ตอนที่แล้วตอนที่ 2 เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 สังสารวัฏ

ตอนที่ 3 พันปีเป็นเหมือนดั่งความฝัน


ทั้งสองคนเดินออกจากตระกูลสุ่ย ฝูงชนที่มุงดูอยู่ต่างเยาะเย้ยพวกเขาไม่หยุด

 

ทุกคนได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องโถงหลักของตระกูลสุ่ยแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาได้ยินและเห็นนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

เมื่อพวกเขาเห็นฉู่ชิงหยุนปรากฏตัวพร้อมกับหลิวเซียง พวกเขาต่างแอบหัวเราะอยู่ในใจด้วยความเหยียดหยาม

 

คางคกคู่กับกบช่างเหมาะสมกันเสียจริง!

 

ขยะอย่างฉู่ชิงหยุนเหมาะสมกับสุ่ยหลิวเซียงเป็นอย่างยิ่ง!

 

"อย่าไม่สนใจพวกมันเลย พวกเรากลับบ้านกันเถอะ" ฉู่ชิงหยุนยิ้มให้กับสุ่ยหลิวเซียงและดึงตัวนางเข้ามา และเผชิญหน้ากับคำพูดของฝูงชนโดยที่ไม่หลบหนี

 

ที่พักของฉู่ชิงหยุนนั้นไม่ได้อยู่ในเมืองซีเฟิง แต่อยู่นอกเมืองซีเฟิง

 

แม้ว่ามันจะเป็นคฤหาสน์ แต่กลับดูเหมือนลานกว้างซะมากกว่า มันไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มากนัก มีเพียงแค่ห้องแค่สองหรือสามห้องเท่านั้นที่ว่างเปล่า และไม่มีคนรับใช้แม้แต่คนเดียว

 

สิบหกปีก่อน ตระกูลฉู่ไม่ได้มีสภาพเช่นนี้ แต่ก่อนเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองซีเฟิง แม้แต่เจ้าเมืองยังต้องแสดงความเคารพพวกเขา

 

เป็นมันเรื่องที่น่าโศกเศร้า ไม่นานหลังจากที่ฉู่ชิงหยุนถือกำเนิดได้ไม่นานตระกูลฉู่ก็ถูกลอบสังหาร ประตูบ้านของพวกเขาเต็มไปด้วยศพและมีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงแม่ของฉู่ชิงหยุนที่ถูกลักพาตัวไป

 

เพื่อที่จะหาที่อยู่แม่ของเขา พ่อของฉู่ชิงหยุนจึงเดินทางออกจากเมืองซีเฟิงและไม่เคยกลับมาอีก ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วหรือยัง

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตระกูลฉู่ตกต่ำลงมากและต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองฉู่ ทรัพย์สินจำนวนมากของครอบครัวฉู่ต่างถูกคนอื่นฉกฉวยไปเพราะฉู่ชิงหยุนยังเยาว์วัย

 

ในท้ายที่สุด มีเพียงแค่ลานแห่งนี้เท่านั้นที่เหลืออยู่สำหรับฉู่ชิงหยุน และชีวิตของเขายากลำบากมาก

 

คำว่า "นายน้อย" สำหรับเขาไม่แตกต่างจากคำพูดเยาะเย้ย

 

"ข้ารีบเดินทางเลยไม่ได้ทำความสะอาดเอาไว้ก่อน" ฉู่ชิงหยุนมองไปที่ลานกว้างและรู้สึกอับอายเล็กน้อยขณะเกาหัว

 

"พี่หยุนเต็มใจที่จะแต่งงานกับข้าในฐานะภรรยาของท่าน แค่นี้ข้าก็รู้สึกมีความสุขแล้ว ทำไมข้าจะต้องสนใจเรื่องพวกนั้นด้วย?" สุ่ยหลิวเซียงกล่าวด้วยรอยยิ้มและคำพูดของนางยังออกมาจากหัวใจตราบใดที่นางสามารถอยู่กับฉู่ชิงหยุนได้ นางจะไม่บ่นแม้แต่คำเดียวแม้จะมีชีวิตที่ขมขื่นก็ตาม

 

ทันทีที่พวกเขาย่างก้าวเดินเข้าไปในลานกว้าง มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับไก่ตัวใหญ่ที่อยู่ในมือ ใบหน้าของเขามีรอยฟกซ้ำ และมีรอยเลือดอยู่บนแขนเล็กน้อย

 

"นายน้อยกลับมาแล้ว วันนี้เป็นวันสำคัญของท่าน ข้าเลยขโมยไก่ตัวนี้มาทำอาหารเพื่อเฉลิมฉลองให้กับท่าน" ชายหนุ่มหัวเราะคิกคักแสดงรอยยิ้มบนใบหน้า แม้จะรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม

 

"เซียวหู่ ทำไมเจ้าต้องทำแบบนั้นด้วย?" ฉู่ชิงหยุนไม่รู้สึกมีความสุข แต่ถอนหายใจออกมา

 

ชายหนุ่มผอมแห้งคนนี้ชื่อฉู่หู่ที่เติบโตมาพร้อมกับฉู่ชิงหยุน

 

วันนี้ เมื่อฉู่ชิงหยุนลืมตาตื่นขึ้นมา เขาพบว่าฉู่หู่หายไปและลานทั้งหมดว่างเปล่าและไม่มีชีวิตชีวา

 

ในเวลานั้นฉู่ชิงหยุนคิดว่าฉู่หู่ทนอยู่ม่ไหวและออกจากไปจากที่นี่

 

โดยที่เขาไม่คาดคิด ฉู่หู่ไม่ได้จากไป เมื่อเขาได้ยินข่าวว่าฉู่ชิงหยุนไปที่ตระกูลสุ่ยเพื่อแต่งงาน เขาได้ออกไปขโมยไก่กลับมาเพื่อแสดงความยินดีกับฉู่ชิงหยุน

 

บาดแผลเหล่านั้นบนร่างกายของเขาไม่จำเป็นต้องพูดถึง ฉู่ชิงหยุนสามารถคาดเดาได้ว่าเขาจะต้องถูกซ้อมมาอย่างแน่นอนในตอนที่ขโมยไก่

 

"นายน้อย ถ้าข้าไม่ได้ถูกตระกูลฉู่ชุบเลี้ยง ข้าคงจะอดตายอยู่ข้างถนนไปแล้ว ความยากลำบากนี่ไม่ได้มากมายอะไรนัก สำหรับนายน้อยแล้ว แม้ข้าจะต้องเดินผ่านไฟ ข้าก็จะไม่ลังเลเลยที่จะทำเช่นนั้น" ฉู่หู่กล่าวขณะคุกเข่าทั้งสองข้าง

 

ฉู่ชิงหยุนรีบพยุงเขาขึ้นมา เขาสามารถสัมผัสถึงความจริงใจของอีกฝ่ายได้และหัวเราะ "วันนี้เป็นวันสำคัญ เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนั้นหรอก พวกเรามากินอาหารให้อร่อยกันเถอะ"

 

"ขอครับ!" ฉู่หู่พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม และรีบนำไก่ไปที่ห้องครัวทันที

 

ส่วนฉู่ชิงหยุนและสุ่ยหลิวเซียงทำความสะอาดลานและนำโต๊ะกับเก้าอี้มาจัดเรียง และแขวนโคมไฟสีแดงที่ประตูทางเข้า แม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำให้ทั้งลานดูมีชีวิตชีวา

 

หลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มท้องฟ้าก็มืดแล้ว ดวงจันทร์ลอยอยู่บนท้องฟ้าในยามราตรีและส่องแสงจันทร์ที่นุ่มนวล

 

"เนื่องจากวันนี้เป็นวันแต่งงาน จึงมีเหตุผลที่จะพูดว่าฉู่ชิงหยุนควรใช้เวลาช่วงกลางคืนกับสุ่ยหลิวเซียง"

 

แต่หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ สุ่ยหลิวเซียงรีบเดินเข้าไปในห้องและล็อคประตูทันที

 

ฉากที่เกิดขึ้นทำให้ฉู่ชิงหยุนอยากจะร้องไห้และหัวเราะ

 

เขารู้ว่าสุ่ยหลิวเซียงเป็นคนจริงใจกับเขา แต่สุ่ยหลิวเซียงยังเด็กเกินไปและยังไม่พร้อมที่จะทำเรื่องอย่างนั้น

 

"นายน้อย" ในขณะนั้น ฉู่หู่กำลังจะเก็บจานไปล้าง เขามองไปตามทิศที่ฉู่ชิงหยุนมองและมองไปที่ห้องของสุ่ยหลิวเซียง เขายิ้มออกมาทันทีและพูดว่า "ข้าจำได้ว่าในห้องเก็บของดูเหมือนจะมีกุญแจสำรองอยู่ หรือข้าควรจะไปเอามันมาให้ท่าน?"

 

"เจ้าคิดว่านายน้อยของเจ้าเป็นคนแบบนั้นเรอะ!" ฉู่ชิงหยุนจ้องเขม็งไปที่ฉู่หู่และพูดพึมพัมว่า "เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์หยุดคิดเรื่องพวกนั้นได้แล้ว ทำไมเจ้าไม่รีบกลับไปนอนซะล่ะ"

 

"ขอรับ" ฉู่หู่กล่าวและเดินตรงกลับไปที่ห้องของเขา

 

เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของฉู่หู่ ฉู่ชิงหยุนส่ายหัวและรู้สึกอารมณ์ไม่ดี อย่างไรก็ตาม บรรยากาศแบบนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น

 

กลับไปที่ห้องของเขา ฉู่ชิงหยุนไม่ล้มตัวนอนลงบนเตียงทันที แต่กลับนั่งอยู่บนเตียง

 

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหลับตาลง ด้านหน้าเขาปรากฏแสงสีทองเจิดจ้าและควบแน่นกลายเป็นหยกที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเด็กทารก แล้วตกลงมาอยู่ในมือของฉู่ชิงหยุน

 

เมื่อจ้องมองไปที่หยกที่ดูคุ้นเคย ฉู่ชิงหยุนยิ้มแย้มขณะที่ยังคงรู้สึกทึ่งเล็กน้อย

 

ก่อนหน้านี้ เขาจดจำได้เป็นอย่างดีว่าเขากำลังฝึกฝนอย่างหนักที่จุดสูงสุดของเทือกเขาเทียนหลิง เมื่อเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ ได้มีหอกยาวแทงทะลุหน้าอกและหัวใจของเขา

 

ชายที่เป็นคนลงมือคือพี่น้องร่วมสาบานของฉู่ชิงหยุน หนึ่งในสิบจักรพรรดิที่มีชื่อว่า เซียวฉิงเทียน

 

ชายคนนี้และฉู่ชิงหยุนพบเจอกันที่ทะเลแห่งความชั่วช้าอันไร้ที่สิ้นสุด ในตอนนั้น เซียนฉิงเทียนถูกจอมยุทธที่แข็งแกร่งจำนวนมาล้อมกรอบและตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แต่เป็นเพราะฉู่ชิงหยุนที่ช่วยเขา ทำให้เขาหลุดพ้นจากการถูกล้อมกรอบและรักษาบาดแผลให้เขา

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาได้แบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงกลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานท้องโลกกว้างไปด้วยกัน เข้าสู่เขตแดนลี้ลับ สังหารศัตรูที่แข็งแกร่ง ยึดครองสมบัติลับและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งกว่าพี่น้อง

 

แต่ในท้ายที่สุด เซียวฉิงเทียนได้ทรยศต่อฉู่ชิงหยุนและลอบโจมตีเขา ทำให้เขาตายทันที!

 

ก่อนที่เขาจะตาย ฉู่ชิงหยุนยังไม่อาจทำใจเชื่อความจริงที่เกิดขึ้นนี้ได้ เมื่อสายตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมิด เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าตัวเองกลับมาตอนที่อายุสิบหกปี

 

เมื่อคิดเช่นนั้น ฉู่ชิงหยุนเริ่มตกอยู่ในความทรงจำที่ยาวนาน

 

เขาจำได้ว่าในช่วงชีวิตสุดท้ายของเขา ฉู่ชิงหยุนฟื้นจากอาการป่วยหนักและรีบมุ่งหน้าไปที่ตระกูลสุ่ยเพื่อขอสุ่ยเชียนแต่งงาน ผลลัพธ์ไม่เพียงแค่ถูกตระกูลสุ่ยปฏิเสธ แต่ยังถูกสุ่ยฉงเสียนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและขับไล่เขาออกจากเมืองซีเฟิง

 

ในเวลานั้น เมื่อฉู่ชิงหยุนรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะตาย สุ่ยหลิวเซียงก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยรักษาบาดแผลให้กับเขา และยังมอบที่อยู่อาศักให้กับเขาจนกว่าจะหายดี

 

มันเป็นช่วงเวลาที่ฉู่ชิงหยุนตกหลุมรักสุ่ยหลิวเซียงอย่างลึกซึ้ง พวกเขาออกจากเมืองซีเฟิงและเดินทางไปที่ราชวงศ์หลิวหยุนและใช้ชีวิตอย่างหรูหรา

 

ในตอนนั้น แม้ว่าชีวิตจะขมขื่น แต่พวกเขาต่างก็มีกันและกันด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้า

 

ทว่าช่วงเวลาแห่งความสุขของพวกเขาไม่ได้ยาวนานนัก โชคไม่ดีที่พวกเขาถูกคลื่นสัตว์อสูรบุกโจมตี และเพื่อที่จะปกป้องฉู่ชิงหยุน สุ่ยหลิวเซียงเอาตัวเองเข้ามาปกป้องกรงเล็บของสัตว์อสูรและตายจากไป

 

ฉู่ชิงหยุนไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด

 

มีผู้คนตายเก้าส่วนรอดหนึ่งส่วน และฉู่ชิงหยุนคืนผู้ที่รอดชีวิต

 

แม้เขาจะมีพรสวรรค์ต่ำด้อย ด้วยความดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เขาฝ่าฟันไปทั้งทวีปและผจญภัยไปที่ต่างๆมากมาย และในที่สุดเขาก็กลายเป็นจักรพรรดิ

 

"หลายพันปีมันเป็นเหมือนกับความฝัน ในเมื่อพระเจ้าได้มอบโอกาสอีกครั้งให้กับข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้ความเสียใจในครั้งนั้นเกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด!" ฉู่ชิงหยุนกำหมัดแน่นและสาบานอยู่ในใจ ภายในใจของใบหน้าที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยผุดขึ้นมาอย่างช้าๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด