ตอนที่ 20 ของขวัญ
ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาด้วยท่าทางอ่อนแรง
แต่แรงกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นหนาแน่นและรุนแรงมาก
อินทรีเพลิงเมื่อครู่ มันเป็นจิตยุทธของชายชราผู้นี้ เขาสามารถเอาชนะฉู่ผิงเทียนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของชายชราผู้นี้น่าสะพรึงกลัวแค่ไหน
"ฉินซาน?" หลายคนตระหนักตัวตนของชายชราผู้นี้ได้ทันทีและหลุดปากพูดออกมา
ฝูงชนหันหน้ามองกันไปมา ทุกคนสามารถมองเห็นความประหลาดใจในสายตาของคนอื่นได้ เหตุใดซินฉานผู้ที่เป็นผู้ดูแลตำหนักร้อยสมบัติ คนที่สูงส่งอย่างเขาถึงมาที่เมืองฉู่แห่งนี้กัน?
แน่นอนว่าฉู่ผิงเทียนย่อมรู้จักฉินซาน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเขามองไปที่ฉินซาน มันทำให้เขาเกิดความรู้สึกไม่ดีอยู่ในใจ
ฉินซานเดินผ่านฝูงชนและเดินตรงไปอยู่ด้านหน้าฉู่ชิงหยุนโดยไม่แยแสต่อผู้คนรอบข้าง ทว่าเมื่อเขามาอยู่ด้านหน้าฉู่ชิงหยุน เขายิ้มออกมาและผสานมือคำนับ "ข้าไม่เห็นท่านมาหลายวัน แต่ดูเหมือนว่าท่านจะสบายดี"
"นั่นเป็นเพราะตำหนักร้อยสมบัติของท่านนั้นแหละ" ฉู่ชิงหยุนยิ้มอย่างไม่แยแสและหันไปเยาะเย้ยฉู่ผิงเทียน
ฉินซานเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และยกระดับเสียงพูดด้วยความหนักแน่นว่า "นายน้อยฉู่ หากมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตท่านสามารถบอกข้าได้ทุกเมื่อ ข้าฉินซานจะเป็นคนจัดการให้ แล้วมาดูกันว่าจะมีผู้ใดมีความกล้ามากพอที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับท่าน"
อึก!
หัวใจของเหล่าผู้อาวุโสและคนอื่นกระตุก และเข้าใจสิ่งที่ฉินซานพูดทันทีเพื่อเตือนพวกเขาไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ฉู่ชิงหยุน
มิฉะนั้น มันจะเป็นการท้าทายฉินซานและตำหนักร้อยสมบัติ
ฉู่ผิงเทียนรู้สึกตกใจกับคำพูดของฉินซาน เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าฉู่ชิงหยุนจะมีฉินซานคอยหนุนหลังอยู่
เขากัดฟันและเหลือบมองไปที่ศพของฉู่ไห่ และความเกลียดชังได้ปะทุออกมาอีกครั้ง เขาก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า "ท่านฉิน ท่านพอจะมีเวลาสักเล็กน้อยหรือไม่?"
"หืม?" เมื่อฝูงชนได้ยินคำพูดของฉู่ผิงเทียน ดวงตาของพวกเขาจับจ้องไปที่เขาทันที
"เจ้ามีปัญหาอะไรงั้นรึ?" ฉินซานมองฉู่ผิงเทียนด้วยสายตาเหยียดยาม
"ฉู่ชิงหยุนเป็นสมาชิกตระกูลฉู่ของข้า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องภายในตระกูล ด้วยเหตุผลข้างต้น ข้าเกรงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตำหนักร้อยสมบัติ โปรดอย่าได้เข้ามายุ่งเรื่องภายในตระกูลของข้าเลย" แววตาของฉู่ผิงเทียนเต็มไปด้วยความมืดมนและภายในใจของเขายังคงเต็มไปด้วยภาพของฉู่ไห่ที่ถูกฆ่าตาย
ศัตรูที่ฆ่าลูกชายของเขาไม่อาจอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน
เขาจะต้องแก้แค้นโดยการฆ่าฉู่ชิงหยุนให้ได้
ฉินซานเผยสีหน้าเย้ยหยัน เขาไม่สนใจความโกรธแค้นของฉู่ผิงเทียนแม้แต่น้อย และเดินเข้าไปหาฉู่ผิงเทียนอย่างช้าๆก่อนที่จะมองหัวจรดเท้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนาวเย็นออกมาว่า "เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?"
ฉินเซียนกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส แต่มันแฝงไปด้วยพลังที่น่าหวาดกลัวซึ่งมองไม่เห็น ทำให้ร่างกายฉู่ผิงเทียนสั่นเทาอย่างบ้าคลั่งและสีหน้ากลายเป็นซีดขาวเหมือนกับกระดาษ
"คำพูดของข้าทุกคนน่าจะได้ยินชัดเจน หากใครกล้าสร้างปัญหาให้กับนายน้อยฉู่ ข้าฉินซานยินดีที่จะคืนกลับให้พวกเจ้าหนึ่งร้อยเท่า"
ระหว่างที่พูดฉินซานไม่คิดที่จะปกปิดกลิ่นอายที่น่าเกรงขามของตัวเอง ทำให้ฉู่ผิงเทียนรู้สึกหนาวเย็นและไม่กล้าที่จะปริปากพูดอะไรออกมาอีก
ในเมืองฉู่ เขาเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลฉู่ และมีสถานที่สูงส่ง
แต่เมื่อเทียบกับฉินซานแล้ว มันเหมือนกับสวรรค์และนรก
"ฉู่ชิงหยุน ครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน!" ฉู่ผิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะสงบสติลงและจ้องมองไปที่ฉู่ชิงหยุนด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่จะออกไปจากตำหนักบรรพบุรุษพร้อมกับศพของฉู่ไห่
ผู้อาวุโสที่เหลือรีบเดินตามเขาออกไปเช่นกัน
ณ จุดนั้น หากอยู่ต่อไปมีแต่จะเสียเวลาและไร้ความหมาย ทั้งยังสร้างความอัปยศให้กับตัวเองเท่านั้น
"หึ่ม พวกรักตัวกลัวตาย" ช่วยไม่ได้ที่ฉินซานจะพูดจาเยาะเย้ยออกมา
ฉินซานหันหลังกลับมา สีหน้าที่ไร้แยแสของเขาหายไปทันที เขายิ้มออกมาเล็กน้อยอีกครั้งและพูดกับฉู่ชิงหยุนว่า "นายน้อยฉู่ ตามจริงข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องภายในของตระกูลฉู่ แต่กลุ่มคนพวกนั้นไร้ยางอายเกินไปจนข้าไม่สามารถยืนเฉยได้ โปรดอย่าได้ตำหนิข้า"
"ผู้ดูแลฉินทำถูกต้องแล้ว ทำไมข้าจะต้องตำหนิท่านด้วย" ฉู่ชิงหยุนโบกมือและเห็นแสงสว่างในสายตาของฉินซาน เขาจึงอดที่จะถามออกมาไม่ได้ว่า "หากผู้ดูแลฉินมีอะไรจะพูด ท่านสามารถพูดออกมาได้เลยไม่จำเป็นต้องปกปิด"
ฉินซานส่งเสียงหัวเราะและนำกล่องไม้ออกมาและส่งสัญญาณให้ฉู่ชิงหยุนเปิดมัน
ด้วยความสงสัยที่เกิดขึ้นอยู่ในใจ ฉู่ชิงหยุนเปิดกล่องไม้ทันที
ทันใดนั้น กลิ่นหอมของเม็ดยาลอยออกมาจากกล่องไม้ ปกคลุมไปทั่วตำหนักบรรพบุรุษ กลิ่นของมันทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
ภายในกล่องไม้มีขวดหยกหลายขวดวางเรียงรายอย่างประณีต และแกะสลักด้วยรูปวิหคเพลิง มังกร และสัตว์อสูร ทุกคนสามารถพูดได้ว่าขวดหยกพวกนั้นล้ำค่าแค่ไหน
"นายน้อยฉู่ นี่คือเม็ดยาหลอมกายาสามสิบขวด เม็ดยาเสริมพลังวิญญาณสามสิบขวดและหยดเพลิงวิญญาณสามสิบขวด ทั้งหมดคุณหญิงอวี่เยียนหลอมขึ้นมาด้วยตัวเอง และมีประสิทธิภาพสูงมาก โปรดรับไว้ด้วย" ฉินซานกล่าวอย่างจริงจัง
หัวใจของฝูงชนกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง ราวกับว่ามีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นอยู่ภายในจิตใจของพวกเขา พวกเขาทุกคนรู้สึกตกตะลึงมากถึงขั้นอ้าปากกว้างและแทบจะขาอ่อนยืนไม่ไหว
ในบรรดาขวดหยกเหล่านั้น พวกมันเต็มไปด้วยเม็ดยาที่มีค่ามากมาย?
"เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่ผู้ดูแลฉินพูดว่าทั้งหมดนี่คุณหญิงอวี่เยียนเป็นคนหลอมขึ้นมาเอง คุณหญิงอวี่เยียนคือคนที่ได้รับการต้อนรับจากท่านเจ้าเมืองเมื่อสองสามเดือนก่อนใช่ไหม?"
ทันใดนั้นเอง คำพูดของฉู่ชิงหยุนทำให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก
เกี่ยวกับฉินอวี่เยียน พวกเขารู้จักไม่มากก็น้อย
มีข่าวลือว่าตัวตนของนางนั้นน่าสะพรึงกลัวมาก เมื่อได้รับข่าวว่านางจะเดินทางมาที่เมืองซีเฟิงเป็นครั้งแรก เจ้าเมืองฉีเฟิงถึงขั้นนำทหารสามพันคนออกมาต้อนรับ และยืนรอนางนานหลายชั่งโมง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการกล่าวกันอีกว่า นางเป็นนักปรุงยาที่มากพรสวรรค์ ทั้งที่ยังเยาว์วัยแต่กลับเป็นนักปรุงยาระดับสองแล้ว
ตราบใดที่เม็ดยาถูกนางหลอมขึ้นมา ประสิทธิภาพของมันก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนบ้าคลั่งเพื่อที่จะแย่งชิงมันมา
หญิงสาวที่เป็นดั่งตำนาน ทว่าวันนี้นางกลับส่งฉินซานมาที่เมืองฉู่เพื่อมอบเม็ดยาให้กับฉู่ชิงเฟิง ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความสุภาพและจริงใจราวกับกลัวว่าฉู่ชิงหยุนจะไม่รับเม็ดยา
ถ้าข่าวนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าทั้งเมืองซีเฟิงจะต้องบ้าคลั่งเพราะเรื่องนี้...