ตอนที่แล้วGE147 หนึ่งไม่มีสอง [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE149 เห็นแก่ตัว [ฟรี]

GE148 ผู้ร่วมทาง [ฟรี]


ยามดึก ภายในเมืองฉีเหม่ย... หนิงฝานและจื่อเฮ่อนอนบนแค่ใต้ต้นองุ่น ไหล่กระทบไหล่ พลางชมดวงจันทร์ที่งดงาม

พรุ่งนี้หนิงฝานต้องเดินทาง เขาไม่ได้พาจื่อเฮ่อไปด้วย

“เหตุใดท่านไม่ให้ข้าไปด้วย? หรือเพราะข้าอ่อนแอเกินไป ถึงร่วมเดินทางกับท่านไม่ได้?” จื่อเฮ่ออิงไหล่หนิงฝาน

“ไม่ใช่อย่างนั้น… มันเป็นเพราะข้าอ่อนแอเกินไป ข้ากลัวว่าจะปกป้องเจ้าไม่ได้...” หนิงฝานตำหนิตนเอง

“พี่ฝาน ท่านไม่ได้อ่อนหรอก… ข้าจื่อเฮ่อพบเห็นผู้คนมามากมาย ท่านแข็งแกร่งกว่าคนเหล่านั้น...” มือน้อยๆของจื่อเฮ่อทาบปิดริมฝีปากของหนิงฝานเบาๆพลางกล่าวปลอบ

ทั้งสองไม่กล่าว แหงนมองชมจันทร์อย่างสงบ

จื่อเฮ่อไม่เหมาะกับการฝึกตน แม้นางจะมีร่างทรงเสน่ห์ และมีความเร็วในการยกระดับพลังจนทำให้หนิงฝานอิจฉา แต่ในโลกของการฝึกตนนี้ ไม่ได้พึ่งพาแต่เพียงพรสวรรค์ จำเป็นต้องพึ่งพาหลายๆสิ่งให้ตนได้ก้าวต่อไป จื่อเฮ่อยังตามเล่ห์เหลี่ยมของผู้เชี่ยวชาญไม่ทัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น นางจะเป็นอันตราย

แม้วันหนึ่งนางจะบรรลุเซียน แต่นางก็ยังไม่เหมาะกับเส้นทางการฝึกตนอยู่ดี

แม้หนิงฝานจะพานางไปด้วยได้ แต่เขาไม่อยากให้นางต้อเผชิญกับทะเลโลหิต

หนิงกู่เองก็ไม่อยากลงมือสังหาร

จื่อเฮ่อก็เช่นกัน ดังนั้นหนิงฝานจึงให้ทั้งสองอยู่ที่นี่ เพื่อความปลอดภัย

จื่อเฮ่อไม่ได้ผิด ที่ผิดคือเวลา… ในยุคโบราณนั้นเต็มไปด้วยสมบัติ เหล่าเทพเทพที่อยู่กับอย่างสันติ ไร้ซึ่งการฆ่าฟัน… จื่อเฮ่อเหมาะกับช่วงเวลานั้น

แคว้นเยว่เป็นแคว้นของผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำ ไร้ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม หนิงฝานเองก็ยังไม่ใช่ จิงสั่วเองก็เช่นกัน

แต่ในแคว้นผู้ฝึกตนที่มีระดับสูงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มจะมีมากเหมือนผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำในแคว้นเยว่

และยิ่งหากเป็นแคว้นระดับสูงขึ้นไปอีก ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณก็จะมีมากขึ้น… เป้าหมายที่หนิงฝานจะไป ทะเลไร้สิ้นสุด เป็นแคว้นระดับสูง หากไปในแคว้นแห่งนั้น ต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก

เพราะทะเลไร้สิ้นสุดเรียกอีกอย่างว่าสุสานของผู้ฝึกตน! ผู้คนเข่นฆ่าได้ตามใจ โดยที่วิหารพิรุณพิรุณไม่อาจยื่นมือแทรกแซง… ที่นั่นไม่มีแบ่งแยกเป็นนิกายฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม มีเพียงแข็งแกร่งแบะอ่อนแอ มีเพียงกฏของป่าที่จะเอาชีวิตรอด หากหนิงฝานอยู่เพียงลำพัง แม้เขาจะเป็นอันตราย แต่ก็สามารถหลบหนีได้ แต่หากพาจื่อเฮ่อไปด้วยและเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับนาง เขาคงเสียใจไปตลอดชีวิต

จื่อเฮ่อคือสตรีคนแรกที่เดินเข้ามาใช้ชีวิตของเขา เป็นผู้มอบสร้อยหยินหยาง เป็นผู้ช่วยชีวิต

หนิงฝานหลับตาลง สูดกลิ่นอายที่หอมหวนของจื่อเฮ่อ

เขาพบนางที่นิกายเหอฮวน

เด็กสาวธรรมที่ไม่ชอบการต่อสู้ มีจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง และเป็นผู้ที่เข้าใจหนิงฝานมากที่สุด

นางรู้จักด้านที่อ่อนโยนของหนิงฝาน และเข้าใจในสิ่งที่หนิงฝานไม่อาจทำได้ ที่สำคัญ นางยังรู้ว่าหนิงฝานก็เหมือนตน ที่ไม่ชอบการต่อสู้เช่นกัน

ความดีของจื่อเฮ่อได้สลักลึกลงไปในจิตใจของหนิงฝาน และนางก็เป็นผู้ที่ทำให้เขาได้พบกับหานหยวนจี๋ จนกลายมาเป็นผู้ฝึกตนในวันนี้

ผู้ที่หล่อหลอมหนิงฝานขึ้นในทุกวันนี้ ครึ่งหนึ่งคือจื่อเฮ่อ อีกครึ่งคือหานหยวนจี๋

“พี่ฝาน...” จื่อเฮ่อมีบางอย่างจะกล่าว

“มีอะไรหรือ?”

“หากท่านกลับมาจากทะเลไร้สิ้นสุด… ให้ท่านนำดอกกล้วยไม้จาก ‘หมู่บ้านระฆังกล้วยไม้’ มาด้วยได้หรือไม่?”

“หมู่บ้านระฆังกล้วยไม้? สถานเช่นนั้นในแคว้นเยว่ก็มีมิใช่หรือ?” หนิงฝานกล่าว

“มันไม่เหมือนกัน… ดอกกล้วยไม้ที่ทะเลไร้สิ้นสุด เมื่อมันเบ่งบาน สายลมพัดต้อง จะได้ยินเสียงของระฆังที่ไพเราะ… หากได้ยินเสียงนั้น ข้าจะรู้ว่าท่านกลับมา” นางกล่าวพลางซบอกหนิงฝานหลับไป

หนิงฝานจดจำคำขอของนางไว้

หมู่บ้านระฆังกล้วยไม้คือสถานที่ธรรมที่สุดใรทะเลไร้สิ้นสุด ที่นั่นเปรียบดั่งโลกแห่งดอกไม้… คำขอของจื่อเฮ่อนับเป็นคำขอที่ง่ายนัก

จื่อเฮ่อไม่อาจไปเยือนที่นั่นได้ยามนี้ เพราะที่นั่นอันตรายเกินไป...

เมืองหนิงเปรียบดั่งบ้านของหนิงฝาน จำเป็นต้องมีคนที่รอให้ตนกลับมา

การเดินทางไปเยือนทะเลไร้สิ้นสุดนี้ อาจใช้เวลาเพียง 10 ปี หรืออาจจะ 100 ปี

การเฝ้ารอเช่นนี้ไม่นับเป็นอันใดสำหรับผู้ฝึกตน เพราะส่วนใหญ่เวลาที่สามีหรือภรรยาเก็บตัวฝึกฝน ทั้งสองอาจไม่ได้พบหน้ากันนานถึง 10 ปี

เหตุการณ์เช่นนี้ไม่อาจเลี่ยง แม้เป็นเซียนในแดนสวรรค์ก็ไม่อาจเลี่ยง

“ดอกกล้วยไม้… ข้าจะจำไว้”

ภายนอกเมืองฉีเหมาย เรือเหาะทองคำที่ประดับด้วยหยกเขียวลอยมา และลงจอดนอกเมือง

ด้านล่างของเรือมีหนิงฝาน จิงสั่ว เหล่าสหาย ผู้เชี่ยวในแคว้นเยว่ที่มาส่งและกล่าวลา

ผู้ที่เข้ามากล่าวลาส่วนใหญ่จะเป็นคนของนิกายกุ่ยเชว่และนิกายเพลิงเมฆา

หนานกง ซื่อถู ยุ่ยฉี และสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองฉีเหม่ย

กุ่ยเชว่สื่อ ชูชิง หนานเหว่ย และศัตรูอย่างไป๋เฟยเถิง

คนเหล่านี้มาเพื่อกล่าวลา

หลานเหม่ยเองก็มา นางทำให้หนิงฝานไม่อยากจะจากไป

“หนิงฝาน เจ้ารับหยกสวรรค์นี้ไป… ข้าได้มาจากบิดา” หลานเหม่ยก้มหน้าพลางยื่นกระเป๋าให้หนิงฝาน ก่อนที่เขาจะกอดนางไว้

เมื่อหนิงฝานแผ่สัมผัสเทพสำรวจ ภายในกระเป๋ามีหยกสวรรค์ถึง 3 แสน เขาประหลาดใจกับจำนวน บางที กุ่ยเชว่สื่ออาจต้องควักหยกสวรรค์ทั้งหมดของตนออกมาให้ เพราะหลานเหม่ยเว้าวอน

“การจะเข้าฝึกฝนในวิหารสาบสูญ 1 วัน มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก… เจ้าจงใช้หยกสวรรค์เหล่านี้เถิด...” หลานเหม่ยกล่าว นางเสียใจที่ไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับหนิงฝาน แต่ยังคงเป็นห่วงความปลอดภัยของเขามาก

นอกจากนี้ นางยังห่วงว่าหนิงฝานจะไปเกี้ยวพาสตรีนางอื่น

หนิงฝานและหลานเหม่ยแต่งงานกันแล้ว เรื่องนี้ทั่วทั้งแคว้นเยว่ต่างทราบ

หยกสวรรค์จำนวน 3 แสนที่หนิงฝานได้รับ แม้เป็นจิงสั่วที่เป็นประมุขนิกายยังรู้สึกอิจฉา บางที การจะหาภรรยาที่ยอมยกหยกสวรรค์ 3 แสนให้สามี คงไม่มีอีกแล้ว

ไป๋ลู่เองก็มา แต่นางไม่ได้เข้าไปกล่าวลาหนิงฝาน เพียงมองอยู่ห่างๆ

เมื่อหนิงฝานสังเกตุเห็นนาง เขายิ้มให้

“ดูแล...ตัวเองด้วย...” นางกล่าวด้วยสัมผัสเทพ

“เจ้าเองก็เช่นกัน จงตั้งใจฝึกฝน บางทีหากข้ากลับมา เจ้าอาจมีโอกาสสังหารข้าได้” หนิงฝานเย้าหยอก

“ฮึ่ม เจ้าคิดว่าข้าทำไม่ได้หรือไง! รอดูเถอะ ไว้เจ้ากลับมาเมื่อไหร่ ข้าจะก้าวไปยังขอบเขตที่ทำให้เจ้าตกใจได้ดู!” ไป๋ลู่แค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ

“อืม… แล้วข้าจะรอ”

หนิงฝานและจิงสั่วได้สิ่งของจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญมากมาย... ทั้งสองขึ้นเรือเหาะ และมุ่งหน้าไปทางเหนือ

บนเรือ นิกายเฉ่อไพ่ฉางได้มอบสาวรับใช้ให้หนิงฝานอีก 20 คน เพื่อให้พวกนางเป็นกระถางขัดเกลา… เพียงแต่ กระต่ายย่อมไม่กินหญ้าใกล้รัง แม้หนิงฝานจะมีกระถางขัดเกลาไม่มาก แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายพวกนาง นอกจากนี้ แม้พวกนางจะมีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม แต่ระดับเพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 4 หรือ 5 ก็ไม่เป็นประโยชน์กับเขาแม้แต่น้อย

ดังนั้นเขาจึงให้พวกนางเป็นเพียงคนรับใช้… แต่หากหลานเหม่ยและคนอื่นๆรู้เรื่องนี้เข้า พวกนางคงไม่พอใจน่าดู

ในหมู่คนรับใช้ทั้ง 20 คนนั้น หนิงฝานพบคนที่ตนเองรู้จัก แต่เขาไม่ได้กล่าวออกไป

หนิงฝานให้พวกนางดูแลเรื่องความสะอาดและรอยรินน้ำชาให้ ไม่ได้สั่งให้พวกนางปรนนิบัติบนเตียง พวกนางจึงผ่อนคลาย

แต่ในขณะเดียวกันนั้น กระถางขัดเกลาของหนิงฝานทั้ง 17 คน นอกจากสองพี่น้องในขอบเขตแก่นทองคำแล้ว สตรีคนอื่นๆเสนอตัวมาคอยปรนบัติบำบัดใคร่ให้หนิงฝาน...

เรือเหาะบินอยู่ด้วยกันหลายวัน มุ่งหน้าห่างไปจากเมืองหนิง ตรงไปยังข่ายอาคมแบ่งโลกฝั่งทางเหนือของแคว้นเยว่ ในขณะนั้นเอง หนิงฝานก็กล่าวกับเหล่าสตรีที่ขึ้นมารับใช้บนเรือ

“แม้นางเชียนสื่อไม่มากล่าวลาข้า ช่างน่าเศร้าใจนัก… แต่คาดไม่ถึงว่าแม่นางกลับแอบมาเป็นบ่าวอยู่บนเรือลำนี้”

ผู้ที่หนิงฝานจำได้ที่แท้เป็นชู่ซวนเชียนสื่อ นางแอบขึ้นเรือมาด้วย

เมื่อหนิงฝานมองออก นางก็ยกเลิกวิชาแปลงกายและยิ้ม

“ข้าทำเรื่องน่าอายต่อปีศาจหนิงแล้ว… จริงๆแล้ว นิกายเฉ่อไพ่ฉางไม่ได้ส่งข้ามา แต่ข้าอยากเดินทางไปทะเลไร้สิ้นสุดกับเจ้า… แต่หยกสวรรค์ของข้าทั้งหมดอยู่ที่นิกายไท่ชูไพ่ ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรติดตัว ยิ่งระดับพลังของข้ายังไม่อาจไปที่นั่นได้เพียงลำพัง จึงอยากจะขอติดตามปีศาจทมิฬหนิงไปด้วย… ท่านจะยอมให้ข้าไปด้วยหรือไม่?”

“ช่างประจบนัก… แต่ในเมื่อโจรเช่นท่านแอบขึ้นเรือข้าแล้ว คงจะลงยากสักหน่อย”

“โจร...”

เมื่อได้ยินคำกล่างหยอกล้อของหนิงฝาน นางยิ้มเจื่อน

แต่หากคิดไปอีกนัย คำกล่าวของหนิงฝานอาจแฝงบางสิ่ง หากเขาทำเรื่องคลุมเครือเหมือนในคืนนั้น… แค่คิดนางก็สั่นสะท้าน

“ข้าไม่ใช่คนของนิกายไท่ชูไพ่… ไม่ใช่ชู่ซวนเชียนสื่ออีกต่อไป… จากนี้ไปเจ้าเรียกข้าว่าสหายเต๋าเถอะ...” นางกล่าวพลางถอนหายใจ แต่หนิงฝานกลับกล่าวโต้นาง

“ข้าเรียกแม่นางว่าเชียนสื่อไม่ได้หรือ?”

“ไม่ได้!”

“ก็ได้… สหายเต๋า ในเมื่อเจ้าขึ้นมาบนเรือของข้า ทั้งยังจะให้ข้าพาไปทะเลไร้สิ้นสุด เจ้าก็ควรต้องมีค่าใช้จ่ายบ้าง” หนิงฝานกล่าว

“หา? ขึ้นเรือเจ้าต้องจ่ายด้วยหรือ?” นางตกใจ นางไม่มีหยกสวรรค์มาจ่ายให้หนิงฝานแล้ว

“ข้าได้ยินว่าแม่นางเป่าขลุ่ยได้ไพ่เพราะน่าฟัง ทั้งยังสามารถสยบหัวใจแห่งปีศาจได้ด้วย… หากแม่นางไม่ว่า ข้าก็ขอให้เจ้าเป่าขลุ่ยให้ข้าฟัง ถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการโดยสารเรือ...”

“เจ้าอยากให้ข้าเป่าขลุ่ยหรือ… ย่อมได้ หากเสียงขลุ่ยที่ไร้ค่าของข้าสามารถตอบแทนเจ้าได้ ข้าก็ยินดี” นางผ่อนคลายลงมาก เพราะเมื่อครู่นางกลัวว่าหนิงฝานจะเรียกเก็บหยกสวรรค์กับนาง

ยามนี้ นางไร้ซึ่งสหาย เมื่อครั้งยังเยาว์ นางเคยไปเยือนทะเลไร้สิ้นสุดกับอาจารย์ มีสหายอยู่ที่นั่นหนึ่งคน นางผู้นั้นมีพรสวรรค์สูงส่ง ได้ยินว่ายามนี้นางเป็นประมุขนิกายแล้ว

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับนิกายไท่ชูไพ่ ทำให้นางไม่อยากอยู่ในแคว้นเยว่ต่อ แต่นางก็ยังอ่อนด้อยเกินไปที่จะมุ่งหน้าไปทะเลไร้สิ้นสุด

หากเทียบหนิงฝานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรมชั่วร้าบ กับผู้อาวุโสของนางในนิกายไท่ชูไพ่ หนิงฝานยังเป็นคนดีกว่า… การจะเดินทางไปทะเลไร้สิ้นสุดนั้นต้องเสียค่าใช่จ่ายมหาศาล ซึ่งหนิงฝานต้องเป็นคนออกให้นาง ดังนั้นนางจึงเป่าขลุ่ยอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการตอบแทน

นางไม่รู้ว่าการที่หนิงฝานกล่าวว่าจะเก็บค่าโดยสารกับนางนั้น ก็เพื่อให้นางสบายใจ

นางเป็นสตรีที่หยิ่งทะนง ย่อมไม่ยอมรับความช่วยเหลือง่ายๆ ดังนั้น นางจึงแอบขึ้นเรือและปลอมตัวเป็นคนรับใช้

ดังนั้น หนิงฝานจึงให้นางเป่าขลุ่ยให้ฟังเพื่อแลกกับการขึ้นเรือ

การที่นางต้องร่วมเดินทางด้วยนั้น หนิงฝานต้องจ่ายหยกสวรรค์เพิ่มอีก 1 แสน แต่หากเทียบกับวันที่นางปกป้องเมืองหนิงแล้ว หยกสวรรค์จำนวนนี้ไม่นับเป็นอันใด

เพื่อเมืองหนิงแล้ว นางยอมสละสมบัติล้ำค่าของตน หนิงฝานจึงคิดจะสร้างแหวนให้นางเพื่อเป็นการตอบแทน

“นางชื่นชอบวงแหวน… ตามความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ ในยุคโบราณมีวงแหวนในระดับเซียนอยู่วงหนึ่ง นามว่า ‘วงแหวนจักรวาล’ ข้าจะสร้างวงแหวนลอกลเลียนวงแหวนจักรวาล เพื่อเป็นการตอบแทนวงแหวนที่นางได้เสียไป...” หนิงฝานกล่าวในใจ

ดังนั้น ในการเดินทางครั้งนี้ นอกจากจิงสั่วและหนิงฝานแล้ว ชู่ซวนเชียนสื่อก็จะร่วมเดินทางไปด้วย

หนิงฝานพยายามอธิบายเหตุผลที่นางขึ้นเรือด้วยให้จิงสั่วไป แต่มันไม่เชื่อ

มันมองหนิงฝานด้วยสายตานับถือ การที่หนิงฝานยอมให้นางร่วมเดินทางคงมีเหตุผลบางอย่างแอบแฝง ไม่งั้นนางคงไม่แอบขึ้นเรือมาแบบนี้

นั่นทำให้เกิดความเข้าใจผิด หนิงฝานเองก็ไม่ได้อธบายตั้งแต่ต้น

เรือเหาะมุ่งหน้าไปยังทางเหนือของแคว้นเยว่ คนบนเรือได้เห็นผู้คนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ และเห็นผู้เชี่ยวชาญที่เหยียบย่างนภาผ่านไปมา

จิงสั่วและหยุนฮว๋าปลูกดอกไม้บนเรืออย่างผ่อนคลาย

ส่วนหนิงฝานยืนโต้ลมอยู่บนหัวเรือ ด้านหลังเป็นชู่ซวนเชียนสื่อเป่าขลุ่ยขับขาน เสียงขลุ่ยของนางราวกับทำให้หัวใจแห่งปีศาจของหนิงฝานสงบ

ชีวิตดำเนินเช่นนั้นไปอีกครึ่งเดือน กระทั่งเรือเหาะมุ่งมาถึงข่ายอาคมแบ่งโลก

เรือเหาะของหนิงฝานลำไม่ใหญ่นัก บนเรือก็มีผู้เชี่ยวชาญอยู่ไม่มาก

แต่เมื่อเรือเหาะเข้าใกล้ข่ายอาคม ผู้เฝ้าข่ายอาคมของแคว้นซ่งก็เริ่มเพื่อความระมัดระวัง

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงสามคม มุ่งตรงมายังเรือเหาะเพื่อขวางเอาไว้

“พวกเจ้าเป็นใคร? เป็นจะเป็นคนของปีศาจบุบผาแดง!”

ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้ง 3 คนที่มาดูราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายธรรมะ เมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายชั่วร้ายจากเรือ พวกมันก็คิดว่าหนิงฝานเป็นศัตรูทันที

นอกจากนี้ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้งสาม มีคนหนึ่งโกรธแค้นและเกือบจะลงมือจู่โจมเรือ

“ภายใน 10 ลมหายใจ หากเรือของเจ้าออกไปไม่พ้นสายตาข้า ข้าจะทำลายมันทิ้งซะ!” แววตาของชายชราคนนั้นเผยถึงความเกลียดชัง

หนิงฝาน จิงสั่ว และชู่ซวนเชียนสื่อประหลาดใจอย่างมาก

ดูเหมือนสถานะการณ์ของแคว้นซ่งยามนี้จะไม่สู้ดี ไม่งั้นคงไม่ป้องกันขนาดนี้

“สหายเต๋าทั้งสองนี้ไม่ค่อยเผยตัว เพราะกลัวผู้คนจะตกใจ… ชุ่ยหลิง เย่หลิง ตามข้ามา ไปดูกันว่าตาเฒ่าทั้งสามนั่นจะทำอะไร”

หนิงฝานยิ้มพลางนำเย่หลิงและชุ่ยหลิงออกจากเรือ

“ข้าคือเจ้าของเรือลำนี้ ไม่ทราบว่าเหตุใดสหายเต๋าทั้ง 3 ถึงได้ขวางเรือเราไว้? ปีศาจบุบผาแดงที่พวกท่านกล่าว ข้าไม่รู้จักแม้แต่น้อย”

หนิงฝานคือผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ ด้านหลังมีสตรีสองคนในขอบเขตแก่นทองคำ

การกระทำของหนิงฝานทำให้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำทั้งสามประหลาดใจ

“เจ้าของเรือเหาะเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ? ผู้เยาว์คนนี้เป็นใครกัน ถึงได้มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำติดตาม”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด