน้าที่การงานของเขาด้วย
ถงเว่ยเดินไปส่งหยางหมิงที่ลิฟท์และโบกมือลา
“เว่ย สองคนนั้นกำลังตามจีบลูกอยู่เหรอ?” แม่ของถงเว่ยถามทันทีที่ถงเว่ยนั่งลง
“เปล่าค่ะแม่” ใบหน้าของถงเว่ยแดงขึ้น เธอรู้ว่าหยางหมิงนั้นชอบเธอ แต่กับหวังเย้านั้นเธอไม่แน่ใจ
“ถึงยังไง ลูกก็ควรจะเลือกคนที่เหมาะสมกับลูกเป็นสามีในอนาคต เพราะการแต่งงานนั้นมันจะส่งผลระยะยาวกับชีวิตของลูกนะ” แม่ของถงเว่ยพูด
“แม่ อย่ากังวลเรื่องของหนูเลยค่ะ แม่ของดูแลตัวเองให้ดีก่อน คืนนี้หนูจะอยู่เฝ้าแม่เองนะคะ” ถงเว่ยพูด เธอหันไปพูดกับพ่อและพี่ชายของเธอ “พ่อกับพี่กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
สามทุ่มครึ่ง หวังเย้าขับรถมาถึงหมู่บ้าน เขารีบขึ้นไปบนเนินเขา และเห็นว่าไฟในกระท่อมยังคงเปิดอยู่ ซานเซียนวิ่งมาหาเขาและส่ายหางของมัน ก่อนที่เขาจะเดินไปถึงกระท่อม
หวังเย้าเดินเข้าไปในกระท่อมและเห็นว่าพ่อของเขากำลังอ่านคัมภีร์อยู่