GE162 หยกสวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม [ฟรี]
หนิงฝานเอ่ยขอหยกสวรรค์ราคาสูง แต่ก็ดีกว่าต้องจ่ายด้วยชีวิต ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นบาดเจ็บสาหัส มันเชื่อว่าหนิงฝานสังหารมันได้ง่ายๆ
แม้หยกสวรรค์จะล้ำค่า แต่ไม่อาจเทียบเคียงชีวิตได้
หนิงฝานได้รับหยกสวรรค์มาจากแคว้นเยว่ไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับความจำเป็นที่ต้องใช้แล้ว...ยังไม่มาก หนิงฝานในยามนี้มีโอสถผันแปรที่ 3 สมบัติ และวิชาในระดับดวงจิตแรกเริ่ม… หากเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ การได้รับวิชาระดับดวงจิตแรกเริ่มนับว่าช่วยให้ตนเองทรงพลัง หากยิ่งมีสมบัติระดับสูงยิ่งทำให้ตนเองได้เปรียบ ส่วนโอสถนั้น เป็นสิ่งที่ใช้เท่าไหร่ก็ไม่พอ
แต่เมื่อเทียบกันทั้งหมดแล้ว หยกสวรรค์นับว่าคุ้มค่าที่สุด เพราะหากไม่มีหยกสวรรค์ ก็ไร้ซึ่งศักดิ์ฐานะ ดังนั้นหนิงฝานจึงต้องการหยกสวรรค์
เดิมทีหนิงฝานคิดจะเรียกหยกสวรรค์ในราคาสูงมาก เพื่อให้พวกมันเค้นหยกสวรรค์ทั้งหมดของนิกายออกมา
การสังหารเมื่อครู่ทำให้เขาบรรลุความต้องการได้ง่ายขึ้น… เหตุที่หนิงฝานไม่สังหารเหล่าประมุขนิกายทั้งหมดเพราะเขากลัวว่าจะดึงความสนใจของวิหารพิรุณ แม้หนิงฝานจะไม่หวาดกลัวขุมกำลังในแคว้นเหว่ย แต่วิหารพิรุณนั้นไม่ใช่… พวกมันเป็นขุมกำลังที่มีขนาดใหญ่เกินไป และในนั้นก้มีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกอยู่หลายคน
เหตุที่หนิงฝานกล่าวอ้างว่าตนเป็นประมุขของหมู่บ้านหยวนจื่อ เพราะต่อให้เขาสังหารโม่เชิ่ง เขาสามารถอ้างได้ว่าอีกฝ่ายสังหารศิษย์ของตนไป จึงทำไปเพื่อแก้แค้น แบบนั้นแล้ว วิหารพิรุณจะไม่สามารถก้าวก่ายได้ นอกจากนี้ การที่พลั้งมือสังหารผู้เชี่ยวชาญที่ต่ำกว่าขอบเขตแก่นทองคำ ก็ไม่ทำให้วิหารพิรุณใส่ใจ เพราะพวกมันใส่ใจเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขึ้นไป
อุบายทั้งหมดนั้น ทำไปเพียงเพราะหนิงฝานต้องการหยกสวรรค์
ผ่านไป 10 วัน หนิงฝานยังคงอยู่ในตำหนักหลักของหมู่บ้านหยวนจื่อ เพื่อรีบเค้นหยกสวรรค์จากผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ และทยอยปล่อยพวกมันไป
เมื่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญบางกลับออกไป ข่าวที่น่าตื่นตะลึงนี้ก็แพร่ไปทั่วแคว้นเหว่ย
ประมุขนิกายใหญ่แห่งแคว้นเหว่ย… 6 คนถูกกังขังยังไม่ปล่อย อีก 1 ถูกสังหาร โดยประมุขหมู่บ้านหยวนจื่อที่หายสาปสูญไปถึงพันปี
เมื่อทราบข่าว นิกายระดับสองในแคว้นเหว่ยจำนวนมากที่เข้าร่วมกับ 7 นิกายใหญ่ได้ขอถอนตัว และถอนหยกสวรรค์ที่พวกมันจ่ายส่วยให้
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากต่างมุ่งหน้ามายังหมู่บ้านหยวนจื่อ แต่ละคนที่มาล้วนมาด้วยความสำรวม ยิ่งเมื่อสัมผัสกับกลิ่นอายของประมุขนิกายใหญ่ที่เหลือเพียง 6… พวกมันไม่กล้าหายใจแรง
เมื่อสิ้นสุดการปล่อยตัวผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลางและขั้นสูงก็ทยอยซื้ออิสระภาพของตน จนยามนี้เหลือเพียงเหล่าประมุขทั้ง 6
พวกมันทุกคนต้องจ่าย 2 แสนหยกสวรรค์ ส่วนผู้ที่ยั่วยุหนิงฝานต้องจ่าย 4 แสน
หนิงฝานยืนหลับตาไม่ไหวติง ข้างกายมีฮั่วเหลียนและซ่งสื่อคอยรับหยกสวรรค์
เมื่อรับหยกสวรรค์มาก็ปล่อยตัว
ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น 35 คน ขั้นกลาง 13 และขั้นสูงอีก 8… รวมหยกสวรรค์ได้ทั้งหมด 1.86 ล้าน บรรจุไว้ในกระเป๋าหลายใบ
หยกสวรรค์จำนวนมากขนาดนี้ ฮั่วเหลียนและซ่งสื่อไม่เคยมาก่อนในชีวิต ตัวตนระดับหนิงฝานช่างยิ่งใหญ่
หากเหล่าประมุขทั้ง 6 จ่ายหยกสวรรค์ให้หนิงฝาน หนิงฝานก็จะได้หยกสวรรค์ทั้งหมด 3.26 ล้าน
“หยกสวรรค์ 3.26 ล้าน… ยังไม่พอ” แม้จะได้หยกสวรรค์มาเป็นจำนวนมาก แต่หนิงฝานยังไม่พอใจ หนิงฝานรู้ว่าหยกสวรรค์นี้ยังไม่พอ สำหรับวิหารสาปสูญแล้ว หยกสวรรค์จำนวนนี้นับว่าน้อยนิด
หยกสวรรค์จำนวน 3.26 ล้านใช้เพื่ออยู่ในวิหารสาปสูญได้ไม่นาน
สำหรับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำแล้ว หยกสวรรค์จำนวนหนึ่งแสนนับว่าร่ำรวย หากเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม จะมีหยกสวรรค์ประมาณ 1 ล้าน… ส่วนใหญ่แล้วเหล่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มมักจะแสดงพลังในแคว้นระดับล่าง เพื่อรีบไถ่หยกสวรรค์เหมือนหนิงฝาน แต่เมื่อต้องเข้าฝึกฝนภายในวิหารสาปสูญ ยังได้เพียงไม่นาน
วิหารสาปสูญคือสถานที่สำหรับผู้มั่งคั่ง
ยามนี้ ประมุขนิกายที่เหลือบางคนได้จ่ายหยกสวรรค์เพื่อซื้อสันติภาพของตนและจากไป
ยังเหลือบางคนที่ยังไม่ยอมจ่าย ราวกับพวกมันกำลังรออะไรบางอย่าง
ลำพังหยกสวรรค์เพียง 2 แสนพวกมันสมควรจ่ายได้ แต่ที่พวกมันไม่ยอมจ่าย สมควรรั้งรอผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจากวิหารพิรุณ
แต่ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มของวิหารพิรุณจะยุ่งอยู่กับการจัดการอสูร จึงยังไม่อาจมาได้
ดังนั้น พวกมันจึงทำได้เพียงยอมจ่ายหยกสวรรค์… พวกมันสูญสิ้นทุกสิ่ง แต่หากเทียบกับผู้ที่ต้องจ่าย 4 แสนแล้ว พวกมันโชคดีกว่าเยอะ
แล้วหนิงฝานก็ได้หยกสวรรค์ 3.26 ล้านมาครอง
ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม… ซัวหมิง! ชื่อเสียงของคนผู้นี้โด่งดังไปทั่วแคว้นเยว่ และกลายเป็นตำนานไป
ซัวหมิงจากแคว้นเหว่ยไปเมื่อพันปีที่แล้ว เดินทางไปยังแคว้นต่างๆ จนเมื่อบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม จึงหวนคืนสู่แคว้นเหว่ย เพื่อปกป้องหมู่บ้านหยวนจื่อจากการปองร้ายของนิกายใหญ่ทั้ง 7!
ซัวหมิงผู้นี้ทรงพลัง เพียงไม่กี่กระบวนท่าก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดในแคว้นได้ ทั้งยังทำให้ประมุขนิกายใหญ่ทั้ง 6 ที่รอดไม่กล้าโต้เถียง
ซัวหมิงผู้นี้เป็นมือสังหารไร้หัวใจ แต่สังหารเท่าที่จำเป็นเท่านั้น นอกจาก ซัวหมิงผู้นี้ยังจัดการเรื่องต่างๆได้อย่างราบรื่น กระทั่งรีดไถหยกสวรรค์จากศัตรูมาได้
ไม่มีใครคิดซัวหมิงจะต้องการหยกสวรรค์มากขนาดนั้น แต่เหตุผลที่พอนึกได้ คือซัวหมิงผู้นี้คงต้องการทำให้หมู่บ้านหยวนจื่อยิ่งใหญ่ จนกลายเป็นนิกายระดับ 1 หรือกระทั่งนิกายอันดับหนึ่งของแคว้นเหว่ย
นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในแคว้นเข้าใจ
ส่วนเรื่องอัฐิสวรรค์นั้น มีผู้เชี่ยวชาญบางคนสืบข่าว และคาดเดาว่าน่าจะอยู่ในมือซัวหมิง
แต่นั่นเป็นเพียงการคาดเดา ไม่มีผู้ใดรู้ ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวถาม แต่หากให้คาดเดา ผู้ที่สมควรครอบครองไว้มากที่สุดคือซัวหมิง
หลังจากประมุขทั้ง 6 แห่งนิกายใหญ่จากไป ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้สังกัดขุมกำลังใดก็มุ่งหน้ามายังหมู่บ้านหยวนจื่อเพื่อขอเข้าร่วม ที่สำคัญ ยังมีนิกายระดับ 3 ขอแคว้นเดินทางมาขอเข้าร่วมด้วย
เมื่อซ่งสื่อได้รับความเห็นชอบจากหนิงฝาน มันก็รับคนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อรวมตัวเป็นพันธมิตร
หนิงฝานประทับตราวิญญาณให้กับซ่งสื่อ และให้มันรับตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านต่อไป
ผ่านไปครึ่งเดือน หมู่บ้านหยวนจื่อกลายเป็นขุมกำลังขนาดใหญ่ด้วยการนำของหนิงฝาน
ตำหนักหลักฟื้นฟู หนิงฝานยังคงไม่จากไปไหน
เหตุที่หนิงฝานยังรั้งอยู่ก็เพราะบางสิ่ง
นั่นคือสุสานของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเหว่ย
เขาใช้ให้ซ่งสื่อและฮั่วเหลียนสืบรวบรวมข่าวของสุสานมาให้ได้มากที่สุด
สุสานแห่งนั้นเป็นแหล่งเก็บอัฐิที่แปรสภาพมาเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้เชี่ยวชาญ ในนั้นสมควรมีสมบัติ วิชา และโอสถ… ข่าวลือว่ามีวิชาระดับตัดวิญญาณตกทอดไว้ สมบัติที่มีก็ไม่ธรรมดา
ตามข่าวที่ได้มานั้น สุสานมีด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้น… ชั้นที่ 1 ผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นชีพจรเข้าไปได้ยาก ชั้นที่ 2 ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณเข้าไปได้ยาก ชั้นที่ 3 ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำต้องถอนตัว ชั้นที่ 4 ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มยากที่จะรักษาชีวิต และชั้น 5 แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณยังยากจะเข้าไป
นอกจากที่นั่นจะมีอัฐิสวรรค์แล้ว สมควรมีสมบัติในระดับเทียบเท่ากันอยู่
หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญของแคว้นเหว่ยจะไม่อาจเข้าสุสานได้ แต่หนิงฝานในตำแหน่งบรรพบุรุษของหมู่บ้านย่อมเข้าไปได้
หนิงฝานยืนหลับตานิ่ง สัมผัสเทพเข้าสำรวจอัฐิสวรรค์ที่อยู่ภายในตันเถียน ยามนี้มันกำลังหลบไหล
หากมีอัฐสวรรค์อยู่กับตัว ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับพลังในขอบเขตไร้แบ่งแยก ก็ไม่อาจใช้วิชาทำนายสวรรค์หาตัวหนิงฝานได้พบ
เมื่อรวบรวมข่าวของสุสานได้มากพอ หนิงฝานจึงตั้งใจจะไปสำรวจสุสานด้วยตัวเอง
แต่ในขณะที่เขากำลังทะยานไปนั้น ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม 2 คนก็ทยานเข้ามา
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ชะงักฝีเท้าเพื่อรอดูท่าที
เหล่าผู้เชี่ยวชาญในหมู่บ้านเองก็สัมผัสถึงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่มาได้
พวกมันสมควรเป็นคนของวิหารพิรุณ เหตุที่มาสมควรเป็นเรื่องที่หนิงฝานเรียกเก็บหยกสวรรค์
ผู้ที่มาหนึ่งเป็นชายชรา อีกหนึ่งเป็นสตรี ทั้งสองอยู่ในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น
ชายชราที่กำลังทะยานมากล่าวขึ้น
“สหายท่านใดที่ปลอมเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม และสร้างปัญหาให้กับแคว้นเหว่ย!”
น้ำเสียงของชายชราราวกับบัณฑิตกล่าว ทั้งยังแฝงด้วยความเศร้าราวกับพิรุณกำลังจะโปรยปราย
เสียงของชายชรามาในรูปแบบของคลื่นสีคราม ทุกครั้งที่เสียงเคลื่อนผ่านระยะทางร้อยลี้ ความเข้มของคลื่นจะยิ่งทรงพลังมากขึ้น
คลื่นเสียงตรงเข้าหาหนิงฝาน เป็นแรงกดดันที่รุนแรง กดทับหนิงฝานจนศิลารอบข้างแตกละเอียด
แต่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำที่ยืนอยู่ด้านหลังหนิงฝานกลับโลหิตปั่นป่วน สีหน้าแปรเปลี่ยน เพราะอีกฝ่ายจงใจจู่โจมเข้ามา
หนิงฝานเผชิญหน้ากับคลื่นเสียงด้วยสีหน้าเย็นชา คลื่นเสียงย่อมกำเนิดมาจากวิชา เป็นวิชาโบราณอย่าง ‘วิชาประกาศิต’ ที่แฝงด้วยเจตจำนงค์เทพพิรุณ!
แต่เป็นเพียงเจตจำนงค์เทพพิรุณเทียม แตกต่างจากเจตจำนงค์เทพพิรุณของหนิงฝานราวกับนรกกับสวรรค์
แต่นั่นก็ทำให้หนิงฝานประหลาดใจกับเบื้องหลังของวิหารพิรุณ
หนึ่งสตรีหนึ่งชายชราเป็นคนของวิหารพิรุณอย่างแน่นอน ทั้งสองมาสมควรมาเพื่อสืบเรื่องการรีบไถหยกสวรรค์
แม้อีกฝ่ายจะจู่โจมด้วยคลื่นเสียง แต่นั่นก็เพื่อหยั่งเชิงหนิงฝาน
แม้ชายชราผู้นั้นจะครอบครองเจตจำนงค์เทพเทียม แต่ด้วยพลังของมันย่อมเสริมอานุภาพของเจตจำนงค์เทพได้หลายเท่าตัว ซึ่งต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มทั่วไปก็ไม่อาจต้านรับได้ง่ายๆ
วิหารพิรุณที่ยิ่งใหญ่ในโลกพิรุณ ผู้ติดตามของพวกมันสมควรใช้เจตจำนงค์เทพเทียมได้ และสิ่งที่ช่วยให้เป็นเช่นนั้น สมควรเป็น ‘ศิลาเทพ’ เพราะมีเพียงสิ่งนี้ที่ทำให้ผู้ติดตามสามารถสืบทอดเจตจำนงค์เทพเทียมได้
ที่สำคัญ ชายชราผู้นี้ยังทรงพลังไม่ต่างจากปีศาจศพเฒ่า ทั้งๆที่มันเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขั้นต้น
แต่หากคิดจะใช้เพียงคลื่นเสียงเมื่อครู่จัดการหนิงฝาน ย่อมเป็นไม่ได้
“ทำลาย!” เจตจำนงค์เทพพิรุณปรากฏ ท้องนภานับพันจ้างที่สว่างกลับมืดครึ้ม พิรุณโปรยปรายโดยไม่ทราบสาเหตุ
เมื่อคลื่นเสียงต้องสัมผัสพิรุณ พวกมันก็อ่อนกำลังอย่างต่อเรื่อง
สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันไม่ได้ตกใจที่วิชาของตนถูกทำลาย แต่เป็นสิ่งอื่น!
“เจตจำนงค์เทพพิรุณ! เจตจำนงค์เทพพิรุณที่สมบูรณ์! เป็นไปไม่ได้ นอกจากทูตแห่งวิหารพิรุณแล้ว ผู้อื่นไม่สมควรครอบครอง… หรือคนผู้นี้จะเป็นคนของวิหารพิรุณ!”
พิรุณของหนิงฝานทำให้สีหน้าของสตรีนางนั้นแปรเปลี่ยนเช่นกัน
เพราะกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากพิรุณนั้น เป็นเหมือนกับกลิ่นของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มที่ต่อสู้กับแม่ทัพอสูรสื่อฟง… ดูเหมือนสตรีนางนี้จะมีวิชาลับที่ใช้จดจำกลิ่นอาย
“ผู้อาวุโสซ่ง เมื่อครึ่งเดือนก่อน… คนผู้นี้คือมนุษย์ที่ต่อสู้กับแม่ทัพอสูรสื่อฟง! ข้ามั่นใจ”
“อะไรนะ!” สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนอีกครั้ง
เมื่อครึ่งเดือนที่แล้วเกิดการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และอสูร โดยที่พ่ายแพ้คือแม่ทัพอสูรสื่อฟง
นางมีทั้งวิชาหมอกพิษและกระบี่บินที่รวดเร็ว แม้เป็นชายชราก็ยังรับมือได้ยาก… แต่ผู้เชี่ยวชาญในยามนั้นกลับเอาชนะแม้ทัพอสูรสื่อฟงได้ง่ายๆ ดังนั้น ชายชราจึงรู้ว่ามันสู้บุรุษผู้นี้ไม่ได้
คนผู้นี้ลึกลับและทรงพลัง คนผู้นี้คือผู้ใด!
ซัวหมิง… เป็นชื่อที่แปลก ในบรรดาแคว้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของโลกพิรุณ มีผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มอยู่ด้วยหรือ?...