Chapter 1 : ผลไม้ที่ไม่ควรมีอยู่
ณ หมู่บ้านโคโนฮะ ในโลกแห่งนินจา
ดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นสู่ฝากฟ้าแล้ว แต่ก็มีคนๆหนึ่งยังอยู่ที่โรงเรียนนินจา
(คาถาแยกเงาพันร่าง!)
ฟิ้วววว...
กลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งออกมาปกคลุมร่างผู้ร่ายคาถา แต่กลับไม่มีร่างแยกเงาออกมาเลยแม้แต่ร่างเดียว
(ครั้งนี้ก็ล้มเหลวอีกเหมือนเดิม..)
ไนโตะ เงยหน้าขึ้นรับแสงแดดยามเช้าอันแผ่วเบาที่สาดส่องกระทบบนใบหน้าของเขาด้วยรอยยิ้ม
เขาได้เข้ามายังโลกแห่งนี้เมื่อหลายปีก่อน
โลกแห่งนี้คือโลกแห่งนินจา, เขาจินตนาการว่าเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะในโลกแห่งนี้
แต่เขาดันโชคไม่ดีนักที่ร่างกายของเขามีปัญหาในการควบคุมจักระมาตั่งแต่เกิดมันจึงเป็นหนึ่งอุปสรรคที่กีดขวางเขาให้ไปสู่เส้นทางในการเป็นนินจาได้อย่างยากลำบาก
ถึงแม้ว่าปริมาณจักระในร่างกายของเขาจะมีเท่ากับเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน แต่ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนตนเองแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่สามารถใช้คาถานินจาได้เลย แม้กระทั่งคาถานินจาขั้นพื้นฐานที่ง่ายที่สุด
“ทำไมการใช้คาถามันยากเหลือเกิน! ,หรือฉันจะต้องฝึกฝนกระบวนท่าในการต่อสู้เพื่อให้ใช้กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 ได้ เหมือนอาจารย์ ไมโตะ ไก?,แต่การได้มาซึ่งพละกำลังที่มหาศาลและยิ่งใหญ่นั้นต้องเดิมพันด้วยชีวิตหากร่างกายของผู้ใช้ไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานและทนต่อพลังอันมหาศาลนั้นได้,ฉันไม่ต้องการพลังมหาศาลที่ใช้ได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่ฉันต้องการพลังที่จะสามารถใช้ได้ตลอดไป” ไนโตะกล่าว
นี้พระเจ้ากำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม?
“เหลือเวลาอีกสอบปีก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มขึ้น. เมื่อมันมาถึงฉันไม่อาจไร้พลังอย่างนี้ได้ จะต้องมีพลังมากกว่านี้ ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง” ไนโตะคิด
ไนโตะ ถอนหายใจ,เมื่อมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 มาถึงเขาจะต้องตายแน่ ๆ หากเขายังคงไร้พลังเช่นนี้อยู่ เขาไม่อยากตายแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว
“ชั่งเถอะ, คิดไปก็ไม่มีประโยชน์. ขึ้นภูเขาไปฝึกวิชาต่อดีกว่า ถึงการฝึกวิชานินจาสำหรับฉันจะเป็นเรื่องยากแค่ไหนก็ตาม ฉันก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นให้ได้” ไนโตะกล่าว
ไนโตะสะบัดหัวเพื่อสลัดความคิดเรื่องสงครามออกไป แล้วลุกขึ้นยืนจากนั้นก็เริ่มเดินไปที่ภูเขาหลังโรงเรียน
ขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในป่านั้น เขาก็ได้ยินเด็กนักเรียนบางกลุ่มพูดถึงเขา
“ดูสิ ๆ ฉันได้ยินมาว่าเจ้านั่นใช้คาถานินจาไม่ได้ละ”
“ฉันว่าเจ้านั่นต้องเรียนซ้ำชั้นเพราะสอบตกแน่เลย”
“ฉันได้ยินมาว่าเจ้าเด็กนั่น ไม่ใช่เด็กในหมู่บ้านเรา แล้วเขาจะไปเทียบกับเราได้ยังไงกันละ”
นักเรียนเหล่านั้นต่างคุยกันอย่างสนุกสนานและมองเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
แต่ ไนโตะ เลือกที่จะไม่สนใจคนพวกนี้และแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินก็เท่านั้น
กลุ่มเด็กพวกนั้นคงจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสงครามเลย อีกไม่ถึงสองปีมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 ก็จะมาถึง เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาคงจะได้หัวเราะเป็นครั้งสุดท้ายแน่ถ้าพวกเขายังไม่ทำตัวให้ดีกว่านี้
(แต่ที่เด็กพวกนั้นพูดก็ถูก ฉันไม่มีโชคในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แห่งนินจาเอาเลย)
เขาเข้ามาในโลกนินจาแห่งนี้เพื่อต้องการที่จะเป็นนินจาแห่งโคโนฮะเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ที่มีพลังขีดจำกัดสายเลือด เขาขอแค่มีบ้านและครอบครัวเหมือนคนปกติก็ดีมากแล้วซึ่งเขาไม่มีทั้งบ้านและครอบครัวเหลืออยู่เลย
ไนโตะ เขาเกิดในหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งหมู่บ้านที่เขาอยู่ถูกนินจาจากหมู่บ้านซึนะโจมตีและทำลายจนไม่เหลือซาก นินจาโคโนฮะที่ผ่านมาพบตัวและช่วยหลือเขาไว้ได้แต่เท่าที่เขารู้เขาคือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเหตุการณ์ครั้งนั้น
แม้ว่าเขาจะยังเป็นเด็กอยู่แต่ทุกที่ที่เขาเดินผ่านก็จะมีสายตาเย็นชาและดูถูกจับจ้องมาที่เขาอยู่เสมอ ไนโตะ ชินกับสายตาเหล่านั้นเป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นารูโตะ ก็เคยผ่านมาแล้วดังนั้นเขาจึงก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป
เขาเดินขึ้นภูเขาไปเรื่อยจนพบกับตอไม้ตอหนึ่ง ตอไม้ตอนี้มีรอยบุ๋มอยู่ทั่วทั้งอันซึ่งรอยนั่นเกิดจากการฝึกฝนแตะและต่อยนับครั้งไม่ถ้วนของ ไนโตะ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการตู่สู้แต่เขาก็จะไม่มีวันยอมแพ้
ไนโตะมองที่มือและเท้าที่มีผ้าพันแผลของเขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเริ่มต่อยที่ตอไม้ด้วยความมุ่งมั่น
(1,2,3,…,35,36)
เสียงหมัดของเขาดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ร่างกายของเขาเปียกโชคไปด้วยเหงื่อ
ในไม่ช้า ร่างกายของเขาก็เริ่มเหนื่อยล้า ความเจ็บปวดเริ่มเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณข้อเท้าของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกัดฟันและอดทนฝึกฝนต่อไปอย่างไม่ลดละความพยายาม
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าและไม่มีเด็ก ๆ หลงเหลืออยู่บริเวณภูเขาแล้ว เขาจึงทำการฝึกการใช้คาถานินจาของเขาต่อ ถ้าหากเขาไม่สามารถใช้คาถานินจาได้ เขาก็จะใช้ความพยายามมากขึ้นๆ จนมากกว่าเด็กอายุเท่ากัน
(แฮ่ก แฮ่ก) เสียงหายใจหอบ
เขาเริ่มหายใจอย่างรุนแรงขณะที่เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ จนหยดลงมาที่พื้น
ในที่สุดขาของเขาก็ชาจนไม่สามารถขยับได้ เขาจึงหยุดและนั่งพัก
หลังจากนี้ ฉันจะต่อยหมัดอีกห้าร้อยครั้ง ฉันจะเตะอีกสองร้อนที! แต่สำหนับตอนนี้...ฉันต้องหยุดพักก่อนแล้ว
อ่า..
ไนโตะ นั่งพักอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ต้นหนึ่ง เขานั่งอย่างผ่อนคลายและมองดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไปอย่างช้า ๆ มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่ได้มาฝึกฝนแบบนี้ทุก ๆ วันและได้มานั่งดูสิ่งสวยงานเช่นนี้ แต่น่าเสียดายที่การจะมาถึงของมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 นี้คงจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปและมันไม่ง่ายเลยสำหรับเขา
หลังจากนั่งพักอยู่ครู่หนี่ง เขาก็ลุกขึ้นยืนและเริ่มฝึกซ้อมอีกครั้ง ทันใดนั่นเอง เขาก็ต้องตกใจกับเสียงประหลาดที่เกิดขึ้นด้านหลังของเขา มันฟังดูเหมือนมีอะไรบางอย่างตกลงบนพื้น เขารีบมองไปยังทิศทางที่เกิดเสียงทันทีและเดินตรงไปยังจุดที่เกิดเสียงนั้น
เมื่อเดินไปตามทิศทางที่เกิดเสียงนั่นเขาก็ได้สังเกตว่ามีวัตถุบางอย่างหล่นลงมาบนพื้น แม้ว่าแสงสว่างจากดวงอาทิตย์จะเริ่มหมดลงจนความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมพื้นที่บริเวณนั้นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังสังเกตได้ถึงความแปลกประหลาดของวัตถุที่ตกลงมา เขาหยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัยในรูปร่างและสีแปลกๆของมัน มันมีลักษณะคล้ายกับผลไม้แต่เขาก็มั่นใจว่ามันไม่ได้มาจากต้นไม้บนภูเขาแห่งนี้อย่างแน่นอน แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการฝึกซ้อมเขาจึงทำมันหล่น
เวลาล่วงเลยไปแสงสว่างหมดไปจากท้องฟ้า คืนนี้มันเป็นคืนที่มืดมาก เขาแทบมองอะไรไม่เห็นเลย เขาพยายามเพ่งมองหาวัตถุนั่นแล้วหยิบขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาหยิบมันแน่นกว่าเดิมเพราะกลัวมันหล่นอีก
มันคือผลไม้ ผลไม้แปลกๆ
หากใครจากโลกแห่งนินจานี้มาเห็นสิ่งนี้ พวกเขาคงจะโยนมันทิ้งไปแน่นอนเพราะลักษณะที่แปลกประหลาดของมัน แต่สำหรับเขาแล้วนั่น เขาไม่มีวันโยนทิ้งอย่างแน่นอนเพราะเขารู้ดีว่ามันคืออะไร เพราะมันคือผลปีศาจนั่นเอง
(ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ? หรือว่าฟ้าประทานมาให้ฉัน โชคชะตาของฉันจะเปลี่ยนไปแล้วหรือ? แต่เดี๋ยวก่อน..หรือมันจะเป็นของปลอม? บางทีมันอาจเป็นผลไม้ที่มีพิษก็ได้ แต่ทำไมรูปร่างมันเหมือนผลปีศาจขนาดนี้ละ)
มันมีรูปร่างเหมือนผลไม้ที่เขาเคยเห็นจากภาพประกอบในการ์ตูน Anime ที่เขาเคยอ่านและชื้นชอบเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี บางทีนี่อาจจะเป็นแค่ผลไม้ปลอมหรือเป็นแค่ผลไม้ที่มีพิษก็ได้
เขาสะบัดหัวเพื่อสลัดความคิดเหล่านั้นออกอย่างรวดเร็ว
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นของปลอม ผลปีศาจแบบนี้มันจะปลอมกันได้ยังไง
ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan's Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild