ตอนที่แล้วEH5 แพนโดรา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEH7 น้องสาวผู้แข็งแกร่ง

EH6 น้องสาว


 

สิ่งที่เกิดขึ้นผมไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง เพราะตอนนี้ผมมีโลลิน้อยน่ารักติดสอยห้อยตาม เป็นคนที่ไม่รู้ที่มา และถือเป็นปัญหาพอควร… ทางที่ดีที่สุด ผมคงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน

 

พี่สาวของผมออกไปทำงาน ตอนนี้เหลือแค่ผมกับแพนโดร่า ฉะนั้นตอนนี้เป็นเวลาเหมาะที่ผมจะเตี้ยมกับเธอหน่อย

 

“เอาหล่ะ… จำไว้นะว่าเธอชื่อ ‘ฟานลี่ลี่’” ผมย้ำเธออีกรอบ “เธอคือน้องสาวที่พลัดพรากมานานหลายปี ที่สำคัญ เธอห้ามพูดถึงเรื่องจักรวรรดิซี่หลิงให้ใครฟังเด็ดขาด… ไหนขอผมดูสัญลักษณ์บนแขนเธออีกหน่อย คนที่สร้างร่างให้เธอไม่ธรรมดาจริงๆ ฉะนั้นเรื่องที่ผมบอกไปเธอก็น่าจะได้ไม่ยาก”

 

“ค่ะ… พี่ชาย” แพนโดร่ายังไม่คุ้นกับชื่อไหว เลยตะกุกตะกักเล็กน้อย

 

แผนการของผมคือ ผมจะให้แพนโดร่าปลอมเป็นน้องสาวที่พรัดพรากจากกันกับผมมาตั้งแต่เด็ก เพราะยังไงซะก็ไม่มีใครรู้เรื่องราวทั้งชีวิตของผม เรื่องน้องสาวที่พลัดพรากก็ไม่น่าจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำไมผมกลับเอาแต่คิดว่ามีบางอย่างที่ไม่เหมาะพิกล?

 

ผมขมวดคิ้วครุ่นคิด มองเสื้อผ้าที่แพนโดราใส่ แต่ยังไงมันก็มีบางอย่างที่ไม่เหมาะ แต่ไม่เหมาะยังไงผมก็บอกไม่ถูก

 

เจอแล้ว...

 

“ฟาน...ลี่ลี่ เธอไม่ยิ้มหน่อยเหรอ?”

 

นี่คือสิ่งที่ผมสังเกตุเห็น! สาวน้อยข้างหน้าผมไม่ยอมยิ้ม แต่นอกจากจะไม่ยิ้มแล้ว สีหน้าของเธอยังไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นอกนั้นก็เหมือนคนปกติทั่วไป ตอนแรกที่เจอกัน เธอบอกเล่าเรื่องราวของจักรวรรดิชี่หลิง หลังจากนั้นเธอยืนนิ่งแข็งเหมือหุ่นที่ยอมพูดคุย ลักษณะแบบนี้ไม่สมกับเป็นเด็กอายุ 14 ปี

 

ปัญหาที่สองที่ผมสังเกตุเห็น คือเธอเป็นเหมือนคนประเภทปิดตัวเองและจืดชืดเหมือนซากศพ และปัญหาอีกอย่างคือดวงตาของเธอ

 

เธอดูเหม่อลอย สายตาไม่โฟกัสที่ไหนเป็นพิเศษ

 

ดูเหมือนผมต้องทุ่มความพยายามมหาศาลที่จะทำให้แพนโดร่าดูเหมือนเด็กทั่วไป...

 

หลายวันผ่านไป ผมทุ่มความพยายามในการบอกเล่าถึงลักษณะของเด็กสาวและวิถีชีวิตต่างๆให้เธอฟัง และเรียนรู้เรื่องราวต่างๆของจักรวรรดิชี่หลิง

 

แพนโดร่าบอกเล่าถึง ‘วอยโหนด’ ที่อยู่ใกล้ที่สุด... ข้อมูลคำสั่งที่ผมส่งไปยังซี่หลิง... ระยะทาง… สัญญาณไมโครอ่อนๆที่อยู่ในระดับจักรวาลและเป็นเอกลักษณ์ อยู่ในรูปแบบของเสียงรบกวนที่ยากจะหาคลื่นใดที่มีความถี่ตรงกันมาขัด ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ผมสามารถส่งคำสั่งให้ดาวแม่ของซี่หลิงได้

 

“ดิชั้นสามารถติดต่อกับซี่หลิงได้” แพนโด่ร่าพูด “แต่ได้ไม่นานนักเพราะมีหลายปัจจัยเป็นเหตุ... ท่านจักรพรรดิอยากตั้งฐานทัพบนดาวดวงนี้หรือเปล่า? ถ้าท่านมีฐานทัพ ท่านก็สามารถเปิดฉากสงครามได้ตลอดเวลา เพื่อยึดครองดาวดวงนี้”

 

“ไม่หล่ะ” เหงื่อของผมพรั่งพรูเมื่อได้ฟังแพนโดร่า “ผมไม่อยากครองโลกใบนี้”

 

บ้าหรือเปล่า! ตั้งฐานทัพบนโลก? แล้วไงต่อ? เรียกกองทัพของซี่หลิงมาที่นี่? สังหารมนุษย์? ปกครองโลก? แบบนั้นมันไม่เหมือนนิยายไปหน่อยเหรอ?

 

เมื่อวานแพนโดร่าบอกผมเรื่องคำสั่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสงคราม และกองทัพที่อยู่อีกกาแล็คซี่ ที่เข้าถล่มดวงดาวมานักต่อนัก… เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไปเอากองทัพแบบนั้นมาทำลายโลกที่ตัวเองอยู่ เรื่องสร้างฐานทัพบนโลกใบนี้ถึงได้จบไป

 

แต่หลังจากนั้น ผมก็ได้ฟังสาวน้อยพูดถึงเรื่องอาวุธต่างๆอีกมากมาย

 

นี่เธอบ้าไปแล้วหรือเปล่า? จะให้ยิงปืนใหญ่จากซี่หลิงมาใส่ที่นี่? ของพวกนั้นไม่คู่ควรใช้กับที่นี่เลยด้วยซ้ำ

 

“พี่ชาย สิ่งมีชีวิตที่มีพื้นฐานจากคาร์บอนกำลังมาที่นี่ กรุณายืนยันสถานะด้วย”

 

“สงสัยพี่สาวกำลังมาหล่ะมั้ง?” ผมหันมองนาฬิกา “ลี่ลี่ เธออย่าใช้วิธีพูดทำนองนี้อีกนะ เวลาพูดต้องทำให้คนรู้สึกว่าเธอเป็นมนุษย์”

 

ขณะที่แพนโดร่ากำลังสับสนกับสิ่งที่ผมพูด เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น

 

“กลับมาแล้ว” เสียงของพี่สาวที่ดูเหนื่อยดังขึ้น “หืม? อาจุน เด็กคนนี้เป็นใคร?”

 

“เธอชื่อฟานลี่ลี่” ผมสะกิดแพนโดร่าเบาๆเพื่อให้เธอแสดงสีหน้าให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ “เป็นของสาวของผม!”

 

“น้องสาว?” พี่สาวของผมตกใจ แต่เธอก็คิดว่าเป็นไปได้ เลยอุทานขึ้น “น้องสาวของนายจริงเหรอ? น้องสาวแท้ๆหน่ะเหรอ?”

 

“อืม!” ผมยิ้ม “เธอเป็นน้องสาวที่มีสายเลือดเดียวกัน ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะมีน้องสาว”

 

“สวัสดีค่ะ” แพนโดร่าโบกมือเล็กน้อย แต่สีหน้าของเธอดูทื่อๆ

 

พี่สาวของผมขมวดคิ้ว ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจกับการทักทายของแพนโดร่า ผมเลยรีบอธิบาย “ชีวิตที่ผ่านมาของลี่ลี่ไม่ดีเท่าไหร่… หายถึงเธอต้องพบเจอประสบการณ์ที่ไม่ดี ทำให้เธอดูแปลกๆแบบนี้แหละ”

 

พี่สาวของผมเริ่มสังเกตุการแต่งตัวของแพนโดร่า สายตาที่มองเริ่มเปลี่ยนเป็นเห็นใจ แต่ก็ยังแฝงด้วยความสงสัย

 

ผมรู้ว่าพี่สาวสงสัย ผมเพิ่งซื้อชุดให้เธอไม่นาน เลยดูไม่เข้ากับสตอรี่ที่ผมเล่าเท่าไหร่ ยิ่งผมไม่ได้บอกเล่าที่มาของแพนโดร่า พี่สาวเลยสงสัยว่าผมจะโกหก

 

ผมยิ้มแล้วจับแขนแพนโดร่าขึ้นมา ถลกแขนเสื้อข้างขวาขึ้น เพื่อแสดงรอยแผลเป็นขนาดเท่านิ้วมือ เป็นรอยแผลเป็นที่เหมือนกับแขนของผม

 

“นี่เป็นรอยที่ครอบครัวของผมทิ้งไว้ เป็นสัญลักษณ์ว่าเรามีสายเลือดเดียวกัน… ถึงจะฟังดูแปลกๆ แต่ผมกับลี่ลี่ก็รู้สึกคุ้นเคยกันอย่างบอกไม่ถูก ผมเลยมั่นใจว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของผม”

 

ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้พี่สาวของผมเชื่อวิทยาศาสตร์มาก ไม่งั้นเธอคงมองออกว่ากุเรื่องสายเลือดจอมปลอมขึ้นมา

 

และโชคดีที่พี่สาวของผมไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน เธอก็เลยเชื่อเรื่องที่ผมกุขึ้น 90% แต่จู่ๆเธอก็สังเกตุเห็นว่าตาของแพนโดร่าดูแปลกๆ

 

“อาจุน ทำไมตาของเด็กคนนั้น...”

 

ผมแสร้งทำสีหน้าเศร้าแล้วลูบหัวแพนโดร่าเบาๆ “ผมบอกแล้วไงว่าเธอเจอเรื่องไม่ดีมา ทำให้ตอนนี้เธอมองไม่เห็น นิสัยก็เลยกลายเป็นแบบนี้...”

 

ผมดึงให้เรื่องดูดราม่า

 

ความชาญฉลาดของผมทำให้พี่สาวของผมเชื่อ และเลิกสงสัยไป

 

“น่าสงสารจริงๆ...” เสียงของพี่ดูเศร้า สองมือประครองแพนโดร่าเข้ามากอด “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ให้เธอมาอยู่กับเราก็ได้ พี่จะได้ดูแลเธอด้วย...”

 

ความระแวงสงสัยของพี่สาวผมหายไป

 

ดูเหมือนผมต้องปิดบังความจริงไปก่อน เพราะยังไงซะความจริงแบบนั้นก็เหมาะที่จะบอกกับคนทั่วๆไปอยู่แล้ว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด