เทพราชันเก้าตะวัน ตอนที่ 0008
ตอนที่ 8 : ความภาคภูมิ
ฝูงชนเร่งร้อนถอยระยะห่างออกมาสร้างช่องว่างให้พวกเขาเพียงพอเพื่อต่อสู้
จักรพรรดินีและข้าราชบริพารเฒ่าก็หาได้ขัดขวางแต่อย่างใด พวกเขาล้วนมั่นใจในตัวฉินเทียนอี้กันทั้งสิ้น
ฉินเทียนนี้ครอบครองเส้นวิญญาณถึงสี่ อีกทั้งยังได้รับทรัพยากรสำหรับการฝึกฝนมานานหลายปี แน่นอนว่าย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าฉินหยุนในทุกด้าน
“องค์ชายสี่ ล้มในหมัดเดียวเลย!” หนึ่งในชายวัยกลางคนสวมใส่ชุดเกราะสีดำกล่าวออก เขาคือแม่ทัพหยวน บิดาของหยวนหยานหยิง ซึ่งหยวนหยานหยิงก็ขืนข้างกายเขาเช่นกัน
“อี้เอ๋อ หลังจัดการมันได้ ข้าจะมอบรางวัลเป็นเม็ดยาปราณวิญญาณยี่สิบเม็ด!” จักรพรรดินีร่วมวงเผยสายตาเย็นเยียบเป็นประกายโหดเหี้ยม นางกล่าวเช่นนี้ต่อฉินเทียนอี้เพื่อให้จัดการฉินหยุนอย่างราบคาบ
ทางด้านเหล่าข้าราชบริพารเฒ่าต่างก็คาดหวังจะได้เห็นฉินหยุนบาดเจ็บหนักและพ่ายแพ้เช่นกัน พวกเขาล้วนเผยรอยยิ้มแด่ชัยชนะนี้ล่วงหน้ากันแล้ว
ฉินเทียนอี้มีดีกว่าฉินหยุนทุกตรง ด้วยการสนับสนุนจากจักรพรรดินีและข้าราชบริพารเฒ่า เขาจึงได้รับทรัพยากรการฝึกฝนมากมายพร้อมทั้งมีพื้นฐานแน่นกว่าฉินหยุนอย่างไม่อาจประเมิน เพราะเหตุนี้ทุกคนในที่นี้จึงเชื่อใจเขาอย่างไม่มีข้อสงสัย!
“เช่นนั้นให้ข้าเป็นกรรมการในการแข่งขันครั้งนี้แล้วกัน! ในเมื่อเป็นการแข่งขันย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หากเป็นเช่นนั้นจงอย่าได้โทษอีกฝ่าย!” หยางฉีเย่ว์หาได้เข้าห้ามทัพไม่ นี่คือโอกาสที่นางจะได้พิสูจน์ถึงพื้นฐานของฉินหยุน
เมื่อนางพบว่าฉินหยุนและฉินเทียนอี้พร้อมแล้ว นางจึงโพล่งเสียงดังออกว่า “เริ่มได้!”
ถึงตอนนี้ ฉินเทียนอี้เริ่มเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ก้าวเท้านั้นมั่นคงและรวดเร็วยิ่ง นี่ประหนึ่งสายลมหอบพัดพาเข้าหาฉินหยุน
ด้วยความสามารถระดับนี้ตั้งแต่ยังเยาว์ ผู้อาวุโสหลายคนต่างลอบพยักหน้าภูมิใจ
ฉินหยุนสายตาเสมือนอินทรีย์จับจ้องฉินเทียนอี้เมื่ออีกฝ่ายพุ่งเข้าหา พร้อมกันนี้ เขาเริ่มรวบรวมพลังปราณขณะเตรียมใช้เคล็ดวิชาระเบิดปราณ!
“สมกับเป็นบุตรของจักรพรรดินี ถึงกับมีพื้นฐานหนักแน่นตั้งแต่วัยเยาว์เพียงนี้”
“ลมหายใจสงบ ก้าวเดินมั่นคง ความสงบจะนำพามาซึ่งผลลัพธ์ อนาคตเขาต้องเป็นใหญ่เป็นโตได้แน่”
“ดูเหมือนองค์ชายเทียนอี้จะเหนือกว่าฉินหยุนบุคคลไร้ยางอายทุกด้าน”
เมื่อฝูงชนพบเห็นเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวของฉินเทียนอี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวชมเชยกันออกมา
“หลังฉินหยุนพิการไป ตลอดห้าปีล้วนถูกละเลย ไม่มีใครเข้าสนับสนุนแต่อย่างใด ไม่นานมานี้ได้ยินว่าทะลวงขอบเขตมาได้เพราะเม็ดยาช่วยเหลือ เช่นนั้นคงไม่มีเคล็ดวิชายุทธ์ใด ความพ่ายแพ้นี้ไม่ต้องสงสัยแล้ว”
“ท่านพ่อ พี่เทียนอี้นั้นแข็งแกร่ง แข็งแกร่งยิ่งกว่าข้าด้วยซ้ำ” หยวนหยานหยิงหัวเราะคิกคัก ดวงตาของนางตอนนี้เปี่ยมด้วยความนับถือหมดใจ
“แน่นอน การตัดสินใจของพ่อดีเสมอมา ย่อมไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดที่พ่อให้ลูกแต่งงานกับเขา!” แม่ทัพหยวนกล่าวยกยอทั้งรอยยิ้ม “วันนี้ฉินหยุนคงไม่มีชีวิตรอดแล้ว”
ฉินหยุนย่อมได้ยินคำกล่าวของแม่ทัพหยวน หยวนหยานหยิงเคยได้รับการรักษาโดยอดีตมหาอุปราช แต่เพื่อเอาอกเอาใจต่อจักรพรรดินี ทั้งบิดาและธิดาถึงกับลืมเลือนความช่วยเหลือครั้งนั้นจนหมดสิ้น!
เมื่อฉินเทียนอี้พุ่งเข้าหาฉินหยุน อีกทั้งยังได้ยินคำกล่าวชมไม่ขาดปากจากฝูงชน มันก็อดไม่ได้ที่เขาจะหย่อนความระวังเพราะความได้ใจ เมื่อเห็นว่าฉินหยุนเพียงแต่ยืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ เขายิ่งรู้สึกเดียดฉันท์มากขึ้น
ทางด้านฉินหยุน พลังปราณที่รวบรวมมาชั่วระยะเวลาหนึ่งเปี่ยมแน่นในแขน พลังปราณของขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่สี่นั้นแข็งแกร่งและหนาหนักกว่าครั้งก่อนที่ต่อสู้กับอีกฝ่าย เพียงแค่พลังนี้ก็เพียงพอให้หมัดของเขาสั่นเล็กน้อยขณะรอปล่อยออก
ตึก ตึก ตึก!
เสียงฝีเท้าฉินเทียนอี้รุกคืบเข้าหา และขณะที่ใกล้ถึงตัวฉินหยุนนั้นเอง ความเร็วกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็น เขาปรากฏต่อหน้าฉินหยุนแทบในพริบตา!
ครืน!
พลังปราณของฉินเทียนอี้ทะลักออกจากหมัดพร้อมเสียง “ฟุ่บ” ดังขึ้นพร้อมพุ่งเข้าปะทะใบหน้าของฉินหยุน
ด้วยการโจมตีไหลลื่นนี้เพียงพอให้ทุกผู้คนอุทานด้วยความชื่นชม ในทางตรงกันข้าม ฉินหยุนหาได้ขยับแต่อย่างใดไม่ สิ่งนี้ยิ่งทำให้ผู้คนมองเขาอ่อนแอยิ่งขึ้น
ตุบ!
ใบหน้าของฉินหยุนรับแรงปะทะรุนแรง ศีรษะเอียงไปด้านหนึ่ง เลือดนั้นกำลังหลั่งออกจากมุมริมฝีปาก
เขาไม่ได้คิดขยับเพื่อหลบ เขาเพียงใช้ใบหน้ารับหมัดหนาหนักของฉินเทียนอี้!
“องค์ชายเทียนอี้เร็วมาก ฉินหยุนไม่มีจังหวะให้หลบ อ่อนแอเกินไปแล้ว!” คนผู้หนึ่งร้องอุทานขึ้น
เมื่อเห็นว่าโจมตีได้สำเร็จ ฉินเทียนอี้ลอบยินดี เขามองที่หยวนหยานหยิงทั้งรอยยิ้มภูมิอกภูมิใจ...
และชั่วขณะนี้เอง ร่างของฉินหยุนกระตุกขณะกระดูกส่งเสียงลั่นกร๊อบ พลังปราณที่เขารวบรวมเป็นเวลานานกำลังทะลักไปที่หมัด มันกำลังเกิดขึ้นเป็นแรงระเบิดที่รุนแรงขุมหนึ่ง!
ขณะที่ฉินเทียนอี้ตระหนักว่าต้องตอบสนอง ก็สายเกินไปแล้ว!
หมัดของฉินหยุนหวดออกประหนึ่งสายฟ้าฟาดพร้อมพลังปราณที่สร้างคลื่นลมหอบหนึ่ง หมัดที่รวดเร็วราวสายฟ้ารุนแรงนี้ปะทะกับหน้าท้องของฉินเทียนอี้ดังกึกก้อง
ฉินเทียนอี้เมื่อโดนโจมตีเข้าจึงต้องร้องออกอย่างน่าสังเวช เลือดกระอักออกมากองหนึ่งเต็มปาก เข่าคุกลงกับพื้น มือนั้นทำได้เพียงแต่กุมท้องเอาไว้!
ทันทีหลังจากนั้น ขาของฉินหยุนหวดเข้าใส่ประหนึ่งสายลมฟาดฟัน สิ่งนี้คือลูกเตะที่ตัดผ่านอากาศเสยเข้าที่คางของฉินเทียนอี้อย่างไม่ปราณี!
“อ๊าก!” ฉินเทียนอี้กรีดร้องเจ็บปวดขณะล้มกลิ้งกับพื้นก่อนหมดสิ้นสติไป
ฉินหยุน... ชนะ!
บุคคลที่กล่าวชมฉินเทียนอี้เมื่อครู่กลับกลายเป็นนิ่งแข็งค้าง พวกเขาไม่อาจเชื่อได้ว่าเมื่อครู่เพิ่งเกิดเรื่องราวอันใดขึ้น!
ไม่มีใครคาดคิดว่าฉินหยุนจะยืนหยัดต่อหมัดของฉินเทียนอี้ก่อนจะหาโอกาสสวนกลับการโจมตีรุนแรงเช่นนี้ออกมาได้!
หลังต่อยฉินหยุนได้ ฉินเทียนอี้ลำพองใจ เขาเชื่อว่าฉินหยุนไม่มีพลังเพียงพอต่อสู้กลับ แต่แล้ว ฉินหยุนกลับไม่เพียงสู้กลับ แต่พลังที่โจมตีออกนี้แข็งแกร่งถึงกับน่าอัศจรรย์!
ฝูงชนรอบด้านเงียบงัน ศิษย์วัยเยาว์ของสำนักที่มีชื่อเสียงต่างมองความตายของฉินเทียนอี้อย่างหวาดกลัวเปี่ยมล้นในหัวใจ พวกเขาเองก็อยู่ขอบเขตกายวรยุทธ์ระดับที่สี่ แต่พละกำลังของพวกเขาหาได้น่าหวาดกลัวเช่นนี้ไม่!
มีเพียงข้าราชบริพารเฒ่าหลายคนเร่งรีบเข้ามาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉินเทียนอี้ โดยทันที ใบหน้าของพวกเขาถึงกับซีดเผือด
“พลังธาตุกำลังสลาย เส้นวิญญาณได้รับความเสียหายไม่น้อย!” ข้าราชบริพารเฒ่าตวัดสายตาหันมองฉินหยุนอย่างโกรธแค้น
“ดีไปเลยนี่!” แม้ปากของฉินหยุนเต็มไปด้วยเลือด แต่เขายังสามารถหัวเราะออกราวคนคลั่ง
ด้วยสถานะบุตรแห่งจักรวรรดิเทียนฉิน สถานะของเขาทรงเกียรติ แต่แล้วกลับต้องพิการเช่นนี้! นอกจากนี้ผู้ที่ทำให้พิการยังเป็นฉินหยุน เรื่องนี้เกินกว่าจะเชื่อได้!
หยวนหยานหยิงเผยดวงตางดงามเบิกออกกว้างขณะยืนมองราววิญญาณหลุดออกจากร่าง ทว่า ร่างงดงามนั้นก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้มไม่น้อย ฉินเทียนอี้ที่เพิ่งออกปากกล่าวชมเมื่อครู่ว่ามีโอกาสชนะสูงยิ่ง ตอนนี้กลับมีสถานะคือพิกลพิการ!
นางหันมองฉินหยุน ผู้ซึ่งเป็นเป้าสายตาของผู้คนเวลานี้ สีหน้าของนางซับซ้อนเกินจะกล่าว นางกัดริมฝีปาก บุคคลที่นางมองต่ำเช่นนี้ถึงกับทรงพลังเกินจะเชื่อได้!
หยางฉีเย่ว์ขมวดคิ้ว พละกำลังของฉินหยุนทำนางตกใจเช่นกัน แต่ชั่วขณะนี้เอง นางก็ตัดสินใจแล้วว่าฉินหยุนต้องเป็นนักเรียนของนาง
“ฉินหยุน... นี่เป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยนฝีมือชี้แนะทั่วไป แต่แล้วเจ้ากลับไร้ปราณี เจ้าเจตนาทำให้องค์ชายผู้ซึ่งมีศักยภาพสูงผู้หนึ่งต้องบาดเจ็บรุนแรง รีบจับตัวคนร้ายผู้นี้มาลงทัณฑ์โดยเร็ว!” จักรพรรดินีโพล่งโทสะออก น้ำเสียงของนางสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
“เห็นเอาแต่บอกข้าเป็นขยะ แต่ข้าก็ชนะมันได้ มันไม่คู่ควรกับข้าแม้แต่น้อย แล้วเรื่องศักยภาพในอนาคตอะไรของมันนั่นคาดหวังได้หรือ? หากข้าปล่อยมันใช้ชีวิตเช่นสุนัขแบบนั้นต่อไป ไม่เป็นเจ้าหรือที่ต้องเสื่อมเสียเกียรติกระทั่งเสียหน้า!” ฉินหยุนใช้ฉินเทียนอี้กล่าวโจมตีจักรพรรดินีอย่างไม่ไว้หน้า
“ฉินหยุน รับความตายเสีย!”
ข้าราชบริพารเฒ่าคนหนึ่งในชุดสีแดงซึ่งอยู่ด้านหลังจักรพรรดินีมาตลอดพลันโพล่งคำกล่าวพร้อมปล่อยคลื่นพลังปราณหนาแน่นจนแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นกระแทกและพุ่งเข้าหาฉินหยุน!
ตึง!
คลื่นกระแทกนี้ระเบิดที่ร่างของฉินหยุน เป็นผลให้เขาต้องถอยกลับไปหลายก้าว เลือดยิ่งกระอักออกจากปากมากขึ้นกว่าเก่า
ข้าราชบริพารเฒ่าในชุดสีแดงวิ่งเข้าหาฉินหยุนตรงหน้าและเตรียมโบกฝ่ามือ แต่ขณะที่กำลังจะปะทะนั้นเอง เขาได้เห็นหยางฉีเย่ว์โผล่พรวดในพริบตาขวางตรงหน้าฉินหยุนเอาไว้!
“เขาคือนักเรียนของข้า หากต้องการสังหารเขา เช่นนั้นก็ผ่านข้าไปก่อน!” น้ำเสียงนี้ของหยางฉีเย่ว์เย็นเยียบและเปี่ยมด้วยเจตนาสังหาร นางปลดปล่อยพลังปราณไร้ลักษณ์ออกมาขวางฝ่ามือของข้าราชบริพารชุดแดงที่กำลังจะปะทะเอาไว้
หยางฉีเย่ว์และข้าราชบริพารเฒ่าในชุดสีแดงตอนนี้กำลังโคจรพลังภายในเพื่อต่อสู้กันในอากาศ!
หลังฉินหยุนได้รับบาดเจ็บเพราะคลื่นกระแทก เขาเริ่มรวบรวมพลังพลังปราณสะสมไว้เตรียมปล่อยการระเบิดออก เขาต้องการตอบโต้การโจมตีนี้ที่ได้รับ!