บทที่ 180 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (6) [21-07-2019]
บทที่ 180 - ทุกๆคนคือผู้พิทักษ์ (6)
เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเขาจะสามารถออกไปจากดันเจี้ยนนี้ได้โดยสกิลกระโดดที่วิวัฒนาการเป็นขั้นสูงได้ ในตอนแรกเขาก็พอจะเดาได้ในตอนที่ฉายา 'กบที่กระโดดข้ามกำแพง' ที่โผล่มาในระหว่างการวิวัฒนาการสกิล...
เอาเถอะ ไม่ว่าจะยังไงตอนนี้เขาก็ลับบ้านได้แล้ว แต่ว่ายูอิลฮานไม่อาจจะลบความรู้สึกในใจของเขาที่เขาได้ทิ้งอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ได้
"ถึงแม้ว่ามันเป็นเรื่องดีที่ทุกๆอย่างถูกแก้ไขแล้ว แต่ความรู้สึกที่ไม่น่าพอใจนี่มัน..."
[นั่นก็เพราะว่าเป็นพวกโรคจิตที่จะไม่สงบจนกว่าจะได้ฆ่าบอสในดันเจี้ยนที่เข้าไปไงล่ะ แต่ว่าฉันก็ชอบที่นายเป็นแบบนี้] (เลียร่า)
"ฉันก็ชอบตัวฉันที่เป็นแบบนั้นนะ... แล้วก็ใช่ ฉันชอบเธอเหมือนกัน"
[เอะเฮะเฮะ] (เลียร่า)
เลียร่าได้คิดไว้แล้วว่าเธอจะได้รับอภัยหากเธอเติมคำว่า 'ฉันชอบนาย' ไปในท้ายประโยค... แล้วมันก็เป็นจริง ยูอิลฮานได้ลูบผมของเธอแล้วตรวจสอบสกิลที่เขาเพิ่งจะได้รับมา
"เงื่อนไขในการใช้สกิลนี้มันน่ารำคาญแหะ... มันเหมือนกับว่าฉันจะไปได้ทุกๆที่ที่ฉันเคยไปมา แต่ว่าฉันต้องเข้าใจพื้นที่นั้นอย่างละเอียดด้วยนี่สิ 'เข้าใจอย่างละเอียด' นี่คือยังไงกัน?"
[เวทย์เคลื่อนย้ายตามปกติแล้วน่ารำคาญกว่านี้อีกมากนะ ยังไงก็ตามนายได้สกิลข้ามมิติมาแล้วเงื่อนไขการใช้งานสกิลที่นายพูดมามันก็เหมือนกับว่านายวาดภาพง่ายๆในขณะที่คนอื่นๆต้องเขียนสูตรคณิตศาสตร์เป็นเล่มน่ะแหละ] (เอิลต้า)
เมื่อคิดย้อนไปแล้ว เอิลต้าได้บอกว่าเธอได้เรียนรู้เวทย์เคลื่อนย้ายมา ในตอนนั้นเขามีเรื่องวุ่นวายจนลืมเรื่องนั้นไปเลย
ถ้างั้นทำไมเธอไม่ใช้มันล่ะ...? เมื่อเขาใช้สายตาแบบนี้มองไปที่เธอ เอิลต้าก็หันหน้าหนีและพูดออกมาอย่างหมดแรง
[ฉันทำได้แค่เคลื่อนย้ายระหว่างโลกเท่านั้นแหละ นี่แหละคือสิ่งที่สิ่งมีชีวิตขั้นสูงตามปกติเป็น!] (เอิลต้า)
"อ่อ"
เอิลต้าเป็นคนที่ภูมิใจในฐานะของสิ่งมีชีวิตขั้นสูงที่เชี่ยวชาญในเวทมนตร์ ดังนั้นยูอิลฮานเลยตัดสินใจจะไม่ไปแตะเรื่องนี้อีก
[แล้ว นายจะต้องวาดวงเวทย์หรืออะไรไหม?] (เอิลต้า)
"ไม่จำเป็นเลย ฉันก็แค่ต้องใช้หินพลังเวทย์ซักหน่อย แต่ว่าในตอนนี้สกิลของฉันยังเลเวลต่ำอยู่ ฉันคิดว่ามันคงจะต้องใช้เวลาสักหน่อยแหละ"
ยูอิลฮานได้คิดไปถึงสถานที่ที่เขารู้จักดีที่สุด พื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้า ในเมื่อเขาเป็นคนออกแบบด้วยตัวเอง เขาจะไม่มีทางพลาดแน่
จำนวนของหินพลังเวทย์ที่จะใช้ไปที่นั้นพร้อมทั้งพาทูตสวรรค์ทั้งสามคนไปกับเขา... แค่คิดถึงเงื่อนไขนี้คำตอบก็ปรากฏขึ้นมาเองในหัวของเขาราวกับผ่านการคำนวนทั้งหมดในสมองเขาแล้ว
หินพลังเวทย์คลาส 4 50 ก้อนสำหรับยูอิลฮานเนื่องจากว่าเขายังไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสูง 80 ก้อนสำหรับเอิลต้าที่อยู่คลาส 5 แล้วก็สำหรับอีกสองคนที่เหลือก็คนล่ะ 110 ก้อน รวมๆแล้วเป็น 350 ก้อน นี่มันแพงมากๆเลยนะ
"เฮ้ แม้แต่ฉันยังใช้มันบ่อยๆไม่ได้เลยนะ ราคามันน่าจะเพิ่มขึ้นอีกถ้าเป็นการข้ามระหว่างโลกด้วย..."
ในตอนนี้ยูอิลฮานได้รู้ถึงพลังของฉายา 'กบที่กระโดดข้ามกำลัง' แล้ว ความสามารถของฉายานี้ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม มันแค่ถูกใช้ช่วยในการวิวัฒนาการสกิลเท่านั้นเองดังนั้นเขาก็จะสามารถใช้สกิลนี้ได้ในอนาคต แต่ปัญหาคือเขาไม่สามารถใช้ความสามารถของฉายาที่นี่ได้
[ทำไมล่ะ? นายต้องใช้กี่ก้อน?] (เลียร่า)
"หินพลังเวทย์ 350 ก้อนทั้งหมดเป็นคลาส 4"
[อึก]
"ไว้จ่ายคือมาด้วย 300 ก้อน"
[อึก]
[ไว้ส่งบิลไปที่สวรรค์ล่ะกัน...] (สเปียร่า)
ยูอิลฮานได้ส่งบิลให้กับทูตสวรรค์และได้เปิดใช้งานสกิลพร้อมทั้งระวังการซุ่มโจมตี ยังไงก็ตามเขาก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆแม้แต่นิดเดียว
"เสร็จแล้ว"
[ฉันรู้สึกได้ว่าเส้นทางกำลังเปิดขึ้นแล้ว! แต่ดูนั่นสิ! มันดูเงียบๆเหงาๆเหมือนกับอิลฮานเลยเนอะ] (เลียร่า)
"เงียบน่า"
เนื่องจากว่าสกิลนี้วิวัฒนาการขึ้นมาจากสกิลกระโดดดังนั้นจึงไม่ได้มีกระบวนการที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างการเปิดประตูมิติขึ้นมา เขาจำเป็นจะต้องกระโดดไปในจุดๆหนึ่งเท่านั้นเอง การกระทำนี้จะเป็นการกระตุ้นใช้งานและบิดเบือนเส้นทางแล้ว
"ตอนนี้แหละ!"
ในวินาทีนี้ที่ยูอิลฮานได้กระโดดออกไป เขาก็ได้นึกไปถึงความทรงจำที่เลือนลางที่แทบจะหายไปแล้วจากเวลาที่ผ่านไปนับพันปี
ในตอนที่เขายังอยู่มัธยมปลายครั้งหนึ่งชั้นเรียนของเขาเคยมีการพาไปทัศนศึกษาที่สวนสนุกและเป็นปกติที่ยูอิลฮานจะไม่ได้จับกลุ่มกับใครเลย ทุกๆคนนอกจากเขาต่างก็ถ่ายรูปเท่ๆด้วยการกระโดดขึ้นพร้อมๆแล้วปล่อยโทรศัพท์ลงพื้น
ซึ่งหน้าจอโทรศัพท์ของคนพวกนั้นบังเอิญแตกกันทุกคนจนราวกับเป็นเรื่องบังเอิญจนยูอิลฮานรู้สึกยินดีเอามากๆ
[อย่าเอาความทรงจำน่าเศร้าแบบนั้นมาเก็บไว้เลยนะ! คราวหน้าฉันจะถ่ายแบบนั้นกับนายด้วยนะ! ฉันมีอีกหลายอย่างเลยที่จะทำกับนาย!] (เลียร่า)
"อย่ามาอ่านความคิดฉันนะ"
สกิลได้เปิดใช้งานสำเร็จแล้ว ยูอิลฮานกับทูตสวรรค์ได้เมินเฉยต่อขีดจำกัดทางพื้นที่ทั้งทางร่างกายและเวทย์ จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไปที่พื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้าทันที
ยูอิลฮานได้เชื่อมั่วๆไปว่าที่สกิลทำสำเร็จก็น่าจะเพราะว่าเป็นสกิลขั้นสูง แต่ว่าจริงๆแล้วมันเป็นเพราะความพิเศษของสกิลนี้ที่ผ่านการผสานจากความสำเร็จที่เขาได้สร้างขึ้นมาจนถึงตอนนี้ หากไม่มีความสำเร็จพวกนี้ ไม่ว่าจะมีหินพลังเวทย์เป็นส่วนเสริมมากยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆที่จะกระโดดข้ามมิติได้
ยังไงก็ตามในตอนที่ภาพของดันเจี้ยนเริ่มเลือนรางเต็มทีได้มีเสียงเล็กๆดังขึ้นมา เป็นเสียงที่เหมือนจะเป็นของเด็กมากๆ
[อย่ามาที่นี่อีก ไม่มีใครมาที่นี่อีกแล้ว อย่าได้มาที่นี่อีกเลย] (???)
"ฉันก็ไม่ได้อยากมาเหมือนกันแหละน่า"
[หืม]
"ไม่มีอะไรๆ"
เขาได้สะบัดหัวออกมา เขามั่นใจแล้วว่าเสียงนี้ต้องเป็นเสียงของบอสดันเจี้ยนนี้แน่ เหตุผลที่มีมอนสเตอร์ถูกส่งออกมาเรื่อยๆก็น่าจะเป็นเพราะตัวบอสเองไม่อยากจะเจอกับยูอิลฮานเหมือนกัน
แน่นอนว่าถึงแม้เขาจะพูดว่าไม่อยากกลับไป แต่ว่าถ้าเขาต้องกลับไปจริงๆเขาก็จะอัดมันแบบไม่ปราณีเลย ไม่ว่ามันจะอยากสู้หรือไม่ก็ตาม มันจะต้องชดใช้ที่ขังเขาเอาไว้ในที่ที่เหมือนคุกตั้ง 2 ปี
ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ได้มาถึงโลกแล้ว กลับมาในแบบที่เขาไม่เคยคาดคิดไว้มาก่อน
[ในที่สุดพวกเราก็กลับมาแล้ว กลับมาด้วยสกิลบ้าๆแบบนี้] (เอิลต้า)
[ความเข้มข้นของมานาที่นี่สูงขึ้นอีกแล้ว ฉันคิดได้แต่ว่ามีสัญญาณบางอย่างที่โลกได้เปลื่ยนไปอย่างมากในเวลาสองปีนี้] (สเปียร่า)
[เฮ้ ตอนนี้มันไม่มีปัญหาอะไรแล้วนี่ เราจะไปตามเสียงเรียกได้ทุกที่แล้วนะ ทุกที่เลย!] (เลียร่า)
ทูตสวรรค์ได้กลับมาอารมณ์ดีขึ้นอีกครั้งจากการที่พวกเธอสามารถติดต่อกับกองทัพสวรรค์ได้แล้ว และพวกเธอได้เริ่มทำงานของพวกเธอกันวุ่นวาย เอาเถอะในเมื่อพวกเธอไม่อยู่ตั้ง 2 ปีก็เป็นธรรมดาที่พวกเธอจะต้องยุ่งมากๆ ยูอิลฮานจะไม่แปลกใจเลยากว่าพวกเธอต้องออกห่างจากเขาไปซักเดือนสองเดือน
"แต่ว่า..."
หลังจากที่ยูอิลฮานได้กลับมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่โลกจนอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เขาก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างและมองดูไปรอบๆ
แน่นอนว่าต้นไม้ทุกต้นภายในพื้นที่คฤหาสน์ได้ถูกตรวจสอบผ่านจอและจัดการด้วยระบบอัตโนมัติภายในคฤหาสน์ดังนั้นจึงไม่ได้มีอะไรต่างออกไป แต่ว่าเขารู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าที่นี่ไม่ได้มีมนุษย์เข้ามาเลยเมื่อไม่นานมานี้
"ดูเหมือนทุกๆคนจะยุ่งมาตลอดสินะ"
[ไม่ได้มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้น... ใช่ไหม?] (เลียร่า)
"ไม่รู้สึก มีร่องรอยว่าพวกเขามาที่นี่เป็นพักๆ แต่ว่ามิลก็ยังไม่ได้มาที่นี่ซักพักแล้วเหมือนกัน"
สิ่งที่มิลทำคือเอาเนื้อทั้งหมดไปจากตู้เย็นที่ยูอิลฮานแช่ไว้ให้ ในตอนนี้พวกมิลไม่อยู่แล้ว
"...ทำไมจู่ๆฉันรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปนานมากเลยนะ"
[นายนี่นะ นายไม่เคยพูดอะไรแบบนี้เลยในตอนที่เรียนเรื่องวิศวกรรมเวทย์เพื่อสร้างอาร์ติแฟคหรือเพิ่มเลเวล] (เลียร่า)
[เอาเถอะ ผู้ปกครองตามปกติมักจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปจากการเติบโตจากลูกของพวกเขาแหละนะ] (เอิลต้า)
ยูอิลฮานปฏิเสธคำของเอิลต้าไม่ได้เลย ตอนนี้เขาอยากจะไปเจอมิลจริงๆแล้ว สิ่งที่เขาอดทนมาตลอดตอนนี้ได้เริ่มระเบิดออกมาในคราวเดียวแล้ว
"เวรล่ะ ต่อให้ฉันเจอนายูนาในตอนนี้ฉันก็อาจจะดีใจด้วยซ้ำนะเนี้ย"
[เฮ้ อย่าไปพูดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงคนนั้นนะ เดี๋ยวจะได้ยุ่งแน่ เธออาจจะพยายามจับนายในทันทีเลยก็ได้นะ] (เลียร่า)
ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมาพร้อมทั้งเดินเข้าไปในคฤหาสน์ สิ่งแรกที่เขาอยากจะทำเลยก็คืออาบน้ำดีๆภายในคฤหาสน์ของเขา! เมื่อคิดย้อนดูแล้วเขาไม่เคยได้อาบน้ำดีๆมาเลยตลอดสองเดือน
[ให้ฉันไปกับนายด้วยนะ!] (เลียร่า)
"เธอก็ต้องไปอาบน้ำของเธอเหมือนกัน ไปใช้ห้องอาบน้ำคนล่ะห้องกันซะนะ"
ทูตสวรรค์ทั้งหมดได้ยอมรับว่าพวกเธอก็ต้องอาบน้ำแล้วเหมือนกันก่อนที่จะต้องยุ่งแน่ และพวกเธอได้มุ่งหน้าไปในที่ๆของพวกเธอ เลียร่าเธอก็ยังคงไม่ยอมล้มเลิกความคิดจะอาบน้ำกับยูอิลฮานอยู่ดีแต่ว่าสเปียร่ากับเอิลต้าได้บังคับลากเธอออกไป
อย่างแรกเลยยูอิลฮานได้ถอดเกราะออกมาทำความสะอาดกอด แล้วจากนั้นก็รีบกระโดดไปอาบน้ำทันที
ผิวหนังที่สกปรกและแห้งเสียแล้วได้ลอยในอ่างน้ำทันทีที่เขาลงไปในอ่างโดยที่เขาไม่ต้องขัดตัวเลย ยังไงก็ตามด้วยความที่ห้องอาบน้ำก็เป็นอาร์ติแฟคทำให้ขยะพวกนี้หายไปในทันที
"เดี๋ยวก่อนนะ"
ในตอนนี้เองยูอิลฮานได้คิดถึงถังยักษ์ในช่องเก็บของของเขา เขาเคยได้คุยกับทูตสวรรค์ว่าจะใช้มันฝึกยังไงดี แต่แล้วเขาก็ลืมไปเพราะมีหลายเรื่องต้องให้ทำ
แต่ว่าเนื่องจากว่าตลอดสองปีนี้เขาได้ใช้วัสดุไปจนแทบจะหมดแล้วทำให้เขาไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ถังยักษ์ไปซักพัง ถ้างั้นก็...
"ดีล่ะ"
เขาได้รีบขัดเอาผิวหนังที่ตายและสกปรกออกไปจากตัวและรีบยืนขึ้นมา จากนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ถึงอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน
"หืม?"
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัวเลยมาตลอดเพราะเขาไม่มีเวลามาดูการเติบโตในดันเจี้ยนของเขา แต่ว่ามันดูเหมือนเขาจะสูงกว่าเดิมในสองปีนี้ ตอนนี้เขาสูงถึง 190 ไปแล้ว
"ที่ฉันไม่รู้ตัวคงเพราะการเติบโตมันค่อยเป็นค่อยไปสินะ..."
หลังจากได้เห็นตัวเองในกระจกยูอิลฮานตกใจมาก เขาคิดว่าการเจริญเติบโตของเขาจะจบลงตั้งแต่ที่อายุย่างเข้า 20 แล้วซะอีก แต่ดูเหมือนว่าเซลล์ของเขาจะยังคงพัฒนาอยู่มาตลอดทำให้ร่างกายของเขาเปลื่ยนไปอย่างต่อเนื่องตามการเลเวลเพิ่มขึ้นกับการไหลไปของเวลา
จากนั้นเขาก็ได้โกนหนวดแล้วก็ตัดผมที่ปล่อยทิ้งไว้นานจบเรียบร้อย
"เอาล่ะถ้างั้น"
โชคดีที่ห้องน้ำของเขากว้างพอที่จะวางถังยักษ์เอาไว้ได้ เขาได้เผาเส้นผมทั้งหมดที่เขาตัดออกมาด้วยประกายเพลิงและเทน้ำร้อยลงไปในถังยักษ์
แต่จากรั้รเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้และเทน้ำในขวดที่ใส่ลมหายใจลงไปในน้ำสองสามหยด น้ำได้ค่อยๆถูกย้อมเป็นสีชมพูและถังได้สั่นเล็กๆอยู่ครู่หนึ่ง ยูอิลฮานรู้ได้ทันทีว่าความคิดของเขาไม่ได้ผิดไปนะ
'บางทีอาจจะเพราะว่ามันทำขึ้นมาจากหัวใจมังกรทำให้มันเข้ากับเลือดมังกรได้ดีที่สุด'
ยูอิลฮานได้ขัดผิวของเขาอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะกระโดดเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ
"ฟู่ววววววววว"
แม้ว่าภายนอกจะดูเป็นปกติเพราะอวัยวะเวทย์ที่เป็นหัวใจหลักได้ผสมอยู่ภายในถัง แต่มันก็ชัดเจนมากทีเดียวว่าหัวใจมังกรที่ถูกดูดซับไปในถังได้ทำหน้าที่เป็นอย่างดี
คลื่นมานาจากส่วนต่างๆของถังได้สั่นจนน้ำกระเพื่อมและรวมไปถึงเลือดมังกรที่อยู่ข้างในอีกด้วย แม้แต่มานาภายในร่างของยูอิลฮานก็ยังสั่นไหวด้วยซ้ำไป ความรูสึกนี่มันค่อนข้างจะ... ดีเลย
'ในเมื่อฉันทำแบบนี้ ดูท่าแล้วฉันคงไม่ได้ทำคุกกี้ซักพักหนึ่งสินะ? ดูเหมือนฉันจะต้องทำให้เจ้านี่เป็นที่อาบน้ำสุดหรูของฉัน'
ยูอิลฮานได้ปล่อยร่างกายไปตามแรงสั่นของน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นนี่มันสร้างการเปลื่ยนแปลงที่ดีให้กับเขา ทำให้มานาของเขาสอดคล้องกับธรรมชาติยิ่งขึ้น
เขาได้คิดย้อนกลับไปถึงในตอนที่เขาได้ดูดซับเลือดมังกรมาในตอนที่วิวัฒนาการสกิลกระโดด เลือดพวกนั้นได้ละลายหินพลังเวทย์และทำให้เกิดการวิวัฒนาการสกิลตรงๆด้วยการเร่งปฏิกิริยาให้ยูอิลฮานดูดซับมานาได้ง่ายมากขึ้น เลือดมังกรที่ถูกดูดเข้าไปในตัวยูอิลฮานได้ทำให้เกิดผลข้างเคียงนี้ขึ้น
เลือดพวกนี้ไมไม่ได้หายไปไหนเลย เลือดมันได้บีบอีดกันอยู่และฝังรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของยูอิลฮาน บันทึกของเขา และภายในแก่นกระดูกของเขา ตอนนี้หากเขาตั้งสมาธิดู เขาก็จะรู้สึกได้ว่าเลือดมังกรที่ถูกเขาดูดเข้าไปได้สอดคล้องเข้ากันกับถังยักษ์
บางทีไอเทมที่น่าทึ่งและประหลาดที่สุดที่ยูอิลฮานทำมาจนถึงตอนนี้อาจจะไม่ใช่พื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้าหรอก แต่กลับเป็นถังยักษ์ต่างหาก
"พ่อครับ!"
ในตอนนี้เองประตูห้องน้ำได้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับมิลที่วิ่งเข้ามา ยูอิลฮานรู้อยู่แล้วว่ามิลได้กลับมาจากสัมผัสที่แทบจะแชร์กันระหว่างเขากับคฤหาสน์ และในตอนที่เขากำลังจะหันไปมองมิลนี้เอง
"ฮืออออออออออออ!"
ยูมิลได้วิ่งมาหายูอิลฮานทั้งๆที่ร้องไห้ในทันทีที่เจอยูอิลฮาน ยูอิลฮานได้รับยูมิลที่วิ่งมาโดยไม่สนอะไรที่ขวางเขาในทันที
"สูดด ฮือออออออ!"
"ไม่เป็นไรแล้วนะ ไม่เป็นไรแล้ว"
ยูิลฮานได้เห็นแล้วว่ายูมิลยังปลอดภัยดี ยูมิลได้เติบโตขึ้นมาเช่นกันและกลายเป็นหนุ่มมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะอยู่ในคลาส 3 เหมือนกันแต่ว่าระดับพวกเขนั้นห่างไกลกันมาก การแค่ล่ามอนสเตอร์ธรรมดาไม่มีทางที่จะไล่ตามยูอิลฮานที่ทรมาณในนรกได้แน่ แต่ก็ดูเหมือนว่าเนื้อมังกรจะมีผลเป็นอย่างดี
"พ่อไปอยู่ที่ไหนมาครับ!?"
"เรื่องมันยาวนะ.... ยาวมากเลย ลูกอยากจะฟังหรอ?"
"ครับ"
"โอเค ถ้างั้นก็นะ"
"ไม่ น่าเสียดายดายนะที่ในตอนนี้...."
ยังไงก็ตามมีอีกคนหนึ่งตอบเขากลับมาซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิง เมื่อยูอิลฮานหันไปมองเขาก็ได้เห็นคังมิเรย์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและสวยขึ้นกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน
เมื่อยูอิลฮานเห็นมิเรย์ เธอก็มองเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขาในถังยักษ์ได้เช่นเดียวกัน
"โอ้ มิเรย์เธอก็อยู่ด้วย"
"ห๊ะ...."
จากนั้นเธอก็ได้เป็นลมไปทันที ยูอิลฮานได้แต่กระพริบตาปริบๆและมองไปที่มิล
"มิงทำไมเธอถึงเป็นลมไปซะล่ะ?"
"ผมก็ไม่รู้"
"แล้วตะกี้เธอกำลังจะพูดอะไรนะ?"
"เรื่องนี้ผมรู้ครับ"
ยูมิลได้ตอบกลับมาอย่างมั่นใจ
"พี่สาวกำลังจะบอกว่ามหาภัยพิบัติขั้นที่ 3 กำลังจะมาถึงแล้ว!"
[อะไรนะะะะะะะะะะะะะะ]
ในวินาทีที่ยูอิลฮานกำลังจะพูดอะไรออกมา ทางฝากที่ทูตสวรรค์กำลังอาบน้ำกันอยู่ก็ได้มีเสียงดังออกมา เลียร่าเธอเอาศักดิ์ศรีและความภูมิใจในฐานะของทูตสวรรค์เธอไปทิ้งไว้ที่ไหนกันนะ... ยูอิลฮานได้ยืนขึ้นมาและคิดไปถึงตอนที่เขาได้เจอเธอในครั้งแรก
ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีเวลาให้เขาได้ผ่อนคลายในห้องอาบน้ำอีกแล้ว