ตอนที่ 202 อลูเมร่า 1
นับรวมห่าวเทียน หานเซี่ยวได้ติดต่อกับผู้เล่นมืออาชีพมาหลายคนแล้วและให้ภารกิจพวกเขา
วิธีการทำภารกิจให้สำเร็จคือการใช้อุปกรณ์สื่อสาร เขาให้เบอร์และอีเมลล์เขากับผู้เล่นมืออาชีพ และภารกิจก็จะสำเร็จก็ต่อเมื่อพวกเขาส่งรายละเอียดมาให้ หากมีของภารกิจใดที่ต้องส่งมอบให้ฮันเนส เขาก็จะขึ้นเครื่องและไปนำมันมาด้วยตัวเอง
เทียบกับการทำด้วยตัวเอง การมอบหมายให้ผู้เล่นช่วยเขาจะประหยัดเวลาได้มาก และเขาก็แค่ต้องนั่งเฉยๆและเพลิดเพลินกับผลกำไร
ในบรรดาผู้เล่นมืออาชีพที่มารับภารกิจ หลายคนเป็นผู้แข็งแกร่งมากในชีวิตก่อนหน้าเขา และห่าวเทียนก็คือจุดสูงสุด หานเซี่ยวค่อนข้างสนใจในตัวห่าวเทียน แต่เนื่องจากเขาบอกว่าเขาจะไปยุ่งด้วยเมื่อภารกิจสำเร็จ เขาจึงต้องอทดน
หานเซี่ยวใช้เวลาส่วนใหญ่บนถนนขณะกำลังเดินทางไปหมู่บ้านฝึกหัดอีกแห่ง ในเวลานี้ เขาใช้[การเสริมพลังขั้นกลาง]และพัฒนาอุปกรณ์เขา เขายังพยายามสร้างอุปกรณ์ทั้งสามที่เขาเลือก และก็ค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์
เขาสามารถบรรลุคุณภาพสีฟ้าได้ในการลองครั้งแรก ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสบรรลุคุณภาพสีม่วงหลังฝึกฝนและทำความคุ้นเคย
มีผู้เล่นที่ไปถึงระดับ19แล้วบนกระดาน ด้วยความก้าวหน้าของหานเซี่ยวตอนนี้ เขาจะสามารถไปเยือนหมู่บ้านฝึกหัดทุกแห่งบนทวีปเหนือได้ก่อนจะมีผู้เล่นไปถึงระดับ20
สำหรับแอนเดรีย หานเซี่ยวไม่คิดว่าเขาจะไปเยือนได้ ซึ่งยังไงเขาก็ไม่อยากไปแอนเดรียอยู่แล้วเพราะมันคือสำนักงานใหญ่ขององค์กรต้นกำเนิด ซึ่งหมายความว่ามันอันตรายมากต่อเขา นอกจากนี้ ผู้เล่นทุกคนยังถูกบังคับให้ออกจากหมู่บ้านฝึกหัดและกระจัดกระจายอยู่ทั่ว โดยรวม มันเสี่ยงมากไป
บนฟอรั่มดาวเคราะห์อความารีน ผู้เล่นในทวีปเหนือมีความสุขสุด ที่ตื่นเต้นรองลงมาคือผู้เล่นจากแอนเดรีย ในความคิดพวกเขา หลังปีศาจทมิฬวิ่งวุ่นบนทวีปเหนือเสร็จ เขาจะต้องมาแอนเดรีย
นี่ช่างลำบากใจ หานเซี่ยวถอนหายใจ
...
สภาพอากาศในทวีปเหนือหนาวเย็น ภูมิประเทศส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยทุ่งหิมะและภูเขาน้ำแข็ง หิมะบางร่ายรำในอากาศ หมอกหนาปกคลุมยอดเขา
หมู่บ้านฝึกหัดแห่งที่สามเรียกว่าหมู่บ้านต้นสนหิมะ มันอยู่ในหุบเขาป่าผนึกน้ำแข็ง ที่สัตว์ป่าดุร้ายเดินเตร็ดเตร่
เครื่องบินลงจอดนอกป่าและหานเซี่ยวก็เดินข้ามป่าด้วยรองเท้า วิ่งไปตามเรดาห์ สัตว์ร้ายคำรามเตือนหานเซี่ยวว่าแดนเหนือคือถิ่นพวกมัน และหลายตัวก็มีระดับค่อนข้างสูง
ตามที่ฉันจำได้ หมีน้ำแข็งกรงเล็บแหลมบนทุ่งน้ำแข็งมีระดับสูงระหว่าง53-56 ไม่รวมถึงพวกระดับสูงหรือบอส ฉันสามารถทำตามข้อกำหนดเพื่อปลดล็อคพสวรรค์[นัดสังหาร]ได้ หานเซี่ยวคิด
ทุ่งน้ำแข็งค่อนข้างไกล ดังนั้นหานซี่ยวจึงตัดสินใจไปที่นั่นหลังไปเยือนหมู่บ้านฝึกหัดครบ
ไม่นาน หมู่บ้านก็ปรากฏตรงหน้าเขา เขาสงบสติ ชะลอความเร็วและเดินไป
...
ในป่าห่างจากหมู่บ้านไปร้อยเมตร ผู้คนสวมชุดรบ อาวุธและมีดกำลังนั่งเป็นวงกลมจัดเรียงอาวุธพวกเขา
พวกเขาเป็นทีมต่อสู้จากอลูเมร่า คำสั่งที่พวกเขาได้รับคือให้มาจับพวกเหนือมนุษย์บางคนในหมู่บ้านต้นสนและนำกลับไปวิจัย
หัวหน้าคีตันกำลังสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าดุร้าย เขาดึงปืนออกมาและกล่าว“ทุกคนรู้แผนแล้วนะ อย่าทำให้เสียรูปการละ!”
“ผ่อนคลาย มันก็แค่กลุ่มเหนือมนุษย์ ง่ายเหมือนปลอกกล้วย”
“หากพวกเขากล้าขัดขืน...”คีตันจบระเบิดบนเอว“อย่าขี้เหนียวที่จะใช้ของเล่นพวกนี้-”
ทีมเริ่มหัวเราะ
“นอกจากนี้ พวกเหนือมนุษย์เหล่านี้ยังดูเหมือนคนธรรมดามาก อย่าจับคนผิดละ”คีตันมองนาฬิกาและสั่งให้คนอื่นยืนขึ้น“จัดอุปกรณ์ให้พร้อม เราจะเคลื่อนไหวตามสัญญาณฉัน”
ในเวลานั้นเอง เงาร่างมนุษย์ก็เดินผ่านตรอกนอกป่า สมาชิกคนหนึ่งชี้และกล่าว“หัวหน้า มีคนสัญจรมาครับ นั่นใช่พวกเหนือมนุษย์รึเปล่า?”
“อาจจะ มีสัตว์ร้ายอยู่มากในป่านี้-มีแค่พวกเหนือมนุษย์เท่านั้นที่จะเดินทางเพียงลำพัง”
“จับตัวเขา และทำภารกิจให้เสร็จ”
พวกเขากระตือรือร้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขารออยู่นาน จากนั้นก็ตระหนักว่าหัวหน้าพวกเขาไม่ตอบสนองอะไร พวกเขามองกลับไปและต้องตกใจ
ริมฝีปากของคีตันกำลังสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าเขาขาวซีด และแม้กระทั่งบุหรี่ก็ตกลง
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”สมาชิกสับสน
คีตันกลืนน้ำลายก่อนพูด“ยกเลิกแผน ถอยเดี๋ยวนี้!”
“ทำไมครับ?”ทีมแปลกใจ
“นั่นไม่ใช่พวกเหนือมนุษย์!”คีตันกล่าว“ขะ-เขาคือปีศาจทมิฬ!เขามีความขัดแย้งกับตระกูลเราเมื่อไม่นานมานี้!”
ปีศาจทมิฬ!
ทุกคนตกตะลึง พวกเขาอยากตรวจสอบและทำให้มั่นใจ แต่เงานั้นก็หายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับได้ยินเสียงคนแปลกหน้าจากด้านหลัง
“ฉันได้ยินพวกแกกำลังร้องเรียกหาฉัน”
ทุกคนตกตะลึง พวกเขาหันไปมองและเห็นเงาดำกำลังยืนอยู่เบื้องหลังคีตัน มองพวกเขาอย่างอยากรู้
พวกเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ
คีตันกลัว เขาไม่สังเกตเห็นหานเซี่ยวเลย เสียงจากหานเซี่ยวเกือบเหมือนฟ้าผ่าที่ทำให้หัวใจเขาแทบดีดออกมาและเหงื่อเขาก็ไหลรินแม้จะในสภาพอากาศหนาวเย็น
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว เขาสัมผัสกลุ่มนี้ได้นานแล้ว เหตุผลที่คนติดดอาวุธเหล่านี้หวั่นวิตกต่อหน้าเขาย่อมหมายความว่าพวกเขารู้จักเขาและมีแรงจูงใจที่ไม่เป็นมิตร
“จะบอกฉันด้วยตัวเอง หรืออยากให้ฉันช่วย?แกสามารถลองโกหกดูได้”หานเซี่ยวงอนิ้ว ดาบ7เล่มบินออกมาจากกระเป๋าเอวและขา ลอยอยู่กลางอากาศ เล็งยังจุดสำคัญของคีตัน
ดาบประกอบแม่เหล็กคุณภาพสีฟ้า ความเสียหายมันขึ้นอยู่กับการใช้พลังงานของผู้ใช้ และพวกมันสามารถสร้างเป็นรูปทรงอาวุธได้หลากหลายแถมยังมีความเร็วสูง อุปกรณ์ที่มีความสามารถชื่อ[การโคจร] เมื่อเปิดใช้งาน ดาบทุกเล่มจะหมุนเหมือนลูกบอล สร้างบาดแผลให้ศัตรูด้วยวความเร็วสูง มันเป็นอาวุธระยะประชิดที่ยอดเยี่ยมก่อนระดับ60
จากมุมมองผู้เล่น สิ่งนี้นับเป็นอุปกรณ์ระดับเทพในช่วงแรก หานเซี่ยวใช้ค่าประสบการณ์ไปกว่าล้านเพื่อให้ได้รับพิมพ์เขียวนี้
คีตันกลัวดาบบิน เขารีบระบุตัวตนและภารกิจโดยยไม่เก็บรั้งอะไรไว้
เมื่อเขาได้ยินว่าพวกเขาเป็นพวกอลูเมร่า ดวงตาหานเซี่ยวก็หรี่ลง เขาเข้าใจได้ว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงกลัวเขา เขาได้ช่วยลู่เฉินโจมตีดินแดนของอลูเมร่าในหมู่บ้านหุบเขาเขียวและยืดหยัดต่อสู้กับพวกเขา แต่เมื่อเขาเห็นข่าวลือบนเครือข่ายมืด อลูเมร่ากลับอยากแก้แค้นแค่ลู่เฉิน แต่ไม่พูดถึงเขา
ฉันควรเป็นศัตรูกับพวกเขาไหม— พวกเขา...กลัวฉันงั้นหรอ?
หานเซี่ยวสนใจ เขาเก็บดาบบินไปและกล่าว“กลับไปบอกหัวหน้าพวกแกว่าฉันจะไปเยี่ยมในไม่ช้า”
เส้นประสาทของคีตันคลายตัว เขารีบวิ่งหนีไป ไม่กล้าแม้แต่จะมองย้อนกลับมา
หลังวิ่งไปได้หลายร้อยเมตร คีตันก็หยุดและมองกลับไป เมื่อมั่นใจว่าปีศาจทมิฬไม่ตามมา เขาก็ถอนหายใจ เขาเปียกชุ่มไป้วยเหงื่อราวกับเพิ่งขึ้นจากสระและหัวใจเขาก็เต้นเร็วมาก
“หัวหน้า เอายังไงกันดีครับ?”ความกลัวยังคงขีดเขียนบนใบหน้าทุกคน
คีตันกลืนน้ำลายและกล่าว“เราจะไปและส่งข้อความให้เจ้านาย”
…
“ปีศาจทมิฬอยู่ในทวีปเหนือ และเขาก็อยากมา’เยี่ยม’เรา?!”
ดวงตาของดาร์ริล ผู้นำอลูเมร่าเบิกกว้างและคำรามเหมือนหมีคลั่ง“เรายังไม่ไปหาตัวเขาและตอนนี้เขาก็กล้ามาหาเราก่อน มันกล้าดูถูกเรา ฉันจะไปฆ่ามัน!”
ผู้บัญชาการลำดับสาม เซอฉี เป็นพวกอินเดียแดง เขามีร่างกายใหญ่โตและผิวดำ“อย่าวู่วาม เขาไม่ทำเรื่องโง่ๆหรอก เขาต้องมีแรงสนับสนุนและคงไม่กลัวหากเขากล้ามาหาเราเพียงลำพัง”
ดาร์ริลมองข้าม“เสี่ยวจิน คำแนะนำของนายละ?”
เสี่ยวจินดันแว่นและพูดอย่างใจเย็น“เขาแค่พูดว่าจะมาเยี่ยม หากเขาอยากสู้ เขาคงไม่บอกเรา เร่าควรติดต่อกับเขาดูและดูว่าเขาอยากได้อะไร บางทีเขาอาจไม่คิดสู้กับเรา”
ดาร์ริลขมวดคิ้วและกล่าว“ฉันจะดูด้วยตาตัวและขอคำอธิบายว่าทำไมถึงฆ่าคนของเรา!”