Chapter 8 : ไมโตะ ได
ถึงแม้จะคิดว่า ไนโตะ จะอายุได้เพียง 8 ขวบ แต่ร่างกายเขาก็ยังสามารถออกกำลังกายได้
หนึ่งเดือนผ่านไป ความแข็งแกร่งของ ไนโตะ ก็ได้พัฒนาขึ้นไปเล็กน้อย ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังจากผลปีศาจได้มากขึ้น ความอดทนและความแข็งแกร่งของร่างกายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ไนโตะ ยังคงฝึกฝนอยู่ที่บ้านในทุก ๆ วัน แต่มันก็ไม่ได้ผลอีกต่อไป
เมื่อเขาพัฒนามาถึงจุดนี้ การฝึกฝนแบบออกกำลังกายธรรมดาไม่สามารถช่วยให้เขาพัฒนาไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เขาต้องเริ่มฝึกฝนแบบยกน้ำหนัก
ในโลกนี้ การยกน้ำหนักนั้นไม่ได้รับความนิยมมากนัก มันเป็นวิธีเดียวกับที่ ร็อค ลี ใช้ในการฝึกฝนแต่มีน้ำหนักที่เบากว่า
แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไนโตะ รู้สึกอิจฉา ซาสึเกะ ที่เขาสามารถมีความเร็วเทียบเท่ากับ ร็อค ลี ได้เพียงแค่เขาใช้คาถาธาตุสายฟ้าของเขา ในขณะที่ ล็อค ลี ใช้เวลาในการฝึกถึง 1 เดือน (**ไม่แน่ใจ** น่าจะนึกย้อยไปในโลกที่เขาจากมา : โลกมนุษย์)
หากเขาสามารถฝึกยกน้ำหนักได้อย่าง ร็อค ลี ก็คงจะดีมาก
เฮ้อ!
ความคิดของเขาเริ่มฟุ้งไปเรื่อย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะพักผ่อนเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เริ่มฝึกอีกครั้งทันที
ไนโตะ มั่นใจเสมอว่าการฝึกฝนอย่างจริงจังโดยการเค้นพลังทุกส่วนของร่างกาย และมุ่งมั่นที่จะทำลายสถิติเดิมจะทำให้เขาสามารถพัฒนาขึ้นได้อีก
เมื่อทำเช่นนี้ในทุก ๆ วัน ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงกล้ามเนื้อบางส่วนของเขาก็ใหญ่ขึ้น
แต่นี่ก็เป็นเพียงระยะแรกเท่านั้น
ในโลกแห่งนินจา เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะมีกล้ามเนื้อ แต่มันก็ไม่ได้แสดงถึงพลังของคนนั้น
เมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้าย กล้ามเนื้อของเขาก็จะมีรูปร่างที่สมส่วน แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเขาโต้ขึ้น กล้ามเนื้อเดิมที่มีอยู่ก็จะหายไปและร่างกายก็จะสร้างกล้ามเนื้อใหม่ที่แข็งแรงกว่าขึ้นมาทดแทน
เขาจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายของเขาถึงจุดสูงสุดของการเจริญเติบโตและมันจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 14-16 ปี
แต่ปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าเขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนั้นหรือเปล่า
เพราะ ในอีกไม่ถึงสองปีเขาก็จะได้เห็นมหาสงครามโลกนินจากครั้งที่ 2 กับตาตัวเอง
หลังจากการฝึกฝนในเดือนที่ผ่านมานี้ พลังการสั่นสะเทือนของเขาก็รุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม คาถานินจาระดับ C ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไป แต่ก็ยังประมาทไม่ได้เพราะความจริงที่ว่า อุจิฮะ ใช้คาถาไฟ ลูกบอลเพลิงยักษ์ ที่เขาเคยเจอ ทำให้คาถานั้นมีอานุภาพการทำลายมากขึ้นกว่าปกติ
ถึงแม้ว่า คาถานินจา จะเป็นสิ่งลึกลับและทรงพลัง แต่พลังทางกายภาพหรือพลังของผลปีศาจ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคาถานินจาเลย มันสามารถทำลายอากาศได้เลย
เหงื่อของ ไนโตะ หยดลงบนพื้น
เขาไม่สามารถขยับแขนของเขาได้แล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งเขายังคงฝึกฝนต่อไป
ใบหน้าของ ไนโตะ เปลี่ยนเป็นสีแดง เขากัดฟันแน่นเพื่อฝืนความเจ็บปวด ถึงตอนนี้เขามาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว การฝึกฝนในครั้งนี้เขาสามารถทำได้มากกว่าสถิติเดิมของเขาประมาณ 2-3 เซต จากนั้นเขาก็ล้มลงบนพื้น
การฝึกฝนของ ไนโตะ นั้นทั้งหนักหน่วงและยากลำบากมาก
นั่นคือเจตจำนงและความมุ่งมั่นของผู้ที่ได้รับโอกาสเป็นครั้งที่ 2 ในโลกแห่งนี้
ไนโตะ เขาไม่มีครอบครัวและทุกคนก็มองเขาเป็นคนนอกมาโดยตลอด เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นเขาคงจะถูกส่งไปทำภารกิจที่อันตรายที่สุดอย่างแน่นอน
แต่ต่างกับ คุชินะ
เธอคือ พลังสถิตร่าง คนต่อไปและเมื่อเกิดสงครามขึ้น เธอจะถูกซ้อนตัวไว้ในหมู่บ้านและทุกคนก็จะต้องปกป้องเธอ
เมื่อรู้แบบนี้ ไนโตะ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของ คุชินะ อีกต่อไป
ทันใดนั้นประตูบ้านก็เปิดออก
ไนโตะ ดูประหลาดใจมาก เขาต้องการจะลุกขึ้นแต่เขาก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ เขามาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว
ไนโตะ ไม่เชื่อใจใครอื่นเลยดังนั้นคนเดียวที่มีกุญแจบ้านของเขาก็คือ คุชินะ
“สภาพนายเป็นแบบนี้อีกแล้วเหรอ”
เธอมองดูเขาอย่างน่าสงสาร
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนายต้องทำแบบนั้นทุกวัน...ตอนนี้นายมีขีดจำกัดสายเลือดที่แข็งแกร่งแล้วไม่ใช่หรือไง?”
ไนโตะคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาไม่อยากให้เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับสงคราม เขาจึงยิ้มแล้วพูดตอบเธอไปว่า “แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าฉัน”
“มินาโตะ เหรอ?” เธอถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “มันก็เป็นเรื่องปกติที่นายจะไม่สามารถเอาชนะคนอย่างเขาได้ง่าย ๆ”
“ก็ใช้นะสิ มันเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องฝึกฝนอย่างหนักทุกวันไงละ” ไนโตะ ยิ้ม
คุชินะ ขบริมฝีปากของเธอ จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า“ฉันเชื่อว่านายจะแซงหน้าเขาได้ในเร็ว ๆ นี้แหละ”
“ขอบคุณ.” ไนโตะ พยักหน้าจากนั้นเขาก็เกาผมแล้วก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเหมือนมีอะไรจะพูดกับเธอ
คุชินะ เห็นดังนั้นจึงรีบถามเขาไปว่า “นายไม่ได้คิดจะยืมตังฉันใช่ไหม?”
“เอ่อ?” ไนโตะ มองด้วยความตกใจที่เธอรู้ใจเขา
จากนั้น คุชินะ ก็พูดต่ออย่างอาย ๆ ว่า “ฉันให้ยืมก็ได้นะ..ว่าแต่ว่า..นายจะเอาไปซื้ออะไรล่ะ?”
“อื้มม..ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันแค่อยากได้อุปกรณ์ฝึกฝนบางอย่าง...แต่ฉันไม่เหลือเงินเลยนะสิ”
ใช่ มันเป็นอีกหนึ่งในวิธีที่พวกผู้เฒ่าใช้กดขี่ ไนโตะ เพื่อบีบเขาให้ออกจากหมู่บ้าน โคโนฮะ ไป
เนื่องจากการที่ ไนโตะ เป็นคนนอกหมู่บ้านเงินส่วนใหญ่ของเขาที่ได้จึงถูกหักไปจนแทบไม่มีเงินเหลือไว้ซื้ออาหารเลย
มันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อให้ตัวเขาหลุดพ้นจากสถานะแบบนี้เสียที การอยู่แบบนี้มันน่าอับอายเกินไปสำหรับเขา
“หนอยแน่! เจ้าผู้เฒ่าพวกนั้น...”
คุชินะ พูดขณะที่เธอเริ่มเกิดอารมณ์โมโหขึ้น แต่เธอก็ตบไหล่ของ ไนโตะ แล้วพูดกับเขาว่า “อื้ม แต่นายสามารถไว้ใจฉันได้เสมอนะ”
“ฉันจะใช้คืนเธอทีหลังนะ แต่ไม่รู้ว่าจะคืนได้เมื่อไหร่ ก็คงจะเป็นหลังที่ฉันสามารถทำภารกิจบางอย่างเสร็จอะนะ”
คุชินะ ยิ้มแล้วก็พูดกับเขาว่า “ถ้าเธอไม่คืนฉันละก็ หึ ๆ นายก็ไม่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากฉันอีกเลยน่ะ”
“…”
คุชินะ รู้อยู่แล้วเกี่ยวกับฐานะของเขา “เอ่อ...แต่ว่านะ ไนโตะคุง นายสามารถจ่ายคืนฉันด้วยวิธีอื่นได้นะ”
>///<
“ห๊ะ!!”
คุชินะ ให้ ไนโตะ ยืมเงินที่เขาต้องการ จากนั้นเธอก็เดินจากไป
เมื่อเห็นว่า คุชินะ ใจดีกับเขาอย่างนี้แล้วก็ทำให้เริ่มมีแววตาที่อ่อนโยนเวลามองเธอ
“โอ้ยยยย...ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันจะทำให้ความเป็นจริงของการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ เปลี่ยนไปไหมเนี่ย??? แต่ถึงยังไงฉันก็เปลี่ยนความคิดของเธอที่คิดกับฉันไม่ได้สินะ”
…
ไนโตะ ได้ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้าน เวลาที่เขาได้เดินไปตามถนนของหมู่บ้าน โคโนฮะ ทำให้ ไนโตะ มีความสุขอยู่เสมอ
จนบางครั้งทำให้เขารู้สึกเหมือนเขาฝันไป
แต่เขาก็อยู่ที่นี่จริง ๆ ในโลกแห่งนินจานารูโตะ ใจกลางหมู่บ้าน โคโนฮะ
แม้ว่าจะเป็นเวลานานแล้วที่เขาเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้าน โคโนฮะ แห่งนี้ แต่เพราะเขาเอาแต่ฝึกฝนเขาจึงไม่ได้สังเกตเลยว่าบนถนนทุกสายมีคนเดินอยู่อย่างหนาแน่นเพียงใด
หลังจากที่ ไนโตะ เดินไปเรื่อย ๆ เขาก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายอุปกรณ์นินจา
เมื่อเขาเดินเข้าไปในร้าน
เขาก็เห็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
ชุดหน้าเกลียดสีเขียวและใบหน้าที่มีคิ้วหนา...นั่นมัน ร็อค ลี ชัด ๆ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน เวลานี้เขายังไม่น่าเกิดขึ้นมาเลยนิ
ไนโตะ รีบเดินเขาไปหาเขาทันที
ไม่ผิดแน่..เขาคือ ไมโตะ ได
พ่อของ อาจารย์ ไมโตะ ไก นั่นเอง