ตอนที่ 206 ฆาตกรที่แท้จริง 1
ทหารเข้าล้อมรอบ เจ้าหน้าที่ระดับสูงมีการแสดงออกต่างกันออกไป บ้านหลักโกรธ กลุ่มเสี่ยวจินขมวดคิ้วด้วยความสับสน กลุ่มเกาะแดงและกลุ่มเหนือมีความประหลาดใจบนใบหน้า ไม่มีใครเชื่อ
“เอาตัวเขาไป!”ใบหน้าของลากอสบิดเบี้ยว
เสี่ยวจินขมวดคิ้วและหยุดเขา“มีอะไรมากกว่านี้ ปีศาจทมิฬมาเยี่ยมเราตอนกลางวันแสกๆ เขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องเช่นนี้”
“แล้วหากเขาทำเพื่อให้เราคิดละ!”หนึ่งในหัวหน้าฝ่ายเหนือกล่าว
“งั้นทำไมเขาถึงต้องมาเยี่ยมเรา?การลอบสังหารย่อมง่ายกว่า”เสี่ยวจินกล่าว
“การป้องกันเราแข็งแกร่ง เขาต้องการเข้ามาข้างใน!”บางคนกล่าว
“เขาเป็นนักฆ่า และคุณก็ยังคงหาข้อแก้ตัวให้เขางั้นหรอ?!”ลอกอสโมโห เขาหยิบปืนขึ้นและเล็งหานเซี่ยว เซอฉีผู้ยืนข้างๆรีบหยุดเขา
“ใจเย็นๆ ไม่มีแรงจูงใจให้ปีศาจทมิฬทำเช่นนี้-”
“แรงจูงใจ?!”ลากอสโกรธจัด เขาจ้องเสี่ยวจิน กัดฟันแน่นและกล่าว“ไม่มีแรงจูงใจงั้นหรอ?”
เสี่ยวจินขมวดคิ้ว“นายคิดมากไปแล้ว”
ฝ่ายเหนือและฝ่ายบ้านเห็นพ้องว่าจะคุมตัวปีศาจทมิฬก่อน จากนั้นก็ค่อยหาเบาะแส เซอฉีรู้สึกว่าปีศาจทมิฬอันตรายเกินไปและแนะนำให้ซักถามหานเซี่ยวเลย แต่เขาก็ถูกแทรกแซงโดยลากอสผู้เชื่อว่าพวกเขาไม่อาจเชื่อปีศาจทมิฬได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจตกลงกันได้
ทหารโอบล้อมหานเซี่ยว ผู้แข็งแกร่งในเงามืดหลายคนเข้าประชิด และเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ยังให้ความสนใจกับหานเซี่ยวแม้จะกำลังถกเถียง พวกเขาเองก็ปักใจเชื่อเพราะหานเซี่ยวน่าสงสัยจริงๆ
หานเซี่ยวคิดกับตัวเอง ใส่ร้ายเพื่อโยนความรับผิดชอบให้ฉัน และทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตาข่ายมืดและอลูเมร่า มีแค่กลุ่มที่สามถึงได้รับผลประโยชน์จากมัน หรือนี่อาจเป็นเป้าหมายของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง?หากฉันเริ่มฆ่า มันก็จะติดกับเขา มันเป็ฯการวางแผนเพื่อกำจัดการเคลื่อนไหวฉัน
หานเซี่ยวสามารถออกไปได้ตลอดเวลา และเขาก็ไม่สนใจว่าจะทำให้อลูเมร่าโกรธ แต่ทว่า หากเขาทำเช่นนั้น มันก็จะเป็นไปตามหมากที่ถูกวางไว้ การหลบหนีหมายถึงการยอมรับความผิด และการฆ่าก็จะทำให้เกิดความชิงชัง เขายังไม่อาจปล่อยให้ถูกจับตัวได้ ดูเหมือนว่าแผนที่ถูกวางไว้จะดีเกินคาด
ฉันอยู่ที่นี่แค่วันเดียว และพวกเขาก็สามารถทำให้การลอบสังหารดูเหมือนฝีมือฉัน ต้องมีคนที่เชี่ยวชาญการลอบสังหารอยู่ที่นี่นานแล้ว และการมาของฉันก็ทำให้พวกมันมีโอกาส
เว้นแต่พวกเขาจะสามารถหาฆาตกรตัวจริง ไม่ว่าหานเซี่ยวจะแสดงหลักฐานแค่ไหน เขาก็ยังเป็นบุคคลต้องสงสัย เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีใครสามารถรู้จักคนอื่นได้จริงๆเว้นแต่จะอ่านใจได้ สมมติฐานเชิงตรรกะไม่อาจนำมาเป็นหลักฐาน
“รอก่อน หลักฐาน-”หานเซี่ยวมีความเข้าภาพรวม มันไม่ผ่านมาไม่นานหลังดาร์ริลถูกฆ่า ดังนั้นสถานที่ย่อมยังไม่ถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ฆาตกรอาจทิ้งร่องรอยไว้
ขณะนั้นเอง การสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็จบลง ลากอสตะโกน“ปีศาจทมิฬ วางอาวุธลงซะและยอมจำนน!”
“หากไม่ยอม เราจะทำการสืบสวน”เสี่ยวจินกล่าวเสริม
หานเซี่ยวยิ้ม“ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พวกแกยอดปลดอาวุธตัวเองเป็นไง?”
ทั้งสองฝ่ายไม่อาจวางใจกัน ไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมวางอาวุธลง มันเป็นปัญหาที่ไร้ทางแก้ อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวกลับคิด“ไม่มีเหตุผลที่จะโต้เถียงกัน ฉันจะอยู่ที่นี่ชั่วคราว และพวกนายก็สามารถส่งคนมาจับตาดูฉันได้ตลอดเวลา ฉันจะรอจนกว่าจะได้ความจริง”
หานเซี่ยวอยากรู้ว่าใครเป็นคนวางยาเขา
“นั่นดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดี”เซอฉีกล่าวขึ้น เขาไม่ต้องการความขัดแย้ง
ก่อนลากอสจะได้พูด บางคนก็ยิงปืนเขา หานเซี่ยวตอบสนองอย่างรวดเร็วและใช้เกราะแม่เหล็กเขา กระสุนถูกสะท้อน
อย่างไรก็ตาม นี่ทำให้ทหารที่ตื่นตัวเสียการควบคุมและเปิดฉากยิงพร้อมกัน
“ยิง!”
ความขัดแย้งแตกหักทันที!
“มีบางคนจงใจยิง!”ดวงตาของหานเซี่ยวทอประกายดุดัน สถานการณ์วุ่นวาย แต่เขาเห็นคนที่ยิงอย่างชัดเจน มันเป็นทหารธรรมดา
กระสุนพุ่งจากทุกทิศทาง หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกนอกจากจัดการกับกระสุนเหล่านั้น เกราะแม่เหล็กได้รับการพัฒนาจนเหนือล้ำ ดังนั้นกระสุนจึงไม่อาจเจาะทะลุผ่านเกราะได้เลย
พลังงานไหลผ่านร่างเขาและตรงไปยังแผ่นโลหะกลมบนมือ-ดาบประกอบแม่เหล็กทำงาน ดาบแหลม7เล่มบินออกจากกระเป๋าและหมุนวนเหมือนพายุ ปากกระบอกปืนของทหารหลายคนถูกตัด และพวกเขาก็ถอยหนีชนกันจนล้ม
พลังการยิงของศัตรูเริ่มลดลง เช่นเดียวกับหานเซี่ยวที่กำลังพุ่งใส่ทหารที่เปิดฉากยิงคนแรก ผู้คุ้มกันยอดมนุษย์ที่ซ่อนในเงามืดก็ลงมือ
ฟุบ!
ทันใดนั้น ไฟก็ปรากฏในฝูงชน สามนักสู้และหนึ่งเอสเปอร์ที่สามารถเปลี่ยนทั้งร่างเป็นไฟพุ่งเข้าใส่หานเซี่ยวพร้อมกัน
หมัดที่ปกคลุมด้วยไฟชกใส่เขาอย่างแรง
ปัง!
เกิดรอยแตกกระจายบนพื้น และกำแพงก็เริ่มแตกเช่นกัน หานเซี่ยวหลบได้ทันและกระโดดขึ้นอากาศ ทันใดนั้น เขาก็พบเจอกับคลื่นความร้อนที่พุ่งเข้าหาเขา คนที่ปกคลุมด้วยไฟเหยียดแขนเขา และงูคล้ายเสาไฟก็บินใส่หานเซี่ยว
โดยปกติ ไม่มีใครหลบหนีได้กลางอากาศ แต่หานเซี่ยวคือข้อยกเว้น เขากดปุ่ม[อุปกรณ์หลบหลีกขนาดเล็ก]บนเอวเขาทันที กล่องบนขอบเข็มขัดยิงไอพ่นอากาศออกมา เข็มขัดปล่อยพลังรุนแรง เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นกระชากหานเซี่ยวไปด้านข้าง
งูไฟที่พลาดเป้าชนใส่กำแพง เกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่
ระดับ46 48 49 สามนักสู้และเอสเปอร์ระดับ45 ทั้งหมดคือยอดมนุษย์เกรดD นี่ควรเป็นพลังระดับสูงในอลูเมร่า
หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงลำบาก แต่ตอนนี้ทักษะเขาอยู่ระดับสูงสุด เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ต่อให้ไม่สวมชุดจักรกลก็ไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไร ในความเป็นจริง เขากังวลถึงทหารที่ยิงเขาก่อน แต่ก็ตระหนักว่าทหารหนุ่มถูกฆ่าตายตั้งแต่การยิงแสนวุ่นวายก่อนหน้าแล้ว
หานเซี่ยวรู้สึกตื่นตัว เขาไม่คิดว่านี่เป็นอุบัติเหตุ
ดูเหมือนจะมีคนใส่ร้ายฉันในหมู่อลูเมร่า พวกเขาเห็นฉันก้าวถอยหลังและตัดสินใจโจมตีฉันเพื่อจุดประกายใจ
ด้วยความคิดเหล่านี้ หานเซี่ยวจึงได้เบาะแสมากขึ้น เขาพับเก็บความคิดและจดจ่อกับการต่อสู้ เขาหมุนมือ และดาบก็ปกคลุมเขาเหมือนพายุ เฉือนเกือบสิบครั้งต่อวินาที สร้างบาดแผลบนนักสู้ทั้งสามที่เข้ามาใกล้ ทุกที่ที่เขาเดินผ่าน อาวุธของทหารจะถูกตัด เขาเคยใช้อาวุธประเภทนี้มาก่อนในชีวิตที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องใช้เวลาฝึกฝน เขาปรับตัวได้ทันที เขาตั้งใจเก็บออมฝีมือและไม่ฆ่าใคร
เกราะแม่เหล็ก รองเท้าแม่เหล็กและอุปกรณ์ที่เขานำมาด้วยล้วนผ่านการปรับแต่ง คุณสมบัติพวกมันแข็งแกร่งขึ้นมาก พลังต่อสู้ของหานเซี่ยวอย่างเดียวก็นับว่าถึงจุดสูงสุดแล้ว หานเซี่ยวไม่ต้องใช้ไวเปอร์เพื่อจัดการกับยอดมนุษย์ทั้งสี่ที่ระดับต่ำกว่าเขา เขาแค่ต้องใช้ดาบแม่เหล็ก
พลังชีวิตของหานเซี่ยวสูงถึง3800หน่วย ไม่ห่างจากนักสู้ในระดับเดียวกันนัก และเขายังมีเกราะแม่เหล็ก ดังนั้น เขาจึงเหมือนรถถังเดินได้
ในอีกด้านหนึ่ง สมาชิกกิลด์ฝนไม้ไผ่กำลังจับจ้องหานเซี่ยวโค่นล้มศัตรูอยู่ กิลด์ฝนไม้ไผ่เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น
“นี่คือคลิปที่จะบันทึกการต่อสู้เขา มันต้องมียอดชมสูงมากแน่ๆ”แมลงวันกล่าว“ฉันคิดว่าปีศาจทมิฬเป็นแขกพวกเขาซะอีก แต่จากสิ่งที่พวกเขาพูด มันดูเหมือนว่าปีศาจทมิฬจะไปฆ่าหัวหน้าพวกเขา ตอนนี้ฉันทำการตรวจสอบแล้ว NPCทั้ง4ที่สู้กับปีศาจทมิฬล้วนถูกเขียนว่า[อันตรายมาก] สิ่งที่พวกเขาพูดในฟอรั่มถูกต้อง ปีศาจทมิฬนับเป็นจุดสูงสุดแล้ว”
สายลมยามเช้ากลอกตาเขาและกล่าว“นายพูดว่าNPCที่ให้ภารกิจเนื้อเรื่องหลักมักไม่แข็งแกร่งไม่ใช่รึไง?”
“ชู่!”น้ำหอมทำสัญญาณให้พวกเขาเงียบ“เงียบและดูเนื้อเรื่อง”
…
พลังทำลายของยอดมนุษย์เหนือกว่าคนธรรมดา คฤหาสน์ทั้งหลังพังทลาย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็หลบหนีด้วยความกังวล มียอดมนุษย์มุ่งหน้ามามากขึ้น พวกเขาต้องฆ่าปีศาจทมิฬได้อย่างแน่นอน
ดาบผ่าเปิดไฟ หมัดเหล็กบดขยี้กับเกราะ หานเซี่ยวขยับตัวด้วยความคล่องตัวสูงจนน่ากลัว ยอดมนุษย์ทั้ง4แทบโจมตีเขาไม่โดนเลย หานเซี่ยวจงใจแกล้งเปิดโอกาสให้พวกเขาโจมตีและล่อหนึ่งในนักสู้เข้ามาใกล้ จากนั้นก็ใช้ถุงมือความร้อนสูงเพื่อตอบโต้การโจมตีและเอาชนะคนแรกไปก่อน เขาใช้ดาบเพื่อสร้างพายุและเฉือนทั่วร่างของเอสเปอร์ เกราะแม่เหล็กเขากันความร้อนได้ดี ดังนั้นไฟจึงสร้างความเสียหายเขาได้จำกัด
เหลืออีกแค่สองคนคอยรับมือกับหานเซี่ยว
หวือ
ดาบเฉือนเปิดเนื้อของนักสู้และส่งร่างเขาลอยออกไป เลือดไหลทะลักจากบาดแผล นักสู้คนนี้นอนกระตุกบนพื้นด้วยบาดแผลสาหัสและไม่อาจขยับตัวได้
“บัดซบ!”ลากอสตกใจ ปีศาจทมิฬโค่นผู้คุ้มกัน4คนได้ในชั่วพริบตา สถานที่เต็มไปด้วยอิฐและซากปรักหักพัง ไม่มีใครหยุดปีศาจทมิฬได้อีกแล้ว
หากเขาเริ่มการฆ่าล้าง เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนคงตาย
ซวบ!
ดาบลอยอยู่ตรงหน้าลากอส เขาร้องด้วยวความกลัว แต่ดาบก็ไล่ตามเขาเหมือนเงา ลากอสล้มลง
จากนั้นหานเซี่ยวก็ดึงดาบกลับ เขาปาดเลือดบนใบหน้าและกล่าวด้วยเสียงเย็น“ฉันสามารถฆ่าคนของแกได้ แต่นั่นก็จะเป็นการเล่นตามเกมคนอื่น เงื่อนไขเรายังไม่เปลี่ยน-ฉันจะอยู่จนกว่าแกจะพบความจริง แต่หากแกยืนยันที่จะจับฉัน ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะฆ่าแก”
นิ้วเขาขยับขณะกำลังพูด ดาบร่ายรำในอากาศและก่อตัวเป็นรูปดอกไม้ นี่เป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน