Chapter 9 : อุจิฮะ ซามุย
ไนโตะ รู้สึกชื่นชมชายคนนี้มากเพราะเขาใช้วิธีการฝึกกระบวนท่าที่ยากลำบากในการฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นเหมือนกับที่ ไนโตะ ใช้
ตอนนี้เขาก็มาร้านขายอุปกรณ์นินจาเหมือนกัน
ร้านขายอุปกรณ์นินจา
ปัง!!
ไนโตะ รู้สึกเหมือนกำลังเกิดแผ่นดินไหว
“โอ้ โทษที ๆ”
เจ้าของร้าน เหนื่อยมากที่ต้องยกทุ่นถ่วงน้ำหนักทั้งหมดที่ ได ต้องการจะซื้อลงมาจากชั้นวางของ เขาโยมมันลงบนพื้นทำให้เกิดเสียงดัง ได เห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“มัน ...”
เจ้าของร้านเบื่อหน่ายกับเขามากแล้วพูดกับเขาว่า “เอาไปเลย แล้วรีบกลับไปได้แล้ว!”
ได ยกทุ่นถ่วงน้ำหนักทั้งหมดของเขาขึ้นมาแล้วเดินออกจากร้านไป เจ้าของร้านบ่นพึมพำหลังจากที่เขาออกจากร้านไปแล้วว่า “เขาจะเอาไปทำอะไรเยอะแยะ ทำไมเขาต้องใช้การถ่วงน้ำหนักแบบนั้นด้วย การสร้างกล้ามเนื้อมันจะไปมีประโยชน์อะไรในโลกนินจากันเล้า”
ได ได้ยินที่เจ้าของร้านพูดเขาจึงหยุดและยืนฟังอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้หันหลังกลับไปมองแล้วเขาก็เดินต่อไป
ช่างเหอะ!
ไนโตะ เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็รู้สึกเศร้าใจมาก
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าการฝึกฝนอย่างหนักไม่เพียงแต่ทำให้พลังที่เขาได้มาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ ได ก็มีความอดทนที่เพิ่มมากขึ้น เขาสามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้และเพิ่งออกจากร้านนั้นมาด้วยความสงบ
ไนโตะ เห็นภาพนั้น เขาก็ส่ายหัวแล้วเดินเข้าไปในร้าน
“เอาทุ่นถ่วงน้ำหนัก 2 อันครับ...แค่ 2 อันก็พอแล้วครับ”
“เธอก็ใช้ทุ่นถ่วงน้ำหนักแบบนั้นด้วยเหรอ”
เจ้าของร้านดูจะประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเด็กตัวเล็ก ๆ อย่าง ไนโตะ จะสนใจการฝึกฝนแบบนี้เช่นกัน
ถึงมันจะเป็นเพียงแค่เหล็ก 2 ชิ้น แต่เมื่อ ไนโตะ ยกมันขึ้นมาเขาก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่หนักมาก
“หนักกว่าที่ฉันคิดไว้อีก ดูเหมือนว่าฉันจะยกมันไม่ไหวนะเนี่ย”
ไนโตะ รู้สึกแซงทันที
แต่เขาซื้อมันมาแล้ว
ไนโตะ เดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว เขารีบมองหา ได ที่เดินเข้าไปในฝูงชน
มันไม่ยากเลยที่เขาจะเจอ ได ในฝูงชนได้อย่างง่ายด้าย เพราะ ได นั้นโดดเด่นกว่าคนทั่วไป
จากนั้น ไนโตะ ก็เดินตาม ได เข้าไปในป่า เมื่อ ได เดินไปถึงที่ที่เขาใช้ฝึกฝน เขาก็ใส่ทุ่นน้ำหนักที่เขาซื้อมาทั้งหมดและหลังจากนั้นเขาก็เริ่มฝึกอย่างบ้าคลั่ง
นั่นคือการฝึกฝนรูปแบบหนึ่ง เมื่อ ไนโตะ เห็นสิ่งที่ ได ทำ เขาถึงกับยืนอึ้งจนไม่สามารพูดอะไรได้เลย
นี้เป็นวิธีดั้งเดิมในการฝึกฝนกระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8
หากเจ้าของร้านขายอุปกรณ์นิจาได้เห็นสิ่งนี้เขาจะต้องพูดไม่ออกซักคำอย่างแน่นอน
เมื่อได้เห็นวิธีที่ ได ใช้ฝึกฝน ไนโตะ จึงคิดว่าเขาจะต้องฝึกฝนด้วยวิธีนี้ด้วยเช่นกัน แต่อาจจะต้องเริ่มด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า
ไนโตะ ไม่รอช้า เขาไม่ลังเลและรีบจดจำกระบวนการทั้งหมดที่ ได ใช้ฝึกฝนทันที
แม้ว่า ไมโตะ ได จะสวมใส่ทุ่นน้ำหนักอยู่ ก็ไม่มีใครในหมู่บ้าน โคโนฮะ ที่จะสามารถเอาชนะเขาได้ในเรื่องของเทคนิคการใช้กระบวนท่า
ไม่มีอะไรหรือใครที่จะหยุดเขาจากการฝึกที่เขาเลือกได้
หลังจากที่ ไนโตะ ค้นพบสถานที่ฝึกซ้อมของ ได แล้ว เขาก็ไปที่นั่นทุกวันเพื่อเฝ้าดูและจดจำเทคนิคการใช้กระบวนท่าที่ ได ใช้ในการฝึกซ้อม
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีหนังสือเล่มไหนเลยที่มีบันทึกเกี่ยวกับการฝึกฝนแบบนี้ ถ้าเขาต้องการที่จะฝึกฝนเขาต้องแอบดู 1 หรือ 2 กระบวนท่าจาก ได
เวลาผ่านไปเกือบ 1 เดือนแล้ว การเฝ้าดู ไมโตะ ได ทุกวัน ๆ ทำให้ความก้าวหน้าทางร่างกายของ ไนโตะ เพิ่มมากขึ้นทั้งความแข็งแกร่งและความเร็ว และตอนนี้เขาพร้อมสำหรับการฝึกฝนระดับถัดไปแล้ว
ในตอนนี้ ไนโตะ สามารถใส่ทุ่นถ่วงน้ำหนักที่เขาซื้อมาได้แล้วและพลังที่ได้จากผลปีศาจก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน
สถานที่โล่งกว้างแห่งหนึ่ง
ไนโตะ กำหมัดของเขา ออร่าปรากฏขึ้นอย่างรุนแรงจากนั้นเขาก็ต่อยออกไปในอากาศ
เปรี้ยง!
อากาศกระจายตัวออกแสดงให้เห็นเป็นรอยร้าวเหมือนกระจกแตก
หมัดของ ไนโตะ ไม่ได้ แตะโดนต้นเสาที่ปักอยู่โดยตรงเขาอยู่ห่างจากมันประมาณ 1 ฟุต แต่คลื่นพลังก็สามารถส่งไปถึง มันเริ่มแตกและในที่สุดมันก็ล้มลง
“พลังของแรงสั่นสะเทือนเพิ่มมากขึ้นเยอะเลย” ไนโตะ ตื่นเต้นมาก
ถ้าหากเขาพัฒนาพลังได้ถึงระดับนี้ก่อนที่จะได้ประลองกับ อุจิฮะ อิซึมิ ละก็คาถาลูกไฟที่ อิซึมิ ใช้ออกมาจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสตัวเขาเลยสักนิดเดียว หมัดของเขาคงจะทำให้ลูกไฟนั้นกลายเป็นผุยผงไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา ไนโตะ ก็ยังไม่เคยเห็น ได ใช้กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 เลยแม้แต่ครั้งเดียว เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เขาอยากจะเห็นพลังของกระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 ว่ามันมีพลังมากขนาดไหน
“หรือว่าตอนนี้เขายังไม่รู้วิธีเปิดประตูด่านพลังกันนะ!”
เมื่อเขายืนคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง ไนโตะ ก็หันหลังและเดินกลับไปยังทิศทางที่เขาเดินมา
ไนโตะ เดินไปตามถนน เขาสังเกตเห็นชายคนหนึ่งสวมผ้าคาดหน้าผากที่มีสัญลักษณ์ของนินจาหมู่บ้าน โคโนฮะ ชายคนนั้นกำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
เมื่อสอบผ่าน เกะนิน ทุกคนจะได้สวมผ้าคาดหน้าผากที่มีสัญลักษณ์ของนินจาหมู่บ้าน โคโนฮะ และทุกคนจะได้ใส่เครื่องแบบพิเศษ
ด้วยผ้าคาดหน้าผากนั้น จะทำให้สามารถกำหนดระดับของนินจาแต่ละคนได้และสามารถบอกหมู่บ้านที่นิจาคนนั้นสังกัดอยู่ได้
เพราะนินจาบางคนก็ไม่ได้สวมใส่เครื่องแบบประจำหมู่บ้านของเขา สิ่งเดียวที่จะแยกแยะและระบุสังกัดของนินจาคนนั้น ๆ ได้ก็มีแค่เพียงผ้าคาดหน้าผากอย่างเดียวเท่านั้น
เมื่อนินจาคนเห็นว่า ไนโตะ กำลังแอบมองเขาอยู่ เขาจึงมองกลับไปด้วยสายตาที่เย็นชาแล้วเดินตรงไปหา ไนโตะ ทันที
“แกมีปัญหาอะไร! จะมองหน้าข้าทำไม?”
ไนโตะ ไม่ตอบโต้ต่อคำพูดของเขาและยังคงรักษาความสงบในใบหน้าของเขาเอาไว้ได้
ไม่ว่า ไนโตะ จะมองอย่างไร ชายคนนี้ก็ต้องสร้างปัญหาให้เขาแน่ ๆ แต่เขาก็ไม่กลัวชายคนนั้นแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุด ทั้งคู่ก็ยืนอยู่กลางถนนของหมู่บ้านจึงไม่มีใครอยากสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้น
ถึงอย่างนั้น ไนโตะ ก็รู้สึกประหลาดใจที่ชายคนนั้นกล้าพอที่จะก่อเรื่องกลางถนนแบบนี้
“แกเป็นคนที่หมู่บ้านถูกทำลายแล้วย้ายมาอยู่ที่ โคโนฮะ แห่งนี้ใช่ไหม คนอื่น ๆ เรียกแกว่า ไนโตะ สินะ”
น้ำเสียงที่หยิ่งยโสและท่าทางทุกอย่างที่เขาทำนำไปสู่ข้อสรุปเดียวคือผู้ชายคนนี้มาเพื่อสร้างปัญหาให้ไนโตะ อย่างแน่นอนและดูเหมือนว่า ไนโตะ จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้อีกต่อไป
แต่ ไนโตะ ก็เข้าใจถึงสถานะของเขาดี
เขาไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในหมู่บ้าน โคโนฮะ และเขาก็ไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน แล้วไอ่อันธพาลคนนี้มาจากไหนกันละ....
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา เข้าได้เอาชนะ อุจิฮะ อิซึมิ ในการประลองที่โรงเรียนนิจานี่หว่า!
ในตอนนั้น อิซึมิ คิดจะฆ่า ไนโตะ จริง ๆ เขาจะไม่ใช้คาถาไฟลูกบอลเพลิงยักษ์ใส่ใคร หากเขาไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าคนคนนั้น แน่นอนว่า ไนโตะ สามารถทำลายคาถานั้นได้และตอบโต้กลับจนทำให้ อิซึมิ กระดูกหัก
และผลสรุปก็คือ อิซึมิ ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 เดือน
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายคนนี้ก็ต้องเป็นคนของตระกูล อุจิฮะ อย่างแน่นอน
“คุณมีความเกี่ยวข้องกับ อุจิฮะ อิซึมิ หรือป่าว?” ไนโตะ ไม่ตอบคำถามของชายคนนั้นแต่กลับถามเขากลับไปแทน
ดวงตาของชายคนนั้นดูจะตกใจเล็กน้อย เขาไม่คาดหวังว่า ไนโตะ จะเดาถูกว่าเขาเป็นคนของตระกูล อุจิฮะ
“ชื่อของฉันคือ อุจิฮะ ซามุย เป็นพี่ชายของ อุจิฮะ อิซึมิ และในเมื่อแกเดาได้ถูกต้อง ฉันจะให้แกเลือกมาก็แล้วกัน..ว่าต้องการให้กระดูกส่วนไหนของแกหักดีละ หืม!”
อูจิฮะ พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาเอาจริงแน่นอน
เมื่อ ไนโตะ ได้ยินสิ่งที่ ซามุย พูดเขาก็ตกใจและยืนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
นี้คือคนของตระกูล อูจิฮะ สินะ!
ช่างหยิ่งยโสจริง ๆ !
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan's Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild