ตอนที่ 190 เนื้อเรื่องลับ 1(ตอนก่อนตั้งผิดชื่อครับ)
“การต่อสู้กับเขาเป็นอุบัติเหตุ นายก็รู้-ฉันไม่เคยคิดแก้แค้น”ฮันเนสส่ายหัว
กาเรี่ยนตัดบทและกล่าว“ให้ฉันเดา เขาคงเป็นปีศาจทมิฬสินะ เขาเป็นหน้าใหม่คนเดียวที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงในองค์กรนาย”
ฮันเนสแข็งค้าง เริ่มคิดและกล่าว“มันเป็นปีศาจทมิฬนี่เอง ฉันได้ยินถึงเขาแม้จะเกษียณและไม่ได้สนใจพวกหน้าใหม่มาก เขาค่อนข้างหินเลยทีเดียว ดูเหมือนว่านายจะได้สุดยอดนักรบนะเบนเน็ต”
เบนเน็ตเงียบไป เหมือนกับที่ฮันเนสกล่าว เขารู้สึกเหมือนพบสมบัติเข้า
ย้อนกลับไปตอนพบปีศาจทมิฬ ชื่อรหัสเขายังเป็นมิสเตอร์แบล็ค และเขาก็เป็นเพียงระดับแมงป่องเท่านั้น เขาค่อนข้างแข็งแกร่งแต่ก็ยังห่างไกลจากเขา เขาเหมือนแฟนคลับของเบนเน็ตและให้ของขวัญที่เบนเน็ตโปรดปราน ดังนั้น เบนเน็ตจึงให้คำชี้แนะแก่เขา แต่มันก็แค่การกระทำแบบสุ่มๆ เขาไม่ได้คิดสอนอย่างจริงจัง
แต่ทว่า ภายในไม่กี่เดือน หานเซี่ยวกลับสั่นคลอนโลกด้วยบันทึกการต่อสู้เขาและกลายเป็น10สุดยอดนักฆ่าและเป็นสุดยอดหัวกะทิของสมาคมสนธิสัญญาโลหิต ความเร็วการเติบโตเขาทำให้เบนเน็ตประหลาดใจ
แม้พวกเขาจะไม่เคยสู้กัน เบนเน็ตก็สามารถรับรู้ได้ถึงช่องว่างระหว่างเขาและหานเซี่ยวที่กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
ด้วยศักยภาพของปีศาจทมิฬ ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะกลายเป็นคนที่สามารถบรรเทาความรับผิดชอบเขาได้ การเป็นหุ้นส่วนกับปีศาจทมิฬอยู่ในช่วงหวานซึ้ง ดังนั้นเบนเน็ตจึงให้ความสนใจมาก
“ในเมื่อเขาเป็นคนของนาย ฉันก็อยากขอให้เขาช่วยเราทำบางอย่าง”ฮันเนสกล่าว
เบนเน็ตปฏิเสธและกล่าว“ปีศาจทมิฬไม่ใช่ลูกน้องฉัน และฉันก็ไม่สามารถสั่งเขาได้ อย่างมากก็ทำได้แค่ช่วยขอ แต่มันก็ยังขึ้นอยู่กับเขา”
ฮันเนสไตร่ตรองและกล่าว“เอาละ ฉันอยากคุยกับเขาเอง”
“ได้”
สิ้นสุดการโทร
“นายอยากให้คนแปลกหน้าเข้าร่วมกับเรา?”เวอนิน่าประหลาดใจ“แม้เขาจะแข็งแกร่ง เราก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย”
“เขาแข็งแกร่งมาก การให้คนอื่นมาช่วยไม่ดียังไง?ยังไงเราก็ไม่ต้องเก็บสิ่งที่เราทำเป็นความลับอยู่แล้ว”
กาเรี่ยนเป็นผู้ริเริ่มภารกิจและเขาก็เห็นด้วยกับฮันเนส“เรากำลังขุดหาความลับ และเราสามคนก็ไม่พอ ฉันได้รวบรวมข้อมูลมากหลายปีและในที่สุดก็พบบางอย่าง-ฉันต้องรู้ให้ได้ไม่ว่ายังไง”
“วันหนึ่ง นายจะตายเพราะความอยากรู้”ฮันเนสกล่าวด้วยหัวใจหนักหน่วง
...
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น หานเซี่ยวก็กลับไปบ้านพักของตาข่ายมืด จิ้งจอกทองและดาบวิญญาณตื่นอยู่ตลอดอคืน เมื่อเห็นเขากลับ จิ้งจอกทองก็ถอนหายใจ
“ภารกิจสำเร็จไหม?”ดาบวิญญาณถาม“ได้ทำตามแผนฉันรึเปล่า?”
“แผนนายไม่ได้ผล”หานเซี่ยวส่ายหัวและอธิบายความท้าทายที่เขาเผชิญสั้นๆ ข้อมูลของดาบวิญญาณพลาดรายละเอียดบางอย่างไปและนี่ก็เป็นรายละเอียดที่สำคัญมาก
หลังได้ยิน ดาบวิญญาณก็พบข้อผิดพลาดและจุดบอดของข้อมูลเขา แม้เขาจะคิดว่ามันละเอียดแล้ว เขาก็ยังรู้สึกละอายใจเมื่อหานเซี่ยวชี้ให้เห็นรายละเอียดที่เขาพลาดไป
เดิมทีดาบวิญญาณมั่นใจมากว่าแผนเขาสมบูรณ์แบบ แต่ก็ตระหนักว่าการทำตามแผนย่อมไม่อาจรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันได้ แต่หานเซี่ยวก็มองเห็นจุดนี้และทำภารกิจสำเร็จได้ง่ายๆ
ความแตกต่างทำให้ดาบวิญญาณรู้สึกพ่ายแพ้และอับอาย
แต่เขาก็ตระหนักว่าหานเซี่ยวไม่มีเจตนาตำหนิหรือดูถูกเขาเลย เขากลับไม่สนว่าเขากำลังคิดอะไรเลย ดาบวิญญาณถูกเมินเฉย บวกกับการถูกตบหน้าด้วยความจริง มันยิ่งทำให้เขาอับอายยิ่งกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นการสบประมาทหรือการเคารพ เขาไม่สนใจสิ่งที่ฉันคิดเลย ดาบวิญญาณคิดอย่างไม่พอใจ รู้สึกเหมือนเขากำลังยั่งยุใครบางคน แต่คนๆนั้นกลับปฏิบัติต่อเขาเหมือนอากาศธาตุ มันเหมือนการชกใส่ลูกบอลฝ้าย นอกจากนี้ ด้วยความแตกต่างในตำแหน่งและพลัง เขารู้สึกว่าการกระทำเขาไม่ต่างอะไรกับตัวตลก
การถูกเมินเฉยน่ากลัวกว่าสิ่งใด-มันเหมือนเขาเป็นตัวเสริมและรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งอุดตัดหัวใจ
แม้หานเซี่ยวจะไม่รู้ถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไปนี้ เขาก็ยังเดาได้ มันอาจไม่มีอะไรมากไปกว่าความหยิ่งและความสงสัย จากนั้นก็โดนตบด้วยความจริงและรู้สึกอับอาย
จิตใจของทุกคนแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนบ้า ทุกคนย่อมมีความคิดเป็นของตน แต่ตราบเท่าที่ไม่ได้ลงมือทำ มันก็จะเป็นความลับตลอดไป ดังนั้น หานเซี่ยวผู้ยิ่งใหญ่จึงไม่สนความคิดและอารมณ์ของคนอื่น
ไม่ว่าดาบวิญญาณจะสงสัยหรือเคารพเขา มันก็ไม่ส่งผลต่ออารมณ์เขาแม้แต่น้อย ไม่มีอะไรอธิบายลักษณะนี้ได้กว่า’การเป็นตัวของตัวเอง’
นี่คือลักษณะของผู้เป็นตำนาน
จิ้งจอกทองเลียริมฝีปาก และอารมณ์เธอก็ซับซ้อน
ครั้งแรกที่เธอเห็นปีศาจทมิฬในภารกิจป้องกันหลายเดือนก่อน ปีศาจทมิฬเป็นแค่ระดับแมงป่อง-ระดับเขาต่ำยิ่งกว่าเธอ แต่ในไม่กี่เดือน เธอยังคงย่ำอยู่จุดเดิม ส่วนปีศาจทมิฬกลับกลายเป็นมังกรเหนือผู้คนรวมถึงยังมีการเชื่อมต่อกับผู้นำตาข่ายมืดอีกด้วย
จิ้งจอกทองอิจฉาตำแหน่งของปีศาจทมิฬ แต่ก็รู้ว่าเธอไม่มีฝีมือพอ
หากเธอเสียสละเรือนรางให้ปีศาจทมิฬได้ เธอก็จะทำมัน แต่มันแย่เกินไปที่หานเซี่ยวไม่สนใจเธอ
เธอเข้าใจได้-มันจะมีอะไรผิดปกติกับผู้ชายอย่างเขา?
หานเซี่ยวไม่สนใจท่าทางของจิ้งจอกทอง เขาเปิดตู้เซฟและหยิบอุปกรณ์ที่เขาเก็บไว้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมเปิ้ลแล้วหลังภารกิจสำเร็จ ขณะที่เขาเตรียมออกไป เบนเน็ตก็โทรมา
หานเซี่ยวรับสาย
“ผมทำภารกิจเสร็จแล้ว มีอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆระหว่างภารกิจ แต่ก็ราบรื่นดี”
“ฉันรู้ว่าเธอจะไม่ล้มเหลว ฉันมีเรื่องอื่น”เบนเน็ตกล่าว”ศัตรูที่เธอพบกลางภารกิจคือเพื่อนฉัน เธออาจจะเคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อน ฮันเนสและเวอนิน่า พวกเขามาจากยุคของฉัน
หานเซี่ยวทำเสียงประหลาดใจ“โอ้ มันช่างบังเอิญจริงๆ”
“มันน่าแปลกใจมากที่เธอไม่แพ้ เธออ่อนแอมากเมื่อเราพบกันครั้งแรก”เบนเน็ตกล่าว“ความเร็วการพัฒนาของเธอเหนือกว่าความรู้ฉัน”
“คุณโทรมาเพื่อชมผมเฉยๆหรอ?”หานเซี่ยวกล่าว“ต่อเลย อย่าหยุด ผมยังทนมันได้”
เบนเน็ตคิ้วกระตุกและสงบอารมณ์เขา“ฮันเนสขอให้ฉันบอกนายว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ เรื่องความขัดแย้งก่อนหน้า มันก็แค่ความเข้าใจผิด?”
“ต้องการให้ผมช่วย?”ดวงตาของหานเซี่ยวเป็นประกาย เขาตระหนักว่านี่คือภารกิจที่มาหาเขาเองโดยไม่ต้องตามหา!
หรือตรงๆ เขาได้ทำตามข้อกำหนดโดยไม่รู้ตัว เขามีแต้มตำนานและความสัมพันธ์กับตาข่ายมืดพอ และเขาก็เป็นเพื่อนกับเบนเน็ต ส่วนระดับเขาก็สูงพอ ดังนั้น เนื้อเรื่องลับจึงวิ่งมาหาเขาเอง
แต้มตำนานและความสัมพันธ์กับองค์กรมีผลประโยชน์อยู่ บางครั้ง NPCจะมาหาผู้เล่นและมอบหมายภารกิจให้ ภารกิจเหล่านี้มักยากกว่าปกติ แต่ก็ให้รางวัลมากมหาศาล
ภารกิจมาหาผู้เล่นและผู้เล่นก็อยากกระตุ้นภารกิจไปทุกที่ ก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่างการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นและผู้อื่นก็มองหาความช่วยเหลือจากคุณ
ดังนั้น ผู้เล่นที่ชื่นชอบคุณสมบัติเช่นแต้มตำนานจึงมีประสบการณ์เกมที่ดี
“ผมช่วยพวกเขาได้ แต่ผมต้องการรายละเอียด”หานเซี่ยวคิดอยู่สักพัก“ในเมื่อพวกเขาเป็นเพื่อนคุณ พวกเขาก็เป็นเพื่อนผมด้วย ไม่ต้องกังวลถึงความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ”
ประโยคนี้ทำให้เบนเน็ตรู้สึกดีมาก เขาหัวเราะแห้ง แต่ลอบยินดีอยู่ข้างใน เนื่องจากหานเซี่ยวให้ความเคารพเขา เขาจึงตอบแทนความโปรดปราน“คิดซะว่าฉันเป็นหนี้เธอ ฮี่ๆ ดูเหมือนฉันจะเป็นหนี้เธอหลายอย่างแล้ว”