ตอนที่แล้ว63 งานรวมรุ่น, นัดบอด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป65 เพื่อเงิน หรือ เพื่อสาวงาม

64 สาวงามราวดอกไม้ ทำให้คนใจสั่นไหว


64 สาวงามราวดอกไม้ ทำให้คนใจสั่นไหว

 

“แล้วลูกจะใส่อะไรล่ะ?” จางซิวหยิงถาม

 

“ตัวนี้ดีกว่าครับ”

 

“นั้นมันเหมือนชุดทำสวนเลยนะ ไม่ดีๆ แล้วชุดที่ลูกเพิ่งซื้อมาใหม่คราวที่แล้วล่ะ ชุดนั้นก็ดูดีนะ” สุดท้าย หวังเย้าก็โดนแม่ของเขาบังคับให้ใส่ชุดใหม่ที่เขาซื้อมาจากในเมือง แล้วเขาก็ขับรถออกไปจากหมู่บ้าน

 

“เย้า นายเจอคนที่ชอบบ้างรึยัง?” ภายในรถ หวังรุ่ยเริ่มคิดเรื่องแต่งงานของหวังเย้าขึ้นมา

 

“ไม่” หวังเย้าปฏิเสธก่อนที่จะมีคำถามอื่นตามมาอีก

 

“ไม่มีทาง พี่จำได้ว่าในชั้นเรียนของเธอมีสาวสวยอยู่ตั้งหลายคน” หวังรุ่ยพูด

 

“พวกเขาแต่งงานแล้ว”

 

“อ้อ จริงเหรอ?” หวังรุ่ยพูด “พวกดอกไม้ที่สวยๆต่างก็เป็นที่ต้องตาของใครหลายคน เหมือนกับพี่สาวของนายนั้นแหละ”

 

“พี่ ช่วยเลิกหลงตัวเองซักทีจะได้ไหม? พี่ควรจะรีบๆแต่งงานได้แล้ว!”

 

“เลิกพูด แล้วตั้งใจขับรถไป!”

 

เวลาเกือบจะบ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว ในตอนที่หวังเย้าขับรถไปถึงในเมือง

 

“นี่ แล้วงานเลี้ยงจัดทีไหนเหรอ?” หวังรุ่ยถาม

 

“โรงแรมเฉิงฮวา”

 

“ห๊ะ นั้นมันโรงแรมที่ดีที่สุดในเหลียนชานเลยนี่ ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมชั้นของนายจะรวยมากเลยนะเนี้ย!” หวังรุ่ยพูด

 

“ไม่รู้สิ ผมแทบจะไม่ได้คุยกับพวกเขาเลย” หวังเย้าพูด

 

“โอเค คืนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่นายจะได้พูดคุยกับเพื่อนๆ และโดยเฉพาะกับสาวๆ”หวังรุ่ยพูด

 

“ถึงแล้ว” หวังเย้าจอดรถบริเวณอพาร์ทเมนต์ที่หวังรุ่ยได้เช่าเอาไว้ เขามองไปที่ตึก มันดูเก่ามากแต่มันใกล้กับที่ทำงานของพี่สาวเขา

 

“พี่ ผมซื้อบ้านให้พี่ดีไหม?”

 

“ซื้อบ้าน? ซื้อทำไม?” หวังรุ่ยมองไปที่พักที่เธอได้เช่าเอาไว้

 

“บ้านหลังหนึ่งราคาตารางเมตรละเกือบ 5,000 หยวน มันต้องใช้เงินเกือบห้าแสนหยวนสำหรับบ้านหนึ่งหลัง เงินเดือนของฉันยังไม่ถึง 3,000 หยวนเลยด้วยซ้ำ มันแพงเกินไป อยู่อพาร์ทเมนต์ก็ดีอยู่แล้ว”

 

“พี่ พี่แค่เลือกบ้านมาแล้วผมจะเป็นคนจ่ายเงินเอง” หวังเย้าพูด ในบัตรของเขาตอนนี้ มีเงินอยู่กว่าสองล้านหยวน มันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยถ้าเขาคิดจะซื้อบ้านซักหลัง แล้วเขาก็ไม่รู้ว่า จะเอาเงินที่มีไปทำอะไรด้วย

 

“นั้นมันเป็นหน้าที่ของพี่เขยในอนาคตของนายต่างหาก นายควรจะรีบไปที่งานเลี้ยงรุ่นของนายได้แล้ว ฉันจะขึ้นห้องแล้ว” หวังรุ่ยพูดจบก็เดินขึ้นไปบนตึก

 

หวังเย้าขับรถออกไปจนเจอกับตึกที่โดดเด่นที่สุดในเหลียนชาน มันคือตึกสูง 12ชั้นของโรงแรมเฉิงฮวา โรงแรมสุดหรูของเหลียนชาน

 

เมื่อเขาจอดรถเสร็จ เขาก็เดินเข้าไปในโรงแรม และเดินหาห้องที่หยางหมิงได้บอกเอาไว้ มันเป็นห้องใหญ่ที่มีโต๊ะกลมหลายโต๊ะ ที่สามารถรับรองแขกได้ถึง 60 คนด้วยกัน เมื่อเขามาถึงเขาก็พบว่ามีคนมาถึงก่อนเขาแล้ว

 

“เฮ้ นายคือหวังเย้าใช่ไหม?!”

 

มีคนมากมายเข้ามาทักทายเมื่อเขาเข้ามาภายในห้องจัดเลี้ยง และเขาก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

 

“ฉันว่าจะโทรหานายพอดี เพราะคิดว่านายจะไม่มาแล้วซะอีก!” หยางหมิงเดินมาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้ม เขาอยู่ในชุดสูทราคาแพง มันทำให้เขาดูดีและมั่นใจ

 

“มานั่งโต๊ะกับพวกเราไหม?” หยางหมิงถาม

 

“ไม่ดีกว่า”

 

ในตอนนั้นเองก็มีเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นเดินเข้ามาภายในงาน แล้วหยางหมิงจึงเดินเข้าไปทักทาย

 

หวังเย้าเลือกที่นั่งใกล้กับหน้าต่างแล้วพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งอยู่ใกล้เขา เขาจำชื่อพวกเขาได้ แต่พวกเขาดูแปลกไปเพราะไม่ได้เจอกันหลายปี บางคนก็แต่งงานแล้ว ส่วนบางคนก็ถึงกับพาลูกของพวกเขามางานนี้ด้วย

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

“เอาบุหรี่ไหม?” ชายร่างสูง 1.8 เมตรยื่นบุหรี่ให้เขาพร้อมกับรอยยิ้ม

 

เขาจำชื่อของคนคนนี้ได้ เขาชื่อ หลี่ชูกาง เขาเป็นคนที่สูงมาก เขามักจะนั่งอยู่หลังห้องเสมอและเป็นคนเงียบๆ การเรียนของเขานั้นไม่ได้ดีมาก แต่เขาก็มาพยายามตั้งใจเรียนในเทอมที่สองของปีสุดท้าย แล้วเขาก็ทำได้ดีจนสอบเข้ามหาลัยได้

 

“ฉันไม่สูบ ขอบคุณนะ” หวังเย้าพูด

 

“นายทำงานอะไรหลังจากที่เรียนจบเหรอ?” หลี่ชูกางถามในตอนที่เขาจุดบุหรี่

 

“ปลูกสมุนไพรอยู่ที่บ้าน แล้วนายล่ะ?”

 

“ฉันทำงานในบริษัทเกี่ยวกับยาชีวภาพที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือน่ะ แต่ก็เพิ่งลาออกเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง”

 

“นายคิดจะหางานทำแถวบ้านเกิดเหรอ?” หวังเย้าถาม

 

“เฮ้! เพื่อน!” ในตอนนั้นเอง ก็มีคนตะโกนขึ้นมา หวังเย้าจึงมองไปและเห็นว่าหยางหมิงกำลังกอดชายร่างกำยำคนหนึ่งเอาไว้

 

“เหอห่าย” หลี่ชูกางพูด

 

เหอห่ายเป็นหนึ่งในท็อปของโรงเรียน นอกจากจะเรียนเก่งแล้วเขายังเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆคนด้วย ในตอนที่เรียนอยู่เขานั้นมีเพื่อนอยู่มากมาย เขายังทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ดี จนติดโรงเรียนทหารระดับท็อปของประเทศได้ ดังนั้นเขาจึงมีอนาคตและหน้าที่การงานที่มั่นคง

 

“เขาเข้ารับตำแหน่งทหารระดับล่างหลังจากเรียนจบอยู่สามปี ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นทหารระดับสูงตอนนี้” หลี่ชูกางพูด

 

“อนาคตของเขาดูสดใสมาก!” หวังเย้าพูด

 

“ใช่”

 

“เอ๋? แล้วทำไมเขาถึงกลับมาช่วงนี้ล่ะ?” หวังเย้าถามด้วยความสงสัย เพราะค่ายทหารนั้นมักจะเข้มงวดเรื่องการเข้าออกของทหารมาก

 

“ไม่รู้สิ”

 

หยางหมิงลากเหอห่ายมาที่โต๊ะของพวกเขา เหอห่ายจึงได้ทักทายหวังเย้าและคนอื่นๆ

 

หลังจากห้าโมงเย็น โต๊ะทั้งสองก็เต็มไปด้วยคนเกือบ 20 คนด้วยกัน พวกเขาต่างก็เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยคนละที่กัน และส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่มหาวิทยาลัยในช่วงวันหยุดฤดูหนาวและฤดูร้อน จึงไม่มีใครกลับมาเหลียนชานในช่วงเวลานั้นเลย แต่หลังจากที่พวกเขาเรียนจบ บางคนก็กลับมาที่เหลียนชานเพราะค่าครองชีพและการแข่งขันที่สูงในเมืองใหญ่ และบ้านแต่ละหลังในเมืองใหญ่ก็มีราคาที่สูงมาก แม้ว่าพวกเขาจะทำงานเก็บเงินสิบปีหรือยี่สิบปีก็ยังไม่มากพอที่จะซื้อได้

 

บางครั้ง ผู้คนก็ไม่อาจจะกำหนดโชคชะตาของตัวเองได้ แม้ว่าพวกเขาจะมีความทะเยอทะยานมากแค่ไหนก็ตาม

 

ในช่วงเวลาเพื่อนร่วมชั้นต่างกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น อยู่ๆประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออก

 

หญิงสาวหน้าตางดงามได้เดินเข้ามาจากด้านนอก เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย เธอแต่งแต้มใบหน้าและมีผมดำเงาสาวสยายประบ่าของเธอ

 

ภายในห้องก็ดูสว่างไสวขึ้นมาทันทีที่เธอเข้ามา

 

“ถงเว่ย!” หยางหมิงลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม

 

“เราเห็นเธอมานานหลายปีแล้ว แต่เธอก็ยังสวยขึ้นเรื่อยๆ” หลี่ชูกางพูดช้าๆ

 

“ใช่” หวังเย้าหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่ม

 

ชานี้รสชาติแย่จริงๆ

 

“หยางหมิงดูเหมือนจะตามจีบเธออยู่ใช่ไหม?”

 

“อาจจะ?” หวังเย้าพูด

 

ผู้หญิงสวยมักจะได้รับความสนใจจากผู้ชายหลายๆคน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด