ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 567-1 หัวใจแห่งการเสียสละ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 568 ความปรารถนาของโม่เหยา

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 567-2 ความหมายของชีวิต (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 567-2 ความหมายของชีวิต (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

“แค๊ก แค๊ก” เติ้งเหมาหมิงปิดปากของนางด้วยผ้าเช็ดหน้าพร้อมขมวดคิ้วลึก

“พี่ใหญ่!” นายน้อยสามของเผ่าเติ้ง เติ้งฟางกรีดร้องด้วยความห่วงใย

เติ้งเหมาหมิงนอนอยู่บนเตียงและโบกมือให้กับน้องชาย

เติ้งฟางถอนหายใจขณะมองเลือดบนผ้าเช็ดหน้าของเติ้งเหมาหมิง “พี่ใหญ่ เหตุใดท่านจึงต้องเสี่ยงชีวิต? ผ่านด่านแล้วอย่างไร? ท่านพ่อกับคนอื่นๆเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ท่านพี่เป็นญาติคนเดียวที่ข้าเหลืออยู่ จากนี้ไปข้าจะไม่ยอมให้เกิดสิ่งใดขึ้นกับท่านพี่!”

เติ้งเหมาหมิงลูบศีรษะเติ้งฟางอย่างแผ่วเบา “น้องสาม เจ้าเป็นผู้นำของเรา เจ้าไม่ควรสูญเสียความทะเยอทะยาน เผ่าเติ้งของเราพบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงในการต่อสู้ก่อนหน้า แต่ด้วยวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เผ่าของเราจะสามารถลุกขึ้นอีกครั้ง”

เติ้งฟางแสดงออกด้วยความไม่แยแส “แต่พี่ใหญ่ ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการผ่านด่านไม่สามารถชดเชย หลายวันมานี้ข้าไม่มีอารมณ์ที่จะจัดการธุระของเผ่าเลยแม้แต่น้อย”

“เจ้า!” เติ้งเหมาหมิงมองเติ้งฟางด้วยสายตาเคร่งขรึม

นางประนาม “ผู้นำเผ่าต้องมีความรับผิดชอบ เจ้าจะทำตัวเป็นเด็กไปถึงเมื่อใด? การฟื้นฟูเผ่าเติ้งเป็นหน้าที่ของผู้นำ จากนี้ไปอย่าให้ข้าได้ยินถ้อยคำเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่?”

“พี่...พี่ใหญ่ ข้าผิดไปแล้ว” เติ้งฟางลุกขึ้นและลดศีรษะลงด้วยความละอายใจ

เติ้งเหมาหมิงถอนหายใจและใช้น้ำเสียงที่อ่อนลง “น้องสาม ข้ารู้ว่าเจ้ารักอิสระและต้องการออกเดินทางผจญภัยโดยปราศจากสิ่งผูกมัดใด แต่ตอนนี้เจ้าเป็นผู้ชายคนสุดท้ายของครอบครัว เจ้าต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่และฟื้นฟูเผ่าของเรา เข้าใจหรือไม่?”

“พี่ใหญ่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว โปรดอย่าขุ่นเคือง ตอนนี้อาการของท่านยังไม่ดีนัก”

เติ้งเหมาหมิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “คราวต่อไปที่มาพบข้า จงคัดลอกบทที่สามส่วนแรกมาสิบรอบ”

หัวใจของเติ้งฟางเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ตั้งแต่เด็ก พี่สาวของเขาจะลงโทษเขาด้วยการให้คัดลอกเนื้อความในตำราเสมอ

“เข้าใจแล้ว พี่ใหญ่โปรดพักผ่อน ข้าจะไปคัดลอกตำราเดี๋ยวนี้”

ตำราดังกล่าวคือตำนานมนุษย์คนแรก

บทที่สามส่วนแรกกล่าวว่า...

บุตรสาวคนรองของมนุษย์คนแรก อวี๋หยินเมิ้ง เดินทางไปยังภูเขาเฉิงไป่และค้นหาวิญญาณความสำเร็จเพื่อช่วยเหลือบิดาของนางจากประตูแห่งชีวิตและความตาย

แต่ในช่วงเวลาสำคัญนางกลับล้มเหลว นางสูญเสียตัวตนและกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัว

ปราศจากบุตรสาวที่ต้องการช่วยเหลือและบุตรชายที่จมอยู่ในความสิ้นหวัง มนุษย์คนแรกจึงไม่สามารถหลบหนีออกมาจากหุบเขาเหล่าโปและกลับคืนสู่ชีวิต

หุบเขาเหล่าโปเป็นเขาวงกตขนาดใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางครั้งหมอกพิษก็ทำให้จิตใจของผู้คนอ่อนแอลง บางครั้งสายลมก็เหมือนมีดที่กรีดเฉือนจิตวิญญาณของพวกเขา

มนุษย์คนแรกมีเพียงร่างวิญญาณและไม่สามารถหาทางออกจากโลกแห่งเมฆหมอก จิตวิญญาณของเขาถูกสายลมกรีดเฉือนตลอดเวลาทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม

อย่างไรก็ตามเศษเสี้ยวจิตวิญญาณของมนุษย์คนแรกที่ถูกตัดออกมาค่อยๆกลายเป็นเด็กชายผู้หนึ่ง

นี่คือการกำเนิดของบุตรชายคนที่สามของมนุษย์คนแรก

เขาคือเพ่ยหมิงปิง

“บุตรชาย ขอบใจที่อยู่กับพ่อ พ่อมีเวลาเหลืออีกไม่มาก แต่พ่อยังดีใจที่มีเจ้าอยู่ด้วย” มนุษย์คนแรกถอนหายใจ

เพ่ยหมิงปิงมีบุคลิกที่เย็นชาเหมือนชื่อของเขาที่แปลว่าน้ำแข็งแห่งความมืด อย่างไรก็ตามหัวใจของเขากลับอบอุ่น แม้เขาจะไม่ค่อยพูด แต่เขายังมีความผูกพันกับมนุษย์คนแรกในฐานะบิดาและบุตร เมื่อเห็นมนุษย์คนแรกอ่อนแอลงทุกวัน มันจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกโศกเศร้า

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือบิดา

มนุษย์คนแรกตระหนักถึงความมุ่งมั่นของบุตรชาย นั่นทำให้เขารู้สึกมีความสุขและปวดใจในเวลาเดียวกัน “อย่ากังวล บุตรชายของข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีหัวใจที่อบอุ่น แต่ตอนนี้พ่อเข้าใจแล้วว่ามนุษย์ไม่สามารถต่อต้านความตายเพราะนี่คือชะตากรรมของเรา”

เพ่ยหมิงปิงกล่าวด้วยความโศกเศร้า “ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าคำกล่าวของท่านถูกต้องและรู้ว่าความพยายามของข้าเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ แต่เมื่อเห็นท่านอ่อนแอลงทุกวัน หัวใจของข้าก็รู้สึกเจ็บปวดนัก ดังนั้นโปรดให้ข้าทำบางสิ่งเพื่อท่าน”

มนุษย์คนแรกถอนหายใจและปล่อยให้บุตรชายทำตามที่เขาต้องการ

เพ่ยหมิงปิงเดินไปในหุบเขาเหล่าโป เขาเกิดที่นี่ ดังนั้นสายลมจึงไม่สามารถกรีดเฉือนจิตวิญญาณของเขา ขณะเดียวกันเมฆหมอกก็ไม่สามารถปิดกั้นวิสัยทัศน์ของเขา

เขาค้นหาอย่างบ้าคลั่งแต่ก็ยังไม่พบทางออก

ขณะที่เขาเริ่มหมดหวัง เขากลับพบวิญญาณดวงหนึ่ง

“ดี ดี ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะถูกค้นพบโดยเจ้า” วิญญาณดวงนี้กล่าวขณะบินวนรอบตัวเพ่ยหมิงปิง

ดวงตาของเพ่ยหมิงปิงส่องประกายขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เจ้าคือวิญญาณชนิดใด?”

“ข้ารู้ในสิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิด” วิญญาณตอบ

ดวงตาของเพ่ยหมิงปิงกลายเป็นมืดมน “เช่นนั้นเจ้าก็คือวิญญาณไม่คาดคิด น่าเสียดายที่เจ้าไม่ใช่วิญญาณประสบความสำเร็จ”

วิญญาณไม่คาดคิดเย้ยหยัย “เด็กน้อย อย่าดูแคลนข้า ข้ามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับวิญญาณประสบความสำเร็จ เรื่องไม่คาดคิดทรงพลังมาก เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นเมื่อให้เจ้าพบข้า?”

“สิ่งใด?”

วิญญาณไม่คาดคิดกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “ที่นี่คือหุบเขาเหล่าโป ดินแดนแห่งความตาย เจ้าอยู่ที่นี่หมายความว่าเจ้าตายแล้ว แต่เมื่อเจ้าพบข้า เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น นั่นก็คือข้าสามารถนำเจ้าออกไปยังโลกภายนอกและทำให้เจ้าฟื้นคืนสู่ชีวิต”

“จริงหรือ?” เพ่ยหมิงปิงมีความสุขเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “ข้าจะพาท่านพ่อออกไปด้วยได้หรือไม่?”

วิญญาณไม่คาดคิดส่ายศีรษะ “เจ้าเป็นผู้พบข้า ไม่ใช่พ่อของเจ้า ดังนั้นข้าจึงสามารถนำเจ้าออกไปเพียงผู้เดียว”

เพ่ยหมิงปิงรู้สึกผิดหวังและกล่าวปฏิเสธ “เนื่องจากข้าไม่สามารถพาท่านพ่อออกไปพร้อมกัน ข้าก็จะอยู่ที่นี่กับท่านพ่อจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของท่าน”

วิญญาณไม่คาดคิดหัวเราะเสียงดัง “เรื่องที่ไม่คาดคิดอยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้า เด็กน้อย เจ้าต้องมากับข้า!”

หลังกล่าวจบคำวิญญาณไม่คาดคิดจึงส่งเพ่ยหมิงปิงออกไปจากประตูแห่งชีวิตและความตายทันที

เพ่ยหมิงปิงรู้สึกประหลาดใจกับโลกภายนอกและกายเนื้อของตนเป็นอย่างมาก

วิญญาณไม่คาดคิดหายไป ขณะที่เพ่ยหมิงปิงจำได้ว่าเขามีพี่สาวอยู่ในโลกภายนอกชื่ออวี๋หยินเมิ้ง

ในจังหวะนี้วิญญาณความเข้าใจกลับมาหาเขา “เด็กน้อย ไม่ต้องแปลกใจ ความเข้าใจเป็นสหายของมนุษย์ ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเจ้า”

วิญญาณความเข้าใจเล่าเรื่องภูเขาเฉิงไป่กับรายละเอียดเกี่ยวกับอวี๋หยินเมิ้งให้เพ่ยหมิงปิงได้รับรู้

หลังจากนั้นเพ่ยหมิงปิงจึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเหลือพี่สาวของตนเป็นอันดับแรก

เมื่อเห็นพี่สาว น้ำตาของเขาก็ร่วงลงมาด้วยความโศกเศร้า

เพ่ยหมิงปิงพยายามพูดคุยกับอวี๋หยินเมิ้ง แต่เมื่อนางกลายเป็นสัตว์ประหลาด นางก็สูญเสียตัวตนและแทบไม่สามารถสื่อสาร

“ที่นี่ที่ใด?” อวี๋หยินเมิ้งถาม

เพ่ยหมิงปิงคิดก่อนตอบ “ที่นี่คือโลกของสิ่งมีชีวิต เหนือขึ้นไปคือสวรรค์ ด้านล่างคือพื้นพิภพ”

“ข้าคือผู้ใด?” อวี๋หยินเมิ้งถามอีกครั้ง

“ท่านคือบุตรคนที่สองของมนุษย์คนแรก ชื่อของท่านคืออวี๋หยินเมิ้งและเป็นพี่สาวของข้า” เพ่ยหมิงปิงตอบ

“พี่สาวตื่นขึ้นเร็วเข้า ท่านพ่อถูกขังอยู่ในหุบเขาเหล่าโป ท่านกำลังจะตาย เราต้องช่วยท่านให้ฟื้นคืนชีพ”

“มนุษย์คนแรก? อวี๋หยินเมิ้ง? ฟื้นคืนชีพ?” สัตว์ประหลาดส่ายศีรษะด้วยความงุนงง “เหตุใดข้าต้องช่วยเขาให้ฟื้นคืนชีพ? มนุษย์ไม่ควรตายงั้นหรือ? แล้วความตายมีข้อเสียอย่างไร? เหตุใดมนุษย์จึงต้องมีชีวิตอยู่?”

ครั้งนี้เพ่ยหมิงปิงไม่สามารถตอบคำถาม

เหตุใดมนุษย์จึงต้องมีชีวิตอยู่?

เพ่ยหมิงปิงไตร่ตรองและรู้สึกสับสน

วิญญาณความเข้าใจรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมากเมื่อเห็นการสนทนาของคู่พี่น้อง

“ความรัก เจ้าทำร้ายผู้คนพอหรือยัง? เหตุใดจึงไม่ปล่อยพวกเขาไป?” วิญญาณความเข้าใจถอนหายใจ

“อย่าพยายามหาเหตุผลจากข้า ข้าปราศจากเหตุผลอย่างสิ้นเชิง” วิญญาณแห่งความรักตอบด้วยความดื้อรั้น “ไปซะ ความเข้าใจ ข้าไม่ชอบเจ้า”

วิญญาณความเข้าใจต้องจากไปอย่างช่วยไม่ได้

“มีมนุษย์อีกคนมางั้นหรือ?” วิญญาณแห่งความรักมีความสุขเมื่อเห็นเพ่ยหมิงปิง ตอนนี้มันมีเป้าหมายใหม่ให้เล่นสนุกอีกครั้ง

มันกับวิญญาณปลอมแปลงรวมมือกันและปลอมตัวเป็นวิญญาณความเข้าใจ

“เด็กน้อย พี่สาวของเจ้าสูญเสียตัวตนไปแล้ว หากเจ้าต้องการช่วยเหลือนาง เจ้าจำเป็นต้องตามหาวิญญาณความหมาย”

เพ่ยหมิงปิงถาม “ข้าเคยเห็นวิญญาณไม่คาดคิด แต่วิญญาณความหมายเป็นเช่นไรและข้าจะพบมันได้อย่างไร?”

วิญญาณแห่งความรักตอบอย่างจริงจัง “โอ้ มนุษย์ เจ้าควรรู้ความหมายของการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ตราบเท่าที่เจ้าค้นพบวิญญาณความหมาย พี่สาวของเจ้าจะตื่นขึ้น เดินทางไปตามเส้นทางที่ข้าบอกแล้วเจ้าจะพบวิญญาณความหมาย”

เพ่ยหมิงปิงขอบคุณและออกเดินทางทันที

วิญญาณแห่งความรักและวิญญาณปลอมแปลงเย้ยหยัน

บนโลกใบนี้มีวิญญาณความหมายอยู่ด้วยงั้นหรือ?

ไม่ว่าเพ่ยหมิงปิงจะค้นหาอย่างไร เขาก็จะไม่พบมัน

“โง่เง่า เจ้าทำให้ข้าโกรธ ข้าจะลงโทษพวกเจ้าด้วยพลังแห่งความรัก จากนี้ไปจะเป็นคราวของเขา”

วิญญาณแห่งความรักได้รับการสนับสนุนจากวิญญาณอีกสองดวง

ด้วยการชี้นำของวิญญาณทั้งสาม เพ่ยหมิงปิงจึงต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากมาย แต่เพื่อค้นหาวิญญาณความหมายที่ไม่มีอยู่จริง เขายังคงเดินหน้าต่อไป

เรื่องนี้ทำให้วิญญาณความเข้าใจไม่สามารถอดทนและต้องเคลื่อนไหว ในจังหวะที่วิญญาณแห่งความรักไม่ปรากฎตัว วิญญาณความเข้าใจจึงมาช่วยเหลือเพ่ยหมิงปิง

“วิญญาณความเข้าใจ เจ้ากำลังทำสิ่งใด พวกเรากำลังมีช่วงเวลาที่ดี?” วิญญาณความสับสนกับวิญญาณปลอมแปลงไม่พอใจ

วิญญาณความเข้าใจหัวเราะ “ข้ากลัวความรัก แต่ข้าไม่กลัวพวกเจ้า เด็กน้อย ใช้พลังของข้าและทำตามสัญชาตญาณของเจ้า”

เพ่ยหมิงปิงใช้พลังของวิญญาณความเข้าใจและตระหนักถึงความจริง

นั่นทำให้วิญญาณความสับสนกับวิญญาณปลอมแปลงพ่ายแพ้และต้องจากไปในที่สุด

เพ่ยหมิงปิงขอบคุณวิญญาณความเข้าใจ “ขอบคุณวิญญาณความเข้าใจ เพราะท่านทำให้ข้าพบหนทางช่วยเหลือท่านพี่แล้ว”

“โอ้ ทางใด?”

“โลกใบนี้ไม่มีวิญญาณความหมาย แต่ไม่ใช่ว่าข้าสามารถสร้างมันขึ้นมางั้นหรือ?” เพ่ยหมิงปิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ชีวิตของมนุษย์อาจไม่มีความหมาย แต่พวกเขาสามารถมอบความหมายให้กับมัน

เพ่ยหมิงปิงกลับไปหาอวี๋หยินเมิ้งและสร้างวิญญาณความหมายขึ้นมาด้วยตนเองก่อนจะส่งมันเข้าไปในศีรษะของพี่สาว

“ความหมายของชีวิตข้าคือการค้นหาวิญญาณประสบความสำเร็จและช่วยท่านพ่อ! ข้าเข้าใจแล้ว!” ดวงตาของอวี๋หยินเมิ้งส่องประกายขึ้นทันที

.....

“ความหมายของชีวิตงั้นหรือ?” เติ้งฟางวางพู่กันลง

มันเป็นยามดึกสงัดที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงดาว

เขาตระหนักถึงบางสิ่งหลังจากคัดลอกบทความซ้ำๆ

“ผู้คนมักสับสนขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ แต่ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถค้นหาความหมายของชีวิต พวกเขาจะมุ่งหน้าสู่เป้าหมายด้วยความกล้าหาญ ในเวลาเดียวกันพวกเขาจะเข้าใจว่าตนเองต้องการทำสิ่งใดและไม่ต้องการทำสิ่งใด ท่านพี่ตั้งใจให้ข้าคัดลอกบทความเพื่อให้ข้าเข้าใจเรื่องนี้”

เขาผลักบานหน้าต่างให้เปิดออกและมองไปยังวังหลวง

“ชีวิตของทุกคนมีความหมาย ความหมายของชีวิตข้าคือการนำพาเผ่าเติ้งไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง”

.....

ในวังวารี

“หัวใจแห่งการเสียสละตนเองงั้นหรือ?” มุมปากของฟางหยวนยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม

โดยปราศจากความลังเล เขาคว้าวิญญาณเรียกภัยพิบัติขึ้นมาจากอ่างน้ำทันที

ด้วยการดูดกลืนกลิ่นอายของฟางหยวน มันกลายเป็นสมบัติของเขาอย่างรวดเร็วและราบรื่น

ประสบการณ์ห้าร้อยปีของฟางหยวนทำให้เขามองเห็นแก่นแท้ของชีวิตและความตาย เขาหมดความสนใจเกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และสายสัมพันธ์ของครอบครัวไปนานแล้ว

มีเพียงชีวิตนิรันดร์เท่านั้นที่เป็นเป้าหมายของเขา

นี่คือความหมายของชีวิตฟางหยวน

การมุ่งสู่ชีวิตนิรันดร์ไม่ได้หมายความว่าเขาหวาดกลัวต่อความตายหรือเกรงกลัวความล้มเหลว

เขาสามารถยอมรับพวกมัน

ทั้งหมดก็คือไม่มีผู้ใดสามารถพิสูจน์การคงอยู่ของสิ่งนี้

แต่แม้มันจะไม่มีอยู่จริง แล้วอย่างไร?

ฟางหยวนมีความสุขกับกระบวนการในการไล่ล่าชีวิตนิรันดร์มากกว่าผลลัพธ์ นี่จึงทำให้ชีวิตของเขามีความหมายและน่าสนใจ

“เสียสละงั้นหรือ? ข้ามีอยู่แล้ว” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นอย่างน่าขนลุกขณะที่เขาหลอกล้อวิญญาณเรียกภัยพิบัติระดับเจ็ดที่อยู่ในมือ