ตอนที่แล้วตอนที่ 20 ของขวัญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 ผสานจิตยุทธ

ตอนที่ 21 นกสองหัว


เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซาน ฉู่ชิงหยุนเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะวันนั้น ฉินอวี่เยียนพูดว่านางจะส่งเม็ดยามาให้เขาที่เมืองฉู่

แต่เขาไม่คิดเลยว่า ฉินอวี่เยียนจะให้ฉินซานเป็นคนมาส่ง เขาเป็นถึงผผู้ดูแลตำหนักร้อยสมบัติ การที่นางให้เขาเป็นคนมาส่งเม็ดยาให้เป็นอะไรที่เขาคาดไม่ถึง

"ในเมื่อผู้ดูแลฉินพูดเช่นนั้น ข้าคงต้องรับมันไว้" ฉู่ชิงหยุนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม และเมื่อเขาพูดเช่นนั้นออกมา ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างเผยสีหน้าบ้าคลั่ง

เม็ดยาพวกนั้นฉินอวี่เยียนเป็นคนหลอมขึ้นมาเองกับมือ ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนที่มากมายขนาดนั้น ในแง่ของมูลค่าพวกมันจะต้องมีค่ามากกว่าสามสิบผลึกวิญญาณอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากมายนัก

แต่ฉู่ชิงหยุนกล้าที่จะพูดจาไม่แยแสแบบนั้นออกมา!

"จะว่าไปวันนี้เป็นวันประชุมประจำตระกูลฉู่ มันคงจะดูไม่ดีหากคนนอกอย่างข้าอยู่ที่นี่นานเกินไป เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวลา และหวังว่านายน้อยฉู่จะรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้" ฉินซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในใจเขากลับรู้สึกตกตะลึงอยู่เล็กน้อย

สองวันก่อน เมื่อฉู่ชิงหยุนออกจากตำหนักร้อยสมบัติ เขารอให้ฉินซานมาที่บ้านตระกูลฉู่ในอีกสองวันเพื่อหารือเกี่ยวกับการร่วมมือกัน

ในเวลานั้นฉินซานไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่ตอนนี้หลังจากที่เขามาดูเหมือนว่าฉู่ชิงหยุนได้คาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นไว้ทุกอย่างแล้ว และวางแผนที่จะยืมมือเขาเข้ามาช่วยเพื่อแก้ไขสถานการณ์

"เจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ" ฉินซานคิดอยู่ในใจ และผสานมือคำนับก่อนที่จะออกจากเมืองฉู่

"ผู้ดูแลฉิน โปรดรอสักครู่!" ทันทีที่เขาหันหลังกลับ ฉู่ชิงหยุนตะโกนเรียกเขา

ฉู่ชิงหยุนเดินเข้าไปหาฉินซานด้วยรอยยิ้มและพูดว่า "เมื่อครู่ ท่านได้ช่วยเหลือข้าเอาไว้ ดังนั้นข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับท่านแและหวังว่าท่านจะรับมันไว้"

ในขณะที่พูด ฉู่ชิงหยุนหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแหวนมิติและส่งให้กับฉินซาน

ในตอนแรก ฉินซานกำลังครุ่นคิดว่ามันคืออะไร แต่หลังจากที่เขามองไปที่ตัวอักษรบนกระดาษ ราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่าขณะจ้องมองไปที่ตัวอักษรขนาดใหญ่สามตัวที่เขียนอยู่บนกระดาษ เม็ดยาชำระหัวใจ

"นี่มันสูตรหลอมเม็ดยาระดับสอง!" ฉินซานตกใจ

ตั้งแต่ที่เห็นประสิทธิภาพของหยดเพลิงวิญญาณ ทำให้ฉินซานรู้ดีว่าฉู่ชิงหยุนรู้เรื่องศาสตร์ปรุงยาอย่างลึกซึ้ง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หยดเพลิงวิญญาณทำให้ตำหนักร้อยสมบัติอัดแน่นไปด้วยผู้คน มีผู้คนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาที่ตำหนักร้อยวิญญาณเพื่อต้องการซื่อหยดเพลิงวิญญาณและเม็ดยาหลอมกายา

เพียงแค่สองวัน กำไรที่ตำหนักร้อยสมบัติได้จากหยดเพลิงวิญญาณมากกว่าค่าสูตรยาเสียอีก หรืออาจกล่าวได้ว่าพวกเขาคืนทุนแล้ว ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริงแต่อย่างใด

แม้หยดเพลิงวิญญาณจะเป็นเม็ดยาระดับหนึ่ง แต่มูลค่าของมันสูงมาก แล้วถ้าเป็นเม็ดยาระดับสองล่ะ มันจะมีมูลค่ามากแค่ไหน?

"นายน้อยฉู่ ของที่ท่านมอบให้มูลค่าของมันไม่สูงไปหน่อยหรือ?" ฉินซานรู้สึกตื่นเต้นมาก ถึงขั้นมือไม้สั้น สูตรหลอมเม็ดยาระดับสองที่อยู่ในมือ มูลค่าของมันสูงจนไม่อาจจินตนาการได้

"อย่างที่ท่านพูดเมื่อครู่ ข้าและท่านเป็นหุ้นส่วนกัน ในเมื่อพวกเราเป็นหุ้นส่วน แน่นอนว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ยิ่งไปกว่านั้นสูตรยาที่ข้าให้มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนัก" ฉู่ชิงหยุนกล่าวขณะยักไหล่และพูดอย่างไม่แยแส

คำพูดของเขาไม่ได้อวดดีหรือหลอกลวง

ฉู่ชิงหยุนเป็นปรมาจารย์นักปรุงยาระดับแปด เขามีสูตรหลอมเม็ดยานับไม่ถ้วนอยู่ในใจ เม็ดยาระดับสองมันไม่ได้มีค่าอะไรกับเขาเลย และสามารถเขียนได้ด้วยปลายนิ้ว

แต่เมื่อฉินซานได้ยินคำพูดของเขา มันแตกต่างจากที่ฉู่ชิงหยุนคิด

เขาจ้องมองไปที่ฉู่ชิงหยุน ด้วยความรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยอยู่ด้านใน ก่อนที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า "นายน้อยฉู่ ข้ารู้สึกขอบคุณท่านมาจากก้นบึ้งของหัวใจ!"

ฉินซานก้มหน้าแสดงความขอบคุณเขา ซึ่งทำให้ฝูงชนรู้สึกตกตะลึง พวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจและสงสัย และอยากรู้ว่ากระดาษที่ฉู่ชิงหยุนส่งให้นั้นเขียนอะไรเอาไว้ ถึงทำให้ผู้ดูแลฉินต้องก้มหน้าขอบคุณ

หลังจากที่ฉินซานจากไป บรรยากาศภายในตำหนักบรรพบุรุษเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ตัวนั้นของผู้ดูแลฉินนั้นสูงส่งเกินไป เหมือนกับมีภูเขากดทับพวกเขาอยู่และทำให้พวกเขาหายใจไม่สะดวกเมื่อเขาอยู่ที่นี่

ฉู่ชิงหยุนก้าวเดินออกไปข้างหน้า เขามองไปที่ฝูงชนและถามว่า "พวกเจ้าทุกคน ในเมื่อผู้อาวุโสทั้งสามท่านได้จากไปแล้ว แต่ที่นี่ยังมีใครอีกหรือไม่ที่ต้องการบังคับให้ข้าส่งมอบตราผู้นำตระกูล?"

เมื่อฉู่ชิงหยุนกล่าวจบ ทุกคนรวมถึงเหล่าผู้คุ้มกันต่างส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง

"ตามกฎของตระกูล ตราผู้นำตระกูลจะต้องถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และไม่มีใครสามารถใช้กำลังบังคับได้ แล้วพวกเราจะละเมิดกฎของตระกูลได้อย่างไร?"

"วันนี้ พวกเราได้เห็นถึงความกล้าหาญของนายน้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งที่น่าอัศจรรย์หรือความมั่งคั่งที่น่าทึ่ง แม้กระทั่งผู้ดูแลฉินก็ยังปฏิบัติต่อท่านอย่างสุภาพ มันเป็นความโชคดีของพวกเราที่มีนายน้อยเป็นผู้นำแล้วใครจะกล้าไม่เห็นด้วย!"

"ใช่แล้ว ท่านคือผู้นำของตระกูลฉู่!"

"..."

ความคิดเห็นของฝูงชนแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง และพูดจาเยินยอเพื่อเชิดชูฉู่ชิงหยุน

ฉู่ชิงหยุนในตอนนี้เจิดจ้ามาก แม้กระทั่งตำหนักร้อยสมบัติยังยินดีที่จะให้การสนับสนุนเขา ดังนั้นหากพวกเขามีโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับฉู่ชิงหยุน พวกเขาจะต้องได้รับผลประโยชน์มากมายในอนาคตอย่างแน่นอน

ฉู่ชิงหยุนที่ยืนอยู่ตรงกลางตำหนักบรรพบุรุษกำลังจ้องมองไปที่สีหน้ามีเยินยอของฝูงชน อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาไม่ได้เผยสีหน้าพึงพอใจออกมาแต่อย่างใด มีเพียงแค่สีหน้าดูถูกและไม่แยแส

ทันใดนั้น เขายกมือขึ้นเพื่อให้ทุกคนเงียบ

"ข้าได้ยินคำพูดของพวกเจ้าชัดเจนแล้ว และอยากจะพูดกับพวกเจ้าสักเล็กน้อย" ฉู่ชิงหยุนพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาและปราศจากอารมณ์

ฝูงชนพยักหน้า พวกเขายังคงนิ่งเงียบและเคารพเขา

"ข้ารู้ดีว่าพวกเจ้าที่อยู่ที่นี่เป็นคนแบบไหน พวกเจ้ามันเป็นพวกนกสองหัว ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบ พวกเจ้าก็จะรีบเข้าไปประจบ ถ้าวันนี้ฉู่ผิงเทียนได้รับตราผู้นำตระกูลไปจากข้า พวกเจ้าคงจะไม่แม้แต่เหลียวตามองข้า ถึงแม้ข้าจะคุกเข่าลงกับพื้นก็ตาม"

ทันทีที่ฉู่ชิงหยุนเปิดปากพูด ฝูงชนกลายเป็นตกตะลึง

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สนใจปฏิกิริยาของพวกเขาและพูดต่อว่า "แต่ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก ในเมื่อข้าได้เป็นผู้นำตระกูลฉู่แล้ว ข้าจะเริ่มทุกอย่างใหม่หมด ตราบใดที่พวกเจ้าทำงานเพื่อตระกูล ข้าก็จะไม่ปฏิบัติกับพวกเจ้าอย่างเลวร้าย"

"แต่ก่อนหน้านั้น ข้าได้ลงมือสังหารฉู่ไห่และทำให้ฉู่ผิงเทียนโกรธแค้นข้าอย่างหนัก ผู้อาวุโสอีกสองคนก็เป็นศัตรูของข้า ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงขอประกาศว่า ผู้อาวุโสทั้งสามคนของตระกูลฉู่จะต้องถูกขับไล่ออกจากตระกูล และตอนมีชีวิตห้ามเขียนชื่อลงในแผนผังตระกูล ส่วนตอนตายห้ามฝังศพที่สุสานของตระกูลฉู่!"

"ดังนั้น ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะตัดสินใจเลือกให้ดีว่าจะติดตามข้าหรือผู้อาวุโสทั้งสามคน และหวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำอะไรลับหลังข้า"

เมื่อฉู่ชิงหยุนกล่าวแววตาของเขาเผยให้เห็นถึงแสงที่หนาวเย็น "ไม่เช่นนั้น มันมีแต่จะทำให้พวกเราลำบากทั้งสองฝ่าย และข้าจะไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้กับคนแบบนั้น!"

หลังจากพูดจบ ฉู่ชิงหยุนกลับมาสุขุมเหมือนเดิม และไม่สนใจปฏิกิริยาที่ตกตะลึงของฝูงชน แล้วเดินออกไปพร้อมกับสุ่ยหลิวเชียงและฉู่หู่

เบื้องหลังเขา ทุกคนยังคงยืนนิ่ง

ทุกคนยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน คำพูดที่ฉู่ชิงหยุนพูดเมื่อครู่ยังคงดังก้องอยู่ภายในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด