เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0027
ตอนที่ 27 : ฉินเต๋อเหริน
หลังผ่านไปสองชั่วโมง การแข่งขันที่กลุ่มแปดก็สิ้นสุด
ฉินหยุนทั้งไม่ได้รับบาดเจ็บและเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม และผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้รับอันดับหนึ่งของกลุ่มอื่นบ้างก็มีบาดแผลกันไม่มากก็น้อย เรื่องนี้ทำให้เขามีเปรียบได้ไม่น้อยในการแข่งรอบถัดไปที่จะถึง
มีเพียงน้อยนิดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ สองคนนั้นคือฉินหยุนและเว่ยเสวียนคุน และยังมีอีกคนที่รูปลักษณ์หล่อเหล่าทั้งยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน ชื่อนั้นคือฉินเต๋อเหริน!
“ฉินเต๋อเหริน? เหมือนเคยได้ยินมาก่อน บุตรของพระยาฉินอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนพลันนึกขึ้นได้
หลายคนอาจไม่ทราบว่าฉินเต๋อเหรินเป็นใคร แต่เขาทราบว่านี่คือลูกพี่ลูกน้องของตน!
บิดาของฉินเต๋อเหรินเป็นน้องชายฝาแฝดขององค์จักรพรรดิ ชื่อเสียงของพระยาฉินโด่งดังในฐานะผู้ปกปักษ์ชายแดน เป็นเพราะทั้งครอบครัวย้ายไปอาศัยอยู่บริเวณแถบชายแดน ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบว่าทางด้านนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
“ชักน่าสงสัยแล้วสิว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระยาฉินกับจักรพรรดินีเป็นอย่างไรกันแน่?” ฉินหยุนคิดกับตัวเองพักหนึ่งก่อนออกไปจับหมายเลขสุ่มขึ้นมา
โชคร้าย เขาจับได้คู่ประลองคือฉินเต๋อเหริน!
ฉินเต๋อเหรินเดินเข้ามาหาพร้อมยิ้มให้ฉินหยุน “ช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้ อย่างไรแล้วบนลานประลองช่วยชี้แนะข้าด้วยแล้วกันนะ!”
อีกฝ่ายอายุราวสิบเจ็ดหรือสิบแปด ค่อนข้างสูงกว่าฉินหยุนเล็กน้อย ใบหน้านั้นผอมบางกว่าทว่าหล่อเหลายิ่ง ชุดที่สวมใส่นั้นสีขาวบริสุทธิ์ทั้งยังมีท่าทีของผู้สูงศักดิ์ มองเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจแรกพบได้แล้ว
“ข้าหวังว่าท่านจะออมมือบ้างแหละนะ” ฉินหยุนไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นมิตรหรือศัตรู เขาจึงไม่คิดเผยท่าทีเป็นปฏิปักษ์
“อีกทางหนึ่ง หากเจ้าออมมือ ข้าคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าแล้ว” ฉินเต๋อเหรินหัวเราะร่วน น้ำเสียงนี้เป็นมิตร ใบหน้าก็ยังคงประดับรอยยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง
ฉินหยุนจึงทำได้เพียงยิ้มรับและไม่กล่าวคำใดอีก เขาในตอนนี้ต้องพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อได้รับชัยชนะและคว้าโอกาสเข้าสู่สระราชสีห์สวรรค์มาให้ได้ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้
คนทั้งสองกำลังเดินขึ้นลานประลองแล้ว
“ในการแข่งภายในกลุ่ม ฉินเต๋อเหรินล้มคู่ต่อสู้ได้ในหนึ่งกระบวนท่า ฝีมือต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่!”
“เขาน่าจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถสู้กับเว่ยเสวียนคุนได้”
“ไม่รู้หรอกนะว่าเขามาจากที่ไหน แต่เคล็ดวิชายุทธ์ที่เขาใช้ดีไม่เลวเลยละ แม้ว่าจะใช้เพียงหนึ่งกระบวนท่าในการแข่งรอบก่อนหน้า ทว่าแต่ละกระบวนท่านั้นก็ลึกล้ำยิ่ง ฝีมือของเขาก็เช่นกัน!”
“ฉินเต๋อเหรินเป็นคนใจกว้างนะ เป็นมิตรกับคนอื่นไปทั่ว น่าจะมีพื้นเพไม่ธรรมดา ไม่สิ ตัวตนต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน”
ผู้ชมใกล้ลานประลองเริ่มสนทนาถึงฉินเต๋อเหริน
“ศิษย์น้องหยุน! ข้ารู้นะว่ามหาอุปราชอยู่ที่ไหน!” ฉินเต๋อเหรินเอ่ยคำส่งเสียงให้ฉินหยุนได้ยิน
พอฉินหยุนได้ยินดังนี้ เขาจึงตื่นตัวขึ้น!
ทว่า ฉินเต๋อเหรินเพียงพูดจบก็ใช้ฝีเท้าเร็วยิ่งเดินไปอีกด้านของลานประลองเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากฉินหยุนกว่าสิบเมตรแล้ว
“เริ่มได้!”
ผู้อาวุโสตะโกนแจ้งเริ่มการประลอง
จิตใจของฉินหยุนถูกรบกวนเพราะคำพูดของฉินเต๋อเหริน กว่าเขาจะดึงสติกลับมาได้ก็เห็นฉินเต๋อเหรินพุ่งเข้าหาตนเองแล้ว
การโจมตีของฉินเต๋อเหรินไม่ได้ดุดัน เขาหลบหมัดนั้นได้ไม่ยาก!
“พี่ใหญ่ มหาอุปราชนั้นอยู่ที่ใดกัน?” ฉินหยุนกระซิบถามขณะหลบเลี่ยงไปอีกฝั่งหนึ่ง
“นางอยู่ที่ตำหนักของพระยาฉิน!” ฉินเต๋อเหรินตอบกลับ ถึงตอนนี้เขาก็ไม่ได้เร่งรีบใช้ฝ่ามือไล่ตามฉินหยุน ปล่อยให้เขาหลบไปอย่างง่ายดาย
ฉินหยุนลอบยินดี ในที่สุดเขาก็ทราบว่ามหาอุปราชอยู่ที่ใด!
“มาแลกเปลี่ยนกัน ข้าจะตั้งใจกระเด็นออกจากลานประลองเพื่อให้เจ้าชนะ ศักยภาพของเจ้ายอดเยี่ยม เจ้าต้องเข้าสู่สระราชสีห์สวรรค์ให้ได้ จงแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุด ถึงตอนนั้นจงใช้พลังที่มีพลิกกระดานจักรพรรดินี บ้านตระกูลพระยาหยุนจะยืนเคียงข้างเจ้า!” ฉินเต๋อเหรินกล่าวคำเหล่านี้ออกมาเสียงเบา มีเพียงเขาที่ได้ยิน “องค์จักรพรรดิตอนนี้มีการฝึกตนที่แตกซ่านจนไร้ซึ่งสภาพผู้คนแล้ว จักรพรรดินีและคนของนางตอนนี้กำลังคิดเข้าควบคุมจักรวรรดิ!”
ฉินหยุนยิ่งตื่นตัวกว่าเก่า เขาไม่เคยรู้เรื่องขององค์จักรพรรดิเลยแม้สักนิด!
“เข้ามา!” ฉินเต๋อเหรินกล่าวเรียกให้เพียงเขาที่ได้ยิน
ฝูงชนมองฉินเต๋อเหรินเคลื่อนไหวเชื่องช้าจนเกิดความงุนงงเต็มเปี่ยมในหัวใจ
“ฉินเต๋อเหรินตั้งใจเคลื่อนไหวแบบนี้! จากที่เห็นเหมือนจะพยายามหยอกล้อฉินหยุน!”
“ใช่ นี่เสมือนแมวหยอกหนูแล้ว หลังละเล่นเพียงพอ เมื่อนั้นหนูตัวน้อยจะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม”
“เหมือนฉินเต๋อเหรินจะเอาจริงแล้ว!” บุคคลหนึ่งพลันร้องเสียงดังขึ้น
ฉินหยุนเร่งรีบยื่นฝ่ามือออกเมื่อเห็นว่าฉินเต๋อเหรินพุ่งเข้าหาตนเอง ตามฉินเต๋อเหรินกล่าวไว้ เขาไม่ได้โคจรพลังปราณแข็งแกร่งอะไรมากนัก
ขณะเขายื่นมือออก และทันทีเมื่อฝ่ามือนั้นเข้าใกล้ฝ่ามือของฉินเต๋อเหริน เขาพลันรู้สึกได้ถึงพลังปราณรุนแรงไหลทะลักออกจากร่างฝ่ายตรงข้าม!
“โดนมันหลอกแล้ว!” ฉินหยุนพลันโกรธแค้นขึ้น เขาตอนนี้จึงได้เห็นท่าทีเจ้าเล่ห์ของฉินเต๋อเหรินเผยในดวงตาออกมาวูบ
ครั้งนี้เขาโดนฉินเต๋อเหรินหลอกเข้าอย่างจัง!
ด้วยทั้งความแตกตื่นและแรงโกรธแค้น ฉินหยุนเร่งรีบโคจรพลังปราณของพลังธาตุทั้งสองสู่สองแขน เขาปกป้องสองแขนเอาไว้ได้จากการเกือบโดนทำให้พิกลพิการ!
ทว่า เวลาสั้นเกินไป เขาทำได้เพียงโคจรพลังปราณเล็กน้อยไปที่แขนเท่านั้นเอง!
ตึง!
เมื่อสองฝ่ามือปะทะกัน เสียงปะทะดังสนั่นจึงบังเกิด!
ฉินหยุนโดนผลักดันกลับไปหลายสิบก้าว ใบหน้าเขาต้องเผยซึ่งความเจ็บปวด กระทั่งมีเลือดไหลซิบที่มุมปาก พลังปราณของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้ฉินเต๋อเหรินได้
ฝ่ามือของฉินเต๋อเหรินเปี่ยมไปด้วยพลังที่เย็นเยือกและแข็งแกร่ง เป็นผลให้แขนของเขารู้สึกด้านชา และพร้อมกันนี้อวัยวะภายในของเขาหลายแห่งก็ได้รับบาดเจ็บ
ฉินหยุนลอบสบถกับตัวเอง “เราประมาทเกินไป!”
แต่แล้วชั่วขณะที่เขากำลังจะยอมรับความพ่ายแพ้นั้นเอง
ฉินเต๋อเหรินพลันหัวเราะเสียงดังออกมาพร้อมพุ่งเข้าใส่ หมัดนั้นเปี่ยมไปด้วยพลังปราณรุนแรงเล็งเข้าที่ท้องของฉินหยุน
ทุกผู้คนต่างร้องออกด้วยความแตกตื่น ไม่ว่าใครต่างก็สามารถบอกได้ว่าหมัดนี้เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อตันเถียนของฉินหยุน!
“ฉินหยุน เจ้าไม่อาจโค่นล้มจักรพรรดินีได้ รับความตาย!” ใบหน้าของฉินเต๋อเหรินตอนนี้พึงพอใจ ดวงตากำลังเผยความดำมืดอันโหดเหี้ยมขณะหมัดพุ่งเข้าใส่ท้องของฉินหยุน!
“อ๊าก!” ฉินหยุนกรีดร้อง ร่างปลิวกระเด็นไปที่บริเวณมุมขอบของลานประลอง ที่เขาทำได้ตอนนี้คือคุกเข่ากับพื้นข้างหนึ่ง!
“พี่ชายน่าประทับใจนัก ดูเหมือนว่าพี่คุนคงไม่ต้องลงแรงเองอีกต่อไปแล้ว!” เยี่ยนหยุนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากลานประลองหัวเราะดังลั่น ใบหน้างดงามของนางตอนนี้เปี่ยมด้วยความอาฆาตขณะกล่าวคำต่อ “คราวนี้พลังปราณมันได้พิการแล้วงั้นสิ? ฮิฮิ หลังจากมันพิการจนเป็นง่อย จากนั้นมันก็จะโดนเขี่ยพ้นจากสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง เป็นเพราะมีตัวตนต่ำต้อยเช่นมันถึงทำให้ผู้คนภายนอกมองสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงตกต่ำ!”
โดยทันที ฉินหยุนตระหนักถึงเรื่องราวได้ ฉินเต๋อเหรินและเยี่ยนหยุนร่วมมือกัน!
พระยาฉินและจักรพรรดินีร่วมมือกัน หากฉินเต๋อเหรินทำให้เขาพิการได้ อีกฝ่ายจะต้องได้รับรางวัลใหญ่หลวงจากจักรพรรดินีอย่างไม่ต้องสงสัย!
หลังเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ความโกรธพลันพวยพุ่งภายในใจจนผสานเข้ากับพลังปราณ ตอนนี้พลังปราณภายในร่างของเขากำลังคำรามร้องด้วยความเกรี้ยวกราด!
“น่าหัวเราะนัก เรายังอ่อนต่อโลกเกินไป!” หมัดของฉินหยุนสั่นเทิ้มขณะพลังปราณอัดแน่นภายใน ตอนนี้เขารู้สึกเย็นเยียบจนถึงก้นบึ้งหัวใจ “ยังดีที่พลังธาตุไม่เป็นไร วิญญาณยุทธ์สั่นไหวช่วยปกป้องและสลายพลังปราณที่เข้าโจมตีตันเถียนเอาไว้ได้ทัน!”
ทุกคนลอบร้องภายใน พวกเขาคิดว่าฉินหยุนสมควรบาดเจ็บขนาดที่ว่าควรยอมรับความพ่ายแพ้แต่ก็ไม่ หากเป็นแบบนี้ต่อไปเขาอาจโดนฝ่ายตรงข้ามทำลายจนสิ้นซาก
ฉินเต๋อเหรินย่างก้าวเข้ามาและแค่นเสียงกล่าว “เจ้าก็แค่ไอ้คนที่มีเส้นวิญญาณเพียงหนึ่ง เป็นไอ้ตัวขี้แพ้ยังไงละ!”
เขายกขาที่เปี่ยมไปด้วยพลังปราณอัดแน่นก่อนจะหวดลูกเตะออก พร้อมกันนี้จึงตะโกนลั่นว่า “จงไสหัวออกไปจากสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง!”
แต่แล้วขณะที่ขาของฉินเต๋อเหรินขยับ อาการบาดเจ็บรุนแรงในกายของฉินหยุนเริ่มสั่นไหวรุนแรง กระดูกของเขาคล้ายส่งเสียงดังลั่นพร้อมหมัดที่ปล่อยออกด้วยความกราดเกรี้ยว!
พลังหมัดที่เต็มเปี่ยมด้วยโทสะปลดปล่อยออก แรงระเบิดมหาศาลจึงบังเกิด หมัดนั้นร้อนแรงสีแดงดั่งโลหะ มันวูบไหวซึ่งคลื่นความร้อนจนอากาศรอบด้านผิดเพี้ยน และมันกำลังพุ่งเข้าหาท้องของฉินเต๋อเหริน!
“หมัดอ่อนเปลวเพลิง แถมยังสำเร็จขั้นกลางแล้ว!” อาจารย์วัยกลางคนผู้หนึ่งร้องอุทาน รอบด้านลานประลอง เสียงฮือฮาดังไม่ขาด ไม่มีใครคาดคิดว่าฉินหยุนจะยังสามารถปลดปล่อยพลังปราณทรงพลังถึงเพียงนี้ออกมาได้!