บทที่ 182 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (8) [27-07-2019]
บทที่ 182 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (8)”
เมื่อมองไปที่แม่เขาที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามแล้ว ยูอิลฮานก็กำลังจะพูดอะไรออกไปแต่แล้วก็ส่ายหัวออกมา
"มีอะไรหรอลูก?"
"ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร"
ในจุดนี้เขาก็มั่นใจแล้วว่าแม่เขาคิมเยซอลก็ได้มีประสบการณ์ที่คล้ายๆกันกับตัวยูอิลฮานเองกับยูมิล ไม่เช่นนั้นไม่ว่าเธอจะอัจฉริยะมากแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่เธอจะเป็นแบบนี้ได้
แม้ว่าคิมเยซอลจะไม่พููดอะไร แต่ในสายตาของยูอิลฮานดูเหมือนว่าเธอจะเคยไปถึงคลาส 4 มาก่อน หรือก็คือเธออยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเขา
แม้แต่ยูอิลฮานก็ยังยอมรับไม่ค่อยจะได้เลยว่าจะมีคนอื่นนอกจากเขาอีกที่พยายามอย่างหนักทรมานเท่ากับเขา ที่เขาทำแบบทุกวันนี้ได้ก็เพราะว่าตัวเขามีพื้นฐานมาจากการฝึกเป็นพันๆปี
ไม่มีทางที่แค่คำว่าพรสวรรค์จะพาเธอมาถึงจุดนี้ได้แน่ ยังไงก็ตามเธอก็ไม่ได้บอกเหตุผลอะไร บางทีมันก็อาจจะคล้ายกันกับที่ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่องที่ว่าเขาถูกทิ้งไว้คนเดียวพันปีก็ได้
แน่นอนว่าเหตุผลนั้นต้องไม่ใช่แค่เรื่องง่ายๆธรรมดาแน่ ยูอิลฮานได้คิดมาถึงจุดนี้เขาก็รู้แล้วว่าเขาไม่มีสิทธิที่จะถามออกไป
"แล้วแม่มีเรื่องอะไรจะบอกผมหรอครับ?"
"เป็นวงเวทย์น่ะ"
คิมเยซอลได้เปิดช่องว่างมิติเก็บของขึ้นมาเหมือนกับในตอนที่เธอแสดงให้คังมิเรย์กับนายูนาดู
ยูอิลฮานเป็นห่วงว่าทูตสวรรค์อาจจะบ้าไปเพราะฉากตรงหน้านี้ แต่ว่าเขากังวลมากเกินไป จากจุดนี้ที่พวกเขาได้ข้ามมิติกลับมาที่คฤหาสน์ด้วยสกิลกระโดดขั้นสูงแล้ว ความสามารถในการทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานของพวกเธอได้เปลื่ยนไปแล้ว
[ผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไรอยู่?] (เลียร่า)
[เมื่อคิดถึงวิธีที่เรากลับมาที่นี่ดูแล้ว เรื่องนี้ฉันยอมรับได้ง่ายๆเลยล่ะ] (เอิลต้า)
[เธอแกร่งขึ้นแล้วเอิลต้า] (เลียร่า)
[แสดงว่าเธอคนนี้ซ่อนความสามารถเอาไว้สินะ มีความสามารถจริงๆ] (สเปียร่า)
เมื่อได้ยินแบบนี้เขาได้แต่ขำออกมา แต่ว่าวงเวทย์ที่ออกมาจากช่องว่างมิติของคิมเยซอลก็ได้ดึงความสนใจของเขาไปอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันหมดพลังไปแล้วแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารลางๆ
"นี้มันคือ....?"
"เรื่องมันยาวน่ะ...."
คิมเยซอลได้บอกถึงทุกๆอย่างนับตั้งแต่ที่เธอได้เจอเข้ากับวงเวทย์นี่บนโลกที่เธอได้ไปและเธอได้บอกถึงวิธีการคุยร่วมมือกันกับคังมิเรย์และนายูนา รวมไปถึงวิธีที่พวกเธอได้ไปเจอวงเวทย์ในโลกอื่นๆและในสุดท้ายก็คือการที่พวกเธอได้ไปเจอคนที่ร่วมมือกับพวกเทวดาตกสวรรค์และจัดการทำลายคนพวกนั้นด้วย
"ยิ่งจำนวนโลกที่เชื่อมต่อกับโลกของเราเพิ่มขึ้นก็จะยิ่งวุ่นวายเพิ่มขึ้นจากการที่จำนวนคนของเทวดาตกสวรรค์ที่เจอเพิ่มขึ้นตามมา"
"นอกไปจากนี้เมื่อคิดดูจากรูปแบบของความสามารถในการป้องกันแล้วก็น้ำหนักของเหตุการณ์ดูแล้ว พวกเราจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไม่ได้แน่"
"ไม่ใช่ว่าขอให้คนมาช่วยไม่ได้ไปเลยหรอกนะ... แต่ว่าทุกๆคนยุ่งมาก~"
ในเวลาสองปีนี้เลเวลของผู้คนบนโลกโดยเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้น 20 ต่อคน นี่คือมีคนมากกว่า70% ที่ไม่อยากจะสู้รวมไปด้วยนะ ดังนั้นตัวเลขนี้มันบ้ามากๆ
"แต่ถึงแบบนั้นพวกเธอทั้งสี่คนไปมาแล้วกี่โลกกันล่ะ? ตลอดสองปีมานี้การทำลายวงเวทย์พวกเธอรู้ใช่ไหมว่าทำอะไรลงไป?"
"แน่นอนว่าวงเวทย์นี่ต้องเป็นการร่วมมือกันของกองทัพจรัสแสงกับกองทัพปีศาจแห่งการทำลายแน่ นอกไปจากนี้ไม่ใช่ว่านายก็เป็นคนบอกเองหรอว่าทูตสวรรค์ไว้ใจไม่ได้น่ะ? รวมไปถึงคนที่อยู่กับยูนาด้วยไง... และเพราะแบบนี้ฉันก็เลยไม่กล้าจะเอาข้อมูลนี้ไปบอกกับกองทัพสวรรค์"
[อ๊า ตรงนี้อีกแล้ว ฉันชักจะสงสัยแล้วว่ากองทัพจรัสแสงได้วางแผนจะสร้างรอยร้าวขึ้นระหว่างมนุษย์กับทูตสวรรค์แล้วนะ] (เลียร่า)
ในระหว่างเลียร่าถอนหายใจออกมา ยูอิลฮานก็ได้คิดว่าเขาจะต้องบอกให้คังมิเรย์ที่เข้าใจคำพูดเขาผิดไปเข้าใจ
"เหตุผลที่ฉันบอกว่าไม่ให้เชื่อใจทูตสวรรค์ก็เพราะว่าถึงเธอจะเชื่อใจไปพวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ต่างหาก ไม่ใช่เพราะว่าฉันกลัวว่าจะเจอคนทรยศในหมู่ทูตสวรรค์อีก"
[นายมาเจอกับฉันบนดาดฟ้าหน่อยสิ!] (เลียร่า)
"...แล้วก็นะถึงเราจะไม่ตั้งใจแต่เราก็ได้พัฒนาขึ้นมามากจากการไปหลายๆโลกเพื่ทำลายวงเวทย์ในเวลาสองปีนี้นะ"
แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาไม่ได้สังเกตุเห็นเลยเนื่องจากเขามัวแต่ตกใจกับตัวแม่ของเขาอยู่ ตอนนี้คังมิเรย์กับนายูนามีเลเวลสูงขึ้นมากแล้ว น่าจะ 150 กว่าๆเกือบจะ 160 ไปแล้ว แน่นอนว่ายูมิลก็อยู่ในระดับที่สูงเช่นกัน
"อิลฮาน ลูกรู้จักกับทูตสวรรค์เป็นการส่วนตัวไหม?"
"ครับ ผมพอจะรู้จักอยู่ ตอนนี้ที่นี่ก็มีอยู่สามคนด้วย"
ยูอิลฮานได้จับเลียร่าที่เกาะเขาอยู่เบาๆและยื่นส่งเธอไปทางแม่ของเขา ไม่ว่ายังไงมนุษย์ธรรมดาก็จะไม่มีทางมองเห็นทูตสวรรค์เลย เว้นแต่ว่าทูตสวรรค์จะตั้งใจแสดงตัวตนออกมา
สเปียร่ากับเอิลต้าก็ยังไม่ได้แสดงตัวเองออกมาให้คนอื่นๆเห็นตามปกติ แต่ว่าพวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะแสดงตัวออกมาเพราะความอายที่เลียร่าจะไปแสดงอะไรแปลกๆให้คนอื่นเห็น
"โอ้พระเจ้า"
คิมเยซอลไม่ได้ต่างไปจากแม่บ้านตามปกติเลยหากว่าเว้นเรื่องเธอใช้เวทย์ได้เป็นอย่างดีเอาไว้ ดังนั้นเธอก็เลยตกใจมากๆที่อยู่ๆก็เห็นทูตสวรรค์สามคนแสดงตัวออกมา
ยังไงก็ตามสิ่งที่เธอสนใจไม่ใช่ทั้งการที่จู่ทูตสวรรค์ปรากฏตัวออกมา ไม่ใช่วงแหวนบนหัวพวกเธอ แล้วก็ไม่ใช่ปีกบนหลังพวกเธอ
[สวัสดี? ฉันขอขอบคุณเธอนะที่เลี้ยงอิลฮานของฉันมาเป็นคนที่สุดยอดแบบนี้] (เลียร่า)
สิ่งที่เธอสนใจจริงๆก็คือความสวยงามของทั้งสามคนที่เหนือไปกว่าขอบเขตของมนุษย์ ความใกล้ชิดกับยูอิลฮาน แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นสาวสวยคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนยูอิลฮาน
"หัวใจฉันเกือบจะตัดสินไปแล้วนะ แต่แล้วจู่ๆก็มีตัวแปรที่น่าดึงดูดเข้ามาแล้ว!"
"แม่ อย่าพูดอะไรแปลกๆสิ แล้วก็ให้ผมดูวงเวทย์ได้แล้ว"
อย่างแรกยูอิลฮานได้ปล่อยเลียร่าไปและเข้าไปดูวงเวทย์ แต่ว่าจริงๆแล้วความเชี่ยวชาญของเขาคือการปรับใช้ภาษาเวทย์มาสลักในวิศวกรรมเวทย์ไม่ใช่การใช้ตัวเวทย์เอง ดังนั้นการตีความของเขาจึงไม่ได้แม่นยำมาก ไม่ว่าเขาจะมองยังไงมันก็ไม่ได้มีความหมายในตัววงเวทย์เองมากนัก ถ้าวงเวทย์นี้สมบูรณ์จะทำให้เกิดอะไรขึ้น? อย่างแรกเลยเขาได้เรียกทูตสวรรค์ที่มีพรสวรรค์ในด้านเวทย์ที่สุดมาก่อน
"เอิลต้า เธอเข้าใจวงเวทย์นี่ป่ะ?"
[ฉันก็ดูอยู่ข้างๆนายเนี้ย... แต่ว่าจริงๆแล้วมันมีการใช้ภาษาสวรรค์บางส่วนจริงๆด้วย แต่นอกจากนี้ฉันก็ไม่รู้อีกแล้ว มันบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงเลยล่ะ แต่สิ่งที่ฉันเข้าใจได้เลยก็คือวงเวทย์นี่ได้ทำการซ่่อนเร้นเอาไว้มากถึงมากที่สุด ไปจนถึงจุดที่มันส่งผลต่อพวกเราทูตสวรรค์มากกว่ามนุษย์ซะอีก] (เอิลต้า)
เมื่อถึงจุดนี้เธอก็ไม่อาจจะเข้าใจในเจตนาการสร้างวงเวทย์ได้แล้ว ทูตสวรรค์นี่ไร้ประโยชน์จริงๆเลย
"ลืมไปเถอะ พวกเราไม่รู้หรอก ถ้างั้นเราก็ได้แต่ต้องทำลายมันให้หมด นับจากนี้ให้ฉันจัดการเอง"
"นายไหวนะอิลฮาน"
"แน่นอน"
ยูอิลฮานรู้ดีว่าคังมิเรย์กังวลเรื่องอะไร และเพราะแบบนี้เขาต้องตอบกลับไปอย่างมั่นใจ
"ฉันไม่เป็นไร"
พักสักหน่อยหรอ? ปรับแต่งพื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้างั้นหรอ? ถึงแม้ว่าเขาจะต้องทำเรื่องใหญ่ๆแบบนี้ก็ตาม แต่ยูอิลฮานก็ทำให้มันเสร็จได้ในวินาทีเดียวบนโลกเท่านั้นเอง
ใช่แล้ว นั่นก็เพราะว่าเขามีนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาอยู่ยังไงล่ะ
เขาได้ใช้นาฬิกาทรายแห่งกาลเวลามาซ้ำๆหลายต่อหลายครั้งมาหลายปีแล้วและในระหว่างทำแบบนี้เขาทั้งเลเวลเพิ่มขึ้นและมีความสำเร็จติดมามากมาย จนในที่สุดความรู้ในเรื่องวิศวกรรมเวทย์ของเขาก็ยิ่งสูงขึ้น ในตอนนี้เขาสามารถจะใช้นาฬิกาทรายแห่งการเวลาได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีกแล้ว
แม้ว่ามันจะทำให้ระยะเวลาดีเรย์ลดลงเล็กน้อยก็ตาม แต่ขณะเดียวกันระยะเวลาคงอยู่ของบาเรียก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน และสุดท้ายคือพื้นที่บาเรียก็เพิ่มขึ้นมากด้วย! ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้มากที่เขาจะครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณด้วยบาเรียได้
[นายก็แค่ใช้อุปกรณ์โกงๆทำอะไรโกงๆ] (เลียร่า)
"เงียบน่า"
เขาได้ดันทูตสวรรค์ออกไปและยืนขึ้นมา เขาได้คิดว่าเขาจะแก้ปัญหาตรงหน้าก่อนเลยหรือว่าจะเปิดใช้นาฬิกาทรายดี แต่เมื่อคิดได้แบบนี้เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเปิดใช้งานมันได้อีกครั้งเลยนี่
"ฉันหวังว่าคราวนี้พวกนั้นมันจะมีเหตุผลดีๆนะ เหตุผลที่เอาแต่ทำเรื่องบ้าๆให้ฉันรำคาญอยู่ตลอด"
[มันไม่ใช่แค่นายนะแต่พวกกองทัพจรัสแสงกับกองทัพปีศาจแห่งการทำลายน่กำลังพยายามสร้างความน่ารำคาญให้กับโลกนี้] (เอิลต้า)
"แน่นอนว่าเหตุผลนั่นแหละ แต่ฉันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพวกมันทำไปเพื่อ!"
การที่มอนสเตอร์โจมตีผู้คนมันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพวกคนที่มีสติปัญญาพวกนี้แล้วก็เป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสูงด้วยทำไมถึงต้องมากลั่นแกล้งโลกใบเล็กๆที่น่าสงสารกัน
ยังไงก็ตามเลียร่าได้ตอบกลับมาทันที
[หือ? เป้าหมายตอนนี้ก็ชัดมากๆแล้วนะ] (เลียร่า)
ยูอิลฮานได้ถามต่อออกมาทันที
"ถ้าเป้าหมายของพวกนั้นชัดมากเธอก็ควรจะบอกออกมานะ!"
[เป็นโลกนี่ไงล่ะ พวกนั้นเล็งโลกนี้เอาไว้อยู่] (เลียร่า)
"ทำไมกันล่ะ ที่นี่มีสมบัติหรืออะไรแบบนี้ซ่อนอยู่หรือไงกัน?"
[อีกไม่นานที่นี่จะพัฒนาไปเป็นหีบสมบัติแน่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็อีกไม่นานแน่] (เลียร่า)
เธอได้สูดหายใจลึกก่อนจะพูดออกมา
[โลกนี้จะกำเนิดใหม่กลายเป็นโลกขั้นสูง สำหรับพวกเราสิ่งมีชีวิตขั้นสูงแล้ว โลกขั้นสูงน่ะเป็นแหล่งทรัพยากรที่ประเมินค่าไม่ได้ ฉันมั่นใจเลยว่าพวกนั้นเล็งเป้ามาที่โลกเพราะเหตุนี้แน่] (เลียร่า)
[พวกมันน่าจะพอเดาได้ว่าโลกจะกลายเป็นแบบนี้ พวกเราก็แค่เพิ่งจะมารู้ตัวเอาตอนนี้เท่านั้นเอง] (เอิลต้า)
"เหตุผลนี่มันน่ารำคาญกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก!?"
ยังไงก็ตามในเวลาเดียวกันนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขารับได้ ทำไมมนุษย์ถึงได้มีสงครามกันมาตลอดในประวัติศาสตร์กันล่ะ? นั่นก็เพราะการแย่งชิงพื้นที่ทรัพยากรแบบเดียวกันนี้ไงล่ะ
[เมื่อที่นี่เป็นโลกขั้นสูงแล้วความน่ารำคาญที่แท้จริงจะเกิดขึ้นแน่ พวกมันจะบุกเข้ามาที่นี่ได้ตามต้องการใช้พลังพลังได้เนื่องจากข้อจำกัดไม่ได้มีอีกต่อไปแล้ว และเมื่อไหร่ที่เป็นแบบนั้น พวกมันก็จะจัดการกวาดล้างมนุษย์ทั้งหมดออกไปและทำการยึดที่นี่] (เลียร่า)
[และนี่ก็คือเหตุผลที่กองทัพสวรรค์ถึงได้ต้องมีตัวตนอยู่] (เอิลต้า)
ในตอนที่โลกได้ไปเป็นโลกระดับสูงกองทัพสวรรค์ก็จะลงมาต่อสู้กับกองทัพปีศาจแห่งการทำลายและกองทัพจรัสแสงเพื่อปกป้องที่นี่ เลือดปริมาณมหาศาลจะต้องหลั่งไหล่ออกมาแต่พวกเธอจะไม่มีวันถอย นี่คือเส้นทางที่พวกเธอได้เลือกแล้ว!
เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เอาจริงเอาจังนี้ ยูอิลฮานได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ
"ฉันยินดีเอามากๆเลยนะที่ในที่สุดพวกเธอก็ทำงานกันได้แล้ว แต่ว่าไม่ใช่ว่าโลกนี้ก็กำลังจะวุ่นวายขึ้นจากสงครามสามทัพหรอกหรอ?"
[บางทีอาจไม่ใช่สงครามสามทัพด้วย สวนอาทิตย์อัสดงก็อาจจะแทรกแซงด้วยเหมือนกัน นี่นับได้ว่าโลกจะเกิดการเปลื่ยนแปลงไปตลอดกาล] (สเปียร่า)
[แต่ว่าไม่ใช่ว่านี่เป็นโชคดีแล้วหรอที่นายยังไปหาที่หลบภัยที่โลกอื่นได้อยู่น่ะ?] (เลียร่า)
"เธอเอาจริง..."
ยูอิลฮานได้คิดถึงข้อเสนอนี้ของพวกเธออยู่เลย แต่คังมิเรย์ก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆแล้ว
"พวกเธอพูดถูก พวกเราจะต้องทำแบบนี้เพื่อลดการสูญเสีย"
"เหตุผลมันเป็นแบบนี้สิน้า~"
[ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นมากหรอกนะ ในมุมมองของเราแล้วมันจะเร็วมากๆแน่ แต่ว่าถ้าในมุมมองของพวกเธอมันน่าจะเป็นเรื่องราวในอนาคตอีกยาวนาน] (เลียร่า)
"ต้องรอให้มันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในอีกวันสองวันพวกเธอถึงจะจริงจังกันจริงๆงั้นหรอ? ฉันไม่เชื่อคำพูดที่ว่า 'ไม่ต้องกังวล' ของพวกเธอเลยจริงๆ"
นับตั้งแต่ที่เขาถูกทิ้งเอาไว้บนโลกอยู่พันปีตัวเขาก็ไม่เคยจะเชื่อคำอย่าง 'เดาว่า' 'เวลา' 'สัญญา' หรืออะไรก็ตามที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตแล้ว แม้แต่เทพเจ้ายังทำพลาดเลย แล้วคนอื่นๆจะไม่พลาดกันหรอ?
ตอนนี้เขาจะให้คุณค่าแค่กับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นเดี๋ยวนีเท่านั้น อย่างน้อยที่สุดหากเขาทำแบบนี้เขาก็จะไม่เดือดร้อน
'ปัญหาก็คือชีวิตก็จะเหนื่อยมาก เหมือนฉันในตอนนี้'
เขาได้บ่นออกมาพร้อมเตรียมตัวจะออกไปแล้ว 'เตรียมตัว' ของเขากมีแค่การเปลื่ยนไปใส่เพราะเท่านั้นเอง นายูนาอดไม่ได้ที่จะหันไปจ้องเขาแต่ว่าเธอก็ต้องผิดหวัง ยิ่งกว่านั่นยูอิลฮานก็ไม่ใส่ใจด้วย
"ถ้างั้นก็ไปกันเลยเถอะ อย่างแรกเลยเช็คก่อนว่ามีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกไหม... จริงๆแล้วไม่มีทูตสวรรค์ที่ฉันไว้ใจได้สินะ?"
[มหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 กำลังจะมาถึงแล้ว เพิ่งจะมีการประกาศลงมาอย่างเป็นทางการว่าทูตสวรรค์ทั้งหมดจะลงมาที่นี่ จากนั้นพวกทรยศก็จะไม่อาจจะทำอะไรน่าสงสัยได้เลย แถมมันยังมีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ทูตสวรรค์ทั้งสามคนที่มีหน้าที่บนโลกก็จะต้องรับหน้าที่พวกนี้ด้วย] (เลียร่า)
แน่นอนว่านี่มันเห็นได้เลยว่าปฏิบัติการครั้งนี้ของสวรรค์วุ่นวายมากแค่ไหน ดูได้จากทูตสวรรค์ทั้งสามคนที่ทำสัญญากับยูอิลฮาน ยังไงก็ตามในตอนนี้เอง
[อ่า เลียร่า? น่าเสียดายนะ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้แล้วนะ] (เอิลต้า)
[ทำไมล่ะ?] (เลียร่า)
เอิลต้าได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กๆ ยินดี และรู้สึกลำบากใจเล็กๆด้วย
[...ฉันกำลังจะได้เลื่อนขั้นแล้ว] (เอิลต้า)