ตอนที่แล้วเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0019
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0021

เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0020


ตอนที่ 20 : ปรมาจารย์จารึก

ประตูสู่หอราชสีห์สวรรค์เปิดออก หยางฉีเย่ว์เดินนำฉินหยุนเข้าสู่ด้านใน ภายในหอค่อนข้างโอ่อ่ากว้างขวาง มันเหมือนกับลานขนาดใหญ่ที่เอาไว้ฝึกประลองฝีมือ

ถึงตอนนี้ อาจารย์จำนวนหนึ่งจากห้องเรียนชั้นปีสูงกว่าเริ่มมาถึง พวกเขาเหล่านี้ประหลาดใจไม่น้อยที่ได้เห็นหยางฉีเย่ว์พาฉินหยุนมาลงทะเบียน

ฉินหยุนเพียงเพิ่งเข้าร่วมสถาบันยุทธ์ไม่กี่วันก่อน แต่แล้วคิดอยากเข้าร่วมการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์!

แม้ประสิทธิภาพของฉินหยุนเกินใครคาดคิดในการประลองนักเรียนใหม่ แต่ทุกคนต่างก็รู้ถึงระดับการฝึกฝนของเขา นี่ยังเร็วเกินไปนักที่จะเข้าร่วมการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์

ไม่ว่าอะไรก็ตาม ช่องว่างระหว่างขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่สี่และห้าแตกต่างกันอย่างกว้างใหญ่ ด้านหนึ่งคือความเข้มข้นของพลังปราณ อีกด้านหนึ่งคือความแข็งแกร่งของพลังปราณ

“อย่าได้กดดันตัวเองไป เจ้าเพียงเข้าร่วมเพื่อหาประสบการณ์เท่านั้น” หยางฉีเย่ว์ยิ้มอ่อนโยนให้ฉินหยุนและตบเข้าที่ไหล่ ถึงตอนนี้นางออกเดินนำหน้าเขาไปพบผู้อาวุโสเพื่อลงทะเบียน

“เด็กหนุ่มหรือ ดีนักที่คิดหาประสบการณ์เพิ่ม แต่จงระวังเอาไว้และอย่าได้ฝืนตนเอง” ผู้อาวุโสกล่าวขณะยิ้มให้ฉินหยุน

ถึงตอนนี้เอง เสียงเย้ยหยันพลันดังจากด้านหลัง

“อาจารย์หยางไม่ควรทะนงตนถึงเพียงนี้ เกิดเป็นคนสมควรรู้จักตระหนักถึงตัวเองว่าเป็นเช่นไร เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์ควรสอนนักเรียนหรอกหรือ? แม้ฉินหยุนชนะการประลองเด็กใหม่ แต่อาจารย์หยางไม่ควรคิดว่าเขาแข็งแกร่งเกินไปจนถึงเพียงนี้”

“ชั้นเรียนของอาจารย์หยางมีเขาเป็นนักเรียนเพียงคนเดียว หากเขาเกิดตายระหว่างการทดสอบฝีมือ นั่นคงเป็นเรื่องน่าเศร้านัก!”

คนผู้หนึ่งที่เอ่ยคำหลังนี้เป็นหญิงวัยกลางคน นางเป็นอาจารย์ของเด็กใหม่ในปีนี้เช่นกัน ชื่อของนางคือซุยฮ่วย เป็นหญิงรูปลักษณ์ธรรมดาหากนำมาเทียบกับหยางฉีเย่ว์

ซุยฮ่วยเข้ามาถึงข้างกายหยางฉีเย่ว์และหันมองฉินหยุน นางส่งเสียงเดียดฉันท์ออกมาวูบหนึ่ง

ทุกผู้คนที่นี้ต่างได้ยินน้ำเสียงที่ริษยาแอบแฝงของซุยฮ่วย

ซุยฮ่วยเป็นหนึ่งในอาจารย์หญิงเพียงไม่กี่คนของสถาบันยุทธ์แห่งนี้ เมื่อหยางฉีเย่ว์ที่ทั้งเยาว์และงดงามเข้ามาเยือน นางจึงโดนเขี่ยพ้นจากตำแหน่งอาจารย์สาวงามของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิง ด้วยเหตุนี้ซุยฮ่วยจึงริษยาหยางฉีเย่ว์ไม่ใช่น้อย

ฉินหยุนค่อนข้างประหลาดใจ ด้านหลังของซุยฮ่วยประกอบด้วยนักเรียนกว่าสิบคน ท่ามกลางนักเรียนเหล่านั้น มีเด็กสาวสองคนที่เขารู้จัก หนึ่งนั้นคือหยวนหยานหยิง!

เด็กสาวงดงามอีกคน นางเป็นธิดาของผู้มีศักดิ์เป็นป้าของฉินหยุน นับเป็นลูกพี่ลูกน้อง เยี่ยนหยุน นางนั้นมีความงามไม่ใช่น้อย แม้นางยังเยาว์ แต่ความงดงามนี้ประหนึ่งดอกไม้ มันมากพอให้นางมองต่ำแก่ทุกผู้คน

ปู่ของเยี่ยนหยุนคือพระยาเยี่ยน เขาถือครองตำแหน่งสูงในพระราชวังหลวง ครั้งนางยังเยาว์ ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับฉินหยุนค่อนข้างดีไม่ใช่น้อย แต่แล้ว หลังฉินหยุนสูญเสียตำแหน่ง ตระกูลเยี่ยนก็ตัดสัมพันธ์ทั้งตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์โดยทันที

นอกจากนี้ พระยาเยี่ยนยังเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้มีความเห็นชอบเรื่องการแยกเส้นวิญญาณของฉินหยุน

หยางฉีเย่ว์ไม่คิดไว้หน้าซุยฮ่วยขณะเอ่ยน้ำเสียงเย็นเยือก “เหตุผลที่ข้าให้ฉินหยุนเข้าร่วมการประลองราชสีห์สวรรค์ก็เพื่อเปิดโอกาสแก่การฝึกฝน เรื่องนี้อาจารย์ซุยเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรแทนหรือ?”

ผู้อำนวยการจางวันนี้สวมใส่ชุดสีเทากำลังเดินเข้ามา เขาพบเห็นหยางฉีเย่ว์กับซุยฮ่วยกำลังเผชิญหน้ากันจึงเร่งร้อนเข้ามาห้ามทัพ เขายิ้มออกก่อนกล่าวคำ “การประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์อนุญาตเพียงผู้มีขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับสี่และห้าเข้าร่วม ในเมื่อมีนักเรียนระดับที่สี่คิดเข้าร่วม พวกเราย่อมยินดีต้อนรับ”

“ก็เป็นเช่นนี้ ปีนี้มีรางวัลพิเศษ ตราบเท่าที่มีสถานะเป็นนักเรียนและครอบครองขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่สี่ และหากสามารถผ่านการทดสอบขั้นต้นไปได้ เช่นนั้นจะได้รับเม็ดยาพลังธาตุชั้นเลิศ”

เมื่อพบเห็นว่าซุยฮ่วยเผยสีหน้าเปลี่ยนไป เขาจึงกล่าวต่อ “ทว่า มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่จะได้รางวัลนี้ และตอนนี้ก็มีเพียงฉินหยุนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการประลอง เพราะฉะนั้นแล้วไม่ว่าเขาจะผ่านการทดสอบหรือไม่ก็ตาม เม็ดยาจะตกเป็นของเขา!”

ซุยฮ่วยเผยดวงตาเบิกออกกว้างร้องตะโกนด้วยความแตกตื่น “กฎเช่นนี้มีขึ้นเมื่อไหร่กัน? ทำไมข้าถึงไม่ทราบ?”

ผู้อำนวยการจางยิ้มรับ “ล่าสุด ข้าส่งเทียบเชิญอาจารย์ของนักเรียนใหม่ประจำภาคการศึกษานี้ประชุมหารือเรื่องการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์ แต่แล้วกลับมีเพียงอาจารย์หยางที่เข้าร่วม ดังนั้นการประชุมจึงไม่สามารถเริ่มได้ สำหรับกฎเรื่องเม็ดยาที่เป็นรางวัลนี้ ข้าเพียงตัดสินใจด้วยตนเอง”

“พวกเราจะเข้าร่วมเดี๋ยวนี้แหละ!” ซุยฮ่วยเร่งร้อนดึงหยวนหยานหยิงกับเยี่ยนหยุนพร้อมนักเรียนคนอื่นกว่าสิบคนด้านหลังให้เข้ามา

“ค่าลงทะเบียน 20,000 เหรียญผลึกต่อคน!” ผู้อำนวยการจางยิ้มกล่าวคำ

ซุยฮ่วยกัดฟันแน่นด้วยความกราดเกรี้ยว นางมีนักเรียนกว่าสิบคน นั่นไม่เท่ากับเงินกว่า 200,000 เหรียญผลึกหรอกหรือ!

ค่าใช้จ่ายส่วนนั้นนางไม่มีทางรับไหว และลำพังตัวนักเรียนเองก็ไม่มีทางนำเหรียญผลึกติดตัวมามากมายเพียงนั้นแน่

อาจารย์อีกหลายสิบท่านจากห้องเรียนอื่นก็พานักเรียนมาแต่เช้าตรู่เช่นกัน แต่ไม่มีใครทราบเรื่องกฎเกณฑ์ใหม่นี้ข้องการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์เลยแม้สักคน

ตอนนี้รางวัลนี้ถึงกับเป็นประเด็นให้บรรดาอาจารย์รู้สึกขื่นขมไม่ได้ที่ไม่เข้าร่วมการประชุม

ช่วงเวลาลงทะเบียนเสร็จสิ้นก็ก่อนบ่าย หรือก็คือ มันสายเกินไปแล้วที่นักเรียนคนอื่นจะลงทะเบียนได้ทัน!

“เสี่ยวหยุน เจ้าและหยานหยิงต้องเข้าร่วม! การทดสอบมีสองด่าน หนึ่งคือความเร็ว อีกหนึ่งคือพละกำลัง เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวตระกูลของพวกเจ้าดีไม่ใช่น้อย แบบนั้นแล้วต้องผ่านบททดสอบความเร็วแน่ ต่อให้ฉินหยุนมีเคล็ดวิชาเคลื่อนไหว เขาก็ไม่มีทางเชี่ยวชาญมันได้ในเวลาอันสั้น นับว่าห่างไกลที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับพวกเจ้าทั้งสอง”

ซุยฮ่วยนำเอาเหรียญผลึกจำนวน 40,000 เหรียญออกมาและส่งมอบป้ายชื่อแก่เด็กสาวทั้งสอง หากพวกนางสามารถได้รับเม็ดยาพลังธาตุชั้นเลิศ แบบนั้นก็ต้องเป็นนางได้รับมัน

เม็ดยาพลังธาตุชั้นเลิศเป็นเม็ดยาชั้นเลิศตามชื่อของมัน เม็ดยาประเภทนี้หาในตลาดได้ยากยิ่ง ครั้งนี้สถาบันยุทธ์ฮัวหลิงถึงกับใจปล้ำถึงเพียงนี้!

ฉินหยุนมองหยางฉีเย่ว์ขณะลอบตื่นตะลึงกับความปราดเปรื่องของนาง เป็นนางที่บอกให้เขาเข้าร่วมการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์ หากเขาสามารถได้ตำแหน่งอันดับแรกของการทดสอบ เขาก็จะได้รับเม็ดยามูลค่าสูงล้ำ!

เยี่ยนหยุนหันมองฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ด้วยสายตารังเกียจเหลือคนา

นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มไม่จริงใจ “ฉินหยุน อย่าได้หวังว่าจะเหนือกว่าข้าได้ ตระกูลเยี่ยนของเรานั้นครอบครองเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวดีเลิศที่สุดในจักรวรรดิเทียนฉินแล้ว”

หยวนหยานหยิงก่อนหน้าได้เป็นประจักษ์พยานถึงพละกำลังของฉินหยุนแล้ว นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสู้เพราะอาการแตกตื่นภายใน นางไม่กล้าที่จะมองตรงสบตากับฉินหยุน

ที่หอราชสีห์สวรรค์แห่งนี้ยังมีนักเรียนชั้นปีสูงกว่าอีกหลายคน พวกเขารู้สึกยินดียิ่งที่ได้พบเห็นและได้ยินเหตุการณ์โต้เถียงเช่นนี้ พวกเขาฉลาดที่จะยืนไม่ไกลหรือใกล้จนเกินไป เพื่อจะได้รับชมเรื่องสนุกต่อไปได้

ฉินหยุนเพียงยิ้มบางรับคำเสียงดัง “ตระกูลเยี่ยนของเจ้านั้นเป็นหนึ่งในอันดับต้นเรื่องการตัดหญ้าในสนาม ข้าย่อมรู้ดีอยู่แล้ว!”

“ฉินหยุน เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าอย่าได้ก่อเรื่องราวใหญ่โตจนเป็นการยั่วยุพระยาเยี่ยน และเจ้าสมควรระมัดระวังคู่หมั้นของเสี่ยวหยุนให้ดี” ซุยฮ่วยแค่นเสียงโฉดชั่วตอบกลับมา “หยางฉีเย่ว์ เจ้าควรสั่งสอนนักเรียนของเจ้าให้ดีกว่านี้ ทั้งอวดดีและไร้มารยาท! เจ้าไม่รู้หรือ? เสี่ยวหยุนได้หมั้นหมายกับเว่ยเสวียนคุนเรียบร้อยแล้ว!”

เมื่อนักเรียนชั้นปีสูงกว่าได้ยินดังนั้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกและอุทานออกด้วยความชื่นชม

เว่ยเสวียนคุนเป็นบุตรของปรมาจารย์จารึกที่มีชื่อเสียง ระดับพลังคือขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่ห้า และเขาก็เป็นนักเรียนของสถาบันยุทธ์ฮัวหลิงแห่งนี้เช่นกัน!

เยี่ยนหยุนพลันเชิดหน้าชูตา ดวงตานั้นกลิ้งกลอกมองฉินหยุน เสียงแค่นเบาดังให้ได้ยิน นางรู้สึกภูมิอกภูมิใจกับเรื่องนี้ไม่น้อย

กับนักเรียนหญิงผู้อื่น รวมทั้งหยวนหยานหยิง ทั้งหมดล้วนเผยความริษยาออกมากันทั้งสิ้น

ปรมาจารย์จารึกมีสถานะอันสูงส่ง อำนาจมหาศาล พื้นฐานดีเลิศ นับเป็นเลิศในแทบทุกด้านหากเทียบเปรียบกับผู้ฝึกยุทธ์

ในจักรวรรดิเทียนฉิน มีปรมาจารย์จารึกเพียงผู้เดียว แซ่นั้นคือเว่ย จึงถูกเรียกขานเป็นปรมาจารย์เว่ย นามเว่ยหย่งนั้นคือปรมาจารย์จารึกระดับกลาง!

ปรมาจารย์เว่ยมีชื่อเสียงกึกก้อง ขุนนางทั้งหลายและบรรดาอาจารย์ต้องรับรองเขาประหนึ่งแขกคนสำคัญที่ต้องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

ถึงกับจะได้แต่งงานกับบุตรของปรมาจารย์จารึกผู้นั้น นี่หมายความว่าสามีในอนาคตของนางก็จะได้กลายเป็นปรมาจารย์จารึกเช่นกัน! ด้วยเหตุนี้แม้นางจะเป็นถึงหลานสาวของพระยาเยี่ยนอยู่ก่อนแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องภูมิใจ!

“สามีในอนาคตของข้าจะเข้าร่วมการประลองยุทธ์ราชสีห์สวรรค์เช่นกัน อันดับหนึ่งต้องตกแก่เขาอย่างแน่นอน” เยี่ยนหยุนเผยน้ำเสียงเปี่ยมด้วยความทะนง นางถึงกับกล้าเอ่ยประโยคดังกล่าวเสียงดังจนทุกผู้คนในที่นี้สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด