GE154 หรือเจ้าจะเป็นกระถางขัดเกลาของข้า [ฟรี]
พิรุณโปรยปราย กลับคืนสู่ผืนดิน วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้
วัฏจักรพิรุณของหนิงฝานประกอบไปด้วย 3 วิถีของหนิงฝาน หนึ่งคือสังหาร สองคือต่อต้าน สามคือโดดเดี่ยว
เจตจำนงค์เทพพิรุณ เจตจำนงค์เทพระดับ 8 ผสานด้วยวิถีทั้ง 3 ของหนิงฝาน เทียบได้กับเจตจำนงค์เทพระดับ 7
เจตจำนงค์เทพของชายชราผมแดง เป็นเพียงโลหิตผสานกับเจตนาสังหาร จึงไม่อาจต้านทานเจตจำนงค์เทพหนิงฝานได้
ไม่นานร่างของชายชราก็ละลายไปกับพิรุณกว่าครึ่ง อีกครึ่งที่เหลือพยายามทะยานออกจากข่ายอาคม
ชายชราตกตะลึง หนิงฝานเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณแต่กลับบรรลุเจตจำนงค์เทพพิรุณ!
ผู้ที่บรรลุเจตจำนงค์เทพระดับ 8 ได้นั้น ล้วนมีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงที่มีพรสวรรค์ แต่ถึงอย่างนั้น หากมีโอกาส แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกก็ทำได้
แต่คนอย่างมัน...ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณอย่างมันยังไม่กล้าคิด และไม่คิดว่าตลอดทั้งชีวิตของมันจะทำได้
ยามนี้มันจึงตัดสินใจ หากมันหนีออกไปจากที่นี่ได้ และจัดการเรื่องต่างๆเสร็จ มันจะมาสังหารหนิงฝานด้วยตัวเอง
ข่ายอาคมระดับดวงจิตแรกเริ่มขั้นกลางไม่อาจรั้งชายชราได้ เมื่อเงาร่างของมันพุ่งผ่าน ข่ายอาคมก็พังทะลาย
หนิงฝานไม่ไล่ตามชายชราไป… เขาเพียงจ้องมองมันด้วยสายตาเย้ยหยัน
แต่เมื่อชายชราจากออกจากหุบเขาไป แววตาของมันแปรเปลี่ยน มันจดจำหนิงฝานไว้ เพราะวันข้างหน้า มันจะตามล่าหนิงฝาน
“วันนี้เจ้าทำลายชื่อเสียงของข้า… แต่วันหน้าจะเป็นวันตายของเจ้า!”
“ข้าบอกแล้วว่าไม่ปล่อยเจ้าไป” หนิงฝานไม่ได้ไล่ตามมันไป เพราะไม่จำเป็นต้องไล่ตาม
เมื่อมันพ้นข่ายอาคมไป ชู่ซวนเชียนสื่อที่รออยู่นานก็กระตุ้นสร้อยข้อมือ วงแหวนสีทองขนาดใหญ่ปรากฏ ประทับเข้าใส่ชายชรา
มันคาดไม่ถึงว่าชู่ซวนเชียนสื่อจะลอบจู่โจมตน แต่เมื่อเห็นนางเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงสุด และวงแหวนก็เป็นเพียงอาวุธวิญญาณระดับสูง มันจึงไม่ใส่ใจ
เพราะต่อให้เป็นอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดก็ทำอะไรเจตจำนงค์ปีศาจของมันไม่ได้
แต่เมื่อวงแหวนสีทองสัมผัสร่างชายชรา สีหน้ามันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
เพราะวงแหวนสีทองดูราวกับแฝงด้วยอำนาจสวรรค์ เมื่อต้องสัมผัสร่างของมัน เสียงของภูเขาถล่ม สายน้ำไหลเชี่ยวก็ดังขึ้น
มันเปล่งเสียงร้องลั่น ร่างของมันถูกวงแหวนบดขยี้
จากนั้นเปล่งเสียงคำรามด้วยโทสะ แล้วหันมองหนิงฝาน
มันไม่รู้ว่าสมบัติวิญญาณที่ชู่ซวนเชียนสื่อใช้คือสิ่งใด แต่จากสัมผัสที่ได้ มีกลิ่นอายของหนิงฝานอยู่ภายใน นั่นหมายความว่า หนิงฝานเป็นผู้สร้างสมบัติชิ้นนี้ให้นาง และตั้งใจให้นางลอบจู่โจมมันแต่แรก
“บัดซบ! วันนี้เจ้าทำร้ายข้าลี่ป่านได้ แต่วันหน้าข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
“ลี่ป่าน...”
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขารู้ว่าตนยั่วยุผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง
แต่ยั่วยุแล้วทำไม?
“ตาย!”
หนิงฝานสัมผัสหน้าผาก นำกระบี่แยกสวรรค์ออกมา ส่งกระบี่แยกสวรรค์ฟาดฟันร่างของมันจนสูญสิ้น
มีเพียงวิธีเท่านั้นที่จะกำจัดมันได้
หนิงฝานอุ้มปีศาจบุบผาแดงที่อ่อนแอออกจากหุบเขา ส่วนมันก็ด่าทอหนิงฝาน
“เจ้ากล้าทำร้ายท่านลี่ป่าน ข้าจะตกตายไปพร้อมกับเจ้า!”
“ฮึ่ม!”
หนิงฝานแค่นเสียงเย็นชา ใช้ดรรชนีคลายหยิน จี้ไปยังหน้าอกของนางอีกหลายครั้ง เมื่อนางหมดสติ เขาก็นำนางเข้าแหวนกระถางขัดเกลา
เขาไม่ได้คิดจะฆ่ามัน เพราะนอกจากมันจะเป็นกระถางขัดเกลาชั้นเลิศ อักษรที่สลักอยู่บนหน้าผากของนาง ยังคงใช้งานได้ มันเป็นอาวุธลับที่ใช้จู่โจมได้
เจตจำนงค์อสูรของชายชราคนนั้นหายไป เหลือไว้เพียงอักษรที่สลักบนหน้าผากของนาง ที่สามารถใช้พลังจู่โจมในระดับขอบเขตตัดวิญญาณ
แม้ปีศาจบุบผาแดงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม แต่เมื่อ ต้องวิชาดรรชนีคลายหยินเข้าไป นางก็จัดการได้อย่างง่ายดาย
เมื่อครู่ ในขณะที่การจู่โจมของชู่ซวนเชียนสื่อไม่เป็นผลมากนัก นางสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง หนิงฝานก็ลงมือสังหารมัน
สมบัติวิญญาณที่หนิงฝานมอบให้นั้น แฝงไปด้วยอานุภาพที่ร้ายแรงราวกับทัณฑ์สวรรค์ สมบัติที่ทรงพลังเช่นนี้ นางเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในชีวิต
สมบัติที่ล้ำค่าเช่นนี้ หนิงฝานยังมอบให้นาง...
แต่สมบัติชิ้นนี้เหมือนจะเพิ่งถูกสร้างขึ้นมา เพราะยังมีกลิ่นอายของหนิงฝานเหลืออยู่… นั่นหมายความว่า หนิงฝานเป็นคนสร้างมันขึ้นมากับมือ
“เพียงเดือนเดียว… เขากลับหลอมสร้างอาวุธเพื่อข้า...” ความรู้สึกที่ยากจะกล่าวปรากฏขึ้นในใจนาง
นางและหนิงฝานทะยานมุ่งไปยังข่ายอาคมแบ่งโลกทางตอนเหนือของแคว้นซ่ง ตัวนางในยามนี้ เต็มไปด้วยความคิดซับซ้อนไม่เข้าใจ
“เหตุใดเจ้าถึงช่วยข้า?” นางกล่าวถามเบาๆ ไร้ซึ่งน้ำเสียงที่เย่อหยิ่งอวดดี
“ข้าเคยบอกแล้วว่าข้าจะปกป้องเจ้า… เจ้าคิดว่าข้าพูดเล่นหรือไง?”
“สร้อยข้อมือนี่...”
“มันเรียกว่า ‘วงแหวนจักรวาล’ ข้าสร้างขึ้นเพื่อชดเชยวงแหวนของเจ้าที่เสียไปยามที่ช่วยเมืองหนิง”
“ไม่เห็นต้องตอบแทนข้ามากขนาดนี้...” นางกล่าวกระซิบ
“หรือเจ้าไม่ต้องการ?” หนิงฝานขมวดคิ้ว
“ไม่...ไม่ใช่อย่างนั้น” นางเร่งกุมสร้อยข้อมือไว้ราวกับกลัวว่าหนิงฝานจะชิงคืน นางชอบสร้อยข้อมือเส้นนี้มาก
แล้วทั้งสองก็ไม่พูดกันอีก… ผ่านไป 3 วัน ทั้งสองก็ไปถึงข่ายอาคมแบ่งโลก ที่นั่นมีจิงสั่วรออยู่
หลังจากหนิงฝานจากมา ผู้เชี่ยวชาญของแคว้นซ่งก็มุ่งหน้าไปถึงหุบเขาแห่งนั้น เมื่อทั้งหมดสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เหลืออยู่ พวกมันล้วนตกตะลึง
เกิดการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มขึ้นที่จริงๆ แต่ยามนี้ ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มจากไปแล้ว
ปีศาจบุบผาแดงไม่อยู่… ผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มผู้นั้นก็ไม่อยู่… หรือทั้งสองจะไปจากแคว้นซ่งแล้ว?
แคว้นซ่งคืนสู่ความสงบสุขอยู่หลายเดือน ผู้เชี่ยวชาญของแคว้นซ่งเริ่มพบว่าปีศาจบุบผาแดงไม่ออกอาละวาด ทำให้คนในแคว้นซ่งวางใจ
ท้ายที่สุด แคว้นซ่งก็ผ่านภัยพิบัติ แต่สิ่งที่น่าเสียใจมีเพียงสิ่งเดียว คือบุตรสาวและภรรยาที่หายไปไม่มีวันหวนคืน
แต่หากเทียบกับการที่แคว้นซ่งต้องถูกทำลายแล้ว นับว่าดีกว่ามาก
ยามนี้ เรือเหาะของหนิงฝานมุ่งหน้าเข้าไปยังแคว้นเชิ่งแล้ว
แคว้นเชิ่งเป็นแคว้นระดับล่างเช่นเดียวกับแคว้นซ่งและแคว้นเยว่ แต่มีอาณาเขตกว้างขวางพอๆกับแคว้นซ่ง
เรื่องปีศาจบุบผาแดงโด่งดังมาถึงแคว้นเชิ่ง ทำให้แคว้นเชิ่งปั่นป่วน... เพื่อความยุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญในแคว้นเชิ่งจึงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เมื่อพบเรือเหาะของหนิงฝาน เหล่าผู้เชี่ยวชาญก็เข้าตรวจสอบ... เมื่อทราบว่าพวกหนิงฝานมีเจตนาดี จึงยอมให้ผ่านเข้ามา...
ดวงตะวันเคลื่อนคล้อย จันทราลับขอบฟ้า… ยามนี้ หนิงฝานจากเมืองหนิงมาได้ 5 เดือนแล้ว เพราะเขาเสียเวลาในแคว้นซ่งอยู่นาน
“ข้าขอโทษ...ที่ทำให้เจ้าเสียเวลา” ชู่ซวนเชียนสื่อถือขลุ่ยในมือ ยืนอยู่ด้านหลังหนิงฝาน ริมฝีปากขาวซีด
“ไม่เป็นไรหรอก… นับว่าข้าได้ประโยชน์เช่นกัน...”
หนิงฝานจับตัวปีศาจบุบผาแดงมาได้ เดิมทีหนิงฝานไม่ได้ตั้งใจจะจับตัวมัน เขาตั้งใจไปช่วยชู่ซวนเชียนสื่อ
นั่นทำให้นางหวั่นไว
หนิงฝานช่วยนางจากมือปีศาจบุบผา สร้างวงแหวนจักรวาลให้นาง
ทั้งหมดนั้นทำให้หนิงฝานต้องเสียเวลาไปหนึ่งเดือน
เวลานั้น หลังจากที่ชู่ซวนเชียนสื่อเข้าพบนิกายฝ่ายธรรมะ หนิงฝานที่ติดตามนางได้แยกตัวออกไป เมื่อถึงยามราตรี หนิงฝานมุ่งไปยังนิกายฝ่ายอธรรมทั้ง 7 แห่งแคว้นเยว่
เขาเข้าจู่โจมพวกมันเพื่อปล้น!
เขาไม่ทำลายนิกายใดที่เอ่อยปากว่าจะมอบหยกสวรรค์และแร่วิญญาณให้
วิธีการที่หนิงฝานใช้นั้นเฉียบขาดและทรงพลังเกินกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมของแคว้นเยว่จะรับมือ พวกมันจึงทำได้เพียงยอมพ่ายแพ้ ทำให้หนิงฝานได้แยกสวรรค์และแร่วิญญาณมาเป็นจำนวนมาก
หนิงฝานนำแร่วิญญาณมาสร้างเป็นสร้อยข้อมือให้ชู่ซวนเชียนสื่อ ส่วนหยกสวรรค์จะเก็บไว้ใช้ที่ทะเลไร้สิ้นสุด ยิ่งมีหยกสวรรค์มากก็ยิ่งดี
หนิงฝานปล้นหยกสวรรค์มาได้เกือบหนึ่งแสน
แต่นอกจากหยกสวรรค์และแร่วิญญาณแล้ว สิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุดคือปีศาจบุบผาแดงและเหล่าสตรีของแคว้นซ่ง!
ปีศาจบุบผาแดงเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม หากขัดเกลาผสานกับนางจะทำให้วิชาแปลงหยินหยางบรรลุขอบเขตที่ 2 แต่ด้วยหนิงฝานยังไม่บรรลุขอบเขตแก่นทองคำ จึงต้องรอไปก่อน หากไปยังทะเลไร้สิ้นสุดและทะลวงขอบเขตแก่นทองคำเมื่อไหร่ เขาจะขัดเกลาผสานกับนางทันที
ส่วนเหล่าสตรีของแคว้นซ่ง บางคนยังคงพรหมจรรย์ แต่บางคนถูกพรากพรหมจรรย์ไปด้วยฝีมือของปีศาจบุบผาแดง แต่ในเมื่อมันกลายเป็นกระถางขัดเกลาของหนิงฝานแล้ว สตรีของแคว้นซ่งเหล่านั้น หนิงฝานไม่ได้ถือสาแม้แต่น้อย
การที่หนิงฝานยื่นมือช่วยเหลือทำให้นางหวั่นไหว แต่ด้วยนิสัยของนาง ยังมีบางสิ่งที่นางไม่พอใจ
“เหตุใดเจ้าไม่สังหารปีศาจบุบผาแดง… แล้วสตรีของแคว้นซ่ง… เหตุใดเจ้าไม่นำพวกนางออกมา” นางมองหนิงฝานด้วยสายตาสงสัย
หรือหนิงฝานจะนำพวกนางเป็นกระถางขัดเกลา… ร่วมรักกับพวกนาง… ดูดซับพลัง… เพราะหนิงฝานฝึกฝนด้วยวิชาขัดเกลาผสาน
“ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้ว… เจ้าจะถามข้าทำไม?” หนิงฝานยิ้มแต่ไม่หันกลับไป
“เจ้า! เจ้าจะไม่ปล่อยพวกนางไปจริงๆเหรอ!” นางกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“ปล่อย? ปล่อยใคร? ปีศาจบุบผาแดง? จะปล่อยนางให้ไปหาขุนพลอสูรมาสังหารข้าเหรอ? หรือเจ้าหมายถึงสตรีของแคว้นซ่ง… ทำไมข้าต้องปล่อยพวกนาง?”
“เจ้าไปเพื่อช่วยเหลือ ย่อมต้องปล่อยพวกนางเป็นเรื่องธรรมดา!”
“หากปล่อยพวกนางข้าก็เป็นอันตราย… พวกนางรู้จักเจ้า หากปล่อยพวกนางไป พวกนางไปบอกสามีว่าผู้ที่ช่วยคือหนิงฝานแห่งแคว้นเยว่… หากศัตรูล่วงรู้แล้วเจ้าเป็นอย่างไร? เจ้าจะยอมยืนดูข้าตายเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น… เหตุใดเจ้าต้องพูดจาอ้อมค้อม!”
ใบหน้านางแดงระเรื่อ นางกล่าวราวกับเผยความในใจ และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะหนิงฝานกล่าวให้นางต้องกล่าว
แต่เมื่อลองขบคิด นางเป็นห่วงหนิงฝาน
หนิงฝานไม่สมควรปล่อยสตรีเหล่านั้นไป เพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะทำอย่างไร… แม้นิกายฝ่ายธรรมะของแคว้นซ่งกล่าวว่าตนเป็นฝ่ายธรรมะ แต่พวกมันก็ทำได้เพียงแค่คำพูด
ชู่ซวนเชียนสื่อไม่ใช่คนโง่
การไม่ปล่อยพวกนางไปถือเป็นเรื่องสมควร แต่หนิงฝานก็ไม่ควรดูดซับพลังพวกนาง แต่ถึงอย่างนั้น พวกนางล้วนเป็นสตรีที่มาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ระดับพลังอย่างน้อยสมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ แต่ยังมีบางคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ซึ่งเป็นประโยชน์กับหนิงฝานมาก
ส่วนเหล่าสตรีที่สูญเสียพรหมจรรย์ ร่างกายและจิตใจของพวกนางถูกปีศาจบุบผาทำลาย แม้พวกนางจะไม่ตาย แต่พวกนางก็ไม่อยากมีชีวิตต่อเช่นกัน
“เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องปล่อยพวกนาง แต่ห้ามขัดเกลาผสานกับพวกนาง!” ชู่ซวนเชียนสื่อกล่าว
“เป็นกระถางขัดเกลาย่อมคุ้มค่า แต่ช่างน่าเสียดาย” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว
“หากเจ้าขัดเกลาผสานกับพวกนาง ข้าจะ...”
“เจ้าจะทำอะไร?” หนิงฝานหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม
นางเริ่มไม่พอใจ เพราะนางข่มขู่หนิงฝานไม่สำเร็จ
นางไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนิงฝาน ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ นางเพียงอาศัยหนิงฝานไปยังทะเลไร้สิ้นสุดเท่านั้น
นางไม่อาจข่มขู่หนิงฝานได้ และยังกลายเป็นผู้ที่ถูกหนิงฝานควบคุม
นางกล่าวไม่ออก นางทำได้เพียงขบฟัน แววตาเศร้าหมอง
นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องห้ามหนิงฝานไม่ให้ขัดเกลาผสานกับสตรีเหล่านั้น
หรือเป็นเพราะนางซึมซับนิสัยฝ่ายธรรมะ จึงไม่อยากให้หนิงฝานร่วมรักกับสตรีมากมายขนาดนั้น?
นางไม่เข้าใจ...
ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่แห่งแคว้นเยว่เช่นนางทำตัวไม่ถูก หนิงฝานหัวเราะพลางส่ายหน้า
“วางใจเถอะ ข้าไม่ขัดเกลาผสานกับพวกนาง แต่ก็ปล่อยพวกนางไปไม่ได้”
ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ส่วนใหญ่พวกนางสูญเสียปราณหยินแรกเริ่ม แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญกับหนิงฝาน
แต่ท้ายที่สุดแล้ว แค่ปีศาจบุบผาแดงก็เพียงพอ!
หนิงฝานไม่อยากให้เรื่องกระถางขัดเกลาทำให้ชู่ซวนเชียนสื่อไม่สบายใจ
เพราะนางถือเป็นผู้มีพระคุณและน่านับถือของเขา
ที่สำคัญเขายังชื่อชมในตัวนางไม่น้อย
การที่หนิงฝานกล่าวว่าจะไม่ขัดเกลาผสานกับสตรีของแคว้นซ่ง ทำให้ชู่ซวนเชียนสื่อผ่อนคลาย แต่คำกล่าวต่อมาของหนิงฝานกลับทำให้นางโกรธและอับอายอย่างที่สุด
“หากข้าขัดเกลาผสานกับพวกนาง… เจ้าจะทำไร? หรือเจ้าอยากเป็นกระถางขัดเกลาให้ข้า?”
“ไม่มีทาง!”
“เช่นนั้นก็เป่าขลุ่ยให้ข้าฟัง” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว เขาเลิกหยอกล้อนาง
“ก็ได้!” นางผ่อนคลายลง เพราะนางกลัวว่าหนิงฝานจะขัดเกลาผสานกับนาง
แม้หนิงฝานจะมีร่างกายผอมบาง แต่หากเขาระเบิดพลัง เขาก็น่าสะพรึงกลัว ซึ่งนางย่อมไม่อาจขัดขืน
เรือเหาะของหนิงฝานเดินทางภายในแคว้นเชิ่งอยู่ครึ่งเดือน ในช่วงเวลานั้น หนิงฝานก็ฝึกฝนวิชา
เมื่อผ่านแคว้นเชิ่งไปแล้ว สถานที่ต่อไปคือแคว้นจิน!
หากไปถึง ก็จะสามารถใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายจากที่นั่น เพื่อมุ่งไปทะเลไร้สิ้นสุด
ยามนี้ หนิงฝานไม่อาจเสียเวลาได้อีก...